ยามดอกวสันต์ผลิบาน - ตอนที่ 541 งานเลี้ยงครอบครัว
เรื่องนี้จึงตกลงกันตามนี้
ลูกหลานมาล้อมหน้าล้อมหลังได้ ฮูหยินผู้เฒ่ากัวย่อมดีใจอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมดา โจว
เสาจิ่นกลับยุ่งจนวิ่งวุ่นเท้าไม่ติดพื้น ต้องส่งเทียบเชิญ กําหนดรายการอาหาร ให้คนไปทําความ
สะอาดศาลาริมนํ้า เปิดห้องเก็บของไปหยิบชุดจานชามตะเกียบงาช้าง อีกทั้งเพราะจะไปพายเรือ
ข้างๆ ศาลาริมนํ้า จึงต้องโยกย้ายข้ารับใช้ที่ว่ายนํ้าเป็นเข้ามาปรนนิบัติรับใช้อีกด้วย
เฉิงฉือจึงแอบกล่าวกับโจวเสาจิ่นว่า “ข้าจะช่วยจัดการเทียบเชิญและกําหนดรายการ
อาหารให้เจ้าเอง” เรื่องอื่นๆ ล้วนต้องสั่งการป้าแม่บ้าน เขาไม่อาจทําแทนได้
“นั่นจะได้อย่างไรเจ้าคะ” โจวเสาจิ่นหน้าแดง “ก่อนนี้ข้าเคยดูท่านแม่ทํามาก่อน รู้ว่าต้อง
ทําอย่างไรเจ้าค่ะ”
“ข้ารู้ว่าเจ้าทําได้” เฉิงฉือลูบศีรษะโจวเสาจิ่นยิ้มๆ “เพียงแต่ว่าเรื่องนี้ตัดสินใจอย่าง
กะทันหันมากเกินไป เวลาจึงกระชั้นชิดไปเล็กน้อย” ขณะที่เขากล่าว จับพู่กันเขียนอักษรลงบน
กระดาษสองสามตัว เอ่ยขึ้นว่า “เจ้าลองดูอักษรที่ข้าเขียนนี้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง”
อ่อนช้อยดุจกิ่งหลิวระย้า สวยงามสง่า
โจวเสาจิ่นตกตะลึง
นี่มันตัวหนังสือของนางชัดๆ!
เฉิงฉือกล่าวยิ้มๆ ว่า “ทีนี้เชื่อแล้วกระมังว่าข้าช่วยเขียนเทียบเชิญให้เจ้าได้จริงๆ”
“ท่านน้าฉือ!” โจวเสาจิ่นกระโจนตัวเข้าสู่อ้อมกอดของเฉิงฉือ
เฉิงฉือจึงขบติ่งหูนางพลางกล่าวว่า “คิดถึงข้าแล้วใช่หรือไม่”5019
บางทีอาจจะเป็นเพราะในใจของโจวเสาจิ่นนั้น เฉิงฉือเป็นท่านน้าฉือคนที่ปกป้องนาง
ดูแลนาง เก็บนางไว้ในใจตลอดไปผู้นั้น บางครั้งนางจึงเผลอเรียกเฉิงฉือว่า ‘ท่านน้าฉือ’ เหมือน
เมื่อก่อนอย่างห้ามไม่อยู่ โดยเฉพาะเวลาที่นางกําลังตกอกตกใจยามอยู่บนเตียง จะพูดจาออด
อ้อนไม่เป็นศัพท์ง่ายเป็นพิเศษ
ดวงหน้าของโจวเสาจิ่นพลันแดงกํ่า ระเห็จหนีไปอย่างพ่ายแพ้
เฉิงฉือหัวเราะฮ่าดังลั่น ส่งเทียบเชิญที่ใช้ลายมือของโจวเสาจิ่นเขียนและกําหนดรายการ
อาหารให้นางเสร็จแล้ว จากนั้นไปหาฮูหยินผู้เฒ่ากัว
ฮูหยินผู้เฒ่ากัวกําลังหยอกล้อเล่นกับอวิ้นเกอเอ๋อร์อยู่ เห็นเฉิงฉือเข้ามา รีบกล่าวว่า “เจ้า
ดูๆ อวิ้นเกอเอ๋อร์ของพวกเราตั้งศีรษะได้แล้ว”
เฉิงฉือมองไปตามเสียง
อวิ้นเกอเอ๋อร์กําลังนอนควํ่าอยู่บนเสื่อผ้าลายดอกไม้บานหรูหราบนเตียงเตาตัวใหญ่ข้าง
หน้าต่าง ในมือฮูหยินผู้เฒ่ากัวถือกลองป๋ องแป๋ งไว้ชิ้นหนึ่งส่ายไปมาอยู่ตรงหน้าเขา เขาจึง
พยายามยกศีรษะขึ้นมาพลางใช้มือคว้าจับกลองป๋ องแป๋ ง
เฉิงฉือเพิ่งกลับมาตอนบุตรชายอายุได้สองเดือนกว่า เวลานั้นอวิ้นเกอเอ๋อร์ก็ถูกคน
ประคองไว้บนบ่าเดินไปทั่วทุกที่แล้ว เขาจึงมองไม่ออกว่านี่มีความแตกต่างอะไรด้วยหรือ
ฮูหยินผู้เฒ่ากัวจึงกล่าวอย่างเคืองๆ ว่า “เด็กครบร้อยวันแล้วถึงยกศีรษะขึ้นมาได้ แต่ก็
เป็นการฝืนถึงยกขึ้นมาได้ เจ้าดูอวิ้นเกอเอ๋อร์ของพวกเรา สองเดือนก็ยกศีรษะขึ้นมาได้ ครบร้อย
วันก็ตั้งศีรษะได้แล้ว ยังรู้จักคว้าจับกลองป๋ องแป๋ งอีก เด็กคนนี้ช่างเลี้ยงง่ายจริงๆ” จากนั้นนึก
ถึงโจวเสาจิ่นคนที่อุ้มท้องอวิ้นเกอเอ๋อร์มา ทอดถอนใจกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ข้ากลัวว่าเด็กที่นาง
คลอดออกมาจะเลี้ยงยากเหมือนลูกแมว ผู้ใดจะรู้ว่าแม้นนางจะเป็นคนร่างเล็ก ทว่าเด็กที่คลอด5020
ออกมากลับไม่เล็กเลยแม้แต่น้อย ยังแข็งแรงขนาดนี้อีกด้วย เห็นได้ชัดว่าตอนท้องอวิ้นเกอเออร์
นั้นลําบากมากเพียงใด ต่อไปเจ้าต้องดูแลนางให้ดีหน่อย”
“ได้ขอรับ!” เฉิงฉือขานรับคํายิ้มๆ ไม่พูดอะไรมาก รับกลองป๋ องแป๋ งจากมือฮูหยินผู้
เฒ่ากัวมาหยอกล้อเล่นกับอวิ้นเกอเอ๋อร์
ผู้ใดจะรู้ว่าอวิ้นเกอเอ๋อร์พยายามคว้าจับอยู่ครึ่งค่อนวันก็ยังคว้ากลองป๋ องแป๋ งไม่ได้
สุดท้ายโมโหก็เลยไม่ยกศีรษะขึ้นมาอีก และก็ไม่อยากได้กลองป๋ องแป๋ งแล้ว ใบหน้าเล็กๆ นอน
ควํ่าอยู่บนเสื่อผ้าใช้มือเล็กขาวนวลเนียนดึงดอกไม้สีแดงบนเสื่อผ้าขึ้นมา
เฉิงฉือหลอกล่อเขาอยู่ครึ่งค่อนวัน เขาก็ไม่สนใจ เริ่มแรกเขาคิดว่าเป็นเพราะอวิ้นเกอ
เอ๋อร์เหนื่อยแล้ว ต่อมาเห็นอวิ้นเกอเอ๋อร์นอนควํ่าอยู่ตรงนั้นเงียบๆ อย่างเชื่อฟัง อยากจะอุ้มอวิ้น
เกอเอ๋อร์ขึ้นมา จึงวางกลองป๋ องแป๋ งลง ถึงได้ค้นพบว่าอวิ้นเกอเอ๋อร์กําลังดึงดอกไม้เล่นอยู่
เขารู้สึกร้องไห้ไม่ออกหัวเราะไม่ได้เล็กน้อย อุ้มอวิ้นเกอเอ๋อร์ขึ้นมา ใช้ท่วงท่าที่ปกติอวิ้น
เกอเอ๋อร์ชื่นชอบมากที่สุดพาดตัวอวิ้นเกอเอ๋อร์ไว้บนบ่า ทว่าอวิ้นเกอเอ๋อร์กลับร้องไห้แงออกมา
เฉิงฉืองงงวย
ฮูหยินผู้เฒ่ากัวร้อนใจ ต่อว่าเฉิงฉือว่า “เจ้าทําอะไรเขา เมื่อครู่ยังดีๆ ยังเล่นอย่างมี
ความสุขอยู่เลย เจ้าทําอะไรกันแน่”
เฉิงฉือเหงื่อท่วมศีรษะแล้วจริงๆ
เขาโตมาขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ฮูหยินผู้เฒ่ากัวกล่าวโทษเขาโดยไม่ถามหาถูกผิดเช่นนี้
เฉิงฉือครุ่นคิด กล่าวขึ้นว่า “เขาคงโกรธที่ข้าอุ้มเขาขึ้นมากระมัง” จากนั้นเล่าเรื่องที่เมื่อ
ครู่อวิ้นเกอเอ๋อร์กําลังดึงดอกไม้เล่นให้ฮูหยินผู้เฒ่ากัวฟัง5021
เพียงแต่ว่าเขายังพูดไม่ทันจบ ฮูหยินผู้เฒ่ากัวก็อุ้มอวิ้นเกอเอ๋อร์ไปจากอกของเขา กล่าว
กับอวิ้นเกอเอ๋อร์อย่างเอาอกเอาใจว่า “ล้วนเป็นพ่อของเจ้าที่ไม่ดี อวิ้นเกอเอ๋อร์ของพวกเรากําลัง
เล่นอยู่ดีๆ เขากลับมาทําเสียเรื่อง พวกเราไม่สนใจเขาดีกว่า อวิ้นเกอเอ๋อร์ของพวกเราอยากดึง
ดอกไม้เล่นหรือ ไม่เป็นไรๆ ย่าจะให้อวิ้นเกอเอ๋อร์ของพวกเราไปดึงดอกไม้เล่น” ขณะที่กล่าว ก็วา
งอวิ้นเกอเอ๋อร์ลงบนเสื่อผ้าดังเดิม
อวิ้นเกอเอ๋อร์กลับไม่มีอารมณ์สนใจเหมือนเมื่อครู่แล้ว
วางลงบนเสื่อผ้าก็ยังร้องไห้
ฮูหยินผู้เฒ่ากัวจึงอุ้มอวิ้นเกอเอ๋อร์เดินไปเดินมา เดินไปด้วยกล่าวไปด้วยว่า “อวิ้นเกอ
เอ๋อร์ของพวกเราไม่ร้องน้า หากร้องไห้อีก ต้องร้องไห้จนดวงตาเสียเป็นแน่ อวิ้นเกอเอ๋อร์อยากทํา
อะไรหรือ อยากได้ดอกไม้ใช่หรือไม่” ขณะที่กล่าว ก็เปิดลิ้นชักของที่วางกระจกดู ไม่เจอของที่
เหมาะสม กวาดตามองข้ารับใช้ภายในห้องครั้งหนึ่ง ชี้เฉินเซียงพลางกล่าว “ไปหาดอกไม้ผ้าที่
พวกเจ้ายังไม่เคยใช้มาก่อนมาสักสองสามดอก”
เฉิงฉือพลันเข้าใจว่าฮูหยินผู้เฒ่ากัวต้องการทําอะไรขึ้นมา เรียก “ท่านแม่” เสียงหนึ่ง
อย่างอดไม่ได้ แต่ไม่รอให้เขาได้เอ่ยปากพูด ฮูหยินผู้เฒ่ากัวก็กล่าวขึ้นก่อนอย่างไม่สบอารมณ์ว่า
“ตอนพวกเจ้าเป็นเด็กคนไหนบ้างที่ไม่ใช่ข้าเลี้ยงมาจนโต บุตรชายสามคนจิ้นซื่อสามคน พวกเจ้า
มีใครโตมาแล้วบิดเบี้ยวบ้าง อีกอย่าง เขายังเด็ก ยังไม่รู้เรื่อง พวกเจ้าก็ต้องสอนจนกว่าเขาจะ
เข้าใจถึงจะถูก เอาแต่ทําหน้าเคร่งตําหนิเขา ทําให้เขาหวาดกลัวจนตัวสั่น ร้องไห้น่าสงสารเช่นนั้น
คือการสอนลูกหรือ”
ขณะที่กล่าว เฉินเซียงก็รีบออกมาจากห้องชั้นในอย่างรวดเร็วพร้อมกับถือดอกไม้ผ้าอัน
ใหม่ที่ยังไม่เคยใช้ออกมาด้วยสองสามดอก5022
ฮูหยินผู้เฒ่ากัวจึงเลือกดอกทับทิมสีแดงสดดอกหนึ่งแกว่งไกวไปมาอยู่ตรงหน้าอวิ้นเกอ
เอ๋อร์ “อวิ้นเกอเอ๋อร์ ดูสิ นี่คือดอกทับทิม สวยหรือไม่ อวิ้นเกอเอ๋อร์ของพวกเราเอาไปเก็บไว้ให้
ภรรยาในอนาคตใช้ดีหรือไม่”
อวิ้นเกอเอ๋อร์จึงเบิกดวงตากว้างมองดอกทับทิมในมือฮูหยินผู้เฒ่ากัว คล้ายกับต้องการ
มองให้ชัดว่าดอกไม้นี้คืออะไรกันแน่ กว่าครู่ใหญ่ถึงได้ยื่นมือออกมาจิ้มกลีบดอกไม้นั่น จากนั้นถึง
ได้ยื่นมือเล็กออกมาคว้าจับดอกไม้ไปไว้ในมือ
ฮูหยินผู้เฒ่ากัวหัวเราะฮ่า หยิบดอกกุหลาบเยว่จี้สีเหลืองห่านออกมาอีกดอกหนึ่ง
อวิ้นเกอเอ๋อร์ยื่นมืออีกข้างออกไปคว้าจับไว้ในอุ้งมือ
ฮูหยินผู้เฒ่ากัวมองแล้วรู้สึกสนุก หยิบดอกติงเซียงสีม่วงออกมาอีกดอกหนึ่ง
อวิ้นเกอเอ๋อร์มองมือเล็กของตัวเองครู่หนึ่ง กลับไม่สนใจ
“ไอ้โหยว!” ฮูหยินผู้เฒ่ากัวมองแล้วดีใจเป็นอย่างยิ่ง กล่าวกับเฉิงฉือว่า “เขายังรู้ด้วยว่า
ชอบดอกอะไร”
น่าจะเป็นเพราะขอเพียงเป็นของที่มีสีสดมากกว่ากระมัง
เฉิงฉือพึมพําอยู่ในใจ เห็นสีหน้ามีความสุขของมารดา สุดท้ายก็กลืนคําพูดที่มาถึงริม
ฝีปากนั้นลงไปอย่างชาญฉลาด ตัดสินใจไม่มีปัญหาปะทะกับมารดาเรื่องลูกดีกว่า นับตั้งแต่ที่เขา
ถูกเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคเจ็ดดาราเป็นต้นมา น้อยครั้งนักที่มารดาจะดีใจมีความสุขเช่นนี้
เดิมทีเขาตั้งใจมาช่วยเลี้ยงอวิ้นเกอเอ๋อร์ หากมารดาไม่มีอะไรให้ทําแล้วจะต้องถามถึง
เรื่องงานเลี้ยงวันพรุ่งนี้ จะได้ไปช่วยเสาจิ่นสักหน่อย ตอนนี้ดูทีแล้ว เขาไปดูสักหน่อยว่าเรื่องงาน
เลี้ยงเตรียมการไปถึงไหนแล้วดีกว่า!5023
เฉิงฉืออยู่พูดคุยเป็นเพื่อนฮูหยินผู้เฒ่ากัวสองสามประโยค ฮูหยินผู้เฒ่ากัวก็ไล่เฉิงฉือออก
ไป “เจ้าไปช่วยเสาจิ่นไป! คืนนี้อวิ้นเกอเอ๋อร์นอนกับข้า เขาอายุไม่น้อยแล้ว ไม่อาจเอาแต่อยู่กับ
มารดา เช่นนี้โตไปแล้วจะขี้ขลาดตาขาวได้…”
หนึ่งเค่อก่อนมารดายังบอกว่าอวิ้นเกอเอ๋อร์เด็กเกินไป หนึ่งเค่อต่อมาอวิ้นเกอเอ๋อร์ก็โต
แล้ว ต้องเรียนรู้จักการใช้ชีวิตห่างจากมารดาแล้ว
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เฉิงฉือไม่รู้ว่าควรจะกล่าวอะไรดี
รอลูกอายุครบสามขวบแล้วจะเอาลูกมาเลี้ยงดูอยู่ข้างกายกล่อมเกลาลูกด้วยตัวเอง ไม่
อาจให้อวิ้นเกอเอ๋อร์เติบโตขึ้นมาจากมือของสตรีได้!
เฉิงฉือตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง ไปหาโจวเสาจิ่นที่กําลังสั่งงานอยู่ตรงเฉลียงด้านหน้า
โจวเสาจิ่นสวมชุดเพ่ยจื่อผ้าไหมหังโจวสีชมพูลายข้าวหลามตัดคู่ ด้านล่างเป็นกระโปรง
จีบหม่าเมี่ยนสีเหลืองห่าน เส้นผมดกดําเกล้าเป็นมวยง่ายๆ มวยหนึ่ง ร้อยรัดด้วยดอกติงเชียง
แต้มขนนกกระเต็นสีฟ้าสองดอก ในวันที่อากาศค่อยๆ หนาวเย็นขึ้นทุกวันๆ อย่างฤดูใบไม้ร่วงนี้ดู
คล้ายดอกไม้อ่อนหวานงดงามในฤดูใบไม้ผลิ อีกทั้งดวงหน้าอบอุ่นอ่อนโยนยังแต่งแต้มความสงบ
ไว้หลายส่วน ไม่มีท่าทางของนายหญิงของบ้านเลยแม้แต่นิดเดียว กลับอบอุ่นอ่อนโยนจนทําให้
คนรู้สึกสนิทสนมใกล้ชิด บรรดาเหนียงจื่อและมามาทั้งหลายที่กลับมารายงานธุระต่างพูดคุยกับ
นางด้วยนํ้าเสียงและสีหน้าที่อ่อนโยนลงถึงสามส่วน
เฉิงฉือยิ้มน้อยๆ
ข้าวร้อยชนิดเลี้ยงคนออกมาร้อยรูปแบบ แม้นเสาจิ่นจะเปราะบาง ทว่าก็ไม่ได้ขี้ขลาด
อ่อนแอเสมอไป เพียงแต่ว่าการกระทําของแต่ละคนไม่เหมือนกันก็เท่านั้น
เขาออกจากเฉลียงด้านหน้าไปด้วยความชื่นใจ5024
โจวเสาจิ่นกลับมาดึกเล็กน้อย กระทั่งชําระร่างกายขึ้นเตียงแล้วก็ซุกตัวเข้าไปในอ้อมกอด
ของเฉิงฉือที่กําลังอ่านหนังสืออยู่ กอดเอวของเฉิงฉือเอาไว้เอาหน้าแนบกับหน้าอกของเขา ฟัง
เสียงหัวใจของเขาเต้น ตึกตึกตึก นางรู้สึกผ่อนคลายลงมาทั้งร่าง
“ซื่อหลาง” นางเรียกเฉิงฉืออย่างอ่อนโยน “หลังจากที่ข้าส่งเหนียงจื่อและป้าแม่บ้าน
ออกไปแล้ว ชุนหว่านบอกข้าว่าส่งเทียบเชิญออกไปแล้ว รายการอาหารก็จัดการเสร็จเรียบร้อย
แล้ว…ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะ! ข้ามีความสุขยิ่ง”
“จริงหรือ!” เฉิงฉือชอบที่นางแนบอยู่บนตัวของเขาอย่างอ่อนเปลี้ยประหนึ่งไร้กระดูก
เช่นนี้ยิ่งนัก เขาวางหนังสือในมือลง ด้านหนึ่งพูดคุยกับโจวเสาจิ่นอย่างใจลอยไปด้วย อีกด้าน
หนึ่งก็สางมวยผมของนาง ปล่อยผมของนางให้สยายไปด้วย “ฝีมือดูแลบ้านของข้าก็ไม่เลวนักใช่
หรือไม่”
โจวเสาจิ่นรู้ว่าเขาชอบให้ตนปล่อยผม เพียงแต่ว่าการปล่อยผมเช่นนี้ หนึ่งคือต้องสระผม
บ่อยๆ สองคือตื่นขึ้นมาตอนเช้าต้องเกล้าผมใหม่ทั้งหมด เสียเวลายิ่งนัก…แต่เฉิงฉือชอบ นางจึง
ปล่อยให้เป็นอย่างที่เขาชอบ กอดเขาไว้ปล่อยให้เขาสางผมของตน
“อืม!” นางกล่าวเสียงนุ่ม “ท่านช่างมีความสามารถ อะไรก็ทําเป็นหมด!”
เฉิงฉือหัวเราะเบาๆ ขบติ่งหูของโจวเสาจิ่น มือเคลื่อนไปตามส่วนโค้งเว้างดงามนั่นลงไป
ข้างล่าง…
โจวเสาจิ่นลังเลเล็กน้อย
พรุ่งนี้ที่บ้านมีแขก นางกลัวว่าตนจะลุกไม่ขึ้น…
เฉิงฉือจึงกระซิบที่ข้างหูนางว่า “คืนนี้ทําเพียงครั้งเดียวเท่านั้น”
โจวเสาจิ่นหน้าแดง พาดตัวอยู่ในอ้อมกอดของเขา5025
วันต่อมา เฉิงเซิงมาถึงเป็นคนแรก
หลังจากคารวะฮูหยินผู้เฒ่ากัวเสร็จแล้ว เผิงเจ่าสามีของเฉิงเซิงตามเฉิงฉือไปที่ห้องโถง
รุ่ยเกอเอ๋อร์รั้งอยู่ข้างกายฮูหยินผู้เฒ่ากัว ปีนขึ้นปีนลงอยู่บนเตียงเตา หยิบของเล่นของอวิ้นเกอ
เอ๋อร์ยื่นส่งให้อวิ้นเกอเอ๋อร์ที่แม่นมอุ้มนั่งอยู่บนเตียงเตาบ่อยๆ เล่นกันอย่างสนุกสนานยิ่งนัก
ฮูหยินผู้เฒ่ากัวมองแล้วยิ้มจนตาหยี
เฉิงเซิงกลับดึงตัวโจวเสาจิ่นไปข้างๆ กระซิบกล่าวว่า “เหตุใดเจ้าคลอดลูกแล้วแต่ยิ่งอยู่ก็
ยิ่งงดงาม ทว่าข้ากลับกลายเป็ นยายแก่หน้าเหี่ยวไปแล้ว มีเคล็ดลับอะไรรีบเอาออกมา
ไม่อย่างนั้นประเดี๋ยวพี่รองกับพี่ใหญ่มาถึงแล้วระวังพวกข้าจะประณามเจ้าพร้อมกัน!”
“ข้ายิ่งอยู่ยิ่งงดงามที่ไหนกัน?” โจวเสาจิ่นกล่าวอย่างขัดเขิน ครุ่นคิดทบทวนถึง
ชีวิตประจําวันอย่างละเอียด “ข้าดื่มรังนกถ้วยเล็กทุกวันนับหรือไม่”
“ผู้ใดไม่ดื่มรังนกบ้าง” เฉิงเซิงไม่ลดละ “นอกจากอันนี้ยังมีอะไรอีกบ้าง”
โจวเสาจิ่นส่ายศีรษะ กล่าวยิ้มๆ ว่า “นอกจากดื่มสิ่งนี้ข้าก็ไม่ได้กินอะไรอย่างอื่นแล้ว
เมื่อก่อนยังได้นอนเร็วตื่นเร็ว พอมีอวิ้นเกอเอ๋อร์แล้วก็ตามเขา เขานอนเวลาใดข้าก็นอนเวลานั้น
เขาตื่นเวลาใดข้าก็ตื่นเวลานั้น…”
เฉิงเซิงไม่เชื่อ
ขณะที่ทั้งสองคนกําลังพูดคุยกันอยู่นั้น คนจากซอยซิ่งหลินก็มาถึง