ยามดอกวสันต์ผลิบาน - ตอนที่565 ความรู้สึกจืดจางลง
หยวนซื่อได้ยินแล้วยิ้มโดยไม่กล่าวอะไร ทว่าในใจกลับไม่เห็นด้วยเล็กน้อย
เด็กน้อยหนึ่งคน หยิบของเสี่ยงทายถึงกับต้องใช้ตราประทับยศขั้นหนึ่งของจริง ก็ดูจะ
ตามใจเกินไปสักหน่อยกระมัง
ที่นางกล่าวรับคําไปตามนํ้า ก็เพียงเพราะกลัวว่าฮูหยินเผิงเฉิงจะคิดว่าตนใจแคบก็
เท่านั้น คิดไม่ถึงว่าฮูหยินเผิงเฉิงจะถือเป็นเรื่องจริงจัง ต้องการให้ตนส่งไปให้จริงๆ…ต่อให้นาง
รับปาก นายท่านของพวกนางก็ไม่มีทางตอบตกลงอย่างแน่นอน
นึกถึงตอนที่เฉิงจิงไม่โมโหก็เหมือนรูปปั้นรูปหนึ่ง แต่ยามโมโหขึ้นมาแม้แต่นางเองก็ต้อง
ถอยห่างออกไปสามเซ่อ303
1 หยวนซื่อลอบรู้สึกยินดีกับหายนะของผู้อื่น เมื่อกลับไปก็รีบคุยเรื่องนี้
กับเฉิงจิงในทันที ยังโน้มน้าวเฉิงจิงด้วยว่า “ก็เพียงสร้างความครึกครื้นสักครั้งหนึ่งเท่านั้น ข้าว่า
พรุ่งนี้เช้าพวกเราส่งตราประทับไปก็แล้วกัน หยิบของเสี่ยงทายเสร็จก็นํากลับมา”
เฉิงจิงขมวดคิ้วมุ่นตามที่คาดการณ์เอาไว้ เอ่ยเสียงหนึ่งว่า “เหลวไหล” กล่าวอีกว่า “ตรา
ประทับถือเป็นเกียรติยศและหน้าตาของขุนนาง จะทําเป็นของเล่นเสี่ยงทายได้อย่างไร ท่านแม่ไม่
มีทางกล่าวถ้อยคําเช่นนี้ออกมาแน่! ต้องเป็นความคิดของฮูหยินเผิงเฉิง เจ้าเองก็เช่นกัน เหตุใด
ไม่รู้จักห้ามปรามสักหน่อย! ท่านแม่อายุมากแล้ว บางครั้งก็เลอะเลือนบ้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เจ้าเองก็ไม่รู้จักหนักเบาด้วยอย่างนั้นหรือ”
หยวนซื่อโกรธจนพูดไม่ออก
1 เซ่อ หนึ่งเซ่อเท่ากับระยะสามสิบลี้
5235
เหตุใดฮูหยินผู้เฒ่าจึงไม่เคยผิดเลยสักครั้ง เรื่องตราประทับนี้หากมิใช่เพราะฮูหยินเผิงเฉิง
ที่ยุยงให้ฮูหยินผู้เฒ่าต้องการใช้ ก็กลายเป็นตนที่มิได้โน้มน้าวห้ามปรามฮูหยินผู้เฒ่าไปเสียได้
คาดว่าไม่ว่าอะไรก็เป็นความผิดของตนไปเสียหมดกระมัง!
กระบอกตานางรื้นชื้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ กล่าวว่า “เรื่องนี้จะกล่าวโทษข้าได้อย่างไร!
ท่านแม่เป็นคนเช่นไร ท่านยังไม่รู้อีกหรือ คําพูดของข้าท่านแม่เคยเก็บไปใส่ใจเมื่อไรกัน…”
เฉิงจิงได้ยินหยวนซื่อพรํ่าบ่นเรื่องที่ฮูหยินผู้เฒ่ากัวไม่พึงพอใจนางอีกแล้ว สามสิบกว่าปี
มานี้ยามมีเรื่องหรือไม่มีเรื่องก็ได้ยินนางหยิบยกขึ้นมากล่าวซํ้าๆ เช่นนี้ แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด เขา
อดทนอย่างเมื่อก่อนไม่ได้อีก ในทางกลับกันเปลี่ยนเป็นใจร้อนหุนหันอดทนไม่ได้ขึ้นมาแทน
“พอแล้ว!” เฉิงจิงตวาดเสียงตํ่าไปครั้งหนึ่งอย่างห้ามไม่อยู่ กล่าวว่า “ประจบประแจงหวัง
ผล กล่าวหาบิดามารดาอยุติธรรม ล้วนเป็นความอกตัญ�ู ต่อไปหากพานพบเรื่องเช่นนี้อีกก็ใช้
สมองขบคิดให้มาก โชคดีที่ตอนนั้นมีเพียงฮูหยินเผิงเฉิงเท่านั้น หากมีฮูหยินของขุนนางคนอื่นอยู่
ด้วยล่ะก็ มิเท่ากับขายหน้าคนตระกูลเฉิงแย่หรอกหรือ” ขณะที่กล่าว เขาก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา
อย่างหงุดหงิดใจว่า “ด้านเจียซ่านเก็บของไปถึงไหนแล้ว ก่อนเขาออกเดินทางสองวันเลือกจัดงาน
เลี้ยงที่บ้านสักวันหนึ่ง ให้คนในบ้านได้มารวมตัวกันสักครั้ง เจียซ่านจากไปเช่นนี้ คงไม่ได้เจอกัน
อีกอย่างน้อยหนึ่งถึงสองปี” เขากล่าวพลางลุกขึ้นมา “ข้าจะไปที่ประตูเฉาหยางสักครั้งหนึ่ง พิธี
หยิบของเสี่ยงทายของเจียซ่านตอนเป็นเด็กก็ใช้เครื่องรางปลาแทนตราประทับ ถึงแม้ท่านแม่จะ
โปรดปรานอวิ้นเกอเอ๋อร์ ก็ไม่อาจกระทําสูงส่งหรูหราเช่นนี้ เมื่อเขาโตขึ้นได้เข้าราชสํานัก ด้วย
เรื่องเล็กน้อยเพียงแค่นี้ ฝ่ ายฟ้องร้องของราชสํานักอาจจะฟ้องร้องว่าเขากระทําตัวหรูหราตั้งแต่
เด็กได้ จะไม่เป็นผลดีต่อชื่อเสียงของเขา”
กล่าวจบ ไม่รอให้หยวนซื่อได้เอ่ยปาก ก็ตะโกนเรียกบ่าวชายเข้ามาปรนนิบัติผลัดเปลี่ยน
อาภรณ์ หมุนกายไปที่ประตูเฉาหยาง
5236
ไม่ง่ายเลยกว่าหยวนซื่อจะหักห้ามตัวเองไม่ให้เขวี้ยงจอกชาในมือลงพื้น แต่นํ้าเสียงพูด
กลับขุ่นมัวเล็กน้อยอย่างห้ามไม่อยู่ “สะใภ้ใหญ่เล่า ข้ากลับมาตั้งนานแล้ว เหตุใดจึงไม่เห็นนาง
เลย”
สาวใช้กล่าวด้วยอาการสั่นกลัวว่า “สะใภ้ใหญ่ไปประตูเฉาหยางกับฮูหยินรองเจ้าค่ะ
บอกว่าคุณชายใหญ่อวิ้นครบรอบขวบปี จึงไปดูว่าทางด้านฮูหยินสี่มีอะไรให้ต้องช่วยเหลือหรือไม่
ยังไม่กลับมาเจ้าค่ะ…”
ตอนนี้หยวนซื่ออดทนต่อไปอีกไม่ได้แล้ว เขวี้ยงจอกชาเสียงดัง เพล้ง ลงบนพื้น
ประตูเฉาหยางทางด้านนี้กลับครึกครื้นเป็นอย่างยิ่ง
ฮูหยินผู้เฒ่ากัวกลับมาแล้ว โจวเสาจิ่น โจวชูจิ่น หลี่ซื่อ หมิ่นเจีย ชิวซื่อ เฉิงเซียว เฉิงเซิง
และอีกหลายคนรวมถึงเด็กๆ ต่างอยู่ในห้องนั่งเล่น เด็กๆ เล่นเจื้อยแจ้วอยู่ข้างๆ อย่างสนุกสนาน
ส่วนพวกผู้ใหญ่นั่งอยู่ด้วยกัน
“ทุกปีล้วนเป็นของเหล่านั้นทั้งสิ้น ไม่มีอะไรพิเศษ” คนที่กล่าวคือเฉิงเซิง นางอยากจะมี
ลูกอีกคนหนึ่ง เชิญหมอหลวงเฉามาช่วยปรับสมดุลร่างกายให้นาง ผิวพรรณผ่องใสนวลเนียน ดูดี
ยิ่งนัก แม้แต่โจวเสาจิ่นเห็นแล้วยังนึกอิจฉา แต่คนก็อวบขึ้นมาอีกรอบหนึ่ง “ข้าคุยกับท่านอา
สะใภ้แล้ว นอกจากตราประทับป้ายตราเสือและชุดเครื่องเขียนต่างๆ เหล่านั้นแล้ว ยังเพิ่มชาด
แป้งผัดหน้าสองสามตลับกับลูกคิดตราชั่งจําพวกนั้นไปด้วย ดูว่าสุดท้ายแล้วอวิ้นเกอเอ๋อร์ของ
พวกเราจะหยิบอะไรบ้าง ท่านอาฉือเก่งทั้งบู๊และบุ๊น บนเขียนรายงานได้ ล่างดีดลูกคิดเป็น”
“เจ้าเด็กน่าตายผู้นี้!” ฮูหยินผู้เฒ่ากัวได้ยินแล้วก็หยิบหยกหรูอี้ข้างมือขึ้นมาหมายจะตี
เฉิงเซิง “มีใครพูดถึงอาของตัวเองเช่นนี้เหมือนเจ้าบ้าง อาของเจ้าทําเพื่อผู้ใดเล่า มิใช่เพื่อพวกเจ้า
หรอกหรือ ไม่มีอาของเจ้าดีดลูกคิด พวกเจ้าจะมีสินเจ้าสาวมากมายขนาดนั้นได้หรือ จะเลี้ยงแต่
ละคนมาอย่างสุขภาพดีมีความสุขเช่นนี้ได้หรือ”
5237
“ท่านย่าช่างลําเอียงเกินไปแล้ว!” เฉิงเซิงแสร้งทําทีหลบการทุบตีของฮูหยินผู้เฒ่ากัวไป
หลบอยู่หลังโจวเสาจิ่น ให้โจวเสาจิ่นบังอยู่ด้านหน้าตัวเอง “พูดหยอกเย้าแค่ประโยคเดียวก็ไม่
อนุญาตให้พวกข้าพูดแล้ว”
โจวเสาจิ่นเม้มปากกลั้นยิ้ม ปล่อยให้เฉิงเซิงหลบอยู่ด้านหลังของตัวเอง
เนื่องจากเป็นการพูดหยอกเย้า และฮูหยินผู้เฒ่ากัวเองก็ทําใจตีโจวเสาจิ่นไม่ได้ จึงวาง
หยกหรูอี้ลงยิ้มๆ ชี้เฉิงเซิงพลางกล่าวว่า “เจ้ามีความสามารถก็หลบอยู่หลังอาสะใภ้ของเจ้าไป
ตลอดชีวิตอย่าได้ออกมาเชียว”
เฉิงเซียวหยอกเย้าฮูหยินผู้เฒ่ากัวว่า “เช่นนั้นข้าไปไหนก็จะพาท่านอาสะใภ้สี่ไปที่นั่นด้วย
ดูว่าท่านยังจะตีข้าอีกหรือไม่!”
ทําเอาทุกคนในห้องต่างหัวเราะออกมาคํารบหนึ่ง
มีสาวใช้เด็กเดินเข้ามาเร็วๆ อย่างเบิกบาน กล่าวว่า “ท่านบุตรเขยของตระกูลหลี่ที่ลั่ว
หยางให้คนส่งของขวัญมาแสดงความยินดี มามาที่ติดตามมาด้วยสองท่านอยากเข้ามาโขกศีรษะ
ให้ฮูหยินผู้เฒ่า ฮูหยินสี่และคุณชายใหญ่อวิ้นเจ้าค่ะ”
“รีบเชิญพวกนางเข้ามา” ฮูหยินผู้เฒ่ากัวได้ยินแล้วดีใจยิ่งนัก
มามาทั้งสองคนนี้ฮูหยินผู้เฒ่ากัวและโจวเสาจิ่นล้วนรู้จักดี ผู้หนึ่งคือชุ่ยหวนที่ติดตามรับ
ใช้อยู่ข้างกายเฉิงเจียมาตั้งแต่เด็ก แต่งงานกับบ่าวของหลิงจิ้งผู้หนึ่งที่หลี่จิ้งอนุญาตให้ใช้แซ่ด้วย
เป็นมามาดูแลงานภายในเรือนของเฉิงเจีย ออกไปไหนผู้อื่นล้วนต้องเรียกขานอย่างให้เกียรติว่าห
ลี่มามา ส่วนอีกผู้หนึ่งเป็นสาวใช้ใหญ่ข้างกายมารดาของหลี่จิ้ง แต่งงานกับบ่าวที่ติดตามมาจาก
บ้านเดิมของมารดาหลี่จิ้ง แซ่จ้าว คราวก่อนที่เฉิงเจียตั้งครรภ์ จ้าวมามาผู้นี้ก็เร่งเดินทางมา
จากลั่วหยางเพื่อดูแลเฉิงเจียระยะหนึ่งเป็นการเฉพาะ ทั้งสองคนล้วนเป็นมามามีหน้ามีตาของ
5238
ครอบครัวหลี่จิ้งทั้งสิ้น ให้ทั้งสองคนเดินทางไกลนับพันหลี่มามอบของขวัญครบรอบขวบปีให้อวิ้น
เกอเอ๋อร์เช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าให้ความสําคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม คํานวณเวลาดูแล้ว เหวยเกอเอ๋อร์บุตรชายคนโตของเฉิงเจียก็หนึ่งขวบกว่า
แล้ว อีกทั้งเฉิงเจียยังเป็นคนอยู่ไม่นิ่งผู้หนึ่ง หลี่จิ้งก็เป็นพ่อค้าเดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ วันมงคลขอ
งอวิ้นเกอเอ๋อร์ เหตุใดพวกเขาสองคนถึงไม่มาร่วมครื้นเครงด้วย?
โจวเสาจิ่นรอทั้งสองคนทําความเคารพเสร็จแล้ว จึงเอ่ยถามถึงเฉิงเจียขึ้นมา
ดวงหน้าของทั้งสองคนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม อาจเป็นเพราะให้เกียรติหลี่จิ้ง ชุ่ยหวนมิได้
กล่าวสิ่งใด จ้าวมามาผู้นั้นดวงหน้าดูตื่นเต้นขึ้นมา กล่าวว่า “ฮูหยินใหญ่ของพวกข้าตั้งครรภ์แล้ว
เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับตอนมีคุณชายใหญ่เหวย นอนเซื่องซึมอยู่บนเตียงกินอะไรก็ไร้ความ
อยากอาหารไปหมด นายท่านของพวกข้าเป็นกังวลใจยิ่งนัก หลายวันก่อนเรือของสิบสามห้าง
มาถึงท่าเรือแล้วต้องสรุปบัญชี นายท่านของพวกข้าเพียงให้พ่อบ้านใหญ่ของที่บ้านไปแทน
ส่วนตัวเองอยู่บ้านเป็นเพื่อนฮูหยินใหญ่ของพวกข้า นายท่านบอกว่า รอสักระยะหนึ่งให้ฮูหยินสุข
ภาพดีขึ้นแล้ว จะพาคุณชายใหญ่และฮูหยินมาเยี่ยมผู้อาวุโสและฮูหยินทั้งหลายที่จิงเฉิงเจ้าค่ะ”
“ไอ้หยา นี่ช่างดียิ่งนัก!” คนในห้องต่างดีใจแทนเฉิงเจีย ฮูหยินผู้เฒ่ากัวยิ่งแล้วใหญ่ถาม
จ้าวมามาอย่างเอาใจใส่ว่าเฉิงเจียกินได้หรือไม่ นอนหลับดีหรือไม่ ตั้งครรภ์กี่เดือนแล้ว จะคลอด
เมื่อไร แล้วผู้ใดดูแลเหวยเกอเอ๋อร์…
หลี่จิ้งเป็นลูกโทนของครอบครัวพวกเขา ทว่าลูกพี่ลูกน้องหลายคนของเขามีทายาทชาย
อุดมสมบูรณ์นัก เฉิงเจียคลอดบุตรหลายๆ คนได้ ต่อไปเหวยเกอเอ๋อร์ก็จะได้มีคนคอยช่วยเหลือ
ไม่รู้ว่ามีคนจํานวนมากเท่าไรที่อยากติดต่อซื้อขายกับสิบสามห้าง ลั่วหยางอยู่เขตใน ทั้ง
ยังเป็นดินแดนที่รํ่ารวยอุดมสมบูรณ์มาตั้งแต่อดีต ได้ซื้อขายสินค้าจากดินแดนตะวันตกเหล่านั้น
กับสิบสามห้างไม่เพียงทําเงินได้ก้อนใหญ่เท่านั้น ยังทําให้คนที่ลั่วหยางให้ความสําคัญกับตระกูห
5239
ลี่มากขึ้นด้วย นอกจากนี้หลี่จิ้งยังได้ลงนามทําสัญญาซื้อขายกับสิบสามห้างเป็นจํานวนทั้งหมด
ห้าปี โดยการแนะนําของเฉิงฉือ หลี่จิ้งตั้งใจปล่อยข่าวนี้ออกไป ให้เฉิงเจียได้มีที่ยืนอย่างมั่นคงใน
ตระกูลหลี่ ตอนนี้ไม่เพียงตระกูลหลี่ กระทั่งคนทั้งลั่วหยางล้วนรู้ว่าหลี่จิ้งแต่งงานกับภรรยาที่
ช่วยเหลือสามีได้เป็นอย่างดีผู้หนึ่ง
ด้วยเหตุนี้ไม่ว่ายามใดที่จ้าวมามาได้พบฮูหยินผู้เฒ่ากัวล้วนรู้สึกตื่นเต้นกดดัน และยัง
ระมัดระวังตัวหลายส่วน ตอบคําถามฮูหยินผู้เฒ่ากัวอย่างนอบน้อม
เมื่อรู้ว่าเฉิงเจียราบรื่นดีทุกอย่าง ฮูหยินผู้เฒ่ากัวก็พยักหน้าไม่หยุด
หลี่ซื่อกลับตื่นเต้นยินดี กล่าวยิ้มๆ ว่า “กูไหน่ไนใหญ่มีบุตรชายสองคน กูไหน่ไนรอง กู
ไหน่ไนสามและกูไหน่ไนสี่ต่างมีบุตรชายคนละหนึ่งคน วันนี้บุตรที่กูไหน่ไนสี่กําลังตั้งครรภ์อยู่นี้ก็
น่าจะเป็นเด็กชายด้วยเช่นกัน กูไหน่ไนของตระกูลเฉิงช่างส่งเสริมให้ตระกูลสามีอุดมสมบูรณ์
จริงๆ”
ทุกคนได้ยินหลี่ซื่อกล่าวเช่นนี้ ก็ครุ่นคิดตาม เห็นว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ต่างพากันหัวเราะ
ขึ้นมา
ฮูหยินผู้เฒ่ากัวจึงจับมือของโจวเสาจิ่นเอาไว้ กล่าวขึ้นว่า “นี่ฮูหยินกําลังกล่าวชมสตรีของ
บ้านตัวเองอยู่กระมัง กูไหน่ไนทั้งสองคนของพวกเจ้าหลังจากออกเรือนแล้วก็ล้วนแล้วแต่มี
บุตรชายเช่นเดียวกัน”
หลี่ซื่อชะงักงัน ทุกคนจึงพากันหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง
โจวเสาจิ่นกระดากอาย
เหตุใดเมื่อชะตาของพี่สาวและเฉิงเจียเปลี่ยนแปลงแล้วแต่ละคนต่างทยอยกันคลอดบุตร
คนแล้วคนเล่า แต่นางกลับไม่มีความเคลื่อนไหวเลย
5240
เฉิงจิงมาถึงแล้ว
ทุกคนลุกขึ้นหมายจะหลบออกไป
ฮูหยินผู้เฒ่ากัวไม่อยากให้วุ่นวาย ให้ทุกคนนั่งลง ตัวเองไปพบเฉิงจิงที่ระเบียงด้านหน้า
แทน
เฉิงจิงเอ่ยถึงเรื่องใช้ตราประทับในวันหยิบของเสี่ยงทายขึ้นมา
ฮูหยินผู้เฒ่ากัวได้ยินแล้วกล่าวเพียงว่าหาเครื่องรางปลาที่เมื่อก่อนเฉิงฉือเคยใช้ในวัน
หยิบของเสี่ยงทายเจอแล้ว ถึงเวลาจะใช้เครื่องรางปลาแทนตราประทับ กล่าวอีกว่า “ใช้ตรา
ประทับของเจ้าในวันหยิบของเสี่ยงทาย ก็เป็นแค่คําพูดล้อเล่นของฮูหยินเผิงเฉิงเท่านั้น”
เฉิงจิงโล่งอกไปเปลาะหนึ่ง ทว่าสัมผัสได้ว่าอารมณ์ของมารดาไม่ค่อยดีนัก เขาหยอกเย้า
มารดาคํารบหนึ่ง ฮูหยินผู้เฒ่ากัวลุกขึ้น พลางกล่าว “อีกประเดี๋ยวเจ้าสี่ก็จะเลิกงานแล้วเช่นกัน ให้
เจ้าสี่รับรองเจ้ารับประทานอาหารก็แล้วกัน ทางด้านโน้นฮูหยินของตระกูลโจวยังอยู่ ข้าไม่สนใจ
เจ้าแล้ว”
เดินจากไปโดยไม่หันศีรษะกลับมา
เฉิงจิงยิ้มขมขื่น
นับตั้งแต่แยกตระกูลเป็นต้นมา ดูเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างเขาและมารดายิ่งอยู่จะยิ่ง
จืดจางลงเรื่อยๆ
ใกล้จะถึงเทศกาลไหว้บ๊ะจ่างแล้ว ถึงเวลานั้นรับมารดาไปอยู่ด้วยสักระยะหนึ่งดีกว่า
เขาไปรอเฉิงฉือที่ห้องหนังสือของเรือนชั้นนอก
หัวใจของฮูหยินผู้เฒ่ากัวเย็นชืด
5241
นางเป็นคนเช่นไร ผ่านมาสามสิบสี่สิบปีแล้ว บุตรชายของนางถึงกับกล่าวถ้อยคําเช่นนี้
ออกมาได้
ฮูหยินผู้เฒ่ากัวยืนอยู่ใต้เฉลียงทางเดินครู่หนึ่ง ให้ความขุ่นเคืองในใจคลายลงก่อนถึงเข้า
ไปด้านใน
ส่วนโจวเสาจิ่นกลับสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่าที่หน้าท้องตนไม่มีความเคลื่อนไหวเลยนั้นเป็น
ฝีมือของเฉิงฉือหรือไม่
กลางดึก นางติดหนึบอยู่ในอ้อมอกของเฉิงฉือไม่ยอมลุกขึ้น
เฉิงฉือหัวเราะเบาๆ ต้องการรักนางอีกรอบหนึ่ง
นางเหน็ดเหนื่อยกว่าครึ่งค่อนคืน เฉิงฉือกลับเสมือนถูกปลุกให้ตื่นอยู่ในห้วงแห่งความ
สนุก กอดนางเอาไว้ชวนคุยกว่าครู่ใหญ่ นางฟังไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่ประโยคเดียว กระทั่งฟ้าสาง
พวกเขาก็รักกันอีกรอบหนึ่ง ปรากฏว่าเฉิงฉือตื่นไปทํางานด้วยอารมณ์แจ่มใส นางกลับปีนขึ้นมา
จากเตียงอย่างยากเย็น ตอนไปคารวะฮูหยินผู้เฒ่ากัวหนังตาบนกับหนังตาล่างกระทบกันไม่หยุด
ฮูหยินผู้เฒ่ากัวไม่กล่าวอะไรสักอย่าง ยิ้มพลางให้เฉินเซียงไปยกนํ้าแกงแม่ไก่ตุ๋นเข้ามา
โจวเสาจิ่นสะดุ้งตัวโหยงหน้าแดงกํ่าไปหมด
ฮูหยินผู้เฒ่ากัวหัวเราะไม่หยุด กล่าวเสียงอบอุ่นว่า “ดื่มนํ้าแกงแล้วกลับไปหลับสักตื่น
เถอะ เรื่องของอวิ้นเกอเอ๋อร์มีข้าอยู่ด้วยนี่นา!”
โจวเสาจิ่นไม่รู้ว่าตัวเองดื่มนํ้าแกงชามนั้นไปอย่างไร เมื่อกลับถึงห้องกลับนอนหลับสนิท
ไปหนึ่งตื่น