ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล - ตอนที่ 443 ที่แท้เป็นแผนของคุณ! / ตอนที่ 444 ลุยเดี่ยวจีบหนุ่ม (1)
- Home
- ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล
- ตอนที่ 443 ที่แท้เป็นแผนของคุณ! / ตอนที่ 444 ลุยเดี่ยวจีบหนุ่ม (1)
ตอนที่ 443 ที่แท้เป็นแผนของคุณ!
คำพูดเหล่านี้เหมือนมีเสียงฟ้าร้องผ่าบนเหนือศีรษะ
เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้ายังคงอยู่ในอาการสงบ สามารถเห็นใบหน้าแดงก่ำไปทั่วทั้งหน้าของตัวเองจากรูม่านตาดำของเขา
เพียงคำพูดไม่กี่คำ เธอก็สารภาพความจริงต่อหน้าเด็กหนุ่มคนนี้ไปเสียแล้ว!
เขายอมมาต่างประเทศกับเธอเพื่อให้เธอตายใจ เขาเดาได้แม่นเหมือนเทพ เดาจนรู้ว่าเธอเป็นคนวางยาเขา เขาวินิจฉัยอย่างแม่นยำและพบว่าเธอซ่อนยาไว้ในเล็บ เขาไม่แสดงอาการพิรุจใดๆ จนทำให้เธอยอมรับว่าตัวเองเป็นคนวางยา
จะต้องมีใจสุขุมลุ่มลึกขั้นไหนถึงได้มาถึงจุดนี้?
มีกล้องวงจรปิดที่ไหนกันล่ะ เกรงว่าแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่มีมาตั้งแต่แรกแล้ว ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเขาโกหกเธอ
ซ่งชิงเฉินหัวเราะขึ้นมาอย่างร้ายกาจ “คุณบอกว่าฉันเปลี่ยนไป แล้วคุณไม่เปลี่ยนไปงั้นเหรอ? เซิ่งอี่เจ๋อ มันเป็นแผนของคุณ! แท้จริงแล้วมันเป็นแผนของคุณที่จะทำร้ายฉัน!”
เซิ่งอี่เจ๋อเหมือนได้ยินเรื่องตลกขบขัน เขาพูดเฉยเมย “หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง จะเทียบกับคุณหนูซ่งผู้มีจิตใจงดงามทั้งยังแผนสูงได้อย่างไร?”
“ทำไม…ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย คุณจะโกหกฉันก็ได้ แต่ใช้ชีวิตอยู่กับฉันที่นี่ด้วยกันได้ไหม?” ซ่งชิงเฉินดึงแขนเสื้อของเขาด้วยอารมณ์ขมขื่น
เซิ่งอี่เจ๋อมองเธอด้วยสายตาเรียบเฉย “คนที่จะอยู่ที่นี่มีแค่เธอคนเดียวเท่านั้น”
เมื่อพูดทุกอย่างเสร็จแล้ว เขาก็หันหลังจากไป
ซ่งชิงเฉินกัดฟันกรอดแล้ววิ่งขึ้นไปบนทางหลวง!
เนื่องจากรถที่ต่างประเทศขับเร็วมาก บวกกับซ่งชิงเฉินพุ่งตัวออกไปด้วยความเร็วจนทำให้รถออฟโรดเบรกไม่ทันและพุ่งเข้ามาจะชนเธออย่างจัง…
คนขับผมบลอนด์อ้าปากกว้างด้วยความตกใจ
ในช่วงอันตรายหัวเลี้ยวหัวต่อ ซ่งชิงเฉินก็รู้สึกได้ถึงแรงลูกใหญ่ดันตัวเธอไปข้างหลัง เธอกวาดตามองหน้าเซิ่งอี่เจ๋อโดยไม่กะพริบตา จากนั้นเขาก็ผลักเธอลงที่ข้างทาง
เซิ่งอี่เจ๋อหลบตัวไปข้างหลังด้วยความว่องไว แต่ก็ยังโดนถากที่ขา เขาคิ้วขมวดและพยายามยืนให้มั่น
“เธอบ้าไปแล้วหรือไง!” เซิ่งอี่เจ๋อพูดต่อว่า ซ่งชิงเฉินยิ้มเหมือนเด็กน้อย “ฉันรู้ว่าคุณต้องช่วยฉัน…”
คนขับรถพุ่งตัวลงมาและถามด้วยภาษาอังกฤษ เซิ่งอี่เจ๋อส่งสัญญาณว่าไม่เป็นอะไรพร้อมกับโบกมือให้อีกฝ่ายจากไป
“เธอกำลังคิดอะไรอยู่? ถึงกับเอาชีวิตตัวเองมาล้อเล่นเนี่ยนะ?” เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มเยาะ
ซ่งชิงเฉินเข้ามายื้อยุดเขาอย่างน่าเวทนา “อย่าจากฉันไปเลยนะ…ตอนนั้นเป็นเพราะฉันช่วยคุณ…พี่อาเจ๋อ คุณเห็นแก่ครั้งนั้นได้ไหม?”
เซิ่งอี่เจ๋อทำหน้านิ่ง “ชีวิตของเธอ ฉันก็เพิ่งคืนให้เมื่อกี้นี้แล้วไง ซ่งชิงเฉิน อย่าเอาเรื่องเมื่อก่อนมาขู่ฉันอีก ความรักต้องมาจากการยินยอมของทั้งสองฝ่าย ยิ่งเธอทำแบบนี้ก็ยิ่งทำให้ฉันเกลียดเธอมากขึ้น”
ในเวลานี้ใบหน้าของซ่งชิงเฉินเต็มไปด้วยน้ำตา
เธอใช้ไพ่ใบสุดท้ายไปหมดแล้ว แต่ยังไม่สามารถคว้าหัวใจเขากลับมาได้
เนื่องจากกระเป๋าของเธอถูกสะบัดออกไป ของที่อยู่ข้างในจึงกลิ้งออกมา ขวดยาสีขาวสองขวดกลิ้งมาที่ข้างเท้าของเซิ่งอี่เจ๋อ
–
บ้านตระกูลอัน ในประเทศ
อันซย่าซย่าพยายามติดต่อเซิ่งอี่เจ๋อเป็นเวลาหลายวันมาแล้ว แต่กลับไร้เสียงตอบรับ
ในใจขมุกขมัวเหมือนมีกรงเล็บนับร้อยข่วนหัวใจ เธอบีบสร้อยคอเส้นนั้นด้วยใจที่ยุ่งเหยิง
ติ๊งต่อง——
เป็นเสียงกริ่งหน้าประตู อันอี้เป่ยเดินเข้ามาโดยถือแล็ปท๊อปไว่ในมือ
“พี่คะ มีอะไรเหรอ?”
อันอี้เป่ยฮัมเสียงในลำคอ เขาวางแล็ปท๊อปไว้ตรงหน้าเธอ “ดูเอาเอง ไอ้บ้าเซิ่งอี่เจ๋อนั่นเป็นคนส่งมา”
เซิ่งอี่เจ๋อ? เขาส่งอะไรมา?
มีไฟล์เสียงปรากฏขึ้นบนเดสก์ท็อป อันซย่าซย่าสวมหูฟังและคลิกเปิด
ตอนที่ 444 ลุยเดี่ยวจีบหนุ่ม (1)
บทสนทนาของผู้ชายและผู้หญิงดังมาจากหูฟัง
“ถ้าเดาไม่ผิด นี่น่าจะเป็นยาที่ทำให้คนเกิดประสาทหลอนได้สินะ”
“ซ่งชิงเฉิน เธอโตแล้วและเธอก็ไม่ได้อยู่ในความทรงจำของฉันอีกต่อไป”
“ใช่แล้ว ฉันเป็นคนวางยาเอง ในเมื่อคุณมีหลักฐาน ทำไมไม่แฉฉันมาตั้งแต่แรกล่ะ?”
“……”
ไฟล์บันทึกเสียงบันทึกแค่ไม่กี่นาทีซึ่งเป็นบทสนทนาระหว่างเซิ่งอี่เจ๋อกับซ่งชิงเฉิน
หลังจากฟังจบ อันซย่าซย่าก็กำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว
เหมือนที่เธอได้ยินในห้องน้ำชายในวันนั้น! แท้ที่จริงแล้วซ่งชิงเฉินวางยาเซิ่งอี่เจ๋อ!
อันซย่าซย่าปิดไฟล์เสียง บนหน้าจอเดสก์ท็อปยังมีไฟล์รูปภาพอยู่หนึ่งรูป พอคลิกเปิดดูก็พบว่าเป็นแบบทดสอบส่วนประกอบของยาและยังมีขวดยาสองขวดอยู่ข้างๆ
ขวดหนึ่งเป็นยากล่อมประสาท ขวดหนึ่งเป็นยาสลบ…
หลักฐาน! เขาหาหลักฐานได้แล้วจริงๆ ด้วย!
อันซย่าซย่าลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอพุ่งตัวออกจากห้องวิ่งไปยังห้องของอันอี้เป่ย
อันอี้เป่ยกำลังพลิกหนังสืออย่างเกียจคร้าน อันซย่าซย่าลังเลเดินเข้าไปหาเขาพลางเรียกเบาๆ “พี่…”
“ดูหมดแล้วใช่ไหม?” อันอี้เป่ยถามอย่างเย็นชา
ฮึ ถือว่าเจ้าเด็กนั่นยังมีความพยายามในการหาหลักฐานมาได้ในเวลาอันรวดเร็ว!
“อืม…” อันซย่าซย่าคว้าชายเสื้ออย่างหวั่นใจ “ฉันติดต่อเขาไม่ได้…”
“แล้วยังไง?” เสียงแหบนั้นทั้งเฉียบแหลมและเย็นชา
อันซย่าซย่าสูดหายใจเข้าลึกๆ และรีบพูดให้จบ “ฉันอยากไปตามหาเขา!”
อันอี้เป่ยหรี่ตาลงเหมือนเสือชีต้าร์
เธอโตเป็นสาวแล้วสินะ
เขาหัวเราะเสียงเย็น “ตามหา? ตอนนี้เขาอยู่ต่างประเทศ เธอคิดว่ามันจะง่ายเหมือนตอนที่หนีออกจากบ้านเมื่อคราวที่แล้วงั้นเหรอ แค่เรียกรถแท็กซี่สักคันก็ถึงบ้านเขาแล้วเนี่ยนะ? จะไปตามหาเขาก็ต้องไปถึงต่างประเทศ!”
อันซย่าซย่าก้มหน้าโดยไม่ยอมเงยขึ้นเมื่อโดนเขาอบรมสั่งสอน เธอพูดเสียงเบา “ฉันอยากไป”
สามคำนี้ แม้จะพูดเสียงเบาแต่กลับเป็นการตัดสินใจที่แน่วแน่
อันอี้เป่ยกำหมัดพร้อมกับเบือนหน้าหนีไม่สบอารมณ์ “เรื่องของตัวเองก็ตัดสินใจเอาเอง เพราะถึงยังไงฉันก็ไม่ช่วยเธอหรอก”
ดวงตาอันซย่าซย่าสว่างวาบ เธอรู้นิสัยของอันอี้เป่ยดี อันที่จริงเขายอมตกลงแล้ว เธอจึงตอบเพียงแค่ “อืม” แล้ววิ่งกลับไปที่ห้องเพื่อเตรียมตัวไปต่างประเทศ
ภายในห้อง สายตาอันอี้เป่ยมองไปที่หนังสือกฎหมายเล่มหนา เขาอ่านมาตั้งนานแล้วแต่ก็ไม่เข้าหัวสักที
ความรักดูเหมือนจะทรงพลังเสียจริงๆ ในความทรงจำของเขา อันซย่าซย่ายังคงเป็นเด็กน้อยที่จะร้องไห้ได้ก็ต่อเมื่อโดนคนแย่งไอศกรีมเท่านั้น ไม่ทันได้ตั้งตัว เธอก็เปลี่ยนไปเป็นหญิงสาวที่ไล่ตามความรักด้วยหัวใจอันเด็ดเดี่ยว
เธอโตแล้ว เขาเองก็อายุมากแล้ว
เขายิ้มมุมอย่างไม่เต็มใจ ตกอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์
–
หลังจากไตร่ตรองเรื่องนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า อันซย่าซย่าก็โทรหาฉีเหยียนซี
มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถช่วยหาที่อยู่ของเซิ่งอี่เจ๋อได้
หลังจากฉีเหยียนซีได้ยินที่อันซย่าซย่าพูดด้วยความระมัดระวัง ภายในใจก็มีทั้งสุขและเศร้า
สุขเพราะเธอประสบปัญหา เธอนึกถึงเขาเป็นคนแรก
เศร้าเพราะครั้งแรกที่เธอขอร้องเขานั้นกลับเป็นเรื่องของผู้ชายคนอื่น
อันซย่าซย่ารอคำตอบจากเขาอย่างใจจดใจจ่อ ฉีเหยียนซีเงียบไปนานมากก่อนจะพูดออกมาว่า “เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เองเหรอ? ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเถอะ”
ก่อนจะพูดคำว่า “ขอบคุณ” เขาก็วางสายไป
สองชั่วโมงต่อมา อันซย่าซย่าก็ได้รับข้อความหนึ่ง เธอจับโทรศัพท์แน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
จองตั๋วเครื่องบินไว้แล้ว จัดกระเป๋าเดินทางและขอลากับไป่จื่อเย่ว์ จากนั้นอันซย่าซย่าก็นั่งเครื่องบินข้ามคืนเพื่อเดินทางไปยังประเทศM
ในเวลาเดียวกันท้องฟ้ายามเย็นซึ่งเป็นเวลาพระอาทิตย์ตกดิน เซิ่งอี่เจ๋อหยิบโทรศัพท์ที่เขาไม่มีความกล้าที่จะเปิดเครื่องมาโดยตลอดขึ้นมาพลางสูดหายใจ
อันซย่าซย่า…จะยกโทษให้เขาไหม?