ยุทธเวทผลาญปีศาจ - เล่มที่ 1 บทที่ 7 เรือลำน้อยแห่งมิตรภาพ
ตอนสวีหยางอี้กลับมาถึงห้องตัวเองก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว
“เป็นไงบ้าง” ทันทีที่ปิดประตูลงก็มีเสียงเสียงหนึ่งแว่วมา “ฉันจำเป็นต้องเตือนนาย เวลาสำหรับการสอบจบคือจำกัดภายในหนึ่งอาทิตย์ และตอนนี้ก็ผ่านไปแล้วห้าวัน ทางศูนย์มณฑลกำลังรอสรุปรายงานจากสาขาเมืองอวี๋หยางอยู่…ฉันว่าฉันคงไม่ต้องอธิบายซ้ำอีกครั้งล่ะมั้งว่าอัตราการเรียนจบของสำนักเทียนเต้าต่ำแค่ไหน และมีคนมากมายแค่ไหนกำลังรอดูการสอบของแต่ละสำนักย่อยอยู่”
“หาเจอแล้ว” สวีหยางอี้เปิดคอมพิวเตอร์ของตัวเองแล้วไปที่หน้าเว็บเพจแวบหนึ่งก่อนจะขมวดคิ้วขึ้นทันที “…เมาปาเอ้อ…ฉันเตือนนายกี่ครั้งแล้วว่านายเป็นแค่นายหน้าคนกลาง ระหว่างที่ยังเรียนไม่จบ เงินเบี้ยเลี้ยงฉันเดือนหนึ่งมีแค่หนึ่งพัน…”
“มีปัญหาอะไรเหรอ” น้ำเสียงงุนงงดังขึ้นภายในห้อง
สวีหยางอี้มองหน้าเว็บเถาเป่าที่เปิดทิ้งไว้ยาวเป็นพรวนพลางหรี่ตาลง ในแววตานั้นฉายแววอันตรายอยู่ไม่น้อย “ยันต์บริสุทธิ์จากตู้มหาสมบัติ 1 แผ่น 50 หยวน ระยะเวลาการใช้งาน ครึ่งเดือน ต้องเข้าสู่ขั้นเลี่ยนชี่…หิมะเขียวครามลอยละล่องบนเขาเอ๋อเหมยที่เร้นกายอยู่ลึกและมืดมิด สามารถเพิ่มพลังได้ 0.01% ที่สำคัญคือมีรสชาติล้ำเลิศ…หนึ่งชิ้นห้าร้อยหยวนงั้นเหรอ ไลฟ์สดอธิบายเคล็ดลับการฝึกตน กดโยนของขวัญหนึ่งครั้งเท่ากับห้าหยวน นายใช้เงินในจือฟู่เป่า(AliPay) ฉันกดไปทั้งหมดห้าครั้ง…รีบโผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้”
ในห้องพลันมีเสียงลงกลอนดังขึ้น เรียบร้อย…
สวีหยางอี้หยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาดู ยอดเยี่ยมไปเลย…เงินในบัญชีจำนวนหนึ่งหมื่นหยวนของเขาเหลือแค่แปดร้อยหยวนเท่านั้น
“ติ๊งต่อง…” และในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นที่หน้าเว็บ เขาจึงหันไปมองแวบหนึ่ง “ตามกฎแล้วร้านค้าออนไลน์ของเราจะสอบถามเพื่อยืนยันเป็นครั้งสุดท้าย คุณแน่ใจหรือไม่ว่าจะให้ส่งหิมะเขียวครามทางไปรษณีย์ไปที่อวี๋หยาง แจ้งให้ทราบอีกครั้ง ร้านของเราเป็นร้านค้าสำหรับผู้ฝึกตนโดยเฉพาะ ไม่มีรูปภาพประกอบ สำหรับเรื่องประสิทธิผลกรุณาปรึกษาฝ่ายบริการลูกค้า โดยทางร้านจะขอสงวนสิทธิ์ในการรับผิดชอบ ตามนโยบายกฎหมายคุ้มครองระดับ S แห่งชาติ หากมนุษย์ธรรมดากดสั่งซื้อสินค้าทางร้านเล่นๆ ทางร้านขอสงวนสิทธิ์ในการรับผิดชอบผลที่ตามมาทั้งหมด”
ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าได้ที่ ID : เมี่ยเจวี๋ย
สวีหยางอี้ใช้มืออันบริสุทธิ์ผุดผ่องตลอดยี่สิบเอ็ดปีของเขากดขอคืนเงินอย่างรวดเร็ว
เจ้าของร้านที่ใช้ชื่อว่า “วิถีบำรุงร่างกายจากเอ๋อเหมย—แบรนด์พรีเมี่ยมกว่าห้าปี” ถึงกับตกตะลึงไป
“คุณ…ยกเลิกเหรอ” เมี่ยเจวี๋ยถามอย่างไม่มั่นใจนัก
“ผมซื้อของผิด” สวีหยางอี้พิมพ์ไปโดยไร้ซึ่งความรู้สึกผิดใดๆ ทั้งนั้น “ฝึกตนอะไร เรื่องตลกทั้งนั้น นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว ยังเชื่ออะไรแบบนี้อยู่อีก”
“ไม่สิ…สหายเซียน เมื่อกี้คุณไม่ได้ยืนยันสถานะผู้ฝึกตนแล้วหรอกเหรอ ทำไมตอนนี้ถึงได้…”
“คุณดูผิดแล้ว” สวีหยางอี้กดปิดหน้าต่างเถาเป่าไปอย่างไม่กดดันอะไรทั้งนั้น ก่อนจะเปิด QQ ที่มีเพื่อนอยู่ในนั้นน้อยคนเต็มทีขึ้นมา จากนั้นก็หารายชื่อที่ใช้รูปไซบีเรียนฮัสกี้เป็นรูปประจำตัวแล้วลากเปิดออกมาอย่างแม่นยำ “คืนพรุ่งนี้เตรียมตัวเก็บกวาดให้เรียบร้อย เสร็จเรื่องแล้วเราค่อยมาคุยกันเรื่องวันนี้”
“รุ่ นพี่ พู ดอะ ไ ร…เค้า ฟั ง ไม่ รู้ เ รื่อ ง…”
สวีหยางอีหรี่ตามองอยู่ชั่วสองวินาที “แน่ใจนะ”
“พี่ พู ด ว่า โ อเ คือ่าดแท…”
“ฉันจะรายงานที่สำนักว่าให้เปลี่ยนนายหน้าคนกลางซะ ฉันสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวไม่รู้เรื่อง”
“เมื่อกี้คอมพิวเตอร์เสียน่ะ พรุ่งนี้เก็บกวาดให้เรียบร้อยใช่ไหม ไม่มีปัญหา” ผู้ใช้รูปไซบีเรียนฮัสกี้เป็นรูปประจำตัวรีบเอ่ยอย่างมีเลศนัยต่อขึ้นทันที “วางใจได้ นี่เป็นการร่วมงานกันครั้งแรกของเราเชียวนะ ฉันให้ความจริงใจร้อยเปอร์เซ็นต์!”
สวีหยางอี้จุดบุหรี่มวนหนึ่งสูบเงียบๆ ก่อนจะใช้พิมพ์ตอบไปด้วยมือข้างเดียว “ความจริงใจของนายที่ฉันใช้เงินในจือฟู่เป่าซื้อมางั้นเหรอ”
“นี่มันไม่ใช่ประเด็นสำคัญ…ตายแล้ว! ถึงเวลาสมควรแก่การนอนแล้ว SEE YOU!”
รูปประจำตัวไซบีเรียนฮัสกี้ออฟไลน์ไปอย่างรวดเร็ว ไม่เกินหนึ่งนาที เรือแห่งมิตรภาพลำน้อยนี้บทจะคว่ำก็คว่ำเอาได้ง่ายดายเสียจริง
สวีหยางอี้ไม่ได้สนใจเขา เพียงแต่ค่อยๆ สูบบุหรี่ไปพลางกดเปิดร้านค้าจากหน้าเว็บเถาเป่าที่ใช้ชื่อว่า “ข้ามผ่านยุคสมัย” ขึ้นมา
“อยู่ไหมครับ” เสียงกดทักทายจากผู้ให้บริการลูกค้าที่ใช้ชื่อว่า “เหยียนหนานจื่อ” ดังขึ้น ก่อนที่เขาจะถามต่อ
“ที่แท้ก็เป็นสหายเซียนสวีนี่เอง คำสั่งซื้อ “การบรรยายเชิงวิชาการเกี่ยวกับการฝึกบำเพ็ญและแผนการในอนาคตของข้าพเจ้า” ของท่านได้มาถึงแล้ว ผู้บรรยายหลักเป็นหนึ่งในสิบนักฝึกตนที่ยิ่งใหญ่ของหวาซย่า ที่สามารถบำเพ็ญถึงขั้นจินตัน อวิ๋นเฮ่อเจินเหริน[1]ซึ่งมีชื่อผู้ใช้ทางอินเทอร์เน็ตว่า “เร้นกายสันโดษ” จากการวิเคราะห์ด้วยหลักเหตุผลทางวิทยาศาสตร์แล้ว หากคุณได้ร่วมงานกับธุรกิจขนาดใหญ่ระดับประเทศหรือระดับโลก คุณจะไม่ใช่แค่มีชัยตอนออกเริ่ม แต่จะอยู่ที่เส้นชัยตั้งแต่เกิดเลยทีเดียว”
“…”สวีหยางอี้ชะงักไปครู่หนึ่ง “ขอโทษครับ สามารถผ่อนจ่ายได้ไหม”
“ขออภัยครับ ทางร้านของเราไม่รับการผ่อนชำระ สหายเซียนท่านนี้อาจจะยังไม่ทราบ คนที่เรียนออนไลน์กับอวิ๋นเฮ่อเจินเหรินล้วนแต่มาจากสำนักงานใหญ่ของเทียนเต้าทั้งนั้น ส่วนตัวเขาเองนั้นเป็นอาจารย์ที่รับผิดชอบสอนในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกในวิชา “ศาสตร์แห่งสังคมกับการฝึกตน” และ “โครงสร้างทางสังคมกับการฝึกบำเพ็ญตนวิทยา” หากคุณไม่มีโอกาสได้เข้าเรียนในสำนักที่ดีที่สุดในวงการฝึกตน นี่เป็นหนทางเดียวที่จะช่วยแก้ปัญหาให้ได้ สหายเซียนดูนี่สิ คอร์ส “การจัดการในระยะเลี่ยนชี่ตลอดจนการแยกแยะเส้นสายที่มีคุณภาพ” เพียงหนึ่งเทอมก็มียอดขายไปห้าแสนชุดแล้ว มากกว่าคอร์สของนักฝึกตนขั้นจินตันท่านอื่นเป็นไหนๆ อวิ๋นเฮ่อเจินเหรินเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าเป็นเซียนที่สอนคนได้เก่งที่สุดแล้ว”
“เงินผมไม่พอ”
“สหายเซียน ทุกวันนี้เราใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์ในการฝึกตน ปัจจุบันนี้ไม่ใช่แค่ยุคของการฝึกตน แต่เป็นอารยะแห่งการฝึกตน ร่างกายมนุษย์ดูดซับพลังได้อย่างไร แก่นแท้ของพลังปราณสร้างขึ้นจากองค์ประกอบใด จะเป็นโปรตอน? ควอนตัม? มันหมุนเวียนอยู่ในร่างกายมนุษย์ได้อย่างไร การฝึกพลังที่สืบทอดมาแต่โบราณจะสามารถกระตุ้นการโคจรพลังได้อย่างไร เรื่องพวกนี้อวิ๋นเฮ่อเจินเหรินล้วนวิเคราะห์ไว้อย่างละเอียดในการบรรยาย…ความหมายของผมก็คือ ถ้าพลาดไปจะถือว่าขาดทุนอย่างใหญ่หลวงเลยทีเดียว ผมเองก็เข้าใจดีว่า สถานการณ์ทางการเงินของนักฝึกตนระดับต้นหลายท่านอยู่ในภาวะขัดสน ถึงทางร้านของเราไม่รับการผ่อนชำระ แต่ก็สามารถใช้สิ่งของชำระได้”
“ชำระด้วยสิ่งของงั้นเหรอ” สวีหยางอี้ตาเป็นประกาย รีบถามต่อขึ้นทันที
ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว
การฝึกบำเพ็ญมันเป็นเรื่องหลายร้อยหลายพันปีมาแล้ว ปัจจุบันนี้การฝึกบำเพ็ญตนกลายเป็นเรื่องของอารยะ คุณสมบัติมันย่อมแตกต่างกับการฝึกตนในสมัยโบราณเมื่อหลายพันปีก่อน
และสิ่งที่เรียกว่าอารยะนั้นก็คือมนุษย์สามารถมองเห็นการปรับตัว การรับรู้ และการแสวงหาที่สอดคล้องกับจิตวิญญาณของตน จิตวิญญาณที่คนมากมายยอมรับถูกทำลายลงไป การค้นพบสร้างสรรค์ ตลอดจนการรวมศีลธรรมอันดีงามของสังคมให้ดียิ่งขึ้น ทำให้มนุษย์หลุดพ้นจากทุกพฤติกรรมทางสังคมและพฤติกรรมตามธรรมชาติที่ล้าหลัง เชื่อมโยงแนวคิดของวงศ์ตระกูล เครื่องมือ ภาษา ตัวอักษร ความเชื่อ คำสอนทางศาสนา กฎหมาย และแนวคิดอื่นๆ ที่เกี่ยวกับรัฐและประเทศชาติ
การฝึกตนในปัจจุบันค่อยๆ แทรกซึมเข้ามาอยู่ในชีวิตของเราทุกคนอย่างเงียบเชียบ ในขั้นต้นอย่างเครื่องนุ่งห่ม อาหาร ที่อยู่อาศัย อาชีพ ในขั้นสูงก็อย่างเช่นพวกพลังแข็งแกร่งอันลึกลับ และการเปรียบเทียบศักยภาพระหว่างประเทศ
ยุคแห่งวิทยาศาสตร์กับอารยะแห่งการฝึกตนที่วิทยาศาสตร์ไม่อาจอธิบายได้ กำลังค่อยๆ กลายเป็นความว่างเปล่าก่อนกำเนิดที่กำลังเติบโตไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“ง่ายมากครับ ทุกเมืองเมื่อล่าปีศาจได้หนึ่งตนจะมีการประมูลตู้มหาสมบัติ ร้านของเราได้ร่วมงานกับทางตู้มหาสมบัติอย่างแน่นแฟ้น หลังจากที่ผ่านการประเมินจากผู้จัดการประมูลตู้มหาสมบัติแล้ว ก็จะส่งการประเมินราคามาที่ร้านของเราครับ หากสิ่งของหรือของมีค่ามีราคาเท่ากัน ทางร้านจะส่งของให้ทันที แต่หากราคาไม่เท่ากันก็ขอให้สหายเซียนพยายามต่อไป แต่หากราคาสูงกว่า ทางร้านของเราจะชดเชยส่วนต่างให้กับสหายเซียน เป็นอย่างไรครับ”
สัญญาฉบับหนึ่งแปะอยู่เหนือบัญชีผู้ใช้ สวีหยางอี้อ่านอยู่นานก่อนจะพยักหน้า “ไม่มีปัญหา พรุ่งนี้ก็มีเหยื่อแล้ว แล้วนายหน้าคนกลางของผมจะติดต่อไปหาตู้มหาสมบัติ”
“ตกลงครับ ขอให้สหายเซียนสุขภาพแข็งแรง อารมณ์แจ่มใสเบิกบาน ไม่บังเกิดจิตมารชั่วกาล ไม่ต้องผ่านด่านเคราะห์ บำเพ็ญเพียรก้าวหน้าในเร็ววัน”
สวีหยางอี้ปิดคอมพิวเตอร์ลง เขาต้องนอนหลับพักผ่อนให้ดี การเลื่อนขั้นของผู้ฝึกตนถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญในการสอบจบ
อัตราการเรียนจบของสำนักเทียนเต้าไม่สูงนัก แต่คนที่จบทุกคนล้วนเป็นบุคคลที่มีผลงานยอดเยี่ยม ทว่ากลุ่มผู้ฝึกตนมีมากมายขนาดนี้ ลำพังแค่จากสถิติเบื้องต้นของหวาซย่าก็มีนับร้อยคนแล้ว พวกเซียนไม่ต้องการผู้ช่วยที่มีความสามารถหรือ ผู้อาวุโสขั้นจู้จีไม่ต้องการมือขวามาช่วยแก้ปัญหาหรือคอยทำเรื่องที่ไม่สะดวกจะทำเองบ้างหรือ นักฝึกตนในขั้นเลี่ยนชี่ไม่ต้องการเข้าร่วมพวกกลุ่มตอบปัญหาคลายความสงสัย หรือเสาะหาผู้ช่วยบ้างหรือ
โอกาสสำเร็จมีอยู่ทุกที่ แต่…คนที่มีความสามารถดีเยี่ยมจริงๆ กลับมีน้อยยิ่งกว่าน้อย!
การสอบจบการศึกษาครั้งใหญ่ในแต่ละปีนับเป็นโอกาสแสดงตัวของทุกคน เขารู้ดีว่าแม้แต่เซียนในขั้นจินตันก็ยังจับจ้องรายชื่อผู้สอบเรียนจบอยู่ไม่ละสายตา โดยกลุ่มหัวกะทิในแต่ละด้านจะประเมินศักยภาพ คุณสมบัติ และกำลังของนักศึกษา คนส่วนใหญ่เมื่อเข้าไปในสำนักเทียนเต้าแล้วจะได้รับการจัดกลุ่ม แต่สำหรับกลุ่มที่ได้รับการชมเชยจากเซียนหรือกลุ่มองค์กรขั้นสูงนั้น แม้เขาจะไม่รู้ว่าสวัสดิการเป็นอย่างไรแต่มันต้องดีกว่าตอนนี้มากแน่
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่งแล้วหลับตาลง การสังหารปีศาจในวันพรุ่งนี้เป็นการสังหารปีศาจครั้งแรกของเขา และเขาจะต้องทำให้สำเร็จให้ได้!
ทั้งคืนนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น เวลาจึงผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันต่อมาสวีหยางอี้ยังคงนั่งดื่มชาอยู่ในตำแหน่งเดิม มอง “ผู้ใต้บังคับบัญชา” ทั้งหมดตรงหน้าคุยกันอย่างไม่แยแส ก่อนจะหยิบหนังสือพิมพ์ของวันนี้ขึ้นมาด้วยความสงบเยือกเย็น
เมื่อก้าวเข้าสู่หนทางการฝึกตน จะเกิดสิ่งที่เรียกว่าพลังจิต หรือพูดง่ายๆ ก็คือ มันคือการที่มนุษย์คนหนึ่งมี “หนวดสัมผัส” นับไม่ถ้วนแผ่กระจายไปทั่ว และใกล้ชิดกับโลกใบนี้ผ่าน “หนวดสัมผัส” นั้น
หรือจะพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ พวกเขาไม่จำเป็นต้องใช้ตามองสิ่งต่างๆ หรือจะบอกว่า “วิสัยทัศน์” ของพวกเขาสามารถมองเห็นอุปสรรคที่แท้จริงได้อย่างทะลุปรุโปร่งก็ว่าได้ เช่นว่า เขาสามารถมองเห็นสิ่งที่คนธรรมดาในเมืองซานสุ่ยมองไม่เห็นได้ ในขณะที่คนธรรมดาที่แม้สิ่งนั้นจะวางอยู่ตรงหน้า พวกเขาก็ยังไม่สะทกสะท้านอยู่ดี
ตอนนี้เขาใช้หนังสือพิมพ์บังหน้า จึงเหมือนกับว่าว่าเขามองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ทว่าพลังจิตกลับกวาดสายตามองท่าทางของคนตรงหน้าทุกคนไปแล้วรอบหนึ่ง
คนที่คุยกันก็คุยกันไป คนแทะเมล็ดแตงโมก็แทะไป ไม่มีใครเห็นเขาอยู่ในสายตาสักคน
เขาจะไปสังหารปีศาจ ย่อมต้องการหน่วยทำลายล้างเป็นกองหนุน
เขาเองก็ไม่ได้คาดหวังว่ากองหนุนทำลายล้างจะมีประโยชน์อะไรหรอก แต่ที่สำคัญก็คือ…หลังจากเปิดสงครามกันแล้ว ทั้งสองฝ่ายย่อมยอมทุ่มความเสี่ยงพลีชีพหมดหน้าตัก ด้านหนึ่งเป็นยอดมนุษย์ในกลุ่มมนุษย์ธรรมดา ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นเศษซากมีชีวิตที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยบรรพกาล ปีศาจที่อายุน้อยที่สุดก็ยังเห็นจะอายุมากกว่าเขาเป็นสิบกว่าปี หากเขาไม่สังหารอีกฝ่ายให้ราบแล้วพวกมันหนีรอดไปได้ เมืองทั้งเมืองได้ราบเป็นหน้ากลองแน่!
ขอแค่กองหนุนทำลายล้างขวางมันไว้ได้ครู่หนึ่ง…ขอเพียงครู่สั้นๆ เท่านั้น รัฐบาลกับสมาชิกสำนักเทียนเต้าก็จะมีกำลังจัดการเรื่องนี้ให้เงียบลงไปได้
รัฐบาลหวาซย่ามีกำลังแข็งแกร่งแตกต่างจากทางยุโรปและอเมริกา หรือประเทศที่มีหลายพรรคการเมืองโดยสิ้นเชิง
ปัญหาก็คือตอนนี้…จะทำอย่างไรให้คนที่เห็นว่าเขาขัดหูหัดตาพวกนี้เชื่อฟังเขาแต่โดยดี
——————————————————————————————–
[1] อวิ๋นเฮ่อเจินเหริน(云鹤真人) นักเขียนท่านหนึ่งของจีน ผลงานเขียนที่โด่งดังคือ ฮุ่นตุ้นตานเสิน (混沌丹神)