ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล - ตอนที่ 409 เป็นหรือตาย (8) / ตอนที่ 410 เป็นหรือตาย (9)
ตอนที่ 409 เป็นหรือตาย (8)
โลกดูเหมือนจะเงียบสงัดในคราวเดียวกัน
อันซย่าซย่ารู้สึกราวกับว่าตัวเองได้หยุดหายใจ
เจี่ยนซินเอ๋อร์เป็นคนแรกที่มีปฏิกิริยา เธอเดินเข้ามาด่า “เธอยังกล้าใช้โทรศัพท์อีกเหรอ?”
เธอยกมือขึ้นแล้วตบลงมาที่ใบหน้าอันซย่าซย่า อันซย่าซย่าหลบอย่างรวดเร็ว แก้มของเธอจึงถูกข่วนด้วยเล็บอันแหลมคม ในตอนนั้นเธอรู้สึกเจ็บๆ แสบๆ
“รีบไปเร็ว! ไม่อย่างงั้นจะถูกเจอเอาได้!” หรงเช่อตะคอก แต่เจี่ยนซินเอ๋อร์เหมือนบ้าไปแล้ว เธอกระชากผมอันซย่าซย่าอย่างสุดชีวิตแล้วคิดจะพาเธอไปที่ตู้ปลา
อันซย่าซย่ารู้ดีว่าคราวนี้ตัวเองจะต้องจมน้ำตายแล้วจริงๆ …
เธอจึงดิ้นอย่างสุดแรงเกิด หรงเช่อมีท่าทางเข้มงวด ในเวลาแบบนี้เขาไม่สนใจเจี่ยนซินเอ๋อร์อีกต่อไปและเดินไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว
เสียงดังโครม——
ประตูถูกคนเตะออก เผยให้เห็นกลุ่มบอดี้การ์ดชุดดำ!
เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าสุดมีสีหน้าไร้ความรู้สึก เขายืดตัวตรง บนตัวมีกลิ่นอายเยือกเย็นราวกับลมเย็นที่พัดมาในยามฤดูหนาว ทำให้คนหวาดกลัวเข้ากระดูก
เมื่อกวาดตามองสภาพห้อง เขาก็กำหมัดแน่นจนได้ยินเสียงข้อต่ออย่างชัดเจน
เจี่ยนซินเอ๋อร์ปล่อยมือที่จับอันซย่าซย่าและมองผู้มาเยือนด้วยความหวาดกลัว
อันซย่าซย่าตาแดงก่ำ เซิ่งอี่เจ๋อค่อยๆ เดินเข้ามาหาและคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเธอ เขาสัมผัสรอยแดงที่อยู่บนใบหน้า
นั่นเป็นรอยที่เจี่ยนซินเอ๋อร์เพิ่งฟาดไป ในเวลานี้เลือดได้ซึมออกมาเป็นหยดๆ
“เจ็บไหม?” เสียงของชายหนุ่มแผ่วเบาราวกับขนนก
อันซย่าซย่าพยักหน้า น้ำตาไหลออกมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับส่ายหน้าอีกครั้ง
เมื่อเห็นเซิ่งอี่เจ๋อใส่ใจอันซย่าซย่าแบบนี้ เจี่ยนซินเอ๋อร์ก็แทบคลั่ง!
เธออยู่ใกล้อันซย่าซย่ามากและไม่รู้ว่าเอาพละกำลังมาจากไหน เธอผลักเซิ่งอี่เจ๋อและหยิบกริชออกมาแทงไปยังตัวอันซย่าซย่า
ฉึบ——
กริชเสียบเข้าที่ส่วนท้องของอันซย่าซย่า…ในไม่ช้าเลือดก็ไหลออกมา
การเคลื่อนไหวของเซิ่งอี่เจ๋อรวดเร็วจนน่าตกใจ ภายในพริบตาเดียวเขาก็พุ่งมาตรงหน้าเจี่ยนซินเอ๋อร์และเตะเธอออกไป
เจี่ยนซินเอ๋อร์กระอักเลือดออกมา เธอนอนอยู่บนพื้นเหมือนตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง
“ซย่าซย่า…ไม่ต้องกลัว พวกเราจะไปโรงพยาบาลกัน…” เซิ่งอี่เจ๋อเสียงสั่นเทาโดยทั้งๆ ที่เมื่อกี้ยังอยู่ในอาการสงบ อันซย่าซย่ายิ้มให้เขา จู่ๆ สีหน้าเธอก็เปลี่ยนไปกะทันหัน “ระวัง…”
หรงเช่อรู้ตัวว่าหนีอย่างไรก็หนีไม่รอดแล้ว เขาจึงหยิบกริชมาจากเจี่ยนซินเอ๋อร์แล้วพุ่งตัวมาทางเซิ่งอี่เจ๋อ
ฝีมือของเขายังไม่ดีพอเมื่ออยู่ต่อหน้าเซิ่งอี่เจ๋อ แต่หรงเช่อยกริมฝีปากล่างอย่างประหลาดและหันมาแทงอันซย่าซย่า
สีหน้าเซิ่งอี่เจ๋อเปลี่ยนไปอย่างมาก เนื่องด้วยระยะห่างที่ใกล้เกินไป เขาจึงใช้มือบีบกริชเล่มนั้นเพื่อปกป้องอันซย่าซย่าไม่ให้ได้รับบาดเจ็บอีก หรงเช่อพยายามใช้แรงอย่างสุดกำลัง แต่เขาก็ไม่สามารถก้าวต่อไปได้อีก
เมื่อบอดี้การ์ดเห็นสถานการณ์ก็กรูเข้ามาปกป้องเซิ่งอี่เจ๋อ
ในขณะที่อันซย่าซย่าเอามือกุมท้องก็พลันรู้สึกว่าดวงตายิ่งมืดลง ในความทรงจำมีมือใหญ่อุ่นๆ คู่หนึ่งมาปิดตาเธอไว้ จากนั้นเสียงกรีดร้องก็ดังมาจากข้างๆ …
มีคนตายหรือไม่? สติของเธอยุ่งเหยิงจนเธอคิดไม่ตก เธอรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่แผ่ขยายออกไปและความมืดที่ไม่มีที่สิ้นสุดก็เข้ามาจู่โจม
–
หลังจากสั่งคนให้พาอันซย่าซย่าไปส่งที่โรงพยาบาล หน้าเซิ่งอี่เจ๋อก็เข้มขึ้น เขาจับคอเสื้อเจี่ยนซินเอ๋อร์ขึ้นมาจากพื้นแล้วกดลงไปในตู้ปลา
สามสิบวินาที หนึ่งนาที สองนาที…
เจี่ยนซินเอ๋อร์ถลึงตาโตอยู่ในน้ำ เธอกลืนน้ำเข้าไปหลายอึกและเหมือนกำลังจะตาย…
เธอโดนลากออกมาอย่างรุนแรงและร่วงลงไปกับพื้นเหมือนผ้าขี้ริ้ว ยังไม่ทันมีเวลาได้หายใจก็ได้ยินเสียงแหบอันเย็นยะเยือกที่เหมือนมาจากขุมนรก “อยากเล่นซย่าซย่าให้ตายใช่ไหม? หืม?”
ตอนที่ 410 เป็นหรือตาย (9)
เจี่ยนซินเอ๋อร์ไออย่างแรง ใบหน้าซีดเซียว
แม้แต่คำพูดแก้ตัวก็ไม่ให้เธอได้พูด เซิ่งอี่เจ๋อเหลือบมองเด็กหนุ่มไม่กี่คนที่ถูกบอดี้การ์ดคุมตัวไว้
ไม่กี่คนนั้นสวมเสื้อผ้าสีสันฉูดฉาด ย้อมผมหลากสี เมื่อมองแวบแรกก็รู้แล้วว่าเป็นพวกสวะชั้นต่ำ
“มาเอาผู้หญิงใช่ไหม?” เซิ่งอี่เจ๋อพูดเรียบๆ “ฉันยกคนนี้ให้เป็นไง?”
เขาเตะเจี่ยนซินเอ๋อร์ไปทางด้านนั้น เด็กหนุ่มต่างมองหน้ากันพร้อมกับเริ่มถอดเสื้อผ้ากันพรึ่บพรับ
“พวกแกจะทำอะไร…ไม่ อย่า…” เจี่ยนซินเอ๋อร์กรีดร้อง เสื้อผ้าไม่กี่ชิ้นที่อยู่บนตัวถูกถอดออกอย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอก็ถูกเด็กหนุ่มแข็งแรงเหล่านั้นผลัดกันกดลงไป…
ในที่สุดเธอก็ต้องจ่ายค่าชดใช้ความชั่วร้ายของตัวเอง
เซิ่งอี่เจ๋อจากไปด้วยท่าทางอันเยือกเย็น ถ้ามีคนอื่นมารังแกเขา บางทีเขาอาจจะทนได้ แต่ถ้าใครกล้ามาทำกับอันซย่าซย่า เขาไม่ปล่อยเอาไว้แน่!
–
บาดแผลของอันซย่าซย่าได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที แต่เนื่องจากเสียเลือดมากเกินไป จึงต้องทำการให้เลือด
เธอเป็นคนกรุ๊ปเลือดอาร์เอชลบซึ่งเป็นกรุ๊ปเลือดที่หายากมาก และในโรงพยาบาลใหญ่ทุกแห่งในเมืองอวี้ล้วนไม่มีอยู่ในคลังธนาคารเลือด!
เซิ่งอี่เจ๋อต่อสายให้ทุกคนนำเลือดมาบริจาค ใบหน้าของเขาอึมครึมราวกับปีศาจที่มาจากขุมนรก ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้
“คุณชายเซิ่ง…” พยาบาลก้าวไปข้างหน้าอย่างหวั่นใจ “คุณต้องรักษาบาดแผลที่มือของคุณนะคะ…”
บาดแผลของเขาเต็มไปด้วยเลือด เขาเพียงใช้เศษผ้ามาพันอย่างลวกๆ แต่เลือดยังซึมออกมาไม่หยุด
บาดแผลเป็นแผลที่ลึกมาก แต่เขาทำเหมือนกับไม่ได้รู้สึกอะไร ไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่น้อย
เขาเม้มปากนั่งอยู่บนเก้าอี้เพื่อให้พยาบาลทำแผล
คาดไม่ถึง ทันใดนั้นเขาก็พูดว่า “ถ้าเธอตาย พวกคุณก็ไปลงนรกด้วยกันซะ”
น้ำเสียงของเขาเย็นชาและเป็นไปอย่างเรียบๆ เหมือนกับพูดเรื่องทั่วไป แต่กลับทำให้คนฟังเสียวสันหลัง!
กลุ่มเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ถึงกับเหงื่อตก พยาบาลที่พันแผลให้เขาคนนั้นก็แทบจะคุกเข่าลงกับพื้น!
เด็กสาวที่อยู่ในห้องผู้ป่วยคนนั้นมีความสำคัญต่อคุณชายเซิ่งมากถึงขนาดนี้เชียวหรือ?
……
“หลีกทาง! น้องสาวผมเป็นยังไงบ้าง? อะไรนะ? ขาดเลือด! ผมกับเธอกรุ๊ปเลือดเดียวกัน เอาของผมไป!” เมื่อได้ยินเสียงที่ไม่แยแสดังขึ้น เซิ่งอี่เจ๋อก็ยกเปลือกตา เขาเห็นเพียงอันอี้เป่ยกำลังแกะกระดุมเสื้อ ผมเผ้ารุงรัง พุ่งตัวเข้ามาโดยไม่สนใจภาพลักษณ์ใดๆ
พยาบาลพูดอย่างไม่พอใจ “คุณผู้ชาย คุณอยากฆ่าผู้ป่วยหรือยังไง ถึงจะเป็นเครือญาติกันก็ให้เลือดกันไม่ได้!”
ไม่รู้ว่าคำพูดนี้แทงใจดำอันอี้เป่ยตรงไหน เขาหันหน้าเดินไปหาเซิ่งอี่เจ๋อแล้วต่อยเซิ่งอี่เจ๋ออย่างแรงไปหนึ่งที!
“ทั้งหมดเป็นเพราะแก! ถ้าไม่ใช่เพราะแกปรากฏตัว ซย่าซย่าก็คงไม่โดนลักพาตัวไป! และคงไม่ต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้!” อันอี้เป่ยคำรามพลางดึงคอเสื้อเซิ่งอี่เจ๋ออย่างดุเดือด
“เป็นความผิดของผมเอง” เซิ่งอี่เจ๋อเช็ดเลือดที่มุมปากอย่างใจเย็น “ถ้าเธอตาย ผมจะชดใช้ด้วยชีวิต”
“ไอ้เด็กบ้า! ฉันไม่สนชีวิตของแกหรอก!” หลังจากด่าด้วยความร้อนใจ เขาก็ต่อว่าพยาบาล “นิ่งกันอยู่ทำไม พาผมไปเจาะเลือดสิ!”
แท้ที่จริงในใจกลับตะลึงพรึงเพริด
พูดออกมาได้ยังไงว่าจะชดใช้ด้วยชีวิต…
บ้าไปแล้ว
หลังจากอันอี้เป่ยเจาะเลือดเสร็จแล้ว เขาก็กลับไปยังทางเดินและนั่งลงข้างๆ เซิ่งอี่เจ๋อพร้อมกับตำหนิตัวเอง “นายรู้หมดแล้วใช่ไหม? หึ…ก็คงจะเป็นอย่างงั้น นายจะไม่รู้ได้ยังไง ก่อนใครจะไปใครจะมา นายก็คงตรวจสอบข้อมูลของเธอมาหมดแล้วสินะ”
เซิ่งอี่เจ๋อหัวเราะแต่ขอบตายังแดง
“เธอไม่ตายหรอก บาดแผลไม่ได้ลึกมากและไม่ได้เสียเลือดไปมากพอ อีกอย่างเทคโนโลยีทางการแพทย์ก็ก้าวหน้ามาก ยังไงเธอก็ไม่ตาย”
ในเวลานี้เซิ่งอี่เจ๋อดูนิ่งจนน่ากลัว
ความนิ่งทำให้คนเจ็บปวดใจ