ยอดอาจารย์มหาเมตตา - ตอนที่ 694 ความคิดของหลี่ปู้ เอ๋อ
“บัดซบ!” บนยอดผา ยวี่ฉางเซิงโกรธจัด เขากาหมัดแน่น เจตนาสังหารพุ่งพล่าน “เด็กคนนี้คว้าไฟที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกและ กลายเป็ นศัตรูตัวฉกาจของตระกูลยวี่ของเราไปแล้ว ถ้าเราปล่อยให้ เขาพัฒนาต่อไป เขาจะกลายเป็ นภัยคุกคามในอนาคตอย่างแน่นอน”
จิตใจก็มืดมัวลงเรื่อย ๆ ยวี่ฉางเซิงได้วางแผนไว้แล้ว
อีกด้านหนึ่ง หลี่ปู้ เอ๋อ ที่มองดูการเปลี่ยนแปลงสีหน้าของยวี่ฉาง เซิงอย่างเงียบ ๆ ก็ตกใจเป็ นพิเศษเช่นกัน “ข้าไม่คาดคิดว่าเทพองค์ นี้จะควบคุมไฟที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกได้ ในกรณีนั้น เขาจะต้อง กลายเป็ นหนามยอกอกของยวี่ฉางเซิง?”
หลี่ปู้ เอ๋อเริ่มคิด
“แม้ว่าตระกูลยวี่จะมีความสัมพันธ ์ใกล้ชิดกับเชื้อสายวารีนภา ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ข้าไม่ได้โง่เมื่อต้องเผชิญกับเรื่องร ้ายแรง เช่นนี้ ผู้อาวุโสใหญ่ตั้งใจเลี้ยงเด็กคนนี้ให้เป็ นผู้สืบทอด นั่นจะเป็ น อนาคตของศาลาเยียวยาสวรรค์ของข้า ดูเหมือนว่า… ข้าต้องท า อะไรสักอย่าง” เขาคิดกับตนเอง
หลี่ปู้ เอ๋อไม่ได้มีความปรารถนาหรืออุดมคติที่สูงส่งมากนัก เขามี ความเชื่อเพียงอย่างเดียวในชีวิต และนั่ นคือผู้อาวุโสใหญ่
เนื่องจากเย่ชิวได้รับเลือกจากผู้อาวุโสใหญ่ เขาจึงไม่คัดค้าน เขาจะ สนับสนุนการเลือกของผู้อาวุโสใหญ่เต็มร ้อย
แม้ว่าตระกูลยวี่จะมอบของขวัญมากมายให้กับเขาในช่วงหลาย ปี ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทรยศต่อศาลาเยียวยา สวรรค์และผู้อาวุโสใหญ่
บรรยากาศค่อนข้างแปลก ศิษย์ที่อยู่เบื้องหลังเขาจ้องมองชาย ชราสองคนตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ
ศิษย์หนุ่มคนหนึ่งถามว่า “ศิษย์พี่เจวี๋ยคง อาจารย์ก าลังคุยอะไร กับผู้อาวุโสยวี่?”
ชายหนุ่มรูปงามที่ยืนอยู่ด้านหน้าของกลุ่มนั้นแต่งกายด้วยชุดสี เขียวและมีท่าทางที่สง่างาม เขาสังเกตทุกการเคลื่อนไหวที่อยู่ ตรงหน้าเขาอย่างเงียบ ๆ เมื่อเผชิญกับคาถามของศิษย์น้องที่อยู่อยู่ เบื้องหลังเขา สีหน้าของเจวี๋ยคงเคร่งขรึม เขาครุ่นคิดอยู่นานก่อนที่ จะพูดว่า “ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสยวี่ต้องการโจมตีเทพ”
“ก่อนหน้านี้ ข้ารู ้สึกว่าเจตนาสังหารอันหนาวเหน็บแวบผ่านไป ควบคู่ไปกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโถงยอดสวรรค์ก่อนหน้านี้ ตระกูลยวี่จะไม่ ปล่อยตัวตนที่เป็ นอันตรายที่สามารถคุกคามผลประโยชน์ของตระกูล ของพวกเขาไปได้อย่างแน่นอน”
เจวี๋ยคงวิเคราะห์อย่างใจเย็น จากนั้น เขามองดูกลุ่มอื่นใน ระยะไกล นั่นคือกลุ่มลูกหลานของตระกูลยวี่ ไม่ใช่ศิษย์ของเชื้อสาย
วารีนภาของพวกเขา ทั้งหมดนี้ถูกนาตัวมาโดยยวี่ฉางเซิง พวกเขา ทั้งหมดมีเจตนาสังหาร เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเกลียดเย่ชิวถึงแก่น
เมื่อเห็นฉากนี้ เจวี๋ยคงตกอยู่ในห้วงความคิด เขาเริ่มเข้าใจ ความคิดของอาจารย์แล้ว จากทุกการเคลื่อนไหวและพฤติกรรม ของหลี่ปู้ เอ๋อ ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะปกป้ องเย่ชิวอย่างเงียบ ๆ จากการ สังเกต เจวี๋ยคงผู้ชาญฉลาดเดาได้ทันทีว่าอาจารย์กาลังคิดอะไรอยู่ และเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ ายต้องการจะสื่อ ในฐานะศิษย์เอกของหลี่ปู้ เอ๋อ อาจกล่าวได้ว่าเจวี๋ยคงรู ้จักหลี่ปู้ เอ๋อดีที่สุด ไม่ใช่เรื่องยากสาหรับเขา ที่จะเดาว่าอาจารย์กาลังคิดอะไรอยู่
ในขณะนี้ บนภูเขาเมฆาม่วง เย่ชิวยืนอยู่ที่จุดสูงสุดของลมหนาว เขารวบรวมเปลวไฟทั้งหมดลงบนฝ่ามือ
สามลมหายใจต่อมา เย่ชิวผลักมือออก พืชพรรณในป่าเพิ่มขึ้น และพลังที่อ่อนโยนอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ลอยอยู่ระหว่างภูเขา ป่ าที่ ถูกเพลิงสวรรค์เผาไหม้จนเป็ นเถ้าถ่านเริ่มงอกขึ้นทันทีหลังจากพลัง นี้ไหลผ่าน มันสร ้างหญ้าสีเขียวขึ้นมาใหม่
ทุกสิ่งกลับมามีชีวิตอีกครั้ง!
นี่คือเคล็ดวิชาเต๋าที่เย่ชิวเข้าใจจากกระบี่พงไพรในตอนนั้น เขา เปิ ดใช ้งานด้วยมือข้างเดียวและทาให้ทิวทัศน์ที่สวยงามของป่ าที่ เจียงหลิงเอ๋อเพิ่งทาลายไปกลับคืนมาในทันที
“ช่างเป็ นการกระบวนท่าที่ดี!” เมื่อเห็นฉากนี้ หมิงเยว่อดไม่ได้ที่ จะชื่นชมเขา นางสัมผัสได้ว่าพลังที่เย่ชิวปล่อยออกมาผสมกับเจตนา กระบี่ที่มองไม่เห็น นี่คือเจตนากระบี่ที่เป็ นเอกลักษณ์ของเย่ชิว มันทา ให้ผู้คนตกอยู่ใต้จิตส านึกโดยไม่รู ้ตัว
เจียงหลิงเอ๋อยังมองดูด้วยความประหลาดใจ นางเชื่อว่าเย่ชิว ไม่ได้ใช ้เต็มกาลังก่อนหน้านี้ “ช่างเป็ นปราณกระบี่ที่เฉียบคมจริง ๆ ดู เหมือนว่าไฟจะไม่ใช่มือขวา พลังเทพเจ้าที่แท้จริงคือกระบี่”
เจียงหลิงเอ๋อมั่นใจอย่างยิ่ง นางคิดว่าหมิงเยว่เป็ นคนเดียวใน ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เยียวยาสวรรค์ที่สามารถยับยั้งนางได้ แต่ทว่า นาง ไม่ได้คาดคิดว่าความแข็งแกร่งในการต่อสู้อันน่าอัศจรรย์ที่เย่ชิวปะทุ ออกมานั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าหมิงเยว่
อย่างน้อยในด้านหนึ่ง เย่ชิวดุดันมากขึ้น รูปแบบการต่อสู้รุนแรง กว่า แม้ว่าเจียงหลิงเอ๋อจะยังมีความสามารถอันศักดิ์สิทธิ์ที่น่า สะพรึงกลัวมากมายที่นางยังไม่ได้ใช ้ แต่เย่ชิวก็ไม่ได้ใช ้มันเช่นกัน ในท้ายที่สุด เขาใช ้พลังเทพเจ้าที่เขาไม่ค่อยถนัดเพื่อเอาชนะนาง อย่างง่ายดาย
เจียงหลิงเอ๋อไม่ใช่ผู้แพ้ที่เจ็บปวด แต่เป็ นเพียงการที่นางไม่ สามารถยอมรับได้ นางได้รับความเจ็บปวดอีกครั้ง
“ท่านน้า ไม่เป็ นอะไร?” อีกด้านหนึ่ง หยาหยารีบวิ่งไป นางกลัว และคิดว่าเจียงหลิงเอ๋อได้รับบาดเจ็บ
หัวใจของเจียงหลิงเอ๋ออบอุ่นเมื่อเห็นสีหน้าที่เป็ นห่วงของอีกฝ่ าย ในที่สุดนางก็รู ้สึกโล่งใจ “ลืมไป! นั่นอาจเป็ นวิธีเดียวที่ข้าสามารถ ไว้วางใจเขาให้ช่วยดูแลหยาหยาได้หากเขาแข็งแกร่งพอ ข้าเชื่อว่า พี่ชายจะโล่งใจมากถ้าเขาได้ยินข่าวนี้?” เจียงหลิงเอ๋อเผยรอยยิ้ม อย่างพึงพอใจขณะที่นางคิดกับตนเอง นางปลอบใจหยาหยา “เด็ก น้อย ข้าสบายดี อาจารย์ของเจ้ารู ้ว่าเมื่อใดควรหยุด เขาไม่ได้ทาร ้าย ข้า”
เมื่อได้ยินน้าบอกว่าสบายดี หยาหยาก็โล่งใจในที่สุด นางตกใจ มากเช่นกัน นางไม่คาดคิดว่าน้าจะไม่สามารถป้ องกันการโจมตีง่าย ๆ ของอาจารย์ได้ แม้ว่าน้าของนางจะพลังมากก็ตาม ความชื่นชมที่มี ต่ออาจารย์ของนางแข็งแกร่งขึ้น
“ฮิฮิ ข้ารู ้ว่าอาจารย์ของข้าอยู่ยงคงกระพัน ข้าคิดถูก ข้าต้อง ตั้งใจอย่างหนักและเรียนรู ้จากอาจารย์เพื่อสร ้างชื่อให้ตนเอง” หยา หยามีความสุขมากเหมือนนางคิดกับตนเอง นี่เป็ นเพราะนางได้ ค้นพบข้อดีอีกอย่างของอาจารย์ในวันนี้
นั่นคือความมั่นใจ! เขามีความมั่นใจอย่างแท้จริง แม้ว่าภูเขาไท่ จะถล่มลงมาต่อหน้าเขา สีหน้าก็จะไม่เปลี่ยนแปลง เขาสามารถ ควบคุมจักรวาลได้อย่างง่ายดาย ความมั่นใจที่มองไม่เห็นนี้เองที่ ประดับประดาหัวใจที่แข็งกร ้าวของหยาหยา นางสาบานในใจว่านาง จะกลายเป็ นคนอย่างอาจารย์ในอนาคต เขาเป็ นแบบอย่าง!
ศิษย์ทั้งหมดของเย่ชิวทุกคนได้รับอิทธิพลจากเขาไม่มากก็น้อย วิธีการรับมือกับอันตรายของพวกเขาได้รับอิทธิพลมาจากเย่ชิว
เช่นเดียวกับหลินชิงจู้ นางสืบทอดค าสอนของเย่ชิวจากค าพูด และการกระทาไปสู่ความสงบเมื่อเผชิญกับวิกฤต นางไม่ตื่นตระหนก แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่านาง สีหน้าก็ไม่ เปลี่ยนแปลง นางเผชิญหน้ากับศัตรูเหล่านั้นอย่างใจเย็น
“หยาหยา หลังจากวันนี้ข้าจะต้องกลับแล้ว เจ้าต้องบ่มเพาะกับ อาจารย์ให้ดี อย่าขี้เล่นและละการบ้าน อาจารย์ของเจ้าพลังอย่างยิ่ง และมีเคล็ดวิชาสุดยอดมากมายนับไม่ถ้วน สุดยอดเคล็ดวิชาที่เขา หยิบออกมาล้วนเป็ นสิ่งมีชีวิตที่พลังอย่างยิ่ง”
“เจ้าต้องตั้งใจเรียนรู ้อย่างหนักและทางานอย่างหนัก ตราบใดที่ เจ้าเชี่ยวชาญเคล็ดวิชาของอาจารย์ เจ้าก็สามารถทาทุกอย่างที่เจ้า ต้องการในเก้าสวรรค์สิบแผ่นดิน เข้าใจหรือไม่?” เจียงหลิงเอ๋อสั่งนาง อย่างจริงจัง
สัญชาตญาณที่เย่ชิวมอบให้อีกฝ่ ายนั้นน่ากลัวเกินไป มันน่า กลัวยิ่งกว่าแรงกดดันที่หมิงเยว่มอบให้นางเสียอีก นางไม่มีความกล้า ที่จะท้าทายเขาอีกต่อไป นางมั่นใจ