ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล - ตอนที่ 352 เขาหมั้นคืนนี้ (1) / ตอนที่ 353 เขาหมั้นคืนนี้ (2)
- Home
- ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล
- ตอนที่ 352 เขาหมั้นคืนนี้ (1) / ตอนที่ 353 เขาหมั้นคืนนี้ (2)
ตอนที่ 352 เขาหมั้นคืนนี้ (1)
อันซย่าซย่ามุมปากกระตุก
ยัยคนนี้นี่ ความฉลาดทางอารมณ์ของเธอยังลดลงได้อีกหรือไง?
แฟนของเขาก็ยังอยู่ตรงนี้ ไม่เห็นต้องพูดจาออดอ้อนกับพ่อตัวเองเรื่องการหมั้นของเธอกับเซิ่งอี่เจ๋อก็ได้นี่?
แล้วยังมีโรคเสแสร้งไร้เดียงสาทำหน้าอ่อนแอเหมือนคนใกล้ตายแต่ยังลืมรักแรกไม่ลงนั่นอีก เธอจงใจหรือเจตนากันแน่?
คุณซ่งขมวดคิ้วพูดอย่างไม่พอใจ “ซ่งซ่ง อย่าก่อเรื่อง”
เมื่อเห็นว่าคุณพ่อซ่งไม่เข้าข้างตัวเอง ซ่งชิงเฉินจึงเปลี่ยนเป็นพูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ “ซะที่ไหนล่ะ ฉันแค่พูดไปอย่างงั้นแหละ ฉันรู้ดีว่าพี่อาเจ๋อกับซย่าซย่ารักกันมาก จริงไหมคะ?”
เธอคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะจบสินะ แต่อันซย่าซย่ากลับหรี่ตาลงพูดไปตรงๆ ว่า “ในเมื่อรู้แล้วทำไมยังล้อเล่นแบบนี้อีก?”
“เอ่อ…ซย่าซย่า…ขอโทษนะ…” ซ่งชิงเฉินแสร้งทำเป็นไร้เดียงสาอีกครั้ง
อันซย่าซย่ากะพริบตาให้ดูไร้เดียงสายิ่งกว่าเธอ “ถ้าพูดขอโทษแล้วได้ผล งั้นจะมีตำรวจไว้ทำไม?”
ซ่งชิงเฉินตกใจน้ำตาไหลพราก “ซย่าซย่า ฉันก็แค่หยอกเธอเล่นเท่านั้นเองนะ ทำไมเธอใจร้ายอย่างนี้ล่ะ…ทำไมต้องเอะอะโวยวายด้วย…”
ใครจะคิดว่าอันซย่าซย่าเสียใจยิ่งกว่า เธอขยี้ตาและน้ำตาก็ไหลออกมา
“ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนรักวัยเด็กของเซิ่งอี่เจ๋อและเธอก็อยากแต่งงานกับเขา แต่ว่าเราสองคนเป็นแฟนกันนะ เธอเอาแต่ล้อเล่นแบบนี้ มันกระทบกับความรู้สึกฉันจริงๆ ซ่งซ่ง ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจ เธอเป็นคนจิตใจดี เพราะฉะนั้นอย่าแย่งเซิ่งอี่เจ๋อไปจากฉันเลย…ฉันไม่มีอะไรแล้ว มีแค่เซิ่งอี่เจ๋อ เธอเองก็คงหวังว่าพี่อาเจ๋อของเธอจะมีความสุขใช่ไหมล่ะ?”
ซ่งชิงเฉินสำลักจนหน้าเขียวไปหมดแล้ว
“ซย่าซย่า…ฉันไปแย่งเธอซะที่ไหนล่ะ…”
“เซิ่งอี่เจ๋อ! วันนี้เราขาดกันซะตั้งแต่ตอนนี้เถอะ! ถ้านายอยากแต่งงานกับซ่งซ่ง เราก็รีบๆ เลิกกันซะ! ฉันจะไม่กวนใจนายอีก!” อันซย่าซย่าแสร้งทำเป็นนักรบตัดข้อมือตัวเองโดยพูดตัดบทซ่งชิงเฉินและจ้องหน้าเซิ่งอี่เจ๋อ
เซิ่งอี่เจ๋อยังคงยืนหยัดในจุดยืน เขาพูดกับซ่งชิงเฉินด้วยความห่างเหินว่า “ซ่งซ่ง วันหลังอย่าล้อเล่นแบบนี้อีก ในใจฉันมีแค่ซย่าซย่าเพียงคนเดียวและจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ต้นจนจบ”
ซ่งชิงเฉินยิ้มแข็งทื่อ อันซย่าซย่าพูดเสริม “ซ่งซ่ง เธออยากร้องก็ร้องออกมาเถอะ เธอกลั้นไว้แบบนี้ มันน่าเกลียดมาก!”
ซ่งชิงเฉิน “…” เธอกระอักได้ไหม? ใครสามารถบอกเธอได้บ้างว่าปากอันซย่าซย่ามีพิษมากขนาดนี้?
คุณซ่งขมวดคิ้วพลางตำหนิ “ซ่งซ่ง กลับห้องไป! อี่เจ๋อมีแฟนแล้ว นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปลูกต้องรักษาระยะห่างกับเขาด้วย อย่าล้ำเส้น!”
ซ่งชิงเฉินกัดฟันจากไปด้วยความโกรธ ตอนที่เดินผ่านอันซย่าซย่าก็ยิ้มอย่างเย็นชาเบาๆ “หัวเราะเร็วกว่าจะมีประโยชน์อะไร? คนรอบข้างเธอล้วนต้องได้รับบาดเจ็บเพราะความรักที่น่าหัวเราะของเธอ…อันซย่าซย่า เธอคอยดูแล้วกัน!”
เธอจากไปด้วยความโกรธ คุณซ่งกล่าวขอโทษ “ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้พวกเธอหัวเราะเยาะเอาได้…ซย่าซย่า เธออย่าเสียใจไปเลย อี่เจ๋อ ดูแลเธอให้ดีด้วยนะ ว่างเมื่อไหร่ก็พาเธอมานั่งเล่นที่บ้านพวกเรา”
“ได้ครับคุณอา” เซิ่งอี่เจ๋อพยักหน้า คุณซ่งยิ้มให้อันซย่าซย่าอีกครั้งแล้วถึงจะจากไป
อันซย่าซย่ายังคงจมอยู่กับคำขู่ของซ่งชิงเฉินเมื่อครู่นี้โดยไม่ทันได้สังเกตว่าสายตาที่คุณซ่งมองเธอเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์
อยากมองเธอให้มากกว่านี้ แต่กลัวว่าเธอจะจับได้
ขณะที่กำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เซิ่งอี่เจ๋อก็บีบแก้มนุ่มของเธอพร้อมกับพูดหยอกเย้า “ซย่าซย่า ทำไมฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเธอมีพรสวรรค์ด้านการแสดงด้วย?”
ตอนที่ 353 เขาหมั้นคืนนี้ (2)
อันซย่าซย่าบุ้ยปาก “ก็สถานการณ์มันบังคับนี่!”
เธอตาแดงเพราะร้องไห้ให้อันอี้เป่ยอยู่แต่เดิมแล้ว เมื่อกี้นี้เธอแค่หยิกตัวเองและบีบน้ำตาออกมาไม่กี่หยด ไม่คิดเลยว่ามันจะได้ผลดีขนาดนี้!
ฮึ ทักษะการแสดงงั้นเหรอ! แสร้งไร้เดียงสางั้นเหรอ! ใครก็ทำได้ย่ะ!
“หึงเหรอ?” เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มอย่างมีความสุข พูดได้ว่าเขาชอบอันซย่าซย่าเวลาหึงแบบนี้จริงๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้วิธีแบบนี้เพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง เขาชอบมันมากจริงๆ เลย
“ใครหึงนาย! คนชอบนายเยอะขนาดนี้ ถ้าให้ฉันหึงทั้งหมดนี่ก็เหนื่อยตายกันพอดี!” อันซย่าซย่าบุ้ยปากอย่างหยิ่งๆ “ฉันต้องกลับบ้านแล้ว ไปละนะ!”
เธอคิดจะจากไปด้วยความโมโห ทันใดนั้นก็ร้องอุทานออกมา เธอถูกขังไว้ในอ้อมกอดหนาแน่นอันอบอุ่นของชายหนุ่ม
“ฉันจะคิดถึงเธอ” เสียงทุ้มต่ำที่น่าหลงใหลของเขาดังเข้ามาในหู
ใบหน้าอันซย่าซย่าเริ่มเป็นสีชมพู เธอปากแข็ง “งั้นนายก็คิดไปเถอะ ฉันไม่คิดถึงนายหรอก!”
“จริงเหรอ?” เซิ่งอี่เจ๋อหรี่ตาลงด้วยแววตาอันตรายพลางถอนหายใจเบาๆ อยู่ข้างหูเธอ เขาเม้มติ่งหูเล็กๆ ของเธอและค่อยๆ เบียดตัว
อันซย่าซย่าหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ ใบหูเล็กๆ ของเธอทั้งแดงทั้งร้อน เซิ่งอี่เจ๋อหัวเราะเยาะ “ยัยคนปากไม่ตรงกับใจ!”
อันซย่าซย่าผลักเขาออกและกุมหน้าวิ่งหนีไปอย่างเขินอาย
เซิ่งอี่เจ๋อยืนยิ้มอยู่ที่เดิม พออันซย่าซย่าวิ่งไปไกลแล้ว คิ้วก็กลับมาขมวดแน่นอีกครั้ง
หลังจากที่อันอี้เป่ยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซ่งชิงเฉินก็ปรากฏตัวในโรงพยาบาลแห่งนี้ ความบังเอิญเช่นนี้ทำให้เขารู้สึก…ประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูก
–
อันอี้เป่ยใช้เวลาสองวันในการสังเกตดูอาการอยู่ที่โรงพยาบาล จากนั้นก็กลับไปพักผ่อนที่บ้าน
โชคดีที่เป็นช่วงเวลาปลายปีพอดี เขาจึงลาพักร้อนประจำปีเพื่อพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บอยู่ที่บ้าน
บ่ายวันนี้ที่ร้านกาแฟยุ่งมาก ป่าป๊าอันทำไม่ไหวจึงตะโกนเรียกอันซย่าซย่าให้ลงมาช่วย
ข้างล่างมีเพียงฉีเหยียนซีที่ทำหน้าที่เป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่คนเดียว เดิมทีอันซย่าซย่าคิดว่าเขาเป็นคุณชายหยิ่งยโสคนหนึ่ง ทำงานพวกนี้ไม่ได้ แต่ใครจะรู้ว่าเขาจะถ่อมตัวเรียนรู้มาได้สองวันแล้ว ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นการบริการหรือทำความสะอาด เขาก็ทำได้ค่อนข้างดี
“ลาเต้หนึ่งแก้ว คาราเมลมัคคิอาโต้หนึ่งแก้ว…” เด็กผู้ชายสองคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในร้านสั่งออเดอร์อันอี้เป่ยที่ทำหน้าที่เป็นแคชเชียร์
พออันอี้เป่ยรับเงินมาแล้ว ก็ส่งรายการให้อันซย่าซย่า ป่าป๊าอันทำลาเต้ ส่วนอันซย่าซย่าทำคาราเมล
ก่อนอื่นบดเมล็ดกาแฟจนกลายเป็นผง จากนั้นก็ใช้เครื่องทำกาแฟสกัดออกมาเป็นกาแฟเหลว พอตีฟองนมอย่างคล่องมือเสร็จ อันซย่าซย่าก็ลากเป็นลวดลาย
เธอลากเส้นเป็นรูปหัวใจอย่างง่ายๆ จากนั้นบีบซอสคาราเมลเป็นวงกลมให้ดูสวยงาม
ลาเต้ของป่าป๊าอันก็ทำเสร็จพอดีจึงเรียกฉีเหยียนซีมายกกาแฟไปเสิร์ฟ
ฉีเหยียนซีกลับไม่ยกไป ทั้งยังจ้องหน้าอันซย่าซย่า “เฮ้ เธอวาดรูปหัวใจได้ยังไง!”
อันซย่าซย่าเหงื่อตก “ก็เพราะรูปนี้มันง่ายที่สุดไง…”
“ไม่ได้! ลูกค้าคนนั้นเป็นผู้ชาย เธอจะทำกาแฟรูปหัวใจให้เขาไม่ได้! ทำใหม่ๆ!” ฉีเหยียนซีผลักแก้วกาแฟอย่างกระวนกระวาย
อันซย่าซย่าแทบกระอักเลือด ทว่าฉีเหยียนซียังคงยืนกราน เธอจึงได้แต่เร่งทำแก้วใหม่ด้วยความรวดเร็ว
กว่าจะทำงานเสร็จไม่ใช่เรื่องง่าย ฉีเหยียนซีเดินมาที่หลังบาร์แล้วคว้าแก้วกาแฟไปพร้อมกับพูดเสียงแข็งว่า “แก้วนี้ขายไม่ได้แล้ว…ให้ฉันช่วยจัดการเถอะ คิดซะว่าเธอทำกาแฟให้ฉันด้วยความรัก”
เขาชะล่าใจไม่ถึงสองวิก็มีมือใหญ่ยื่นมาแย่งแก้วกาแฟของเขาไป
“ฉีเหยียนซี นายไม่ได้กินยาหรือไง อาการถึงได้กำเริบ?”
“ไอ้บ้า! นายน่ะสิบ้า! นี่มันกาแฟฉันนะ!”