ยามดอกวสันต์ผลิบาน - ตอนที่ 540 กําหนดสวรรค์
โจวเสาจิ่นและเฉิงฉืออดมองหน้ากันอย่างช่วยไม่ได้ รีบสาวเท้าออกไปทําความเคารพ
สีหน้าของเฉิงเซ่าดูเคร่งเครียดเล็กน้อย หันไปพยักหน้าให้โจวเสาจิ่น กล่าวกับเฉิงฉือว่า
“เจ้าตามข้ามา ข้ามีเรื่องอยากคุยกับเจ้า”
โจวเสาจิ่นเข้าไปในห้อง
เฉิงเซ่าจึงยืนอยู่ใต้ต้นทับทิมภายในลานบ้านเอ่ยถามเฉิงฉือว่า “ระยะนี้เจ้าได้ติดต่อกับ
คนของตําหนักองค์ชายเจ็ดหรือไม่”
เฉิงฉือไม่คิดปิดบัง พยักหน้ารับ
เฉิงเซ่ากล่าว “สองวันก่อนมีจดหมายด่วนมาจากจื้อก้ง แรงงานทหารเกณฑ์ก่อจลาจล
คนตายไปเป็นจํานวนมาก องค์ฮ่องเต้ทรงพิโรธ มีขุนนางเขียนรายงานบอกว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ
องค์ชายเจ็ด เจ้าจัดการเรื่องของตัวเองให้ดี อย่าให้ถูกดึงเข้าไปข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้”
เฉิงฉือเลิกคิ้วขึ้น “บ่อเกลือหรือ? องค์ชายเจ็ดหักผลกําไรจากในนั้นหรือขอรับ”
“น่าจะเป็นเช่นนั้น” เฉิงเซ่ากล่าว “ภาษีแคว้นไม่อาจน้อยลง เช่นนั้นก็มีแต่จะเรียกเก็บ
มากขึ้น เป็นธรรมดาที่จะทําให้ประชาชนไม่พอใจ” จากนั้นเตือนเขาว่า “เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่อง
ใหญ่หรือเรื่องเล็กก็ได้ แต่ข้าดูพระประสงค์ขององค์ฮ่องเต้แล้ว ทรงต้องการใช้เหตุการณ์นี้เป็น
ข้ออ้างจัดระเบียบผู้ปกครองใหม่ เจ้าอย่ากระโดดเข้าไปในปากกระบอกปืนเชียว”
เฉิงฉือพลันนึกถึงเรื่องในชาติก่อนที่โจวเสาจิ่นกล่าวเอาไว้ขึ้นมา กล่าวยิ้มๆ ว่า “ท่านอา
รอง ผู้อื่นล้วนบอกว่าท่านสันโดษไม่แสวงหาชื่อเสียง แต่ข้าว่าท่านไม่แยแสมากกว่ากระมัง”
เฉิงเซ่ากลับกล่าวว่า “เจ้าต้องการพูดอะไรกันแน่”5010
เฉิงฉือกล่าวยิ้มๆ ว่า “ข้าเพียงรู้สึกว่าบางครั้งบางเรื่องทั้งๆ ที่เป็นเรื่องที่ท่านพูดเพียง
ประโยคเดียวก็ทําให้ปวงประชาได้ประโยชน์แล้ว ทว่าท่านกลับเอาแต่นิ่งเงียบ หากบอกว่าเพราะ
อยากเป็นที่พอพระทัยขององค์ฮ่องเต้ ก็ดูเหมือนจะมิใช่ทั้งหมด…”
เฉิงเซ่ากล่าว “นํ้าใสมากเกินไปไร้ซึ่งมัจฉา บางเรื่อง เจ้าไม่ทําก็มีผู้อื่นทํา แต่ขอเพียงไม่
ทําลายฐานรากที่สําคัญของประเทศชาติ ข้าก็อดทนอดกลั้นได้”
เฉิงฉือกล่าว “เช่นนั้นอะไรคือฐานรากที่สําคัญของประเทศชาติหรือขอรับ”
เฉิงเซ่ากล่าว “ประชาชนยากจนข้นแค้น”
เฉิงฉือกล่าวยิ้มๆ ว่า “ถ้าผู้ปกครองโง่เขลานับหรือไม่” เขากล่าว นํ้าเสียงหยุดไปครู่หนึ่ง
กล่าวอีกว่า “บางทีอาจต้องพูดว่า ถ้าผู้ปกครองไร้คุณธรรมเล่า”
ในแววตาของเฉิงเซ่ามีสายตาเฉียบคมสายหนึ่งวาบผ่าน กล่าวขึ้นว่า “นี่ก็ไม่มีอะไร
เกี่ยวกับเจ้า? เจ้าอย่าลืมว่า ตอนนี้เจ้าเป็นบุตรหลานของตระกูลเฉิง ไม่ระมัดระวังครั้งหนึ่ง ก็ทํา
ให้ทั้งตระกูลล่มสลายได้ อยู่ข้างนอกเจ้าจะพลิกฟ้าฟื้นแผ่นดินอย่างไรข้าก็ไม่สนใจ ทว่าไม่อาจนํา
หายนะมาสู่วงศ์ตระกูลได้ นอกจากพี่น้องของเจ้าแล้ว วงศ์ตระกูลยังมีเด็กๆ ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร
อยู่ด้วยอีก”
เฉิงฉือกล่าวยิ้มๆ ว่า “ท่านวางใจเถิด ข้าเองก็มีภรรยาและบุตรชายต้องดูแล ข้าเพียงรู้สึก
แปลกใจเล็กน้อยเท่านั้น คิดว่าถ้าผู้ปกครองไร้คุณธรรม เกรงว่าท่านคงไม่ใจเย็นและสงบนิ่งขนาด
นี้หรอกกระมัง”
เฉิงเซ่าไม่ปฏิเสธ กล่าวว่า “บางครั้งการกระทําโดยไม่ตั้งใจของคนตําแหน่งสูงกลับทําให้
เกิดความวุ่นวายที่ไม่ควรเกิดจํานวนมากได้ ดังนั้นผู้ปกครองไร้คุณธรรมมักจะเป็นรากแห่งความ
ยากจนข้นแค้นของประชาชน”5011
“ข้าทราบแล้วขอรับ!” เฉิงฉือกล่าวเรียบๆ สีหน้าดูผิดหวังอย่างปิดไม่มิด
บางทีอาจเป็นเขาที่ไม่คิดจะปิดบัง
เฉิงเซ่ารู้ความสามารถของหลานชายผู้นี้ดี มองแล้วอดใจกระตุกไม่ได้ เอ่ยขึ้นอย่างเป็น
ห่วงว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า”
เฉิงฉือลังเลเล็กน้อย
เฉิงเซ่าจึงยืนรอคําตอบของเขาอยู่ตรงนั้นเงียบๆ
เฉิงฉือคิดไม่ถึงว่าเฉิงเซ่าจะรอคอยคําตอบนี้อย่างไม่ยอมปล่อยไป กล่าวอย่างไร้
ทางเลือกเล็กน้อยว่า “ข้าค้นพบว่าองค์รัชทายาททรงประชวรเป็นโรคทางใจ ทว่าองค์ชายสี่กลับ
ทรงทราบเรื่องนี้”
เฉิงเซ่ายิ่งสับสนมึนงง กล่าวขึ้นว่า “นี่เกี่ยวอะไรกับองค์ชายเจ็ด?”
เฉิงฉือประหลาดใจเล็กน้อย กล่าวว่า “ท่านรู้ว่าองค์รัชทายาททรงประชวร? เหตุใดก่อน
หน้านี้ไม่เคยได้ยินท่านพูดถึงมาก่อนเลยเล่า”
“นี่มิใช่เรื่องน่ายินดีอะไร” เฉิงเซ่ากล่าว “องค์ฮ่องเต้มิได้ตรัสอย่างชัดเจน ทว่าทุกคําพูด
กลับมีสัญญาณบอกใบ้อยู่ เจ้าอยากเข้าไปข้องเกี่ยวกับตําแหน่งผู้สืบทอดหรือ ข้าคิดว่าเจ้ารีบ
ร้อนเกินไปหน่อย องค์ฮ่องเต้กําลังอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ อย่างน้อยที่สุดภายในสิบปีนี้จะยังคงอยู่ใน
ตําแหน่งอย่างปลอดภัย แทนที่เจ้าจะเป็นกังวลใจว่าหลังจากนี้ผู้ใดจะเป็นคนสืบทอดราชบัลลังก์
ข้าว่าไม่สู้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวดีกว่า ขอเพียงเจ้ามีความสามารถเป็นที่ประจักษ์ ไม่
ว่าผู้ใดเป็นฮ่องเต้ ย่อมต้องใช้งานเจ้า เหตุใดเจ้าต้องไปเสี่ยงอันตรายด้วย อีกอย่าง เบื้องบนเจ้า
ยังมีเจ้าใหญ่ หากพูดถึงเรื่องต้องเลือกข้าง เกรงว่าเขาต้องเป็นกังวลมากกว่าเจ้าเสียอีก ได้ดํารง5012
ตําแหน่งของเขาตําแหน่งนั้น อีกทั้งเป็นสมาชิกเลขาธิการผู้หนึ่ง ครั้นตําแหน่งรัชทายาทมีการ
เปลี่ยนแปลง เขาต้องเลือกข้างอย่างช่วยไม่ได้”
ความนึกคิดของเฉิงฉือกลับถูกครอบครองด้วยเรื่องที่เฉิงเซ่ารู้เรื่องอาการประชวรขององค์
รัชทายาทไปสิ้นแล้ว จึงไม่ได้ครุ่นคิดถึงปัญหาการเลือกข้างสักเท่าไรนัก เขาพึงพํากล่าวว่า
“นอกจากท่าน ท่านทราบหรือไม่ว่ายังมีผู้ใดที่รู้เรื่องอาการประชวรขององค์รัชทายาทอีก? ตามกฎ
แล้ว องค์รัชทายาทประชวรเป็นโรคเช่นนี้ ไม่อาจสืบทอดราชบัลลังก์ได้…”
เฉิงเซ่าบอกเขาเป็นนัยว่า “แต่องค์รัชทายาททรงมีพระโอรสที่ดีพระองค์หนึ่ง”
ซึ่งก็หมายความว่า องค์ฮ่องเต้ไม่ได้ทรงคาดหวังให้องค์รัชทายาทสืบทอดราชบัลลังก์อยู่
แล้ว
เช่นนี้ก็สอดคล้องกับหลักการใช้ทรัพยากรคนของจักรพรรดิดี
ผืนฟ้าไม่มีอาทิตย์สองดวง
ตามที่เสาจิ่นกล่าวมา องค์ฮ่องเต้ทรงมีพระชนมายุอีกเกือบสิบปีจริงๆ ถึงเวลานั้นองค์รัช
ทายาทพระชนมายุล่วงเลยสี่สิบพรรษาแล้ว ส่วนพระราชนัดดาองค์โตทรงกําลังเป็นวัยรุ่นพอดี
อาการประชวรขององค์รัชทายาทนี้อย่างมากก็น่าจะลากออกไปได้สักสองสามปี องค์รัชทายาทก็
จะได้สืบทอดราชบัลลังก์อย่างราบรื่น เพราะฉะนั้น หากองค์รัชทายาททรงเสด็จสวรรคต พระราช
นัดดาองค์โตก็จะได้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อพอดี ก็จะหลีกเลี่ยงความเคลือบแคลงสงสัยระหว่าง
บิดาและบุตรได้แล้ว
แต่ความเป็นจริงคือองค์รัชทายาทเสด็จสวรรคตเพราะความเจ็บป่ วยไปก่อนองค์ฮ่องเต้
และที่ทําให้ทุกคนคาดการณ์ไม่ถึงที่สุดก็คือ พระราชนัดดาองค์โตก็เสด็จสวรรคตเพราะความ
เจ็บป่วยไปก่อนองค์ฮ่องเต้ด้วยเช่นกัน5013
เฉิงฉือกล่าวยิ้มๆ ว่า “ท่านเป็นคนที่รู้จักองค์ฮ่องเต้ดีที่สุด ถ้าหากองค์รัชทายาทและพระ
ราชนัดดาองค์โตล้วนเสด็จสวรรคตก่อนองค์ฮ่องเต้ทั้งสิ้น องค์ฮ่องเต้จะทรงเลือกผู้ใดเป็นรัช
ทายาทต่อหรือขอรับ”
เฉิงเซ่าหนังตากระตุก กล่าวว่า “นี่เจ้าหมายความว่าอะไร”
เฉิงฉือกล่าว “พรุ่งนี้เป็นวันหยุด หากท่านไม่มา เกรงว่าข้าก็จะไปหาท่านอยู่ดี พรรคเจ็ด
ดารานั้น ข้าอยากให้จบลงขณะที่อยู่ในมือข้า แต่คนของพรรคเจ็ดดาราเหล่านั้นไม่ว่าทําอย่างไรก็
เป็นปัญหาใหญ่ปัญหาหนึ่ง เดิมทีข้าอยากหาวิธีจัดการคนที่ชั่วช้าที่สุดเหล่านั้นไป บางส่วนที่ไม่
อยากออกจากยุทธภพก็ปล่อยพวกเขาไป ส่วนพวกที่ล้างมือให้สะอาดแล้วจะหาตําแหน่งที่
เหมาะสมในกองทัพให้พวกเขา คนที่ไม่อยากไปกองทัพก็จะจัดให้ไปเป็นพลลาดตระเวนของที่ว่า
การแต่ละแห่ง แต่ถ้าหากยอมไปเป็นพลลาดตระเวนก็จะต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนไป ถึงแม้ข้า
จะจัดการเรื่องเอกสารทําให้ประวัติของพวกเขาดูไม่มีปัญหาได้ แต่คนโดยมากในหมู่บ้านหรือ
เมืองเดียวกันล้วนรู้ว่าพวกเขาทําอะไรมาบ้าง…”
องค์ชายเจ็ดดูแลค่ายหุบเขาตะวันตก
เฉิงเซ่าถอนหายใจอย่างโล่งอกไปครั้งหนึ่ง กล่าวว่า “เรื่องนี้ไม่จําเป็นต้องไปขอร้ององค์
ชายเจ็ด เจ้าเอาใบรายชื่อมาให้ข้า ข้าจะจัดการเอง”
เฉิงฉือกล่าวยิ้มๆ ว่า “เช่นนั้นดีเลยขอรับ อีกสองปีรอให้ข้าได้จํานวนคนที่แน่นอนแล้ว
ท่านค่อยๆ สั่งการลงไป” จากนั้นถามถึงเรื่องตําแหน่งผู้สืบทอดบัลลังก์ขึ้นมาอีกครั้ง “พระ
พลานามัยขององค์รัชทายาทนั้นไม่ต้องพูดถึงแล้ว การที่พระราชนัดดาองค์โตได้เป็นผู้สืบทอด
ข้ามหน้าข้ามตาพระปิตุลาหลายพระองค์ ข้าไม่เห็นโอกาสชนะเลยขอรับ”
เฉิงเซ่ากลับไม่อยากให้เฉิงฉือพูดเรื่องนี้มาก5014
เฉิงฉือกล่าว “มิใช่ว่าข้าอยากยุ่งเรื่องของผู้อื่น และที่ผ่านมาหลายปีพี่ใหญ่เอาแต่เดิน
ตามหลังตระกูลหยวน แต่เรื่องที่พี่ใหญ่ได้เข้าสู่สํานักราชเลขาธิการ หยวนเหวยชางกลับแอบไป
สร้างข้อตกลงลับๆ กับเซินหมิ่นจือ ความจริงนี่เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ยืนอยู่ในมุมของหยวนเหวย
ชาง เขาก็มีแผนและการจัดเตรียมของเขา แต่หยวนเหวยชางกลับไม่เผยข่าวออกมาให้บ้างเลย
แม้แต่นิดเดียว ข้าเพียงกลัวว่าเมื่อถึงเวลาที่พี่ใหญ่ต้องเลือกข้าง พี่ใหญ่จะถูกหยวนเหวยชางผู้นั้น
ขุดหลุมฝังได้”
แม้นเฉิงเซ่าจะสงวนความเห็นที่มีต่อความสามารถของเฉิงจิง ได้ยินแล้วยังกล่าวว่า
“ตอนนั้นเจ้าถูกท่านอารองเลือก อีกทั้งยังเด็กมากเกินไป ส่วนพี่รองของเจ้าซื่อสัตย์จริงใจเกินไป
แต่ไหวพริบกลับไม่เพียงพอ ในขณะที่พี่ใหญ่ของเจ้าดีกว่าเล็กน้อย อีกทั้งยังยินดีช่วยเหลือวงศ์
ตระกูล…”
นี่มิใช่ว่าเลือกคนที่สูงที่สุดจากบรรดาคนเตี้ยหรอกหรือ
เฉิงฉือเชิดหน้าขึ้น พลางกล่าว “เหตุใดท่านถึงไม่ขึ้นไปเองเล่า”
“ข้าสันโดษเกินไป ไม่อาจไปอยู่กับร่วมกับแสงหรือคลุกคลีกับฝุ่ นได้” เฉิงเซ่ากล่าวหนัก
แน่น “นอกจากนี้ข้ารู้สึกว่าตําแหน่งปัจจุบันของข้าตําแหน่งนี้ดีที่สุดแล้ว ยามมีเรื่องหรือไม่มีเรื่องก็
ได้โผล่หน้าไปอยู่ต่อหน้าพระพักตร์องค์ฮ่องเต้ อีกทั้งอยู่ห่างจากหกกรมสามสํานัก ทําให้องค์
ฮ่องเต้ทรงวางพระทัย และยังได้กล่าวตักเตือนพวกเจ้า หลีกเลี่ยงไม่ให้ยํ่าเท้าลงไปในโคลนตม
แล้วออกมาไม่ได้”
นี่ก็ใช่
มีคนอย่างเฉิงเซ่า หน้าที่การงานของคนตระกูลเฉิงทั้งหมดจึงเหมือนเสือติดปีก5015
“ส่วนเรื่องเลือกข้าง” เฉิงเซ่าคิดแล้วคิดอีก กล่าวว่า “ข้ากลับคิดว่า เจ้าควรจะไปคุยกับต้า
หลุน เขาอยู่สํานักราชครู เจ้าจะได้ไปมาหาสู่กับองค์ชายสี่ได้ องค์ชายสี่โตมากับการพํานักอยู่ที่
ตําหนักคุนหนิง มีความสัมพันธ์กับองค์รัชทายาทเกินปกติธรรมดา ถ้าหากพระราชนัดดาองค์โต
ไม่ได้สืบทอดราชบัลลังก์ องค์ชายสี่มีความเป็นไปได้มากที่สุด หากสุดท้ายแล้วพระราชนัดดาองค์
โตได้สืบทอดราชบัลลังก์ ตําแหน่งอ๋องสูงส่งตําแหน่งหนึ่งก็หนีไม่พ้นองค์ชายสี่อยู่แล้ว”
เฉิงฉือได้ยินแล้ว ดวงตาดําขลับดุจนํ้ามันเคลือบดําพลันเปลี่ยนเป็นลึกลํ้ามากยิ่งขึ้น
เขากล่าว “ท่านคิดว่าองค์ชายสี่มีโอกาส?”
เฉิงเซ่ามองเฉิงฉืออย่างมีนัยแฝงลํ้าลึกครั้งหนึ่ง กล่าวว่า “เจ้าเองก็คิดว่าเขามีโอกาสมิใช่
หรือ ไม่อย่างนั้นตอนพิธีครบรอบร้อยวันของอวิ้นเกอเอ๋อร์เขาจะส่งของขวัญมาให้ทําไม”
เฉิงฉือถึงได้ใจเต้นอย่างรุนแรงขึ้นมา
เขาพรูลมหายใจยาวออกมาหลายครั้ง กว่าครู่ใหญ่อารมณ์ถึงได้กลับมาสงบอีกครั้ง
เฉิงเซ่ากลับรู้สึกว่าวันนี้ทั้งสองคนคุยกันลึกเกินไปแล้ว จึงกล่าวขึ้นว่า “ด้านพี่ใหญ่ของ
เจ้าเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะกล่าวเตือนเขาเอง” จากนั้นเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “เลี่ยวเส้าถังกลับไป
สอบที่บ้านเกิด ก่อนเดินทางข้าให้แนวข้อสอบความเรียงเขาไปหลายม้วน ไม่รู้ว่าเขาสอบเป็น
อย่างไร”
เฉิงฉือได้รู้ในสิ่งที่ตนอยากรู้แล้ว จึงไม่กลับไปยึดติดกับหัวข้อสนทนาเรื่องผู้สืบทอด
บัลลังก์อีก กล่าวยิ้มๆ ว่า “ก่อนไปเขาได้มากล่าวอําลาข้า ข้าเองก็กําชับเขาไปหลายประโยคแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายก็ต้องแจ้งข่าวพวกเราด้วยสักครั้งหนึ่ง”
เฉิงเซ่ากล่าว “ความเรียงและพื้นฐานของเขาไม่เลวเลยทีเดียว ตระกูลเลี่ยวเองก็มิใช่คน
ธรรมดาทั่วไป คาดว่าคงมีการเตรียมตัวอยู่บ้างกระมัง”5016
เฉิงฉือกล่าว “ถ้าครั้งนี้เขาสอบผ่าน ข้าจะแนะนําให้เขาลงสนามสอบพร้อมกับเจียซ่านปี
หน้า หนึ่งคนเป็นการสอบ สองคนก็เป็นการสอบเหมือนกัน มีท่านช่วยแนะนํา ย่อมดีกว่าบิน
สะเปะสะปะเหมือนแมลงวันหัวเขียวไร้หัว”
เฉิงเซ่าหัวเราะออกมา กล่าวว่า “ต่อให้เป็นเพราะเห็นแก่หน้าเจ้า หากเขาลงสนามครั้ง
ต่อไป ข้าก็ยังต้องให้คําแนะนําเขาเหมือนเดิม เจ้าช่างกะเกณฑ์คนเก่งนัก!”
ขณะที่ทั้งสองพูดคุยกัน ผ้าม่านของเรือนหลักก็ถูกเลิกขึ้น เฉินเซียงเดินออกมา รู้ว่าเฉิง
ฉือและเฉิงเซ่ากําลังคุยกันอยู่ จึงไม่ก้าวเข้ามา แต่ยืนกล่าวอยู่ใต้เฉลียงทางเดินไกลๆ ว่า “นาย
ท่านผู้เฒ่ารอง นายท่านสี่เจ้าคะ ฮูหยินผู้เฒ่าถามว่าพวกท่านคุยกันเสร็จหรือยัง หากคุยเสร็จแล้ว
ก็เข้ามาดื่มชาในเรือนเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวนางจะให้คนไปรับคุณชายน้อยอาเป่าและคุณชายน้อยอา
เหรินมาที่นี่ พรุ่งนี้ให้ทุกคนมากินข้าวด้วยกันเจ้าค่ะ”
“ดียิ่ง!” เฉิงเซ่ารู้ว่าตนอายุมากแล้ว ต่อไปยังต้องให้พวกเฉิงจิงช่วยดูแลอาเป่ากับอาเหริน
อีก ยิ่งพวกเขาไปมาหาสู่กันบ่อยๆ ความสัมพันธ์ก็ยิ่งดี ความรู้สึกก็ยิ่งลึกซึ้ง “ข้าดูแล้วพรุ่งนี้
อากาศน่าจะไม่เลวนัก มิสู้พวกเราไปพายเรือเล่นที่ทะเลสาบสือช่าดีหรือไม่”
หากไปพายเรือที่ทะเลสาบสือช่าในนามของฮูหยินผู้เฒ่ากัว โจวเสาจิ่นก็ต้องเป็นคน
จัดการเรื่องที่เกี่ยวข้องทุกอย่าง
เฉิงฉือกล่าว “ข้าว่าพายเรือเล่นในบ้านดีกว่าขอรับ แม่ภรรยาและน้องสาวน้องชายเล็กก็
อยู่ด้วย เด็กๆ เยอะเกินไป กลัวว่าไปทะเลสาบสือช่าแล้วจะดูแลไม่ไหว”
“ก็ดีเหมือนกัน” เฉิงเซ่ากล่าวยิ้มๆ “ข้าจะวาดอักษรภาพให้เด็กๆ”
อักษรภาพของเขาได้รับการขนานนามว่าเป็นเลิศ อีกทั้งได้รับการยกย่องเชิดชูจากองค์
ฮ่องเต้ จึงนับว่าเป็นอักษรภาพที่หาได้ยาก5017
เฉิงฉือกลับรําพึงกล่าวขึ้นว่า “เรียกกู้ต้าหลุนมาด้วยก็แล้วกัน”
เฉิงเซ่าปรบมือ กล่าวว่า “ไม่เลวๆ เรียกบุตรเขยหยวนและบุตรเขยเผิงมาด้วยเลยก็แล้ว
กัน”