ยอดอาจารย์มหาเมตตา - ตอนที่ 692 ข้าจะเล่นกับเจ้า
“เอ่อ… ฮ่าฮ่า…” ทันใดนั้น บรรยากาศก็เริ่มอึดอัดมาก เย่ชิว ไม่ได้คาดคิดจริง ๆ ว่าหมิงเยว่จะโยนความผิดมาที่เขา เจ้าชั่วร ้าย เกินไป ข้ายกย่องเจ้าในใจก่อนหน้านี้ แต่ในพริบตา เจ้าทรยศข้า
เย่ชิวยิ้มอย่างอึดอัดใจ เมื่อเห็นว่าเจียงหลิงเอ๋อกระตือรือร ้นที่จะ ลอง เขาก็รีบพูดว่า “ศิษย์พี่หญิงรู ้วิธีทําให้สนุกจริง ๆ วันนี้ก็มืดแล้ว ข้าคิดว่าทุกคนควรพักผ่อนให้เร็วที่สุด”
“เหตุใด? กลัวงั้นหรือ?” เจียงหลิงเอ๋อสนใจทันทีเมื่อเห็นเย่ชิว เปลี่ยนหัวข้อ แน่นอน นางรู ้ว่าเย่ชิวกําลังถ่อมตัว นี่เป็ นเพราะนางได้ เห็นความแข็งแกร่งของเย่ชิวจริง ๆ นางรู ้ดีว่าเย่ชิวน่ากลัวเพียงใด
ก่อนหน้านี้ ยวี่อู๋ซวง ผู้สืบทอดของตระกูลยวี่ ไม่ใช่อัจฉริยะที่ไม่ มีใครเทียบได้ แต่ทว่า เขายังคงอยู่ในแถวหน้า
เย่ชิวตบเขาออกไปอย่างง่ายดายและโหดร ้าย
แม้ว่ายวี่อู๋ซวงจะไม่ได้บังคับให้เขาใช ้เคล็ดวิชาสมบัติแต่อย่างใด แต่สัญชาตญาณของเจียงหลิงเอ๋อบอกนางว่าความแข็งแกร่งของเย่ ชิวนั้นไม่ด้อยไปกว่าหมิงเยว่อย่างแน่นอน เขาสามารถเดินเคียงข้าง หมิงเยว่ได้
ยิ่งไปกว่านั้น จากคําอธิบายของหยาหยา นางได้ประเมินเบื้องต้น ว่าเคล็ดวิชาเซียนสูงสุดที่ซ่อนอยู่ในตัวของเย่ชิวนั้นนับไม่ถ้วน
แค่เคล็ดวิชาเพลิงกรรมบงกชแดงที่เขาสอนให้กับหยาหยาก็ สะพรึงกลัวมากพอแล้ว
“กลัวรึ?” เย่ชิว ที่เปลี่ยนหัวข้อและกําลังจะยุติการโต้เถียง กระตุก มุมปากทันทีเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เขาไม่ชอบใจนัก ช่างเป็ นเรื่องน่าขัน ตั้งแต่ข้าเปิดตัว ข้าไม่เคยรู ้จักวิธีคําว่า ‘กลัว’ แน่นอน ไม่ใช่ว่าข้า ไม่ได้รับการอบรม ทุกคน อย่าเข้าใจผิด เพียงแค่ว่าไม่มีคํานั้นใน พจนานุกรมของข้า ถ้าจะพูดอย่างเย่อหยิ่ง ไม่ต้องพูดถึงเจ้า เจียงห ลิงเอ๋อ แม้ว่าหมิงเยว่จะทําเองข้าก็ไม่กลัว
หลังจากลังเลอยู่นาน เย่ชิวพูดติดตลก “ฮ่าฮ่า… ท่านรู ้วิธีล้อเล่น แน่ ๆ ข้าไม่เก่งพอที่จะต่อสู้กับเจ้า”
เย่ชิวเพิ่งจะถ่อมตัวเสร็จ เขากําลังจะหาข้อแก้ตัวและปัดหัวข้อนี้ ออกไป
โดยไม่คาดคิด เขาได้ยินเสียงที่เสียดแทงหู “อาจารย์กลัวหรือ”
“หืม?” ทันทีที่คําพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมา เย่ชิวก็ตกตะลึง เขา หันตัวกลับและมองไปที่หยาหยา ที่ยืนเงียบอยู่ข้างหลังหมิงเยว่และ พึมพํากับตนเอง ผู้หญิงคนนี้พยายามจะยั่วโมโหข้าหรือ?
ในขณะนั้น เย่ชิวรู ้สึกไม่พอใจทันที ในตอนแรก เขาไม่สนใจที่ จะต่อสู้กับเจียงหลิงเอ๋อเพราะการซ ้อมเช่นนี้ไม่มีความหมาย ใน
สถานการณ์ปัจจุบัน ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถยึดป้ อมปราการได้ หากไม่ได้คิดอะไรขึ้นมา
อย่างน้อยที่สุด เขาก็จะไม่ขายหน้าต่อ-ตรงหน้าศิษย์ได้อีก มิฉะนั้น เขาจะยืนอยู่ตรงหน้าในอนาคตและทําให้พวกเขาชื่นชมเขา ได้อย่างไร? นั่นคือสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น หลักการของเย่ชิวคือเขา สามารถยอมจํานนได้ทุกอย่าง แต่ไม่ใช่ต่อหน้าศิษย์
นั่นเป็ นเพราะเขายังต้องยืมมือศิษย์เหล่านี้เพื่อสร ้างขุมสมบัติ ถ้า เขายอมอ่อนให้ เขาจะใช ้ทั้งความเมตตาและอํานาจได้อย่างไร?
“อะแฮ่ม” เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เย่ชิวก็เปลี่ยนจากเรื่องตลกก่อนหน้านี้ เป็ นเรื่องจริงจัง “ในเมื่อท่านอยากจะเล่น ข้าก็จะเล่นกับท่าน”
เย่ชิวที่เปลี่ยนทัศนคติสูงขึ้นทันที อารมณ์ทั้งหมดดูไม่ธรรมดา ราวกับว่าเซียนได้ลงมายังโลก เย่ชิวยืนอยู่บนยอดลมหนาว ค่อย ๆ ยื่นมือซ ้ายออกมา เขาไม่ได้ใช ้อาวุธใด ๆ และพูดเพียงว่า “เทพธิดา ได้โปรดโจมตีข้าตามที่ต้องการ”
แม้แต่หมิงเยว่ก็อ้าปากค้างเมื่อได้ยินเช่นนั้น “เหตุใดเจ้าจึงหยิ่ง ผยองได้ขนาดนี้?”
หมิงเยว่รู ้ถึงความแข็งแกร่งของเจียงหลิงเอ๋อเป็ นอย่างดี เย่ชิวก ล้าปล่อยให้อีกฝ่ายโจมตีด้วยในแบบที่นางชอบ
ช่างหยิ่งผยองเหลือเกิน!
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือเขาไม่ใช ้อาวุธ กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาวางแผน ที่จะต่อสู้กับเจียงหลิงเอ๋อมือเปล่างั้นหรือ?
หัวใจของหมิงเยว่สั่นสะท้าน ทันใดนั้นนางก็รู ้สึกว่าคราวนี้นางมี ปฏิกิริยามากเกินไปแล้ว นางก็เริ่มตั้งตารอเช่นกัน นางต้องการเห็น ขีดจํากัดของเย่ชิวว่าอยู่ที่ใด บางทีเจียงหลิงเอ๋ออาจจะสามารถ ทดสอบได้อย่างชัดเจนในครั้งนี้
ในอีกด้านหนึ่ง สีหน้าของเจียงหลิงเอ๋อกลายเป็ นเคร่งขรึมทันที เมื่อได้ยินสิ่งนี้ นางรู ้ว่าเย่ชิวแข็งแกร่งมาก เมื่อนางได้ยินเขาพูด เช่นนั้น สิ่งแรกที่นางทําคือไม่สงสัยในความเย่อหยิ่งของเย่ชิว แต่ กลับกัน นางกําลังคิดว่าเขาเอาความมั่นใจมาจากไหน เป็ นไปได้ หรือไม่ว่า… เขาจะแข็งแกร่งกว่าหมิงเยว่?
นางรู ้สึกงงงวย แต่นางตื่นเต้นมากกว่า นี่เป็ นเพราะตลอดหลายปี ที่ผ่านมา นอกเหนือจากหมิงเยว่ นี่เป็ นครั้งแรกที่นางได้พบกับคู่ต่อสู้ ที่สามารถทําให้นางรู ้สึกกดดันอย่างน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ได้
นางสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่มาจากร่างกายของเย่ชิว ร่างกายสั่น สะท้านอย่างช่วยไม่ได้ นางรู ้สึกราวกับว่านางถูกกดข่มอย่างแผ่วเบา
“เอาล่ะ! ในเมื่อนายน้อยเชิญข้า ข้าขอหยาบคายหน่อยแล้วกัน” เมื่อพูดจบ เจียงหลิงเอ๋อก็เดินออกจากศาลาไปอย่างช ้า ๆ ฉับพลัน เปลวไฟรอบตัวนางก็ปะทุขึ้น และไฟที่โหมกระหนํ่าพลันลุกไหม้ กลิ่น อายที่น่าตกใจพุ่งสูงขึ้นทันที
เย่ชิวขมวดคิ้ว ในขณะนี้ นางเป็ นเหมือนเทพธิดาที่ยืนอยู่ใน เปลวเพลิง อารมณ์เปลี่ยนจากความอ่อนโยนตามปกติเป็ นอารมณ์ ฉุนเฉียวมาก อันที่จริง นางจะแสดงอีกด้านหนึ่งก็ต่อเมื่อนางต่อสู้จริง ๆ เท่านั้น
“น่าสนใจ! นี่คือเปลวไฟของตระกูลเพลิงงั้นรึ?” รอยยิ้มจาง ๆ ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเย่ชิวขณะที่เขารู ้สึกถึงเปลวไฟที่น่า สะพรึงกลัวที่พุ่งมาที่เขา เขาค่อย ๆ สนใจ
เย่ชิวรู ้เรื่องเพลิงต้นกําเนิดสวรรค์ของตระกูลเพลิงเพราะเขาเคย เห็นมาก่อน ย้อนกลับไปตอนที่หยาหยากําลังสร ้างรากฐาน เย่ชิวก็ เป็ นผู้นําทางให้
หลังจากสืบทอดและรับการชําระล้างมาหลายล้านปี เปลวไฟนี้ แตกต่างจากเพลิงสวรรค์ดั้งเดิมอย่างสิ้นเชิง มันมีกลิ่นอายที่อาฆาต และรุนแรง ยิ่งไปกว่านั้น เจียงหลิงเอ๋อยังเป็ นอัจฉริยะที่บ่มเพาะพลัง แห่งเพลิงสวรรค์อย่างแท้จริงจนถึงขีดสุด
เพลิงสวรรค์ในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก
เจียงหลิงเอ๋อยกมือขึ้นเบา ๆ และลูกบอลประกายไฟก็ปะทุขึ้นบน ฝ่ ามือ ประกายไฟลอยอยู่ใต้เสื้อคลุมสีแดง นางก้าวขึ้นไปบนเปลวไฟ แล้วเดินไปอย่างช ้า ๆ นางกล่าวเพียงว่า “นายน้อย ยกโทษให้หลิงเอ๋ อที่หยาบคาย”
เจียงหลิงเอ๋อได้ระดมกําลังทั้งหมดของนางแล้วและทําความ เคารพสูงสุดแก่เย่ชิว ก่อนที่นางจะโจมตี นางพูดอย่างสุภาพ
เมื่อเผชิญกับแรงกดดันที่บีบคั้นจิตใจ แม้กระทั่งหมิงเยว่ ซึ่งอยู่ ห่างออกไปก็ยังรู ้สึกถึงความรู ้สึกถึงการกดขี่
ก่อนหน้านี้ นางเคยแข่งขันกับเจียงหลิงเอ๋อในแง่ของสภาพ จิตใจเท่านั้นและไม่ได้โจมตีกัน เมื่อเจียงหลิงเอ๋อโจมตีจริง ๆ นางก็ ตระหนักได้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ผู้หญิงเมื่อสิบปีก่อนอีกต่อไป
“ช่างเป็ นการกดขี่ที่แข็งแกร่งยิ่งนัก! ผู้หญิงคนนี้บ่มเพาะเพลิง สวรรค์ไปถึงระดับนั้นได้แล้วจริง ๆ” นางอดไม่ได้ที่จะแสดงความ คิดเห็นในใจ นางตกใจมาก
อีกด้านหนึ่ง หยาหยาถึงกับตกตะลึงกับฉากที่ตื่นตานี้
“เฮือก…” หยาหยาหายใจเข้าลึก ๆ นางไม่คาดคิดมาก่อนว่าน้า ผู้อ่อนโยนจะน่ากลัวขนาดนี้เมื่ออีกฝ่ ายต่อสู้จริง ๆ นางอดไม่ได้ที่จะ กังวลกับอาจารย์ของนาง นางสงสัยว่าอาจารย์จะรับมือกับน้าที่กดขี่ เช่นนี้ได้หรือไม่
แม้ว่าบรรยากาศของสนามรบจะดําเนินมาถึงจุดหนึ่งแล้ว เย่ชิว ยังคงสงบนิ่งอยู่
เขายังคงนิ่งอยู