ยุทธเวทผลาญปีศาจ - เล่มที่ 2 บทที่ 60 เว็บไซต์ผู้ฝึกตนแห่งหวาซย่า (1)
“มีคอมฯ ไหม?” สวีหยางอี้เอ่ยถาม
“มีค่ะ!” โจวถิงถิงรีบไปหยิบแล็ปท็อปเครื่องเก่าๆ มาทันที หลังจากสวีหยางอี้เปิดเครื่องก็รีบพิมพ์ URL ที่คุ้นเคยลงไป
วินาทีต่อมา มือของโจวถิงถิงก็ยื่นเข้ามากลางคันพร้อมกับพับหน้าจอแล็ปท็อปลงทันที เนินอกกระเพื่อมขึ้นลงเล็กๆ สีหน้าเริ่มซีดเซียว ดูท่าทางเหมือนตกใจกับอะไรบางอย่าง
สวีหยางอี้ยักคิ้วขึ้นเป็นนัยให้อีกฝ่ายอธิบาย
“เอ่อ…” โจวถิงถิงเพิ่งรู้สึกตัวว่าตัวเองทำอะไรลงไป ก่อนพูดขึ้นอย่างหวั่นเกรง “เอ่อ… คุณอาจจะชินกับการใช้อินเทอร์เน็ต แต่ทำแบบนี้ไม่ได้…”
“เว็บไซต์ผู้ฝึกตนของหวาซย่าเป็นเว็บที่ต้องเสียเงิน หินวิญญาณระดับต่ำหนึ่งก้อนต่อหนึ่งอาทิตย์ อีกอย่างเงินเดือนของเดือนนี้ ฉันใช้หมดแล้ว ดังนั้น…” เธอเลื่อนเม้าท์ไปคลิกที่โปรแกรมสีเขียวบนหน้าจอ “ต้องใช้โปรแกรมนี้เข้า…”
“เป็น VPN เหรอ?” สวีหยางอี้ถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะไม่เคยเห็นสิ่งนี้ในเทียนเต้ามาก่อน
“นี่ไม่ใช่ VPN ธรรมดา” โจวถิงถิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ “นี่คือ Green VPN !”
“ฉันหามันเจอจากโปรแกรมของผู้ฝึกตนหลายร้อยโปรแกรม หากไม่จ่ายหินวิญญาณตามระยะเวลาที่กำหนด ทางแอดมินของเว็บไซต์จะปิดกั้นที่อยู่ IP เครื่องนั้นทันที แต่ Green VPN สามารถป้องกันการปิดกั้นนั้นได้! โดยการใช้พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์[1]ที่ขึ้นชื่อเรื่องการซ่อนตัวมากที่สุด! อย่างน้อยฉันก็ไม่เคยถูกจับได้จนกระทั่งตอนนี้! และที่สำคัญก็คือมันสามารถจ่ายเป็นหวาซย่าปี้ได้!”
สวีหยางอี้ยิ้มเจื่อนๆ เพราะรู้สึกราวกับว่าความรู้ของตัวเองช่างตื้นเขินนัก
เว็บไซต์ถูกเข้าถึงอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่าใครเป็นคนออกแบบเว็บไซต์ มีองค์ประกอบภาพของริ้วเมฆแดนเซียนล่องลอย มีวีรบุรุษแบกกระบี่เหาะเหินอยู่หุบเขา เหนือรูปพวกเขาขึ้นไปคือฟอนท์ตัวหนังสือสีหมึกเขียนว่า เว็บไซต์ผู้ฝึกตนแห่งหวาซย่า
ตรงกลางมีเนื้อหาประมาณสามส่วนหน้าของหน้าเว็บไซต์ ขนาบทางด้านซ้ายขวาเป็นแถบสีขาวว่างเปล่า ทางด้านซ้ายมีตัวหนังสือเขียนว่า วิถีที่ว่าหาใช่วิถีที่แท้จริง ทางด้านขวามีข้อความเขียนว่า สิ่งใดคือสัจจะ สิ่งใดคือวิถี
โจวถิงถิงยกแก้วชามาอย่างตื่นเต้น ก่อนนั่งลงด้านข้างสวีหยางอี้ราวกับคนรับใช้ส่วนตัว เธอชะเง้อคอมองราวกับจะมุดหน้าเข้าไปในจอ แต่ก็พยายามบังคับตัวเองไว้ และแสร้งทำเป็นหญิงสาวลูกคุณหนูผู้เรียบร้อย
“เธอใช้ VPN ธรรมดาเชื่อมต่อก็ได้ไม่ใช่เหรอ?” สวีหยางอี้เลิกคิ้วเอ่ยความอย่างสงสัย
“มันไม่เหมือนกัน!” โจวถิงถิงตอบกลับเสียงดังฟังชัด ก่อนไอกระแอมปรับน้ำเสียงของตัวเองลง “ถ้าใช้ VPN ธรรมดา พวกเราก็เข้าถึงข้อมูลได้แค่หน้ารายการและข้อมูลการค้า แต่ตระกูลเล็กๆ อย่างพวกเรา จะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญๆ อย่าง แก่นการฝึกตน การประกาศภารกิจ ข้อมูลการประชุมครั้งใหญ่ และข่าวสารในโลกผู้ฝึกตนได้”
“ทำไม?”
“เพราะว่าเว็บไซต์นี้ต้องใช้ชื่อจริงในการยืนยันตัวตน…” โจวถิงถิงถอนหายใจอย่างละเหี่ยใจ “หากถูกตรวจสอบว่าเป็นผู้ฝึกตนตามชายแดนอย่างพวกเรา พวกเราคงหมดสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลต่างๆ แน่นอน…
เธอยังพูดไม่ทันจบ สวีหยางอี้ก็เข้าใจขึ้นมาทันที
เว็บไซต์นี้ ทางเทียนเต้าเปิดเป็นเว็บไซต์สาธารณะ ไม่ว่าภูมิภาคไหนก็มีสิทธิ์เข้าถึงได้ หลายปีที่ผ่านมา นี่เป็นเว็บไซต์เว็บเดียวที่พวกสวีหยางอี้รู้จักและคุ้นเคย และเขาก็รู้ดีว่าเว็บไซต์ผู้ฝึกตนแห่งหวาซย่านี้มีวิธีอัพเกรดสิทธิ์เพียงสองวิธีเท่านั้น
วิธีแรกก็คือ คุณจะต้องสร้างคุณประโยชน์ให้แก่โลกผู้ฝึกตน และเมื่อเลื่อนขั้น คุณก็จะสามารถเข้าถึงโพสต์สำหรับ “สิทธิ์เข้าถึง888ครั้ง” กับ “สิทธิ์เข้าถึง100ครั้ง” ได้ สำหรับผู้ฝึกตนขั้นเลี่ยนชี่ทั่วไปมีสิทธิ์เข้าถึงอยู่ที่ 50 ครั้ง ขั้นจู้จีอยู่ที่ 100 ครั้ง ส่วนขั้นจินตันคือตามใจผู้ใช้เลย ถึงอย่างไรก็มีแค่สิบคน
วิธีที่สองค่อนข้างง่าย ก็คือการเติมเงิน
เนื่องจากปัจจุบันนี้ ข้อมูลของโลกผู้ฝึกตนและโลกของมนุษย์มีการติดต่อสื่อสารกันตลอดเวลา บางทีข้าราชการระดับสูงส่วนมากอย่างเช่นตระกูลของฉู่เจาหนาน คงมีข้อมูลและเข้าใจบางเรื่องได้อย่างทะลุปรุโปร่งเสียยิ่งกว่าผู้ฝึกตนขั้นเลี่ยนชี่ส่วนใหญ่อย่างแน่นอน
หากล่วงรู้ข้อมูลสำคัญแล้ว จะมีใครบ้างที่ไม่อยากฝึกตน ถึงแม้พวกคนที่อายุมากเหล่านี้จะฝึกกันไม่ได้แล้ว แต่พวกเขายังมีลูกหลานสืบทอดต่อไปไม่รู้จบ
หากยังไม่ใช่ผู้ฝึกตน ก็ไม่สามารถเข้าสู่ระบบการยืนยันตัวตนได้ ดังนั้น ช่วงยุค 90 เป็นต้นมา หลังจากเครือข่ายอินเทอร์เน็ตครอบคลุมทั่วประเทศหวาซย่า บรรดาผู้มีอำนาจสูงสุดจึงประกาศให้ลูกหลานของคนธรรมดาที่ “ผ่านเงื่อนไข” สามารถเข้าถึงข้อมูลของโลกผู้ฝึกตนได้ โดยไม่จำกัดการเข้าถึงอยู่แค่กลุ่มตระกูลนักฝึกตน
หลังจากนั้นจึงมีระบบการเติมเงินนี้ขึ้นมา
ระดับลีดเดอร์ หินวิญญาณระดับต่ำหนึ่งหมื่นก้อน
ระดับโกลด์ลีดเดอร์ หินวิญญาณระดับกลางหนึ่งพันก้อน
ระดับไดมอนด์ลีดเดอร์ หินวิญญาณระดับสูงหนึ่งร้อยก้อน
ระดับซูพรีม หินวิญญาณชั้นเลิศสิบก้อน
โดยปกติแล้ว เมื่อถึงระดับซูพรีม คุณจะสามารถเข้าถึงโพสต์ของจินตันเจินเหรินได้
แต่สำหรับตระกูลที่อยู่ตามชายแดน จะเอาหินวิญญาณมากมายขนาดนั้นมาเติมเงินได้อย่างไร
เดิมทีเหล่าผู้มีอำนาจต้องการจะสร้างความสมดุลระหว่างโลกโลกผู้ฝึกตนกับโลกมนุษย์ แต่ตอนนี้ใครจะไปรู้ว่าเวทมนตร์ของเงินตรามันจะทรงพลังอย่างไร้ขีดจำกัด หลังจากประกาศเงื่อนไขออกไป ก็มีชาวมนุษย์ยี่สิบสามสิบคนแห่สมัครระดับซูพรีมกันทันที ทำเอาแผนกลูกค้าสัมพันธ์ของเว็บไซต์ผู้ฝึกตนแห่งหวาซย่างงเป็นไก่ตาแตกไปตามๆ กัน
สวีหยางอี้หยุดคิดลงแต่เพียงเท่านี้ เขาคลี่ยิ้มพลางกรอกแอคเคานท์ของตัวเอง และเข้าสู่ระบบในทันที เขารู้สึกถึงดวงตาของโจวถิงถิงที่กำลังจ้องมองอยู่ตลอดเวลา
“TD… 01…” โจวถิงถิงมองแค่แวบเดียวก็ตะโกนขึ้นเสียงแหลมจนแทบทะลุเพดานออกมา “TD! เทียนเต้า! คุณเป็นคนจากเทียนเต้า! แล้ว แล้วยัง 01 อีกงั้นเหรอ?!”
เธอตกใจเอามือปิดปาก ถึงแม้จะไม่ใช่องค์กรที่ตัวเธออยากเข้าไปอยู่ที่สุด แค่ว่าเธอก็รู้ดีว่านอกจากสามองค์กรใหญ่อย่างตู้มหาสมบัติ อวี้หลินเว่ยและ CSIB แล้ว ยังมีเทียนเต้าอยู่อีก ซึ่งเป็นองค์กรที่มีผู้ฝึกตนระดับสูงอยู่มากมาย! และผู้ฝึกตนขั้นจู้จีที่มีอยู่ในปัจจุบันก็จบมาจากเทียนเต้าทั้งนั้น
เขาเป็นยอดฝีมือระดับที่ได้รับการยอมรับงั้นเหรอ?
ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ… ตัวอักษร TD สองตัวนี้ จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติก่อน ซึ่งก็คือต้องจบการศึกษาอย่างเป็นทางการจากเทียนเต้าที่ขึ้นว่าสุดยอดของความยาก! นักเรียนที่จบการศึกษาในแต่ละรุ่นล้วนแต่ถูกจับจ้องไปทำงานในองค์ใหญ่ๆ ทั้งนั้น คนที่มีตัวอักษร TD อยู่ข้างหน้าล้วนแต่เป็นผู้สำเร็จการศึกษาจากเทียนเต้าอย่างเป็นทางการแล้ว!
ยิ่งไปกว่านั้น… ตัวเลข 01 นี้มัน…
“นาย นาย ไม่สิ คุณ…” เธอหายใจกระหืดกระหอบขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากที่เธอรู้ถึงตัวตนของสวีหยางอี้ ความคิดแรกที่แล่นเข้ามาก็คือตามเกาะเท่าที่จะตามได้! ขอแค่อีกฝ่ายยินยอมช่วยเหลือตัวเธอ อะไรก็ยอมทั้งนั้น เว้นเสียแต่ใช้ร่างกายเข้าแลก
แต่… พอเธอเริ่มมองรูปร่างหน้าตาของสวีหยางอี้ดีๆ เธอก็เริ่มคิดว่า หากต้องใช้ร่างกายเข้าแลก ก็ใช่ว่าจะตกลงกันไม่ได้สักหน่อย…
01 หมายความว่าอันดับหนึ่งของเมือง!
ที่เป็นผู้ชนะจากศึกการประลอง!
เป็นบุคคลสำคัญที่ทุกฝ่ายต่างอยากได้!
“คุณ… คุณคือผู้ชนะงั้นเหรอ?” ดวงตาของเธอเปล่งประกายเสียยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด นึกไม่ถึงว่าตัวเองจะพบเข้ากับสิ่งล้ำค่าขนาดนี้
“เรื่องมันผ่านมาแล้ว” สวีหยางอี้ตอบกลับเสียงเรียบพลางคลิกไปที่หัวข้อ “ลิสต์จัดอันดับ”
ไม่มีใครรู้เลยว่า ตอนที่รหัส ID เลขที่ TD-01 เข้าสู่ระบบ เสียง “ติ๊งๆ” จากจอคอมฯ จำนวนมากของสามองค์กรใหญ่และเทียนเต้าล้วนดังขึ้นพร้อมกันระคายหู!
“ตรวจเจอข้อมูลที่หายไป… ตรวจเจอข้อมูลที่หายไป…” นาทีนี้ หน้าหุ่นยนต์ที่สาขาย่อยของมณฑลหมิงสุ่ยลืมตาขึ้นทันที ตัวเลข 01กลิ้งกรอกอยู่ในเบ้าตาไม่หยุด “กำลังระบุตำแหน่ง…”
“เชื่อมต่อข้อมูล… ระบุตำแหน่ง…”
ณ สาขาย่อยของอวี้หลินเว่ยในมณฑลหมิงซาน มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังพลิกนาฬิกาดูอย่างสงสัย เมื่อเห็นจุดสีแดงกะพริบอยู่บนหน้าปัด รูม่านตาก็หดเล็กลงทันที
วินาทีถัดไป เธอรีบเดินมาที่ห้องทำงานห้องหนึ่งอย่างไม่ลังเล เธอพยามสะกดความตื่นเต้นเอาไว้ จากนั้นก็เคาะประตูห้อง และเปิดเข้าไปโดยไม่รอให้คนด้านในขานรับ น้ำเสียงเจือความร้อนรนใจดังขึ้น “ผู้อำนวยการคะ คนที่เบื้องบนต้องการตัวปรากฏตัวแล้วค่ะ!”
ด้านหน้าของเธอคือผู้เฒ่าอายุราวเจ็ดสิบกว่าปีในชุดคลุมยาวสีฟ้า ใส่แว่นเลนส์คริสตัลไร้ขอบ มือที่จับพู่กันอยู่กำลังตวัดเขียนตัวหนังอย่างบรรจง ท่าทางดูกระปรี้กระเปร่าจนไม่รู้สึกถึงความแก่
“ช่างเป็นตัวหนังสือที่สวยจริงๆ เลยค่ะ!” เลขาฯที่ยืนถือผ้าขนหนูอยู่ข้างๆ ไม่สนผู้หญิงที่เข้ามาแม้แต่น้อย “ครั้งนี้ผู้อำนวยการเฉินช่างเขียนได้อย่างมีชีวิตชีวาจริงๆ ดูขีดซู่โกว[2]ของตัวอักษรนี้สิคะ สวยพอๆ กับของหลิวกงเฉวียน[3]เลยค่ะ”
ผู้เฒ่าคลี่ยิ้มพลางวางพู่กันลง แล้วจึงยื่นมือไปคว้าผ้าขนหนูผืนอุ่นมาเช็ดมือ ก่อนเงยหน้าขึ้นมา “คนที่เบื้องบนต้องการตัวอะไรเหรอ?”
“ทั้งอวี้หลินเว่ย CSIB และตู้มหาสมบัติก็มีคนที่ต้องการตัวทั้งนั้น” ผู้เฒ่าจัดระเบียบชุดคลุมตัวเอง และไว้ห้างบนโซฟาอย่างสบายใจ เขากวักมือ จากนั้นแก้วชาอุ่นๆ ก็ถูกส่งมามือทันที “ใครเหรอ?”
คนที่ท่านระบุให้ตามหาตัวตั้งแต่สามปีที่แล้ว เมื่อวันที่แปดเดือนเก้าค่ะ!” ผู้หญิงพูดขึ้นเสียงแผ่ว “เมื่อครู่เพิ่งตรวจสอบเจอ! พบรหัสประจำตัวของเทียนเทียนเต้าของเขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง! และยังปรากฏตัวขึ้นที่มณฑลหมิงสุ่ยของเราด้วยค่ะ!”
ดวงตาผู้เฒ่าคุวาว เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งเฮือก “แน่ใจว่าเป็นเขา?”
“ไม่ค่อยแน่ใจค่ะ!”
“ยังจะรออะไรอีก?” ผู้เฒ่าคลี่ยิ้มเยือกเย็นพลางวางแก้วชาลง “รีบตรวจสอบเข้าสิ!”
“ได้ค่ะ!”
“เดี๋ยวก่อน” ขณะที่ผู้หญิงกำลังจากออกจากประตู ผู้เฒ่าก็ยิ้มออกมา “ถ้าแน่ใจแล้ว อย่าเพิ่งเคลื่อนไหวตามลำพัง เข้ามาแจ้งฉันก่อน”
“รับทราบค่ะ!”
หลังจากผู้หญิงจากไป เลขาฯ ก็คลี่ยิ้ม “ผู้อำนวยการไม่เห็นต้องใส่ใจขนาดนี้ก็ได้นี่ครับ”
“เจ้าทึ่ม…” ผู้อำนวยการหลับตาลง รอยยิ้มแลดูเยือกเย็นเสียอีกกว่าน้ำแข็ง “นายไม่รู้อะไร…”
นั่นมันผู้ฝึกตนที่หนีรอดมาจากน้ำมือของจูหงเสวี่ยเชียวนะ!”
ขั้นจู้จีทั้งแปดคนตายหมดในสนาม! สี่คนในนั้นเป็นถึงขั้นจู้จีระดับสมบูรณ์! เหตุการณ์นองเลือดที่ศพกองเป็นภูเขา แต่เขากลับหนีออกมาได้!
ที่สำคัญไปกว่านี้… เขาเป็นคนที่บุคคลระดับสูงอย่างแท้จริงต้องการตัว!
เหล่าบุคคลระดับสูงมาสนใจขั้นเลี่ยนชี่ธรรมดาๆ คนหนึ่งทำไม?
ดูเหมือนเขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมขั้นเลี่ยนชี่ธรรมดาๆ ถึงได้รับความสนใจจากเจ้านายตัวเองขนาดนี้
ในช่วงเวลาเดียวกัน ท่ามกลางผืนป่าดงดิบ มีคนราวสามสิบสี่สิบคนกำลังกระโดดอยู่บนต้นไม้สูงร่วมยี่สิบเมตร
“อยู่ห่างจากเป้าหมายสี่สิบเมตร!” ผู้ชายชุดลายพรางใส่แว่นกันลม บนเลนส์แว่นปรากฏข้อมูลสีแดงขึ้น “ได้รับการยืนยันแล้ว เป็นปีศาจขั้นเลี่ยนระดับปลาย แล้วยังมีสัตว์ประหลาดไม่ทราบขนาดตัวแน่ชัดอยู่ด้วยครับหัวหน้าฉู่”
“ปิดกั้นช่องทางให้หมด” น้ำเสียงอันเยือกเย็นของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นในหูฟังของทุกคน “ปฏิบัติการตามแผน”
“ครับ!” “รับทราบ!”
มีคนประจำอยู่ด้านหลังเพียงสองคน คนหนึ่งใส่ชุดคลุมหมวกฮู้ด มือทั้งสองข้างถือปืนมันเงาสะดุดตา ส่วนอีกคนกำลังตวัดนิ้วไปมาบนอุปกรณ์สื่อสารเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
ขณะนั้นเอง นาฬิกาของทั้งสองคนก็ส่งเสียงดังขึ้น จากนั้นพวกเขาก็หยุดฝีเท้าลงพร้อมกันหมด
“นี่มัน…” เสียงสั่นเครือของผู้ชายชุดหมวกฮู้ดดังขึ้นเป็นคนแรก “เขายังมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ?”
“เกาเย่!” เขารีบหันไปหาคนข้างๆ ทันที ในเวลาเดียวกัน เสียงตะโกนตอบรับอย่างดีใจก็ดังขึ้น “เข้าใจแล้ว!”
ข้อมูลที่ปรากฏขึ้นบนอุปกรณ์สื่อสารก่อนหน้านี้หายไปทันที และถูกแทนที่ด้วยข้อมูลบางอย่างแทน
——————————————————————————–
[1] พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ เป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่เป็นตัวกลางในการค้นหาข้อมูลตามคำขอของเครื่องลูกข่ายจากเซิร์ฟเวอร์อื่น จุดประสงค์เพื่อความปลอดภัยจากการถูระบุตัวตนจาก IP
[2] 竖勾ซู่โกวคือชื่อเรียกเส้นขีดของตัวอักษรจีน คือการลากเส้นตรงจากบนลงล่างและตวัดปลายหางขึ้น
[3] 柳公权หลิวกงเฉวียน เป็นผู้ที่คิดค้นหนึ่งในสี่รูปแบบการเขียนอักษรจีนตัวบรรจง มีองค์ประกอบเส้นคมชัด