ยามดอกวสันต์ผลิบาน - ตอนที่ 581 ยืมแรง
คนพวกนี้มาทําไมกันนะ
โจวเสาจิ่นขมวดคิ้วมุ่นในทันที
แต่พวกเขามาหาเฉิงเก้า หากนางเข้าไปสอดแทรก เช่นนั้นเฉิงเก้าจะกลายเป็นอะไรเล่า
นางครุ่นคิดแล้วจึงกล่าวว่า “พวกเจ้าอยู่ข้างๆ จับตาดูสักหน่อย ถ้าหากสถานการณ์ไม่ดีก็ มาบอกข้า”
สาวใช้เด็กรับคําแล้วออกไป
เซี่ยซื่อเอ่ยถามอย่างสงสัยว่า “เป็นคนของจวนรองกับจวนสามหรือเจ้าคะ”
เรื่องที่ตระกูลเฉิงแยกตระกูลนั้นนางก็ได้ยินมาเหมือนกัน เพียงแต่ฟังมาเป็นทอดๆ เล็กน้อย ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จแต่อย่างใด
เนื่องจากเกี่ยวข้องกับโจวเสาจิ่น นางจึงกล่าวอย่างเป็นนัยว่า “หากเจ้าสนใจใคร่รู้ ก็ กลับไปถามพี่สะใภ้รองได้ สองคนนี้ข้าเคยกําชับบ่าวเฝ้าประตูเอาไว้ว่า ถ้าพวกเขามาต้องบอก ข้า”
หลีกเลี่ยงไม่ให้ก่อความวุ่นวายขึ้นอีก
บางทีอาจสืบเนื่องจากความทรงจําของชาติที่แล้ว นางมักจะคิดว่าเฉิงสือคนพวกนี้ชอบ แสวงหาผลประโยชน์ จะไม่มาหาเฉิงเก้าโดยไร้สาเหตุเป็นแน่ นางไม่ชอบเป็นมิตรกับคนประเภท นี้
เซี่ยซื่อพยักหน้าอย่างกระดากอายเล็กน้อย
สุดท้ายนี่เป็นเรื่องอดีต นางถามอย่างนี้ก็ดูไม่ค่อยดีนัก
5377
โจวเสาจิ่นเห็นแล้วหลุดหัวเราะพลางกล่าวว่า “มิใช่ว่าข้าไม่บอกเจ้า แต่เรื่องนี้ซับซ้อนยิ่ง ข้าก็ไม่รู้จะเล่าให้เจ้าฟังอย่างไรถึงจะดี ดังนั้นให้เจ้ากลับไปแล้วถามพี่สะใภ้รองดีกว่า”
เซี่ยซื่อจึงนึกถึงข่าวลือข้างนอก
ต่างลือกันว่าการแยกตระกูลของตระกูลเฉิงที่จินหลิงเกี่ยวข้องกับท่านป้าสะใภ้ใหญ่ หยวนซื่อ
เป็นไปได้หรือไม่ว่าด้วยเหตุนี้ ท่านอาสะใภ้เล็กจึงพูดอะไรไม่ได้
นางฉุกคิดได้ว่าต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังเป็นแน่ จึงไม่เหมาะสมหากจะซักถามโจวเสาจิ่ นอีก นางรีบคลี่ยิ้มพลางเปลี่ยนหัวข้อสนทนาขึ้นว่า “ไม่รู้ว่าท่านแม่กับท่านย่าคุยอะไรกันอยู่นะ เจ้าคะ พูดกันนานถึงเพียงนี้ก็ยังไม่ออกมา”
ในเทศกาลวันสรงนํ้าองค์พระโพธิสัตว์โจวเสาจิ่นไม่ได้ออกไปข้างนอก เซี่ยซื่อใกล้จะถึง กําหนดคลอดแล้ว ชิวซื่อกับเซื่ยซื่อจึงไม่ได้ออกไปที่ไหนเช่นกัน กลับเป็นหยวนซื่อที่มาหาครั้งหนึ่ง มาแสดงความยินดีกับโจวเสาจิ่นที่ตั้งครรภ์ นั่งที่ประตูเฉาหยางเพียงครู่เดียวก็อ้างว่ารู้สึกไม่ สบายแล้วกลับไป ครั้งนี้ชิวซื่อพาเซี่ยซื่อมาคารวะฮูหยินผู้เฒ่ากัว โจวเสาจิ่นกับเซี่ยซื่อสตรีมีครรภ์ สองคนนั่งอยู่ใต้ค้างดอกจื่อเถิงในลานเรือนขณะพูดคุยจิบนํ้ากินผลไม้และขนมขบเคี้ยว ส่วนชิ วซื่อกลับอยู่ในห้องของฮูหยินผู้เฒ่ากัวเป็นเวลานานไม่ออกมา
โจวเสาจิ่นคิดว่าชาส้มจี๊ดนํ้าผึ้งนี้สดชื่นเป็นอย่างมาก ตอบยิ้มๆ ว่า “คนหนึ่งเป็นแม่สามี เจ้า อีกคนเป็นแม่สามีข้า ต่างเป็นผู้ที่ปฏิบัติกับคนอื่นอย่างใจดีมีเมตตา ไม่ว่าพวกนางจะพูดอะไร พวกเราเพียงรับฟังก็พอแล้ว”
เซี่ยซื่อตะลึงงัน นัยน์ตาพลันมีประกายวาบผ่านสายหนึ่ง
หรือว่าเพราะอย่างนี้ ความสัมพันธ์ของอาสะใภ้เล็กกับท่านย่าจึงดีเป็นพิเศษกันนะ
5378
มิน่าทุกครั้งที่ตนกลับบ้านเดิมหรือมารดาจากบ้านเดิมมาเยี่ยมนางก็มักจะบอกให้นาง เรียนรู้จากอาสะใภ้เล็กให้ดี
นางระบายยิ้มอ่อนหวานพลางเอ่ยว่า “ท่านอาสะใภ้กล่าวได้ถูกต้องเจ้าค่ะ”
จากนั้นก็โยนเรื่องนี้ไปข้างหลัง ยิ้มพลางสนทนาเรื่องสัพเพเหระในบ้านกับโจวเสาจิ่น
สาวใช้เด็กที่มาแจ้งโจวเสาจิ่นเมื่อครู่วิ่งเข้ามา กล่าวกับโจวเสาจิ่นอย่างกระหืดกระหอบ ว่า “ฮูหยิน คุณชายใหญ่สือผู้นั้นนัดคุณชายใหญ่เก้าออกไปรํ่าสุรา คุณชายใหญ่เก้าตอบรับแล้ว กําลังเตรียมจะออกไปแล้วเจ้าค่ะ”
โจวเสาจิ่นให้สาวใช้เด็กคนนั้นไปเรียกฉินจื่อจี๋เข้ามา สั่งเขาว่า “รีบส่งบ่าวที่มาก ประสบการณ์และปราดเปรื่องคนหนึ่งไปติดตาม ไม่ว่าอย่างไรห้ามให้คุณชายใหญ่เก้าเกิดเรื่อง อะไรขึ้นโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะเรื่องเหล่านั้นที่ตอนนี้ดูเหมือนไม่มีอะไรแต่ภายหลังส่งผลต่อ หน้าที่การงานของคุณชายใหญ่เก้าได้”
คนของตระกูลฉินเป็นพ่อบ้านในตระกูลเฉิงมานาน แม้ปกปิดเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนแรก เอาไว้ แต่จะปิดบังจากคนของตระกูลฉินได้อย่างไร ยิ่งกว่านั้นฉินจื่อจี๋เป็นผู้ที่มาเป็นพ่อบ้านให้ เฉิงฉือ แทนที่จะให้เขาสับสนฟังคนอื่นพูดเลื่อนเปื้อน มิสู้ให้เขารู้เรื่องราวภายในเสียเลยยังจะ ดีกว่า
เฉิงสือกับเฉิงเจิ้งทําอะไรลงไปในตอนนั้น เขารู้แจ่มแจ้งยิ่งกว่าชิวซื่อเสียอีก
ฉินจื่อจี๋ตอบว่า “ขอรับ” อย่างนอบน้อม แล้วหมุนกายไปจัดเตรียมพ่อบ้านส่วนตัวคนหนึ่ง ไว้ข้างกายเฉิงเก้า ติดตามเขาออกไป
มีฉินจื่อจี๋ดูแลจัดการ โจวเสาจิ่นจึงวางใจลงได้
5379
จวบจนชิวซื่อประคองฮูหยินผู้เฒ่ากัวออกมา นางก็ไปต้อนรับอย่างเบิกบานใจ เอ่ยถามฮู หยินผู้เฒ่ากัวกับชิวซื่อว่าอยากจะไปนั่งเล่นที่สวนดอกไม้หรือไม่ “…อากาศวันนี้ดีถึงเพียงนี้ ภรรยารั่งเกอก็ต้องขยับเขยื้อนให้มากสักหน่อยถึงจะดีนะเจ้าคะ”
ชิวซื่อคลี่ยิ้มพลางมองฮูหยินผู้เฒ่ากัว
ฮูหยินผู้เฒ่ากัวดูอารมณ์ดียิ่ง ยิ้มแย้มพลางตอบว่า “ดี” พวกหญิงรับใช้อุ้มอวิ้นเกอเอ๋อร์ แล้วไปสวนดอกไม้ด้วยกัน
ระหว่างทาง ฮูหยินผู้เฒ่ากัวบอกโจวเสาจิ่นกับเซี่ยซื่อว่า “เจ้ารองอยู่ที่ซานตงทํางานได้ดี ยิ่ง ที่ศาลต้าหลี่มีตําแหน่งว่างที่หนึ่ง ผู้บังคับบัญชาของเขาแนะนําเขาไปรับตําแหน่งที่ศาลต้าหลี่ แม่สามีของเจ้าตั้งใจมาแจ้งเรื่องนี้ให้กับข้า ถ้าหากทุกอย่างราบรื่น เขาก็จะกลับมาร่วมพิธีครบ ร้อยวันของลูกพวกเจ้าได้”
“นี่เป็นเรื่องดีจริงๆ นะเจ้าคะ” โจวเสาจิ่นรีบแสดงความยินดีกับชิวซื่อ
ชิวซื่อกล่าวอย่างขัดเขินว่า “เรื่องนี้ยังมิได้กําหนดเรียบร้อยเลย ข้าตัดสินใจไม่ได้เล็กน้อย จึงมาปรึกษาท่านแม่ ท่านแม่บอกว่าเป็นเรื่องดี”
เฉิงเว่ยเคยทํางานในสํานักฮั่นหลินมาก่อน กลับมาจากการรับราชการต่างเมือง มี ประสบการณ์ทํางานในท้องถิ่น เมื่อกลับมาแล้วอย่างไรก็ได้รับตําแหน่งที่ค่อนข้างดีในหกกรม สามสํานักได้ แน่นอนว่าเป็นเรื่องดี!
เซี่ยซื่อยังไม่เคยเห็นพ่อสามีท่านนี้มาก่อน แต่ก็แสดงความยินดีกับชิวซื่อเช่นกัน
ชิวซื่อโอบเซี่ยซื่อพลางกล่าวอย่างเคืองๆ ว่า “เจ้าเด็กคนนี้ เหตุใดถึงมาหยอกเย้าข้าด้วย อีกคน พ่อสามีของเจ้ากลับมาแล้ว รั่งเกอเอ๋อร์ก็จะมีคนอบรมสั่งสอน นี่ถึงจะเป็นเรื่องสําคัญ” ขณะที่นางกล่าวก็อุ้มอวิ้นเกอเอ๋อร์ในอ้อมแขน เอ่ยว่า “ประเดี๋ยวลุงรองกลับมาแล้ว เห็นอวิ้นเกอ
5380
เอ๋อร์ของพวกเราไม่รู้ว่าจะดีใจเพียงใด! เมื่อถึงตอนนั้นให้ลุงรองซื้อของกินอร่อยๆ มาให้เจ้าดี หรือไม่”
เพียงอวิ้นเกอเอ๋อร์ได้ยินคําว่าซื้อของกินอร่อยๆ ก็พยักหน้าหงึกๆ ทั้งยังเรียกร้องว่า “ข้า อยากกินขนมเปี๊ยะไส้เนื้อที่พ่อครัวจากเฉิงซีทําขอรับ”
มีครั้งหนึ่งที่จี๋อิ๋งมาเยี่ยมเขา แล้วนําขนมเปี๊ยะไส้เนื้อที่พ่อครัวจากเฉิงซีเป็นคนทํามาฝาก เขา นับแต่นั้นมาเขาก็จดจําตลอดเวลา เดี๋ยวนี้ทุกครั้งที่จี๋อิ๋งมาก็จะนํามาฝากเขา เขากินจนเลีย นิ้วเลยทีเดียว โจวเสาจิ่นส่งพ่อครัวไปศึกษา อาจเป็นเพราะมีสูตรลับ อย่างไรก็ทําได้ไม่อร่อยเท่า พ่อครัวผู้นั้นทํา
เมื่อได้ยินเขาพูดอย่างนี้ ชิวซื่อก็หัวเราะลั่น กล่าวว่า “อวิ้นเกอเอ๋อร์เพียงอยากกินขนม เปี๊ยะไส้เนื้อเท่านั้นหรือ”
อวิ้นเกอเอ๋อร์พยักหน้า ตอบอย่างจริงจังว่า “อร่อยขอรับ!”
เสียงหัวเราะครืนใหญ่จนฮูหยินผู้เฒ่ากัวกับโจวเสาจิ่นก็หัวเราะตามไปด้วย
ชิวซื่อจึงเอ่ยถามถึงเรื่องแต่งงานของชุนหว่านขึ้นว่า “บอกว่ากําหนดไว้ในวันที่สิบเดือน ห้า? ถึงเวลานั้นข้าก็จะมาเพิ่มสินเจ้าสาวให้นางด้วยเช่นกัน”
ฮูหยินผู้เฒ่ากัวกล่าวยิ้มๆ ว่า “นอกจากเจ้าต้องมาเพิ่มสินเจ้าสาวแล้ว ข้าก็ต้องบอก ภรรยาเจ้าใหญ่ ให้นางมาเพิ่มสินเจ้าสาวให้เด็กคนนี้ด้วย ตามหลักแล้วกล่าวได้ว่านางควรจะ ออกเรือนนานแล้ว แต่นางไม่วางใจบ่าวไพร่ในเรือนเจ้าสี่กับภรรยามาโดยตลอด เลยทําให้นาง แต่งงานล่าช้า ครั้งนี้ยังบอกว่าอยากรอให้เสาจิ่นคลอดบุตรอย่างปลอดภัยก่อนแล้วค่อยว่ากัน ใหม่… เจ้าเด็กคนนี้ กลับตามใจเจ้าสี่กับภรรยา เป็นคนที่ทุ่มเทจริงใจผู้หนึ่ง ข้าเห็นว่าอย่างไรก็ ต้องแต่งนางออกไปอย่างมีหน้ามีตาและยิ่งใหญ่ถึงจะถูก”
5381
เซี่ยซื่ออดเบิกตาโพลงไม่ได้
ทว่าชิวซื่อกลับขานรับอย่างเริงร่า ทั้งยังพูดเย้าแหย่ยิ้มๆ ว่า “พวกเราจะได้ดื่มสุรามงคล อีกแล้วนะเจ้าคะ!”
โจวเสาจิ่นเห็นฮูหยินผู้เฒ่ากัวยกย่องชุนหว่านถึงเพียงนี้ ตัดสินใจผลักเรื่องแต่งงานของปี้ เถาออกไปปีหน้า หลีกเลี่ยงไม่ให้ทั้งสองคนออกเรือนติดกันคนหนึ่งก่อนคนหนึ่งหลัง เหตุเพราะ ความแตกต่างราวฟ้ากับดินของงานแต่งงานทําให้เกิดความคิดต่างๆ นานาได้
นางกลับไปก็บอกกับปี้เถาว่า “ครั้นชุนหว่านออกเรือนแล้ว ข้างกายข้าก็จะเหลือเพียงเจ้า ที่ข้าพามาจากบ้านเดิมแล้ว การงานต่างๆ ภายในบ้านนี้ข้ายังต้องการให้เจ้าเฝ้าดูสักหน่อยถึงจะ วางใจ”
ปี้เถาก็หาได้เป็นคนที่คิดมากเช่นนั้นไม่ รีบกล่าวยิ้มๆ ว่า “ฮูหยินท่านวางใจเถิด เดิมทีก็ ควรจัดการเรื่องของพี่ชุนหว่านก่อน ทางด้านบ่าวนี้ล้วนเชื่อฟังฮูหยินเจ้าค่ะ”
โจวเสาจิ่นตั้งใจคัดเลือกคน ผู้ที่เลือกมาให้ปี้เถาคือญาติผู้น้องของสามีปี้อวี้
ชุนหว่านจะไม่ปรนนิบัติข้างกายนางอีกแล้ว
รอให้นางออกเรือนไปแล้ว งานต่างๆ ในเรือนของโจวเสาจิ่นก็มีปี้อวี้ดูแลจัดการ
โจวเสาจิ่นกับปี้เถาพูดคุยเสร็จแล้วจึงให้นางถอยออกไป
ทันทีที่นางถอยออกไปจี๋เสียงก็เดินเข้ามา กระซิบรายงานโจวเสาจิ่นว่า “พ่อบ้านฉินส่งคน กลับมาแจ้งว่า วันนี้คุณชายใหญ่เจิ้งเป็ นผู้เชิญแขก คุณชายใหญ่เจิ้งวางแผนเป็ นผู้ช่วย นายอําเภอที่จี๋ม่อ อีกไม่กี่วันก็จะไปเข้ารับตําแหน่งแล้ว คุณชายใหญ่สือกับคุณชายใหญ่พานจัด งานเลี้ยงให้คุณชายใหญ่เจิ้ง พอได้ยินว่าคุณชายใหญ่เก้ามาจิงเฉิง จึงเชิญเขาไปรํ่าสุราด้วยกัน ไม่ได้ทําอะไรเลยทั้งสิ้นเจ้าค่ะ”
5382
“คุณชายใหญ่เจิ้งไปอําเภอจี๋ม่อหรือ” โจวเสาจิ่นประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็คิดว่า สมเหตุสมผลดี
ชาติก่อนเฉิงเจิ้งมีเฉิงจิงปกป้อง นอกจากสอบได้เป็นบัณฑิตซู่จี๋และฝึกงานอยู่ในหกกรม เป็นขุนนางในเมืองหลวงแล้ว ยังได้แต่งงานกับบุตรสาวของหวังเจี่ยนรองเจ้ากรมขุนนาง ในชาตินี้ เขายืนฝั่ งเดียวกับเฉิงสือ เฉิงจิงจะสนใจไยดีเขาได้อย่างไร เขาสอบไม่ได้เป็นบัณฑิตซู่จี๋ ด้วย อุปนิสัยของเขาจะหาตําแหน่งงานหนึ่งอย่างลวกๆ ได้อย่างไร แต่บางครั้งก็เป็นเรื่องที่ควบคุม ไม่ได้ เขาปรารถนาอยากได้ตําแหน่งที่ดีกว่านี้ เช่นนั้นก็ต้องมีคนช่วยหาหนทางให้เขาถึงจะถูก
เขากับเฉิงสือและพานชิงสอบได้ยศจิ้นซื่อพร้อมกัน เฉิงซวี่ย่อมต้องคิดถึงเฉิงสือก่อน ส่วน พานจื๋อก็ต้องคิดถึงพานจ้าวก่อนเช่นกัน เขาก็ได้แต่ดิ้นรนกระเสือกกระสนเองเสียแล้ว
อย่างไรก็ตาม อําเภอจี๋ม่ออยู่ในซานตง เฉิงเว่ยก็อยู่ซานตง…เขามาหาเฉิงเก้า หรือว่าด้วย เรื่องเฉิงเว่ยกันนะ
ใช่ว่าโจวเสาจิ่นอยากจะคิดถึงเขาในแง่นี้ แต่ชาติก่อนเฉิงเจิ้งก็เป็นคนเช่นนี้
รอจนเฉิงฉือกลับมา นางก็เล่าเรื่องนี้ให้เฉิงฉือฟัง
เฉิงฉือผลัดอาภรณ์เองไปด้วยพลางกล่าวไปด้วยว่า “เจ้าไม่ต้องคิดมากหรอก เขาคง อยากหาพี่รองนั่นแหละ เขาหาตําแหน่งผู้ช่วยนายอําเภอจี๋ม่อตําแหน่งหนึ่งได้ จะว่าไปแล้วก็เป็น พี่รองที่ช่วยเหลือ ช่วงนี้มิใช่ว่าเขาคลุกคลีอยู่ในกรมขุนนางหรอกหรือ ประจวบกับหัวหน้าฝ่ าย คัดเลือกขุนนางในกรมขุนนางคนใหม่เป็นสหายที่สอบในปีเดียวกันกับพี่รอง แต่ก่อนเขารับ ราชการอยู่ที่ส่านซี ปีนี้เพิ่งได้ย้ายกลับมา พอได้ยินว่าเฉิงเจิ้งเป็นหลานชายของพวกข้าก็หา ตําแหน่งผู้ช่วยนายอําเภอที่จี๋ม่อให้เขา เจ้าก็รู้ ต่อให้เป็นเช่นนี้ หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปแล้วเขา จะต้องเขียนจดหมายถึงพี่รองของข้าอย่างแน่นอน ปีนี้เฉิงเจิ้งชนกําแพงถึงทางตันอยู่ที่จิงเฉิง นี่จึง จะลดความหยิ่งผยองที่ ‘ต่อให้ไม่มีจวนหลักตระกูลเฉิงข้าก็สอบได้ยศจิ้นซื่อ’ ไปได้หลายส่วน…
5383
…เฉิงเจิ้งมาหาข้า ข้าไม่ว่าง ส่วนทางด้านพี่ใหญ่เขากลับพูดอะไรไม่ได้ มาเชิญเก้าเกอ เอ๋อร์ออกไปกินข้าว แปดถึงเก้าในสิบส่วนก็ด้วยเรื่องนี้เป็นแน่”
โจวเสาจิ่นเอ่ยถามขึ้นว่า “หรือเขาคิดว่าพี่ชายเก้าจะช่วยเขาได้เจ้าคะ” เฉิงฉือยิ้มพลางยํ้าเตือนนางว่า “เจ้าดีกับหลานเจียมิใช่หรือ” ดังนั้นท้ายที่สุดแล้วก็ยังคิดจะหาประโยชน์จากนาง โจวเสาจิ่นไม่พอใจ “ใจในของเขา ข้าพูดคุยได้ง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ”
“เขามิได้คิดว่าเจ้าคุยง่ายหรอก” เฉิงฉือเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็นั่งข้างโจวเสาจิ่น กุมมือ ของนางพลางกล่าวอย่างอบอุ่นว่า “เขาคิดว่าเขาโตมากับเก้าเกอเอ๋อร์ตั้งแต่เด็ก แม้ว่าเก้าเกอ เอ๋อร์ไม่ถึงกับเป็นการเพิ่มดอกไม้บนผ้าแพรสําหรับเขา แต่ก็มิอาจโยนหินลงบ่อซํ้าเติมได้ คง อยากให้เก้าเกอเอ๋อร์ช่วยเขาพูด”
“พี่ชายเก้าคงไม่เลอะเลือนถึงเพียงนั้นกระมัง” โจวเสาจิ่นบุ้ยปากพลางกล่าว “ในปีนั้นเขา ทําอะไรลงไป พี่ชายเก้ามิได้ไม่รู้หรอกหรือ”
“แต่เป็นไปได้ว่าคนเราพอแผลหายดีแล้วก็ลืมความเจ็บปวด” เฉิงฉือยกยิ้มพลางกล่าว “เรื่องนี้ข้าจะบอกเก้าเกอเอ๋อร์เอง ให้พี่รองซื้อใจเฉิงเจิ้ง ให้เฉิงเจิ้งไปรับตําแหน่งอย่างวางใจ”
โจวเสาจิ่นจ้องเขม็ง
เฉิงฉือกระซิบข้างหูนางว่า “เจ้าวางใจเถอะ ข้ารู้ว่าควรทําอย่างไร! แต่ไรมาจวนสามล้วน คิดว่าขอเพียงจวนของพวกเขาให้กําเนิดจิ้นซื่อคนหนึ่งก็พอแล้วมิใช่หรือ ตอนนี้จวนสามของพวก เขาไม่เพียงให้กําเนิดจิ้นซื่อคนหนึ่งได้ หนําซํ้ายังเป็นขุนนางอย่างราบรื่น จวนสามกลํ้ากลืนฝืนทน คําดูถูกเหยียดหยามมาหลายรุ่นแล้ว ต่อให้มีใจหนักแน่นเพียงใด ก็จะหลงระเริงจนลืมตัวแล้วทํา ผิดอีก บวกกับจวนรองซื้อใจพวกเขาไปแล้ว พวกเขาคิดว่าจวนหลักจะไม่คิดบัญชีกับพวกเขา
5384
จะต้องย้ายออกจากซอยจิ่วหรูเป็นแน่…รอให้ถึงยามที่เขาค้นพบว่าจากตําแหน่งผู้ช่วยนายอําเภอ ไต่เต้าสู่นายอําเภอนั้นมิได้ง่ายดายขนาดนั้นก็สายเกินแก้แล้ว!”