ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 687 ในแววตาของเขา จะไม่ได้เห็นความอบอุ่นอีกต่อไปแล้ว
ทันใดคุณนายมัลล่าก็ไม่กล้าพูดอะไรให้มากความ “ตึก”เสียงคุกเข่าลงที่หน้าประตู
“คุณพ่อ คือ……ลูกสาวของธนากรมา เธอบอกว่าอยากพบ……น้องชายของเธอ แต่ว่าสองวันมานี้ไม่มีใครมาส่งข่าวขึ้นมาบนเขา พวกเราก็ไม่กล้ารบกวน จึงให้เธอพักอยู่ที่โรงแรมในเมือง แต่คิดไม่ถึงว่า หญิงสาวผู้นี้เมื่อคืนจะเกิดเรื่องขึ้น หลังจากนั้นก็ถูกข่มขู่ให้ลูกม็อกโกเอาอาชญากรคนหนึ่งที่พึ่งจะจับได้ไปช่วยชีวิต แบบนี้จะทำอย่างไรดี”
ผู้หญิงคนนี้ก็ฉลาดไม่น้อย เดิมทีเป็นเรื่องที่ม็อกโกเป็นคนตัดสินใจทำเอง แต่เมื่อหลังจากคำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากของเธออย่างมีวาทศิลป์ กลับกลายเป็นพวกเขานั้นมีเมตตาต่อแสงดาวไป
ไชยันต์ได้ฟังแล้ว ปรากฏว่าเดิมทีกำลังปรุงยาอยู่ ทันใดนั้นเสียงดัง“ตึง”วางลงแล้ว!
“ใครให้พวกคุณให้เธออยู่ต่อ?”
“ไม่……ไม่ใช่อย่างนั้น คุณพ่อ พวกเราก็แค่เห็นว่าเธอเป็นพี่สาวของแสนรักไม่ใช่เหรอ เธอมาตั้งไกล พวกเราก็คงไม่อยากจะไล่เธอไป ถ้าแสนรักตื่นขึ้นมาแล้ว รู้เรื่องนี้เข้า แล้วกล่าวโทษคุณลุงกับคุณป้าของเขาจะทำยังไงล่ะคะ”
คุณนายมัลล่าที่อยู่ด้านนอกพูดออกมาอย่างน้อยใจ
สิ่งสิ่งนี้ เป็นเรื่องจริง
เพราะว่าตอนนั้นที่ม็อกโกให้แสงดาวไปพักที่โรงแรม สามีของเธอเพื่อไม่ให้เธอไปทำเรื่องโง่เง่า จึงวิเคราะห์ให้เธอฟังแล้ว
เขาเตือนสติเธอ ถ้าตาแก่คนนี้ช่วยชีวิตแสนรักเอาไว้ อีกทั้งรักษาอยู่ที่นี่ตั้งสามเดือน งั้นก็แสดงว่า เขายอมรับหลานชายคนนี้แล้ว รอให้เขาตื่นมา ก็คงจะประกาศออกมาให้เขากลับคืนสู่ครอบครัวบรรพบุรุษของตัวเอง
ดังนั้น หลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้ไปรบกวนเธอ
กลับได้ฟัง หลังจากได้ฟังคำพูดเหล่านี้ของเธอจนจบ ในบ้านนั้นก็นานมากที่ไม่ส่งเสียงใดออกมา
นี่หมายความว่าอย่างไร?
ทันใด คุณนายมัลล่าก็เริ่มหวาดกลัวขึ้นมา……
“ตาสิน——”
“ครับ คุณท่าน”
“มานี่ซิ เอาของที่อยู่ในถ้วยนี้ป้อนให้กับไอ้คนนั้น ผมจะออกไปข้างนอกสักหน่อย”
ไชยันต์ที่อยู่ในห้องจ้องมองไปยังคนที่นอนอยู่บนเตียงที่ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย หลังจากนั้นก็นำยาน้ำสีดำยื่นไปให้กับตาสินพ่อบ้านเก่าแก่ที่เป็นคนเดียวที่อยู่ในห้องนี้อย่างเดือดดาล
ทันใดตาสินก็รีบเดินเข้ามาอย่างยิ้มแย้ม:“ครับคุณท่าน คุณไปเถอะ ที่นี่มีผมอยู่”
หลังจากนั้นเขาก็เดินไปตามประตูและทิศทางที่คุ้นเคยพยุงคนที่อยู่บนเตียงขึ้นมา
เริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนบนยอดเขาภูตา แสงแดดจ้าเหมือนกับทรายสีทองที่สาดลงมา สาดส่องลงมาตามช่องหน้าต่าง ร่วงหล่นลงบนร่างกายของชายหนุ่มคนนี้ที่ยังไม่ฟื้นขึ้นมา ราวกับว่าเป็นงานศิลปะชิ้นเอกที่ไม่มีชีวิต
แต่ว่า ทั้งทั้งที่หัวใจของเขาก็เต้นเป็นปกติ ความดันก็เป็นปกติ
“เฮ้อ คุณชายน้อย คุณรีบตื่นขึ้นมาเถอะ นี่ก็สามเดือนแล้ว ผมตาสินนี่เป็นครั้งแรกที่เห็นคุณท่านดูแลคนอื่นแบบนี้ เขาเป็นทหารสู้รบมาทั้งชีวิต เขาไม่เคยดูแลใครแบบนี้มาก่อนแสดงว่าเขารักคุณจริงๆ คุณชายน้อย คุณให้อภัยเขาสักครั้งหนึ่งเถอะนะ”
ตาสินป้อนยาให้ถ้วยไป แล้วก็พูดนั่นพูดนี่ไปด้วย
แต่ว่า ชายหนุ่มที่ถูกเขาพยุงอยู่นี้ กลับไม่มีปฏิกิริยาอะไร อีกทั้งยาที่ป้อนเข้าไป เขาก็ไม่ได้กลืนลงไป แต่ว่ายังอมอยู่ในปากอย่างนั้น
ตาสินได้เห็นแล้ว ก็เหนื่อยใจ
“คุณชายน้อย ทำไมคุณเป็นแบบนี้นะ คุณอย่าบังคับให้ผมต้องใช้เข็มเล่มนั้นทิ่มคุณอีกนะ”เขาข่มขู่ออกไปข้างๆหูของเขาหนึ่งประโยค
หลังจากนั้น น่าประหลาดใจเป็นอย่างมาก ยาที่อยู่ในปากของชายหนุ่ม หลังจากนั้นไม่นาน ก็ค่อยๆกลืนลงไป
ตาสินจึงดีใจขึ้นมาแล้ว เอาที่เหลือป้อนลงไป แล้วเขาจึงพยุงเขาให้นอนลงไปอีกครั้ง
“ใช่แล้ว คุณชายน้อย ได้ยินว่าพี่สาวคุณมา แล้วเกิดเรื่องอะไรบางอย่างขึ้น ตอนนี้ควรทำยังไงดี ไม่รู้ว่าคุณท่านจะช่วยชีวิตพี่สาวของคุณหรือเปล่า”
“……”
“เฮ้อ อย่าได้สนใจเลย รอฟังข่าวดีกว่า”
พ่อบ้านวัยชราที่พูดมากคนนี้ หลังจากนั้นก็พูดอะไรขึ้นมาอีก แล้วก็ถือถ้วยออกไป
แต่เมื่อเขาออกไป ในห้องนี้ ชายหนุ่มที่นอนอยู่ที่ถูกเขาพยุงขึ้นมาป้อนยา หลังจากนั้นนิ้วมือของเขาก็ขยับขึ้นมา ดวงตาทั้งสองข้างที่หลับไปสามเดือนเต็ม ในที่สุดก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา
เมื่อลืมตาขึ้นมา แววตาที่แสดงออกมา เหมือนกับใบมีดที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็น!
ในตอนที่ไชยันต์ลงมาจากบนเขา ก็สายไปเสียแล้ว
ม็อกโกช่วยคนออกมาได้ไม่สำเร็จ เขาไม่เพียงช่วยแสงดาวออกมาไม่ได้ อีกทั้งอาชญากรที่เขาพาไปด้วยคนนั้น ก็ถูกระเบิดระเบิดตายอยู่ที่นั่น
รวมทั้งลูกน้องที่เขาพาไปด้วยหลายคน ก็เสียชีวิตไปด้วย
ดังนั้น เมื่อไชยันต์มาถึง เขาได้ถูกผู้บัญชาการของเขากักตัวเอาไว้แล้ว
“ท่านจอมพล เรื่องเรื่องนี้ ผมก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว เบื้องบนต้องการคำอธิบาย อาชญากรตายแล้ว คนก็ช่วยชีวิตกลับมาไม่ได้ อีกทั้งเอาชีวิตเพื่อนร่วมงานไปทิ้งตั้งหลายคน ไม่ว่ายังไง ม็อกโกก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองทำ”
“ผมเข้าใจ”
ไชยันต์ได้ฟังการวิเคราะห์ออกมาแบบนี้ เขาก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงได้
แต่ว่าสุดท้ายแล้วคนเหล่านั้นก็ยังเห็นแก่เขา จึงประนีประนอมต่อม็อกโก ไม่ได้ปลดเขาออกจากการเป็นทหาร แต่ก็จะจดเอาไว้หนึ่งครั้ง แล้วให้เขาลดตำแหน่งลงหนึ่งขั้น
อีกทั้งในครึ่งปีนี้ ไม่อนุญาตให้รับผิดชอบภารกิจสำคัญ
คุณนายมัลล่าได้ฟังแล้ว ร้องไห้ออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ไม่ให้รับผิดชอบภารกิจ นั่นไม่ใช่เป็นการตัดหางปล่อยหรือไง? งั้นต่อไปจะก้าวหน้าได้อย่างไร? คนคนนี้ทำเกินไป แบบนี้ก็ยากที่จะได้เลื่อนตำแหน่งอีก
ตำแหน่งสูงยิ่งยากแล้ว
อีกทั้งคุณสมบัติของผู้รับช่วงต่อของตระกูลเทวเทพ ข้อแรกต้องได้รับตำแหน่งสำคัญในกองทัพ
คุณนายมัลล่าโกรธขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง รวมไปถึงแสงดาว เธอก็เกลียดชังไปด้วย อีกทั้งภายในใจของเธอก็มีความคิดชั่วร้ายขึ้นมา ถ้าผู้หญิงคนนี้ตายไป งั้นก็คงจะดีที่สุด