ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 117
เช้าวันต่อมาจิวโมไป๋ลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำล้างหน้า คนอื่นกำลังหลับเป็นตาย จิวโมไป๋ไม่ปลุก เขาเรียกเสี่ยวไป๋ เสี่ยวเหม่ยที่ลืมตาใสแจ๋วมองเขาอยู่ ให้พวกมันกระโดดขึ้นไหล่ก่อนจะออกจากห้อง
หน้าอาคารหอพักชายสะอาดเรียบร้อย ไม่มีร่องรอยในการต่อสู้เหลือทิ้งไว้ จิวโมไป๋ไม่สนใจ เขาเดินออกจากมหาวิทยาลัย ไปที่ร้านอาหารตระกูลจิว
เพราะเป็นช่วงเช้า ร้านอาหารของเขาเปิดแค่ชั้นหนึ่ง เป็นอาหารรองท้อง จิวโมไป๋สั่งโจ๊กง่ายๆ สามชามใหญ่ ก่อนจะนั่งที่มุมหนึ่งกินโจ๊กอย่างช้าๆ เสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมยขึ้นมานั่งกินบนโต๊ะ เพราะความน่ารักของพวกมันทำให้คนหันมามอง แต่ก็ไม่นานเพราะเป็นช่วงเช้าที่ทุกคนเร่งรีบ พวกเขาแค่มองก่อนหันกลับไปกินอาหารของตนเอง
กินอาหารเสร็จจิวโมไป๋ก็เดินไปดูเสี่ยวหวง โดยไม่ลืมเขาเอาอาหารไปให้มันด้วย
เสี่ยวหวงเห็นจิวโมไป๋มันรองมอออ ลากยาว จิวโมไป๋ลูบหัวมันเบาๆ
หนิงหานเป๋ยเดินออกจากห้อง ผ่านมาทางหลังร้านเห็นจิวโมไป๋พอดี
“คุณจิว ถ้ามาถึงแล้วเรียกผมเลยก็ได้เลยครับ ไม่ต้องรอผม”หนิงหานเป๋ยร้องทักทายอย่างเกรงใจเพราะคิดว่าจิวโมไป๋มารอตนเอง
จิวโมไป๋โบกมือ“ผมไม่ได้มารอ ผมแค่มากินอาหารเช้า พี่หนิงไปทานอาหารทำธุระก่อนเถอะครับ ผมไม่รีบ”
หนิงหานเป๋ยพยักหน้ารับก่อนเดินไปห้องครัวจัดการอาหารเช้าของตัวเอง
เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง เขามองไปห้องทำงานชั้น 3 เห็นห้องสว่าง เขาเรียกเสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมย เดินขึ้นไป เห็นพ่อและแม่ของเขากำลังทำความสะอาดห้องอยู่
“ลูกมาทำอะไรตั้งแต่เช้า”แม่ฮันหวูเหยาถามอย่างแปลกใจ
“ผมมาพาพี่หนิงไปสมัครงานกับคนรู้จักครับ เลยจะฝากแม่ดูแลเจ้าสองตัวนี้จนถึงบ่าย”จิวโมไป๋ชี้ไปที่เสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมย
แม่ฮันหวูเหยาพยักหน้าไม่ได้ถามอะไร แต่เธอสนใจเจ้าตัวเล็กทั้งสองตัว เสี่ยวไป๋เห็นแม่ฮันหวูเหยามันก็กระโดดไปหาเธอด้วยท่าทางออดอ้อน มันกินแค่โจ๊กมันยังไม่อิ่ม
แม่ฮันหวูเหยาเหมือนรู้เธอ พาเสี่ยวไป๋ไปทันที โดยไม่ลืมหันมาเรียกเสี่ยวเหมย
“ตามมาเร็วฉันจะทำอาหารให้กิน”
เสี่ยวเหมยได้ยินดังนั้นก็แปรพักตร์จากจิวโมไป๋ตามแม่ฮันหวูเหยาไปทันที
จิวโมไป๋ยักไหล่ก่อนลาพ่อจิวโมเทียนลงไปข้างล่าง
พอดีกับที่หนิงหายเป๋ยแต่งตัวเสร็จ เขาอยู่ในเสื้อเชิตสีขาวกางเกงยาวสีดำสุภาพ จิวโมไป๋พาหนิงหานเป๋ยไปที่เขตเศรษฐกิจ ตั้งอยู่เกือบใจกลางเมืองเทียนซู เขตเศรษฐกิจเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ภายในมีอาคารสำนักงานธุรกิจต่างๆในเขตรอบนอก ตรงใจกลางเศรษฐกิจมีสำนักงานจัดหางาน สำนักงานการลงทุน และ สำนักงานซื้อขายทรัพยสิทธิ
จิวโมไป๋ไปที่สำนักงานซื้อขายทรัพยสิทธิ เป็นสำนักงานหรูสูง 40 ชั้น จิวโมไป๋เดินตรงไปที่เค้าเตอร์หน้าสุดทันที
“ผมขอดูข้อมูลของบริษัทเชอรี่”
พนักงานสาวยิ้มรับ เธอไม่สนใจดูอายุของจิวโมไป๋ ทำหน้าที่อย่างจริงจัง หนิงหานเป๋ยได้ยินดังนั้นก็หันมามองจิวโมไป๋
“คุณจิว บริษัทเชอรี่…”
จิวโมไป๋ยกมือห้าม หนิงหานเป๋ยจริงหยุดพูด
พนักงานสาวกดบนหน้าจอโฮโลแกรมไม่กี่ครั้งภาพก็เปลี่ยนไป เป็นข้อมูลจำนวนมากและมีแท่งกราฟสีแดงติดลบ เด่นออกมา
“บริษัทเชอรี่ ลงทะเบียนบริษัท ในฐานะบริษัทพัฒนาเทคโนโลยี่ บริษัทจกทะเบียนวันที่ 25 เดือน 12 รุ่งอรุณที่ 3 มีสิทธิบัตรในครอบครอง 31 ใบ….”พนักงานสาวรายงานด้วยน้ำเสียงนิ่งลึกน่าฟัง
“ปัจจุบันเพราะ กำลังพัฒนาเทคโนโลยี่สั่งการคลื่นสมอง แต่ค่าใช่จ่ายในการพัฒนาสูงเกินไปทำให้ บริษัทต้องกู้เงินจำนวนมาก ทำให้ในตอนนี้หุ้นของบริษัทลดลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่กลางปีนี้หุ้นลดลง 800%”พนักงานสาวหยุดเล็กน้อยเงยหน้ามองจิวโมไป๋“ผู้ถือหุ้น 100% คือเจ้าของบริษัทและดำรงตำแหน่ง CEO ทำให้แม้หุ้นจะตกแต่ก็ไม่มีผลกระทบใดๆกับตัวบริษัท”
จิวโมไป๋ต้องการซื้อบริษัทเทคโนโลยี่โลกเสมือนขนาดกลาง ที่กำลังจะปิดตัวลง เหตุผลเพราะว่าอีกฝ่ายมีสิทธิ์บัตรเทคโนโลยี่โลกเสมือนหลายใบ ทำให้จิวโมไป๋ไม่ต้องเริ่มต้นสร้างบริษัทใหม่ตั้งแต่ต้น ต้องขอบคุณเงินของตระกูลเซียว กว่าหนึ่งแสนสี่หมื่นล้านเครดิต ทำให้เขาสามารถซื้อบริษัทโลกเสมือนได้โดยตรงลดเวลาของเขาได้มาก
บริษัทที่จิวโมไป๋จะซื้อ บริษัทเชอรี่ โลโก้เป็นรูปก้านเชอรี่ยาวห้อยลูกเชอรี่สีแดงสดสองผล ในอนาคตอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ราคาของบริษัทจะตกต่ำยิ่งกว่านี้มาก หนิงหายเป๋ยที่มีเงินจำนวนหนึ่ง เขาเข้าซื้อบริษัทนี้ไป…
เพราะมีเงินในมือจำนวนมาก จิวโมไป๋ไม่เสียเวลารอให้บริษัทนี้ราคาตก เขาคิดจะเข้าซื้อโดยตรง
“บริษัทนี้ลงทะเบียนการขายไหม?”จิวโมไป๋ถาม
“บริษัทเชอรี่ ลงประกาศขายไว้ แต่เป็นการขายแบบมีเงื่อนไข ถ้าคุณต้องการซื้อบริษัทเชอรี่ คุณต้องไปพูดคุยกับเจ้าของบริษัทโดยตรง”พนักงานสาวตอบ
จิวโมไป๋พยักหน้าก่อนถาม
“มูลค่าของบริษัทเชอรี่ ปัจจุบันอยู่ที่เท่าไหร่?”
“หุ้น 100% มูลค่าอยู่ที่ 2.45 หมื่นล้านเครดิต”พนักงานสาวตอบ
“ขอบคุณ… ผมขอหมายเลขติดต่อเจ้าของบริษัทเชอรี่”จิวโมไป๋พยักหน้า
“หมายเลขติดต่อ… ที่อยู่… “
จิวโมไป๋เดินออกจากสำนักงานซื้อขายทรัพยสิทธิ เขาไปที่บริษัทเชอรี่ ตั้งอยู่ในเขตเทียนจิงอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยเทียนซูมากนัก
ก่อนไปถึงเขาติดต่อเจ้าของบริษัท อีกฝ่ายตอบรับการเข้าพบทันที ที่รู้ว่าเขาจะมาซื้อบริษัท
ไม่นานจิวโมไป๋ก็มาถึง สำนักงานบริษัทเชอรี่ เป็นสำนักงาน 6 ชั้นสีน้ำตาลเข้มทรงทันสมัย
เขาและหนิงหานเป๋ยเข้าไปในสำนักงาน เป็นห้องโถงสูงโล่งกว้างมีพนักงานแค่ 2 คนที่เค้าเตอร์แม้แต่ยามรักษาความปลอดภัยก็ไม่มี จิวโมไป๋เดินไปที่เค้าเตอร์ต้อนรับ
“ผมจิวโมไป๋ มาพบประธานบริษัท”จิวโมไป๋พูด
พนักงานสาวต้อนรับก้มดูภาพโฮโลแกรมไม่นาน เธอก็เงยหน้ายิ้มให้จิวโมไป๋และหนิงหานเป๋ย
“ท่านประธานรออยู่ห้องรับรองแล้วค่ะ เชิญตามฉันมาเลย”พนักงานสาวหันไปพูดกับเพื่อน ให้แทนที่เธอก่อนจะพาจิวโมไป๋ขึ้นลิฟท์ส่วนตัวไปชั้น 6 ตรงไปที่ห้องประธานโดยตรง
ในห้องโล่งตกแต่งอย่างหรูหรา ชายวัยกลางคนในชุดสูททางการกำลังยืนรออยู่