ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง - ตอนที่ 445 โกรธเกรี้ยว
ทันทีที่เยี่ยอิงได้ยินชื่อนั้นเข้า ดวงตาก็ปูดโปนไปด้วยเส้นเลือดขึ้นมา
“พี่ชาย ท่านเรียกข้าว่าอะไรนะ?” มือของนางวางอยู่บนทรวงอกของเยี่ยเฉิน จากเดิมที่กำลังจมอยู่ในความสุขอย่างที่สุด ก็รู้สึกเหน็บหนาวขึ้นจนเลือดในกายจับแข็งไปทั่วทั้งร่าง
เยี่ยเฉินเองก็กำลังจมอยู่ในความสุขสม พอถูกเยี่ยอิงเรียก ถึงพลันได้รู้สึกตัวขึ้นมา
พอเห็นนางท่าทางของนาง ถึงได้มีสติชัดเจน
ที่ผ่านมา เขาชอบอยู่กับเยี่ยอิงมากที่สุด
แต่ว่าตอนนี้พอเห็นชัดแล้ว กลับรู้สึกว่าหมดอารมณ์ไปไม่น้อย
“ฝ่าบาท อนุคนใหม่มาถึงแล้วเพคะ” ในตอนนั้นเอง ด้านนอกมีเสียงสตรีดังเข้ามา
หากเป็นยามปกติ เมื่ออนุคนใหม่มาถึง ต้องได้รับการชำระล้างจนสะอาดสะอ้านจึงส่งมาที่เตียงบรรทมของไท่จื่อ ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน
ชื่อหลีถูกจับอาบน้ำจนสะอาดสะอ้าน นางอยู่ในชุดนอนสีดำถูกห่อเอาไว้ในผ้าลายผืนงามส่งเข้ามาในห้อง ทรวงอกของนางยังมีตะปูตรึงมังกรที่มิได้ถูกถอนออกไป
ใบหน้ามิได้ประทินโฉมใดๆทั้งสิ้น บนร่างยังมีกลิ่นหอมของกุหลาบอยู่จางๆ
นางถูกนางกำนัลหลายคนยกเข้ามา
พอเข้ามาถึง ก็เห็นภาพที่เยี่ยเฉินกับเยี่ยอิงสองพี่น้องกำลังสนิทสนมกันอยู่
ทำเอาแม้แต่ชือหลีที่เฉยชากับเรื่องเช่นนี้มาโดยตลอด ตอนนี้ก็ยังถึงกับนิ่งอึ้งไปเช่นกัน….
เมื่อหลายวันก่อนนางเคยได้พบหน้าไท่จื่อของเผ่ามังกรทมิฬผู้นี้ครั้งหนึ่ง คิดไม่ถึงว่า สองพี่น้องคู่นี้จะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา?
ทั้งยังกระทำเรื่องอย่างว่าในวันรับตัวอนุเสียด้วย?
ใบหน้าของชือหลีปรากฏความเก้อเขินวูบหนึ่ง….เดิมทีนางกำลังคิดหาหนทางหลบหนี ตอนนี้กลับถูกภาพตรงหน้าทำเอาสมองส่งเสียงเพล้งดังลั่น แผนการทั้งหลายในสมองกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว
วันนั้น….ตู๋กูซิงหลันกับจีเฉวียนปะทะกับเยี่ยอิงแล้วก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
นางพาตู๋กูเจวี๋ยออกติดตามอยู่เนิ่นนาน สุดท้ายเพราะไม่ทันระวังจึงถูกคนของเผ่ามังกรทมิฬจับตัวมา
ได้แต่โทษว่าตนเองอ่อนแอเกินไป ถึงได้ถูกจับมายังก้นทะเลลึกแห่งนี้ ทั้งยังทำให้ตู๋กูเจวี๋ยที่อ่อนแอราวกับลูกเจี๊ยบนั่นถูกจับมาด้วย
ตั้งแต่ถูกจับมา นางก็ไม่ได้เจอหน้าตู๋กูเจวี๋ยอีกเลย
ได้ยินพวกนางกำนัล ‘ที่คอยปรนนิบัติ’ พูดกันว่าเขาถูกขังเอาไว้
ราชินีเผ่ามังกรทมิฬทรงชิงชังเผ่ามนุษย์ มนุษย์ผู้นั้นคงจะต้องถูกแล่เนื้อไปป้อนปลาในไม่ช้า
ตะปูตรึงมังกรบนทรวงอกสะกดพลังของนางเอาไว้จนเกือบหมด มีแต่คนในราชวงศ์ของเผ่ามังกรเท่านั้นที่สามารถถอนออกได้….
เพราะเกรงว่านางจะหลบหนี ตอนที่นางถูกจับตัวส่งมานั้น จึงยังไม่ได้ถอนตะปูตรึงมังกรออกไป
ในใจของชื่อหลีกังวลถึงตู๋กูเจวี๋ยอย่างยิ่ง
นางถูกจับมาครึ่งเดือนแล้ว จึงได้ฟังเรื่องของตู๋กูซิงหลันกับจีเฉวียนมาบ้างเล็กๆน้อยๆ…..
คนหนึ่งถูกเขวี้ยงลงไปในหุบเหวไร้ก้น อีกคนหนึ่งถูกบีบคั้นจนกระโดดตามลงไป…..เกรงว่าไม่หลงเหลือร่างอีกแล้ว
ต้องมามีจุดจบเช่นนี้ แม้แต่ชือหลีเองก็ยังรู้สึกว่ารับไม่ได้
แต่ว่าผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว…..หุบเหวไร้ก้นก็ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ….
นางก็ชักจะเคว้งคว้างแล้ว
นางได้แต่สวดภาวนาอยู่ในใจ อธิษฐานขอให้ตู๋กูซิงหลันยังมีชีวิตอยู่!
ตู๋กูซิงหลันออกจะแข็งแกร่งจนพิศดารถึงเพียงนั้น ไม่สมควรจะตกลงไปตายโดยง่าย!
ในขณะที่ตู๋กูซิงหลันไม่อยู่ นางก็ได้แต่พึ่งพาตนเอง หาทางช่วยตู๋กูเจวี๋ยออกไปให้จงได้….
เดิมทีในใจของชือหลีกำลังคิดแผนการวุ่นวาย แต่ยามนี้กลับถูกภาพของพี่ชายน้องสาวตรงหน้าทำเอาชะงักไปแล้ว
เหล่านางกำนัลพึ่งกราบทูลเสร็จ ก็เห็นเยี่ยอิงส่งสายตาราวมีดดาบออกมา
เนื่องเพราะเมื่อครู่เยี่ยเฉินพึ่งจะเอ่ยเรียกชื่อของตู๋กูซิงหลัน อารมณ์ของนางในตอนนี้จึงไม่ดีอย่างยิ่ง!
นางลุกขึ้นยืน ผ้าเนื้อบางบนร่างหล่นลงไป จึงยิ่งทำให้สามารถมองเห็นร่องรอยจากสัมพันธ์รักบนผิวพรรณของนางได้อย่างชัดเจน
นางบิดขาเรียวยาว เดินมาทางเหล่านางกำนัลทีละก้าวๆ ดวงตาคู่นั้นจับจ้องอยู่ที่ชือหลี
พอยกมือขึ้นมาข้างหนึ่ง ก็ตบลงไปบนใบหน้าของชือหลีอย่างโหดเ**้ยม
“นังคนไร้ยางอาย!” นางเอ่ยด้วยเสียงขุ่นเคือง “ไม่เห็นหรรือว่าพี่ชายกับข้ากำลังอยู่ด้วยกันหรอกหรือ? ยังจะกล้าล่วงล้ำเข้ามา?”
ชือหลีรับความเกรี้ยวกราดนั้นไปเต็มๆ
ตบเมื่อครู่ เยี่ยอิงตบได้อย่างโหดเ**้ยม!
ดวงหน้าครึ่งซีกของชือหลีมีรอยห้านิ้วประทับอยู่ ครึ่งหน้าบวมฉึ่งขึ้นมา!
นางพึ่งจะอ้าปาก ก็เห็นเยี่ยอิงยกฝ่ามือฟาดลงมาอีกครั้ง ยังคงเป็นครึ่งหน้าเดิม
“ยังคิดจะเถียงอีก? เจ้ารู้หรือไม่ ผู้ที่พี่ชายรักใคร่ที่สุดก็คือข้า เจ้ามันเป็นตัวอะไร? ก็แค่อนุคนหนึ่ง! ก็แค่เครื่องมือคลอดลูกเท่านั้น แม้แต่นางกำนัลก็ยังเทียบไม่ได้ด้วยซ้ำ!”
เนื่องเพราะชือหลีและตู๋กูซิงหลันสนิทสนมใกล้ชิดกัน เยี่ยอิงจึงเทความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดลงไปบนร่างของนาง
ไยพี่ชายจึงไปคิดถึงสตรีอื่นด้วย?
ทั้งยังเป็นคนที่ตายไปแล้ว! คนที่ยอมตายเพื่อบุรุษอื่น สตรีที่ตายอย่างไร้ที่กลบฝัง มีคุณสมบัติใดให้พี่ชายคิดถึงกัน?
ตลอดหลายปีมานี้ แม้พี่ชายจะรับอนุมามากมาย แต่เขาก็ไม่เคยหวั่นไหวใจไปกับสตรีคนใดมาก่อนเลย…..
ที่จริงแล้ว แม้แต่ชื่อของพวกนางพี่ชายก็ยังจดจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!
ตู๋กูซิงหลันผู้นั้น นางมีสิทธิอะไร? มีสิทธิอะไรเข้ามาอยู่ในใจของพี่ชาย?
ขณะที่มีสัมพันธ์กับตน พี่ชายกลับหลุดชื่อของนางออกมา?
หัวใจของเยี่ยอิงราวมีคลื่นสาดซัด โกรธเกรี้ยวปานจะระเบิดขึ้นไปบนฟ้า แต่ว่าจะอย่างไรนางก็ไม่อาจไประบายอารมณ์ขุ่นเคืองกับพี่ชายที่ตนเองรักที่สุดได้ ทั้งยังไม่อาจระบายอารมณ์ใส่คนที่ตายไปแล้ว
ได้แต่ประดังความโกรธแค้นทั้งหมดนี้ลงไปบนร่างของชือหลี
เยี่ยเฉินเอาแต่มองดูอยู่ด้านข้าง เขาคุ้นเคยกับการที่เยี่ยอิงทุบตีพวกอนุของเขาอยู่แล้ว คนที่ถูกนางทำร้ายจนตายไปก็มีอยู่หลายคน
เขาล้วนไม่ใส่ใจ เห็นจนชินชาไปแล้ว
เขาจัดแจงเสื้อผ้าบนร่าง เสยเส้นผมที่ยุ่งเหยิง อย่างไม่สนใจจะมองดูชือหลีแม้แต่แวบเดียว
อนุคนหนึ่ง หากสามารถเป็นเครื่องมือระบายความโกรธของนางได้ ตายก็ตายไปเถอะ…..
หลายปีมานี้ เพราะความเป็นพี่น้องของพวกเขา เขาจึงไม่อาจมอบฐานะไท่จื่อเฟยให้กับนางได้ นี่นับว่าผิดต่อนางมากแล้ว
ดังนั้นกับสตรีเหล่านี้ เยี่ยเฉินจึงปล่อยให้นางกดขี่ได้อย่างตามสบาย ถือว่าเป็นการชดเชยให้กับนาง
วันนี้เขาไม่ทันระวังเผลอเรียกชื่อของตู๋กูซิงหลัน….ในใจของนางย่อมต้องไม่ยินดี ไม่อาจโทษที่นางจะเกรี้ยวกราด
ที่จริงเยี่ยเฉินรู้สึกว่า ท่าทางยามที่เยี่ยอิงมีโทสะทุบตีคนนั้น น่าดูเป็นพิเศษ
ยามปกติเขาก็ชอบชมดูเยี่ยอิงทุบตีเหยื่อต่างๆ โดยเฉพาะเวลาที่ใช้กรงเล็บฉีกเนื้อบนร่างของเหยื่อเหล่านั้น ออกมาเป็นชิ้นๆ เลือดที่ไหลอาบไปตามผิวพรรณที่ขาวสะอาดราวกับหิมะของนาง ….หึหึ ภาพเหล่าเพียงแค่คิดก็ทำให้เขาตื่นเต้นขึ้นมา
ยามนี้พอเห็นนางตบตีชือหลี เขาจึงเอนร่างลงไปบนเก้าอี้ ใช้มือข้างหนึ่งประคองศีรษะเอาไว้ ชื่นชมด้วยความสนุกสนนาน
ชือหลีถูกคนแบกตัวมา ไม่อาจขยับเขยื่อน
ฝ่ามือนี้ของเยี่ยอิงตบจนในศีรษะของนางส่งเสียงวิ้งไปหมด มุมปากมีเลือดไหลออกมาในทันที
นางเขม้นมองด้วยดวงตาเป็นประกาย
“พวกเจ้าสามารถให้ข้าไสหัวไป ตำแหน่งอนุนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการสักหน่อย”
เยี่ยอิงคิดไม่ถึงว่า นางยังคิดจะต่อปากต่อคำด้วยจริงๆ
นางหรี่ดวงตาลง ในดวงตาเปล่งประกายกระหายเลือดที่ชั่วร้ายขึ้นมา “เจ้าไม่กลัวตายหรือไร?”
ชือหลี “ข้ากลัวตาย พวกเจ้าปล่อยข้าไปได้ไหม?”
หากว่าตะปูตรึงมังกรในอกถูกถอนออกไปละก็ บางทีนางอาจจะพอรับมือเยี่ยอิงได้สักหลายกระบวนท่า…..
จากนั้นก็ได้ยินชือหลีเอ่ยต่อไปว่า “หากมิใช่เพราะว่ากำลังของข้าถูกผนึกเอาไว้ละก็ เกรงว่าเจ้าไม่อาจฆ่าข้าได้หรอก”
เยี่ยอิงหัวเราะเสียงเย็นชา ตบซ้ำลงมาอีกฝ่ามือหนึ่ง “ของเล่นชั้นต่ำ! ยังคิดจะมาเปรียบเทียบกับข้าอีกหรือ?”
…………………………….
ตอนต่อไป “เจ้าตัวน้อย…..ลำบากเจ้ามากแล้ว”