ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล - ตอนที่ 9 เธอนี่มันหื่นจริงๆ! (2)
เธอเมินหลบตาด้วยความประหม่า ความทรงจำตอนที่เขาบุ้ยใบ้พูดกับเธอจากบนเวทีฉายวาบผ่านเข้ามาในใจ…
เขาคงจำเธอไม่ได้หรอกมั้ง…
จะเป็นไปได้เหรอ…ต้องเป็นความเพ้อฝันของเธอแน่ๆ !
อันซย่าซย่าพยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองลงและเดินมุ่งหน้าขึ้นบันไดต่อไปโดยไม่หันหลังกลับมามองอีก
“เซิ่งอี่เจ๋อ ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะมาปรากฎตัวขึ้นที่โรงเรียนเรา! โอ๊ย! ฉันตื่นเต้นแทบตายแน่ะ!” เจี้ยนซินเอ๋อร์พูดพล่ามต่อไปขณะที่เซิ่งอี่เจ๋อได้แต่ตอบรับด้วยคำว่า “อ้อ” อยู่เนืองๆ กระนั้นหล่อนก็ยังควบคุมความตื่นเต้นไว้แทบไม่อยู่
จนในที่สุดเมื่อทั้งหมดเดินขึ้นมาถึงชั้นสิบเอ็ด เจี้ยนซินเอ๋อร์ก็ตัดสินใจแน่วแน่พลางสูดลมหายใจลึกๆ ก่อนจะสารภาพ “เซิ่งอี่เจ๋อ ฉันได้แต่เฝ้ามองคุณในโทรทัศน์ ฉันชอบคุณจริงๆ! ไม่เคยคิดฝันเลยว่าจะได้เจอคุณ! แต่ตอนนี้พอได้เจอคุณตัวเป็นๆ แล้วต่อให้ตายก็ไม่เสียดายชีวิต!”
เซิ่งอี่เจ๋อพยักหน้าตอบอย่างสุภาพ “ขอบคุณที่รักและให้การสนับสนุนนะ”
เจี้ยนซินเอ๋อร์เป็นเหมือนสาวกผู้บ้าคลั่งไร้สติ พอหล่อนเห็นการตอบกลับแบบไร้อารมณ์ร่วมของเซิ่งอี่เจ๋อแบบนั้นก็รู้สึกร้อนรนที่จะพิสูจน์ความรู้สึกที่หล่อนมีต่อไอดอลในดวงใจ
หล่อนกัดริมฝีปากจากนั้นก็ทำในสิ่งที่ทำให้อันซย่าซย่าแทบช็อก—
เจี้ยนซินเอ๋อร์ขว้างไม้กวาดทิ้ง วิ่งไปที่ริมดาดฟ้าและปีนขึ้นไป
“เซิ่งอี่เจ๋อ! ฉันจะพิสูจน์ความรักที่มีต่อคุณด้วยชีวิต!” หล่อนตะโกนสุดเสียง
อันซย่าซย่ากลัวสุดขีด ตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออกทำอะไรไม่ถูกเลย
สวรรค์โปรด นี่แฟนคลับสุดคลั่งตัวยงเลยนี่นา
“เจี้ยนซินเอ๋อร์ใช่ไหม เธอรู้ตัวหรือเปล่าเนี่ยว่ากำลังทำอะไรอยู่ พอได้แล้ว” เซิ่งอี่เจ๋อพูดพลางขมวดคิ้ว แสดงให้เห็นว่าเขาจะไม่ขอทน
“ฉัน… ฉันชอบคุณมาก ถ้าคุณไม่รับรักฉัน ฉันจะกระโดดลงไปจากตรงนี้!”
“เหรอ? เชิญเลย แต่ถ้าเธอจะโดดจริงๆ ละก็… เธอแน่ใจนะว่าเธอจะไม่เสียใจทีหลัง”
เจี้ยนซินเอ๋อร์ดูมีท่าทีลังเล ไม่รู้จะทำอย่างไรดีขณะที่กระแสลมแรงพัดมาที่ดาดฟ้า
อันซย่าซย่ารู้สึกหัวใจแทบจะระเบิดตูม สวรรค์เถอะ จะไอดอลหรือไม่ แต่ไอ้การที่จะปล่อยให้ผู้หญิงสักคนโดดตึกเนี่ย มันใช่เรื่องที่ผู้ชายควรทำไหม
เธอจำได้แล้วว่าสื่อทุกแขนงต่างก็กล่าวขวัญกันว่าเซิ่งอี่เจ๋อน่ะเลือดเย็น ไร้ความรู้สึกและสำคัญตัวเอง เมื่อก่อนเธอเองก็เคยใช้เรื่องพวกนี้เปิดประเด็นทะเลาะกับพวกแฟนๆ ของเขา แต่อย่างไรก็เถอะ ตอนนี้เธอเริ่มจะเชื่อแล้วว่าคำร่ำลือพวกนั้นเป็นนิสัยที่แท้จริงของเซิ่งอี่เจ๋อ!
ฮึ หมอนี่เป็นคนร้ายกาจตัวพ่อเลย!
อันซย่าซย่าถือคติประจำใจว่าช่วยชีวิตคนคนหนึ่งได้บุญกว่าการสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น ดังนั้นเธอจึงก้าวออกไปพลางพูด “นี่เธอ อย่าไปจริงจังนักเลย! ชีวิตยังสวยงามเสมอถึงแม้ว่าไอ้หน้าหล่อนี่จะไม่รักเธอ แต่โลกภายนอกก็ยังมีผู้ชายหน้าตาดีอีกเยอะ!”
เจี้ยนซินเอ๋อร์ส่ายหน้าก่อนตะโกนตอบ “ฉันไม่ฟังเธอหรอก! ฉันจะไม่ฟัง!”
อันซย่าซย่าพยายามอีกครั้ง “ฟังฉันนะ ฉันกำลังพยายามจะบอกเธอว่ากระโปรงเธอน่ะ…”
“ฉันไม่ฟัง!”
อันซย่าซย่าพูดต่อไป “เธอรู้ไหมว่าวันนี้ลมมันแรง…”
“ฉันไม่อยากฟัง!”
หญิงสาวไม่รู้จะทำอย่างไรกับหล่อนดี จึงได้แต่ยักไหล่แล้วบอก “ก็ได้ ฉันแค่อยากจะบอกเธอให้รู้ว่ากระโปรงเธอเปิด!”
เจี้ยนซินเอ๋อร์ชะงักไปราวสองวินาที จากนั้นอยู่ๆ ก็กรีดร้องเสียงแหลมและรีบปัดกระโปรงลง
“เธอนี่หื่นจริงๆ!” เจี้ยนซินเอ๋อร์ตะโกนว่าสุดเสียง
อันซย่าซย่ารู้สึกผิดนิดๆ ก่อนแย้ง “ฉันเป็นผู้หญิง จะหื่นได้ยังไงกัน ถ้าเธอจะตะโกนด่าใครละก็ ด่าเซิ่งอี่เจ๋อสิ เขาก็น่าจะเห็นเหมือนกัน…”
เซิ่งอี่เจ๋อกระแอมพลางหันไปมองทางอื่น
อย่างไรก็ตามสำหรับเจี้ยนซินเอ๋อร์ การกระแอมของเขาฟังดูเหมือนเสียงหัวเราะเยาะ หล่อนกระทืบเท้าอย่างเกรี้ยวกราดก่อนจะชี้มาที่อันซย่าซย่า “เธอ… เธอ… เธอ… ฉันจำเธอได้แล้ว เธอมันยัยงั่งที่ปีนกำแพงเมื่อเช้านี่เอง!”