ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล - ตอนที่ 421 นายกับซย่าซย่าจบกัน (10) / ตอนที่ 422 เด็กปัญญาอ่อนดีใจที่ได้บัตรรายเดือนเพิ่ม
- Home
- ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล
- ตอนที่ 421 นายกับซย่าซย่าจบกัน (10) / ตอนที่ 422 เด็กปัญญาอ่อนดีใจที่ได้บัตรรายเดือนเพิ่ม
ตอนที่ 421 นายกับซย่าซย่าจบกัน (10)
อันอี้เป่ยยกถ้วยกาแฟขึ้นมาด้วยท่วงท่าสง่างามแล้วจิบกาแฟ
“อ้อ? งั้นนายอธิบายเรื่องที่นายกับคนรักวัยเด็กขลุกอยู่บนเตียงเดียวได้ไหมล่ะ?”
เซิ่งอี่เจ๋อหน้าซีดเผือด เห็นได้ชัดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เขากลับอธิบายได้ไม่กระจ่าง
ถ้าเขาบอกอันอี้เป่ยไปว่าตัวเองเมาจนภาพตัดก็เกรงว่ายิ่งพูดก็ยิ่งแย่
“ผมจะหาหลักฐานมาให้ซย่าซย่า” เซิ่งอี่เจ๋อกล่าวอย่างเคร่งขรึม
อันอี้เป่ยยักไหล่ โดยทำเหมือนคำพูดของเขาเป็นอากาศ
มือของอันอี้เป่ยที่ถือแก้วกาแฟอยู่สั่นเล็กน้อย นั่นเป็นการแสดงออกให้เห็นว่ากำลังกลั้นโมโห
ภายนอกเหมือนสบายๆ ไม่มีอะไร ทว่าแท้ที่จริงแล้วตอนนี้กลับมีใจคิดจะฆ่าคน!
ไอ้เด็กบ้า! กล้าทำเรื่องพรรค์นั้นออกมาได้
ถึงอย่างไรเสียเขาก็เป็นคนที่เคยผ่านโลกมามาก เห็นได้ว่าทั้งสองคนไม่ได้มีความสัมพันธ์กันจริงๆ แต่เขาไม่ได้บอกอันซย่าซย่า
ขัดเกลาความเหิมเกริมของเจ้าเด็กคนนี้เสียหน่อย จะได้หยุดทำตัวถือดีรังแกน้องสาวของเขา!
หากเซิ่งอี่เจ๋อสามารถงัดหลักฐานออกมาได้ นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ความจริงใจที่เขามีต่ออันซย่าซย่า และต่อไปตัวเองก็จะไม่ต่อต้านความรักของพวกเขาทั้งสองอีก
แต่ถ้าหากยังหามาไม่ได้ ทั้งยังไปนัวเนียอยู่กับคนรักวัยเด็กนั่น เขาก็จะปกป้องน้องสาวตัวเองเพื่อไม่ให้ไอ้สารเลวคนนี้มาก่อเรื่องกับน้องสาวของเขาอีก
–
หลังจากเซิ่งอี่เจ๋อเดินออกมาจากบ้านตระกูลอัน เขาก็ขึ้นรถแล้วจุดบุหรี่ การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างเรียบง่ายและเสร็จภายในคราวเดียว
เขารู้ว่าอันซย่าซย่าเป็นโรคไซนัสและไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ เขาจึงไม่เคยสูบบุหรี่ต่อหน้าเธอเลย
แสงไฟอันริบหรี่ทำให้หน้าตาคมๆ ของเขาดูเหนื่อยล้าเป็นพิเศษ เมื่อมองขึ้นไปจะเห็นพืชไม้สีเขียวเรียงแถวอยู่ริมหน้าต่างของอันซย่าซย่า
นั่นเป็นต้นพืชที่พวกเขาสองคนปลูกเอาไว้ตอนที่เขาอาศัยอยู่บ้านตระกูลอัน ไม่คิดเลยว่าจะเลี้ยงมันได้ดีขนาดนี้
หลังจากนั้นไม่นานผ้าม่านก็ถูกลากออกเล็กน้อย ร่างเพรียวบางที่ปรากฏอยู่ตรงด้านหน้าหน้าต่างทำให้เซิ่งอี่เจ๋อแทบจะหยุดหายใจ
อันซย่าซย่าถือกาน้ำเล็กๆ รดน้ำต้นไม้ทีละต้นอย่างระมัดระวัง ภายในไม่กี่นาที จู่ๆ เธอก็เอามือกุมท้องพลางขมวดคิ้วสวย ดูน่ารักและมีชีวิตชีวาจนยากที่จะบรรยาย
คาดว่าเธอคงเจ็บแผลที่บริเวณท้องน้อย ยัยโง่ ได้รับบาดเจ็บก็นอนบนเตียงเฉยๆ สิ จะออกมาวุ่นวายทำไม!
เซิ่งอี่เจ๋ออยากจะขึ้นไปโยนเธอลงบนเตียง!
ทว่าตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้…
ได้แต่หลุบตาลง นัยน์ตาที่มืดมนล้ำลึกนั้นยังคงเหงาไม่เปลี่ยนแปลง
ไม่ง่ายเลยที่จะรดน้ำต้นกระบองเพชรเป็นต้นสุดท้าย อันซย่าซย่ามองไปยังต้นพืชพวกนั้นอย่างเหม่อลอย
ยังมีอะไรให้ทำได้อีก?
ตราบใดที่อยู่นิ่ง ภาพเหล่านั้นก็ปรากฏเข้ามาในสมองไม่หยุด…เหมือนฝันร้ายที่ฝังอยู่ในความทรงจำคอยเยาะเย้ยเธออย่างต่อเนื่อง
เธอนอนฟุบอยู่ขอบหน้าต่างพลางมองไปรอบๆ หลังจากเห็นรถปอร์เช่สีดำที่จอดอยู่ข้างล่าง เธอก็นิ่งไปชั่วขณะ
พอดูที่ป้ายทะเบียนรถอีกทีก็ถึงกับกัดฟันกรอด
เซิ่งอี่เจ๋อ!
เขาอยู่ข้างล่างนั้นจริงๆ และไม่รู้ว่ามองเธอมานานเท่าไหร่แล้ว!
เธอรดน้ำด้วยท่าทางโง่ๆ แบบนี้โดยไม่ได้สึกถึงการมีอยู่ของเขาเลยสักนิด
ต้นพืชพวกนี้ยังเป็นต้นที่ทั้งสองปลูกด้วยกันอีกด้วย
อันซย่าซย่ายิ่งคิดก็ยิ่งโมโห เธอหยิบกระถางต้นว่านหางจระเข้ขึ้นมาแล้วโยนมันลงไป
โครม——
กระถางเป็ดน้อยที่สวยงามแตกกระจัดกระจายไปทั่ว ดินและต้นพืชหกลงไปกับพื้น
เซิ่งอี่เจ๋อที่นั่งอยู่ในรถมีสีหน้าจมดิ่ง ร่างกายแข็งทื่อไม่ไหวติง แม้แต่เขม่าบุหรี่ที่ตกลงบนปลายนิ้วจะทำให้เจ็บ แต่เขาก็ไม่รู้สึกตัว
ต้นกระบองเพชร ไผ่นำโชค กุหลาบหิน แพรทับทิม… ต้นพืชกระถางต่อกระถางล้วนถูกอันซย่าซย่าโยนลงมา
ดินบางส่วนกระเด็นไปโดนบนตัวรถของเซิ่งอี่เจ๋อ
หลังจากที่โยนกระถางต้นทานตะวันเป็นอย่างสุดท้าย อันซย่าซย่าก็ปิดหน้าต่างและดึงผ้าม่านเพื่อแยกตัวออกจากโลก
เซิ่งอี่เจ๋อถอนหายใจและรู้สึกเหมือนหัวใจถูกแทงจนเจ็บ
ตอนที่ 422 เด็กปัญญาอ่อนดีใจที่ได้บัตรรายเดือนเพิ่ม
เขาลงจากรถและมองไปยังต้นพืชพวกนั้นที่อยู่บนพื้นอย่างอเนจอนาถ จากนั้นก็มองขึ้นไปยังหน้าต่างที่ปิดสนิท เขารู้อยู่แก่ใจว่าอันซย่าซย่าโมโหแล้วจริงๆ
เขามองหากล่องกระดาษด้วยสีหน้าไม่แสดงความรู้สึกใดๆ และเก็บต้นพืชพวกนั้นใส่ในกล่อง จากนั้นก็ขับรถออกไป
ก่อนที่จะไปสืบถามหาความจากซ่งชิงเฉิน เขายังมีเรื่องสำคัญกว่าที่จะต้องทำ
–
กิจวัตรประจำวันของอันซย่าซย่ายังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียงเหมือนศพ กินข้าว ดูละครตามปกติราวกับว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อน
มีเพียงอันอี้เป่ยเท่านั้นที่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่
ซย่าซย่าหัวเราะน้อยมาก
เด็กสาวที่มีชีวิตชีวาและมองโลกในแง่ดีแทบจะไม่หัวเราะเลยสักครั้ง แม้ป่าป๊าอันจะปลอบใจหรือเล่าเรื่องตลกให้เธอฟัง อย่างมากที่สุดเธอก็ฝืนยิ้มแบบเกร็งๆ ใครเห็นก็ต้องปวดใจ
แผลของเธอดีขึ้นเรื่อยๆ และเนื่องจากขาดเรียนไปนาน อันอี้เป่ยจึงจัดหาครูมาสอนพิเศษให้
ฉีเหยียนซีมักจะมาอยู่เป็นลูกมือให้ป่าป๊าอันที่นี่บ่อยๆ เมื่อไหร่ที่นึกสนุกก็ลงมือทำกาแฟด้วยตัวเอง จากนั้นก็เดินส่ายตูดไปแหย่อันซย่าซย่า
วันนี้อันซย่าซย่านั่งพลิกหนังสือการ์ตูนอยู่ชั้นล่างอย่างเกียจคร้าน ทันใดนั้นฝนก็เทกระหน่ำลงมาจากด้านนอกหน้าต่าง โทรศัพท์บ้านที่วางอยู่ตรงบาร์ดังขึ้น ฉีเหยียนซีหยิบขึ้นมารับสาย ปลายสายมีเสียงเด็กผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า “ร้านกาแฟอันเห่าใช่ไหมครับ? เมล็ดกาแฟและนมของพวกคุณมาถึงแล้ว พอดีฝนตกผมออกไปส่งให้ไม่ได้ ผมจะรออยู่ที่ทางแยกข้างหน้านะครับ รบกวนมารับด้วย”
“ครับ” ฉีเหยียนซีวางสาย จากนั้นก็ฝากร้านกับอันซย่าซย่า “เฮ้ ยัยทึ่มซย่าซย่า ฉันจะออกไปเอาของข้างนอก ฝากเธอดูร้านหน่อยนะ”
“อืม…” อันซย่าซย่าเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือพลางมองฝนที่อยู่ข้างนอกหน้าต่าง “จะไปแล้วเหรอ? แต่ว่าตอนนี้พ่อเอาร่มของที่บ้านออกไปใช้ซื้อของแล้วนะ”
“บ้าน” คำๆ นี้ทำให้ฉีเหยียนซีเคลิ้มไปเล็กน้อย
เขามักจะมาอยู่ที่บ้านตระกูลอันบ่อยๆ ในใจจึงคิดว่าที่นี่กลายเป็นบ้านไปซะแล้ว
ความอ่อนโยนของป่าป๊าอัน ความปากร้ายของอันอี้เป่ย และความน่ารักของซย่าซย่า มันจะดีสักแค่ไหนถ้าเขากลายมาเป็นลูกเขยของบ้านนี้….
“แหะๆๆ …” ฉีเหยียนซีจินตนาการและเริ่มหัวเราะแหยๆ อย่างยากที่จะเข้าใจ
บนหัวของอันซย่าซย่าเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม “เพื่อนนักเรียนฉีเสี่ยวฮัว นายหัวเราะบ้าอะไรเนี่ย?”
“ไม่ต้องมายุ่ง! ฉันอยากหัวเราะก็แค่หัวเราะ!” ฉีเหยียนซีตะคอกด้วยท่าทางขึงขัง
อันซย่าซย่าทำหน้าเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง “อ๋อ~ เข้าใจแล้ว เด็กปัญญาอ่อนมีความสุขนี่เอง~”
ฉีเหยียนซีฮัมเสียงด้วยความหยิ่งยโสและทำท่ารีบจะออกไปรับของ แต่อันซย่าซย่ากลับเรียกเขาไว้
“ทำไม?”
“รอเดี๋ยว ฉันจะทำร่มให้นายเอง!”
อันซย่าซย่าดึงถุงพลาสติกของซุปเปอร์มาร์เก็ตออกมาจากลิ้นชักแล้วเขย่งเท้าคลุมไว้บนหัวของฉีเหยียนซี เธอผูกโบว์รอบคอเขา จากนั้นก็ใช้นิ้วมือเจาะสองรู เผยให้เห็นดวงตาหมดอาลัยตายอยากของฉีเหยียนซี
“เธอจะให้ฉันใส่ไอ้ของเล่นแบบนี้ออกไปข้างนอกเนี่ยนะ?” ฉีเหยียนซีกระอักเลือด
“ก็ยังดีกว่าให้นายเป็นหวัดแล้วกัน!” อันซย่าซย่าพูดมีเหตุมีผลอย่างฉะฉาน “ไม่เป็นไรหรอกน่า มองไม่เห็นหน้านายเสียหน่อย ไม่ขายหน้าหรอก”
ฉีเหยียนซี “….” หลังจากพูดไม่ออกไปสักพัก เขาก็สวม “ร่มตราอันซย่าซย่า” ออกไปลุยม่านฝน
หลังจากนั้นไม่นาน ฉีเหยียนซีก็กลับมาพร้อมกับกล่องอีกสองสามใบและถอดถุงพลาสติกออก “ยัยทึ่มซย่าซย่า ไอ้เจ้านี่ก็พอมีประโยชน์อยู่บ้าง…ทรงผมของฉันไม่ยุ่งเลยแฮะ!”
หลังจากพูดอยู่นานแต่ไม่มีการตอบสนองใดๆ เขาก็มองอันซย่าซย่าด้วยความประหลาดใจ
อันซย่าซย่าจ้องตรงไปยังโทรทัศน์ในร้าน ในนั้นกำลังออกอากาศข่าวดังข่าวหนึ่งอย่างต่อเนื่อง
[วงสตาร์รี่ไนต์ซึ่งเป็นวงไอดอลระดับประเทศประกาศพักงาน สมาชิกบินเดี่ยว หัวหน้าวงเซิ่งอี่เจ๋อถอนตัวออกจากวงอย่างน่าสงสัย]