ยามดอกวสันต์ผลิบาน - ตอนที่ 527 ไร้ที่พึ่ง
อู๋เป่ าจางไม่ชอบโจวเสาจิ่นมาโดยตลอดตั้งแต่อดีตถึงจนถึงปัจจุบัน เรื่องที่ทําให้โจวเสา
จิ่นขุ่นเคืองใจนางย่อมกระตือรือร้นไม่อิดออด แต่ให้ระบายเรื่องน่าขายหน้าเช่นนี้ให้โจวเสาจิ่นฟัง
ตีนางให้ตายนางก็ไม่มีวันทํา
ได้ยินโจวเสาจิ่นกล่าวเช่นนั้น นํ้าตาของอู๋เป่าจางพลันหยุดลงในทันใด
“เจ้าแต่งเข้าตระกูลเฉิงมานานเท่าใดหรือ” นางปรายตามองโจวเสาจิ่น กล่าวด้วยท่าทาง
ดูถูกดูแคลนโจวเสาจิ่นว่า “ต่อให้ข้าบอกเจ้า เจ้าช่วยแก้ปัญหาให้ข้าได้หรือ”
ถ้าไม่จําเป็น โจวเสาจิ่นไม่อยากติดต่อกับอู๋เป่าจางมากนัก
เห็นอู๋เป่ าจางกร่างและหยิ่งทะนง นางก็ยิ่งไม่อยากสนใจอู๋เป่ าจาง จึงลุกขึ้นกล่าวเสียง
เรียบเฉยว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะให้คนส่งเจ้าไปพบพี่สะใภ้ใหญ่ที่ซอยซิ่งหลิน” จากนั้นไม่รอ
ให้อู๋เป่าจางได้กล่าวอะไร ก็สั่งการเสียงหนึ่งว่า “ส่งแขก” แล้วลุกขึ้นออกจากห้องโถงไป
“เจ้า!” อู๋เป่าจางโกรธจนหน้าแดงกํ่า
ไม่อยากระบายให้โจวเสาจิ่นฟังก็เรื่องหนึ่ง ถูกโจวเสาจิ่นไล่ออกมาก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
นางก้าวออกไปสองสามก้าวหมายจะต่อว่าโจวเสาจิ่นสักสองสามประโยค แต่เสียดายที่
นางยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็ถูกมามาที่ภายนอกยิ้มภายในไม่ยิ้มผู้หนึ่งมาขวางเอาไว้ กล่าวขึ้นว่า
“สะใภ้ใหญ่นั่ว ท่านเองก็ได้ยินคําของฮูหยินแล้ว ฮูหยินหยวนมิใช่คนที่พูดง่ายนัก ไม่แน่ว่าสุดท้าย
แล้วท่านอาจจะยังต้องมาขอร้องฮูหยินผู้เฒ่าของพวกข้าอีกก็เป็นได้ หากข้าเป็นท่าน จะไม่ทําให้
ฮูหยินของพวกข้าขุ่นเคือง มิเช่นนั้นเกรงว่าแม้แต่หน้าของฮูหยินผู้เฒ่าท่านก็จะไม่ได้พบอีก!”
อู๋เป่าจางจําได้ว่านี่คือซางมามาคนข้างกายของโจวเสาจิ่น4895
นางโกรธจนกัดฟันกรอด อยากจะตอกกลับป้ารับใช้ผู้นี้สักสองสามประโยค ทว่าเห็นข้า
รับใช้ที่ปรนนิบัติอยู่ในห้องโถงต่างหันมามองนางด้วยสายตาดูแคลน และนางก็พาสาวใช้มาด้วย
เพียงคนเดียว สาวใช้ผู้นี้ยังถูกสาวใช้ของตระกูลเฉิงพาออกไปตามระเบียบแล้ว
เล็บของอู๋เป่ าจางจิกลงไปจนถึงเนื้อข้างใน ถึงได้อดกลั้นความโกรธนี้เอาไว้ได้ รีบก้าว
ออกไปจากประตูเฉาหยาง มุ่งหน้าไปที่ซอยซิ่งหลิน
โจวเสาจิ่นกลับมาถึงลานทิงเซียง
ฮูหยินผู้เฒ่ากัวยื่นนิ้วมือของตนไปที่ข้างมือของอวิ้นเกอเอ๋อร์หลอกล่อให้อวิ้นเกอเอ๋อร์จับ
นิ้วของนางไปด้วย พลางกล่าวไปด้วยว่า “ภรรยาของนั่วเกอเอ๋อร์มาทําไมหรือ”
“นางไม่บอกเจ้าค่ะ” โจวเสาจิ่นนั่งลงข้างเตียงเตา อวิ้นเกอเอ๋อร์ถีบขาขณะไปคว้านิ้วของ
แม่สามี นางกล่าวยิ้มๆ ว่า “อาจเป็นเพราะข้าอายุยังน้อย บางเรื่องไม่อาจพูดกับข้าได้ จึงไปที่ซอย
ซิ่งหลินแล้วเจ้าค่ะ”
ฮูหยินผู้เฒ่ากัวพยักหน้า ไม่กล่าวถึงเรื่องนี้อีก
หยวนซื่อฟังถ้อยคําของอู๋เป่าจางแล้ว ตะลึงงันไปครู่ใหญ่ถึงได้สติคืนกลับมา ถามอู๋เป่า
จางเพื่อความแน่ใจว่า “เจ้าบอกว่านั่วเกอเอ๋อร์เลี้ยงสตรีผู้หนึ่งไว้ข้างนอก นอกจากนี้ยังซื้อบ้าน
หลังหนึ่งที่อยู่ซอยข้างๆ ให้สตรีผู้นั้นด้วย…นี่ นี่เป็นไปไม่ได้กระมัง ปีนี้นั่วเกอเอ๋อร์เพิ่งจะอายุ
เท่าไรเอง”
ปัญหาคือ ที่นางเข้าใจมานั้น เฉิงเวิ่นไม่มีเงินในมือมากมายพอจะให้อนุข้างนอกผู้นั้นใช้
จ่ายสักเท่าไร แล้วเฉิงนั่วจะมีเงินในมือไปซื้อบ้านให้อนุข้างนอกได้อย่างไร แม้แต่บ้านที่พวกเฉิง
เวิ่นอาศัยอยู่ตอนนี้ ยังยืมเงินส่วนหนึ่งของเฉิงฉือไปซื้อมาเลย
หยวนซื่อสงสัยเป็นอย่างยิ่ง4896
อู๋เป่ าจางเห็นแล้วก็ร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง “ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ ท่านไม่รู้อะไร ตั้งแต่เข้าฤดู
ใบไม้ผลิของปีนี้เป็นต้นมาเขาก็ทําการค้าสําเร็จไปหลายครั้ง ทําเงินได้หลายพันเหลี่ยงแล้วเจ้าค่ะ
…”
เฉิงนั่วมีสตรีอะไรนั้น นางไม่สนใจเลยสักนิด แต่เฉิงนั่วเลี้ยงสตรีผู้นั้นไว้ข้างนอกโดยไม่
บอกกล่าวนาง ยังเอาเงินไปให้สตรีผู้นั้นใช้อีก นางแต่งเข้าตระกูลเฉิงมานานหลายปีขนาดนี้
นอกจากเงินกองกลางแล้ว เฉิงนั่วยังไม่เคยให้เงินนางเป็นการส่วนตัวเลยแม้แต่แดงเดียว นางจึง
ไม่อาจอดทนอดกลั้นต่อไปได้แล้ว
เวลานี้อู๋เป่าจางพลันเข้าใจฮูหยินใหญ่เวิ่นบ้างเล็กน้อยแล้ว
เหตุใดถึงเอาของที่นางควรจะได้เสวยสุขไปให้อนุราคาถูกข้างนอกผู้นั้นใช้ด้วย
แค่ฟังหยวนซื่อก็รู้สึกไม่ดีเล็กน้อยแล้ว
นางเกลียดเรื่องเลี้ยงอนุไว้ข้างนอกเหล่านี้เป็นที่สุด
เฉิงเวิ่นเป็นเช่นนี้ คิดไม่ถึงว่าเฉิงนั่วอายุน้อยขนาดนี้ก็จะเลียนแบบอย่างตามไปด้วย!
นางรีบกล่าว “เรื่องนี้เจ้าอย่าเพิ่งรีบร้อน ข้าจะสอบถามพ่อสามีของเจ้าดูก่อน เนื่องจากนี่
เป็นเรื่องภายในครอบครัวของพวกเจ้า ข้ายุ่งมากไปก็ไม่ดี รอฟังพ่อสามีของเจ้าว่าจะพูดอย่างไร
บ้างก่อนจะดีกว่า!”
“รอฟังพ่อสามีของข้าหรือเจ้าคะ!” อู๋เป่ าจางใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดนํ้าตาไม่หยุด กล่าวว่า
“เดิมทีแล้วบุตรชายไม่กล่าวโทษบิดา แต่ท่านมิใช่คนอื่นไกล พ่อสามีของข้าผู้นั้นทําอะไรบ้างท่าน
รู้ดียิ่งกว่าข้า รอฟังพ่อสามีของข้า เขาจะกล่าวอะไรได้เจ้าคะ ไม่อย่างนั้นข้าจะบากหน้ามาหาท่าน
ป้าสะใภ้ใหญ่ได้อย่างไร…”4897
หยวนซื่อรู้สึกว่าเรื่องนี้อู๋เป่าจางเองก็จัดการได้ไม่เลวนัก นางถึงถามอู๋เป่าจางว่า “สตรีผู้
นั้นเจ้ารู้รายละเอียดของนางหรือไม่”
“ทราบเจ้าค่ะ” เพราะอู๋เป่ าจางรู้ถึงได้รู้สึกกรุ่นโกรธ กล่าวว่า “สตรีผู้นั้นแซ่คัง เนื่องจาก
เป็นคนลําดับที่หกของครอบครัว ทุกคนล้วนเรียกขานนางว่าแม่นางคังที่หก เป็นบุตรสาวของ
ครอบครัวพ่อค้าครอบครัวหนึ่งที่ฮุยเซี่ยน บิดามารดาเสียชีวิตไปตั้งแต่ยังเล็ก เติบโตมากับย่า
ตระกูลของพวกเขามีร้านขายผ้าอยู่ที่ประตูซีจื๋อหลายร้าน อยู่ติดกับร้านขายใบชาของพวกข้า
เป็นกิจการของท่านลุงใหญ่ของนาง ให้พี่ชายรองที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของนางเป็นคนดูแล ปีที่แล้ว
พี่สะใภ้รองของนางคลอดบุตรชาย จึงให้นางมาดูแลช่วงอยู่เดือน ไปๆ มาๆ ก็เกี่ยวสามีไปไว้ในมือ
หลอกล่อให้สามีซื้อบ้านที่อยู่ไม่ไกลจากซอยบ้านของพวกข้าให้นางหลังหนึ่ง แม้นจะเป็นบ้านที่มี
เพียงหนึ่งทางเข้า ทว่าก็ใช้เงินไปเกือบหนึ่งพันเหลี่ยง…”
ประโยคสั้นๆ เพียงไม่กี่ประโยค อู๋เป่ าจางก็เอ่ยถึงเรื่องที่เฉิงนั่วซื้อบ้านให้สตรีแซ่คังผู้นั้น
ไปถึงสองครั้งแล้ว
เกรงว่ามิใช่เสียใจที่เฉิงนั่วไปหาคนรักคนใหม่ แต่เสียดายที่เงินในกระเป๋ าตัวเองไปตกอยู่
ในกระเป๋ าของผู้อื่นมากกว่ากระมัง
นี่มันฮูหยินใหญ่เวิ่นอีกผู้หนึ่งแล้ว
หยวนซื่อวิพากษ์อยู่ในใจ ทว่ามิได้แสดงออกมาทางสีหน้า กล่าวเสียงอบอุ่นว่า “เรื่องนี้
หากพ่อสามีของเจ้าช่วยออกหน้าให้ได้จะดีที่สุด เนื่องจากข้าเป็นพี่สะใภ้ บางคําพูดก็ไม่อาจพูด
กับพ่อสามีของเจ้าได้ ข้าว่ามิสู้เจ้ากลับไปก่อน ทําใจให้สงบ อย่าโหวกเหวกโวยวาย รอให้ข้า
ปรึกษากับท่านลุงใหญ่ของเจ้าก่อนแล้วค่อยตัดสินใจอีกทีว่าจะทําอย่างไรก็แล้วกัน”
อู๋เป่าจางจําต้องพยักหน้าด้วยนํ้าตา กลับไปที่ประตูซีจื๋อ4898
ภายในบ้านเงียบเชียบ พ่อสามีไปร้านขายใบชา เฉิงนั่วไปโรงนํ้าชา
สาวใช้ใหญ่คนสนิทของนางยืนรอนางอยู่หน้าประตูชั้นในอย่างใจจดใจจ่อ
เห็นเกี้ยวของนางจอดที่หน้าประตูชั้นใน ก็รีบเดินออกมาในทันที
อู๋เป่าจางหันไปส่งสายตาให้นางอย่าตื่นตระหนกครั้งหนึ่ง ทั้งสองคนเดินเรียงหน้าคนหนึ่ง
หลังคนหนึ่งเข้าไปในห้องชั้นใน อู๋เป่าจางสั่งให้สาวใช้ผู้นั้นปรนนิบัตินางเปลี่ยนอาภรณ์ เข้าไปใน
ห้องนอน เห็นข้ารับใช้ล้วนอยู่ด้านนอกกันทั้งหมด ถึงได้กระซิบกล่าวเสียงเบาว่า “เป็นอย่างไรบ้าง
มีจดหมายมาจากเมืองจินหลิงทางด้านโน้นหรือไม่”
พิธีสรงสามของอวิ้นเกอเอ๋อร์ในวันนั้น เฉิงนั่วอ้างเรื่องการค้าไม่ไปร่วมงาน อู๋เป่าจางดีใจ
เป็นอย่างยิ่ง อยากจะให้รางวัลเขาสักหน่อย ถึงได้ค้นพบว่าเขาอยู่ที่บ้านของแม่นางคังที่หกผู้นั้น
ช่วยหาคนมาซ่อมกําแพงอุ่นให้แม่นางคังที่หก
นางถึงได้ค้นพบเรื่องของเฉิงนั่วและแม่นางคังที่หก
นางไม่อยากอยู่กับเฉิงนั่วมาตั้งนานแล้ว
แต่เรื่องที่นางไม่อยากได้แล้วเป็นเรื่องหนึ่ง เรื่องที่ถูกคนละโมบอยากได้กลับเป็นอีกเรื่อง
หนึ่ง
นางรีบไปคุยกับพ่อสามีในทันที ยังเสนอออกมาว่าหลายปีขนาดนี้แล้วตนไม่อาจให้
กําเนิดบุตรชายหญิงให้ตระกูลเฉิงได้ ยินดีรับแม่นางคังที่หกเข้าบ้าน ต่อไปเรียกขานกันและกันว่า
พี่สาวน้องสาว
เฉิงเวิ่นประหลาดใจเป็นอย่างมาก
เขาไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน รีบไล่ให้บ่าวชายไปเรียกตัวเฉิงนั่วกลับมาสอบถาม4899
ผลปรากฏว่าไม่ว่าอย่างไรเฉิงนั่วก็ไม่ยอมรับว่ามีความสัมพันธ์ลับกับแม่นางคังที่หก ยัง
บอกว่าที่ได้รู้จักแม่นางคังที่หกนั้นเป็นเพราะหลายวันก่อนอู๋เป่ าจางไปยืมเงินที่ร้านขายผ้าของ
ตระกูลคัง ตระกูลคังมาหาเขาเพื่อให้คืนเงิน เขากล่าวขอโทษขอโพยตระกูลคังไม่หยุด ตระกูลคัง
ทราบว่าเขามีชีวิตที่ยากลําบาก จึงช่วยเป็นคนกลาง แนะนําสหายเก่าแก่ที่ทําการค้าขายใบชา
ของตระกูลคังให้เขารู้จัก เขาถึงได้ติดตามทําการค้าขายใบชาด้วยสองสามครั้ง…
พอพ่อสามีได้ยินว่าการค้าขายใบชาที่ทําเงินได้สองสามครั้งนั้นเป็นตระกูลคังที่แนะนําให้
ก็เปลี่ยนความคิดทันที ไม่เพียงต่อว่านางว่าขี้ระแวงสงสัยมากเกินเหตุในทุกคําพูดเท่านั้น ยัง
ต้องการให้เฉิงนั่วเชิญคนของตระกูลคังมากินข้าวที่บ้านและแนะนําคนของตระกูลคังให้เขารู้จัก
ด้วย ดูว่ามีการค้าอะไรอย่างอื่นที่พอจะแนะนําให้เขาทําได้บ้างหรือไม่ ยังกล่าวด้วยว่าเขามาทํา
การค้าแล้วถึงได้รู้ว่า เล่ห์เหลี่ยมกลโกงในนี้ช่างมหาศาลนัก หากไร้ซึ่งคนนําทางก็เหมือนกับคน
ตาบอดคลําช้าง ไม่รู้ว่าเมื่อไรถึงจะได้เข้าไปในเส้นทางนี้ได้
เฉิงนั่วไอ้สารเลวผู้นั้นได้ยินแล้วก็ดีใจจนกระโดดตัวลอย รีบไปที่ตระกูลคัง จัดแจงให้คน
ของตระกูลคังและเฉิงเวิ่นได้พบหน้ากัน ยังเตรียมจะหอบเงินตามคนของตระกูลคังเดินทางไปที่
แว่นแคว้นตะวันตกสักครั้งหนึ่งด้วย…
ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องของเฉิงนั่วและแม่นางคังที่หกเลยแม้แต่นิดเดียว
สุดท้ายนางส่งเทียบเชิญไปให้แม่นางคังที่หก แม่นางคังที่หกไม่เพียงไม่มา ยังเอาเทียบ
เชิญตรงไปให้เฉิงนั่ว เฉิงนั่วเอาเทียบเชิญที่นางส่งไปให้แม่นางคังที่หกมาทะเลาะกับนางไปครั้ง
ใหญ่ จวบจนวันนี้ก็ยังไม่กลับมา
นางเขียนจดหมายไปให้พี่ชาย อยากให้พี่ชายขอให้บิดาช่วยออกหน้าเป็นคนจัดการให้
นาง…4900
อู๋เป่ าจางคํานวณเวลาแล้ว ภายในสองวันนี้จดหมายจากเมืองจินหลิงทางด้านโน้นก็
น่าจะมาถึงแล้ว จึงให้สาวใช้คนสนิทไปที่จุดพักม้าทุกวันเพื่อดูว่ามีจดหมายตอบกลับมาของนาง
บ้างหรือไม่ เพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องที่ว่าจดหมายไปตกอยู่ในมือของเฉิงนั่วหรือไม่ก็เฉิงเวิ่น ส่วนนางไป
หาฮูหยินผู้เฒ่ากัว อยากขอให้ฮูหยินผู้เฒ่ากัวช่วยออกหน้าห้ามปรามเฉิงเวิ่นสักหน่อย
คิดไม่ถึงว่าจะไม่ได้พบฮูหยินผู้เฒ่ากัว แต่กลับได้พบคนที่นางเกลียดที่สุดอย่างโจวเสา
จิ่น
นึกถึงตรงนี้อู๋เป่าจางก็รู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อย
สาวใช้ผู้นั้นคิดว่าอู๋เป่าจางเป็นกังวลใจว่าจดหมายจากจินหลิงจะถูกส่งไปถึงมือของเฉิง
เวิ่น ได้ยินเช่นนั้นแล้วก็พยักหน้าไม่หยุด หยิบจดหมายออกมาจากอกเสื้อสองฉบับ
เหตุใดถึงมีจดหมายสองฉบับ
อู๋เป่าจางรับจดหมายมาด้วยความประหลาดใจ
ดูจากลายมือแล้ว ฉบับหนึ่งพี่ชายของนางเป็นคนเขียน อีกฉบับหนึ่งอู๋ซิ่วเป็นคนเขียน
นางครุ่นคิด เปิดจดหมายของพี่ชายก่อนเป็นลําดับแรก
พี่ชายอารัมภบทด้วยการเอ่ยถึงบุตรชายที่แม่เลี้ยงคลอดออกมาผู้นั้น กล่าวว่าปีนี้อายุ
สามขวบแล้ว หาอาจารย์มาสอนตั้งแต่เด็ก แค่สอนก็เป็นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์หรือว่าบิดา
ล้วนพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง บิดาถึงกับกล่าวว่า ครอบครัวของพวกเขาทั้งหมดนี้หวังพึ่งพาบุตรชาย
ที่แม่เลี้ยงคลอดออกมาผู้นี้แล้ว จากนั้นบอกนางว่า เนื่องจากบิดาของพวกเขามีผลงานประจักษ์
ชัดที่เมืองจินหลิง อีกไม่นานก็จะได้รับการเลื่อนขั้นไปเป็นผู้ว่าการมณฑลที่ซานตง เป็นขุนนาง
ระดับสูงขั้นสามล่างแล้ว ในช่วงเวลาที่สําคัญนี้ ย่อมไม่อยากให้คนในครอบครัวสร้างเรื่องวุ่นวาย
อะไรขึ้นมา ให้นางอดทนทุกอย่างเอาไว้ ก็แค่มีคนรักอยู่ข้างนอกผู้หนึ่ง ให้นางลืมตาข้างหนึ่ง4901
หลับตาข้างหนึ่งก็ได้แล้ว มีบุรุษคนใดที่เดินทางอยู่ข้างนอกแล้วไม่ต้องการความสนุกชั่วครั้ง
ชั่วคราวบ้าง…
อู๋เป่าจางขยําจดหมายของพี่ชายเป็นก้อนแล้วโยนทิ้งลงไปในเตาไฟ
หากอนุที่อยู่ข้างนอกทุกคนเป็นเพียงความสนุกชั่วครั้งชั่วคราว เช่นนั้นพี่น้องต่างมารดา
ของเฉิงนั่วเหล่านั้นมาจากที่ใดกันเล่า
และเหตุใดฮูหยินใหญ่เวิ่นจะต้องบ้าคลั่งอยู่บ่อยๆ ด้วยเล่า
เพราะมีจดหมายของพี่ชายแล้ว อู๋เป่ าจางจึงไม่มีความคาดหวังอะไรกับจดหมายของ
บิดาอีก
ดังคาด จดหมายของบิดาไม่เพียงไม่ปลอบโยน ยังด่าทอนางไปคํารบใหญ่ กล่าวว่านาง
ไม่คลอดบุตรชายหญิงให้ตระกูลเฉิง ตระกูลเฉิงไม่ส่งนางกลับบ้านเดิมก็นับว่าอดทนและใจกว้าง
มากแล้ว นางยังคิดจะหย่ากับเฉิงนั่วอีก จะหย่าก็ได้ ยกสินสอดให้ตระกูลเฉิง ส่วนนางกลับไปทํา
ไร่ไถนาเลี้ยงชีพตนเองที่เหมยโจวบ้านเดิมเสีย ไม่เพียงเท่านี้ บิดายังให้นางให้เฉิงนั่วรับอนุ ให้
กําเนิดบุตรชายเร็วสักหน่อย มาเป็นทายาทสืบสกุล…
อู๋เป่าจางอ่านไม่จบก็โยนจดหมายทิ้งไว้ข้างๆ แล้ว
คนที่บ้านเดิมพึ่งพาอะไรไม่ได้เลย
เดิมทีนางก็กระจ่างแจ้งแก่ใจดีอยู่แล้ว แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้นก็ยังคงอดคาดหวังไม่ได้ว่าพวก
เขาจะเป็นที่พึ่งให้ตนได้…
อู๋เป่าจางนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงเตาตัวใหญ่ข้างหน้าต่าง นํ้าตารินไหลลงมาอย่างห้ามไม่
อยู่4902
นางจะทําอย่างไรดี