ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 121
จิวโมไป๋เดินดูร้านขายสัตว์ต่างๆ ส่วนมากจะเป็นสัตว์กินพืชที่โดดเด่นในความน่ารัก เช่นหมา แมว กระต่าย กระรอก แรคคูน หนูฯ เพราะพลังธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นทำให้สัตว์ต่างๆมีรูปลักษณะเปลี่ยนไป ตัวอย่างแมวพันธุ์ดรากอนหลี่ที่อยู่ด้านหน้าของเขา มีขนาดใหญ่ขึ้นลวดลายตามตัวคมชัดราวกับเสือดาวสีขาวลายน้ำตาลตัวเล็ก กระต่ายสีชมพูหูยาว กระรอกบินสีดำที่สามารถกระพือปีกบินได้เหมือนนก
จิวโมไป๋ละความสนใจจากพวกมัน เขาไม่ต้องการสัตว์น่ารัก เขาต้องการสัตว์กินพืช เพื่อสร้างสภาพระบบนิเวศของเกาะโดดเดี่ยวให้สมบูรณ์
เดินดูสัตว์ต่างๆจนเข้าไปถึงพื้นที่ส่วนกลาง คนเริ่มหนาแน่นขึ้น แต่ยังไม่ทันได้เข้าไปด้านใน เขาก็พบกับนกสายพันธุ์ใหม่ รูปร่างของมันเหมือนนกอินทรี แต่หัวมีหงอนสีแดงเลือดเหมือนหงอนไก่ ขนนกของมันเป็นสีดำแต่ปลายขนนกทุกเส้นมีขนสีน้ำตาลทองเหมือนหัวลูกศร ขนบนตัวเรียงยาว ทำให้ขนสีน้ำตาลทองที่โดดเด่นออกมาเหมือนเกล็ดปลา ทำให้นกตัวนี้สวยและสง่างามอย่างมาก โดยเฉพาะดวงตากลมโตสีทองที่แฝงความฉลาด โชคร้ายที่ขาสองข้างของมันถูกล็อกด้วยโซ่เหล็ก มันจึงสูญเสียอิสภาพไป
ขนาดตัวของมันประมาณ 20 เซนติเมตร แสดงว่าเป็นลูกนกอินทรีอายุแค่ไม่วันเท่านั้น
จิวโมไป๋ยืนดูนกอินทรี อยู่ด้านหลังกลุ่มคนที่ให้ความสนใจมันเช่นกัน เขาสัมผัสได้ถึงสายเลือดที่แข็งแกร่งจางๆ แม้สายเลือดที่เขาสัมผัสได้ จะไม่ทรงพลังเท่าเสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมย แต่มันก็ทรงพลังกว่าสายเลือดวัวธรรมดาของเสี่ยวหวงหลายเท่า
“นกอินทรีตัวนี้ พึ่งถูกฟักออกมาเมื่อ 8 วันที่แล้ว แม้ว่ามันจะยังเด็ก แต่มันก็แข็งแกร่งมาก สามารถ บินได้ด้วยตัวเองเมื่อ 2 วันก่อน กรงเล็บของมันแหลมคมมากสามารถจิกไม้แข็งจนแตกได้”
เจ้าของนกตัวนั้นเป็นชายแก่อายุ 50 ปีและมีหลานชายหญิงฝาแฝด อายุ 15 ปี ดวงตาของเด็กทั้งสองฉายแววเศร้าและกังวลอยู่ลึกๆ เจ้าของนกอธิบายอย่างรวดเร็ว เขาก็เปิดประมูลนกตัวนี้ทันที
“5 หมื่นเครดิต”ชายหนุุ่มในชุดราคาแพงพูดเปิดราคาเป็นคนแรก
“5.5 หมื่นเครดิต”
“6 หมื่นเครดิต”
“1 แสนเครดิต! ถ้าไม่มีเงินก็ไม่ต้องมาประมูล เสียเวลาจริงๆ”หญิงสาวสวยที่คอมีสร้อยเพชรเม็ดโตพูดขึ้นเสียงดัง เธอกวาดตามองผู้คนโดยรอบอย่างดูหมิ่น
ทำให้คนที่บอกราคาประมูลคนก่อนหน้ามองเธอด้วยความไม่พอใจ
“คิดว่าใคร สะใภ้ตระกูลฟู่นี่เอง ขอโทษที่ผมจำคุณไม่ได้”ชายในชุดราคาแพงยิ้มก่อนพูด”พอดี ผมไม่ค่อยจำพวกคนอันดับ 2 อันดับ 3 เท่าไหร่”
“ฝานลู่! แกว่าใครเป็นอันดับที่ 2 3″หญิงสาวชี้หน้าไม่พอใจ
“ผมอาจจำผิด ว่าแต่คุณชื่ออะไร ผมจะได้คิดออก”ฝานลู่ยิ้มกวนๆ ก่อนหันไปทางเจ้าของนก ราวกับไม่สนใจหญิงสาวอีก
“1.5 แสนเครดิต”
หญิงสาวเห็นอีกฝ่ายเมินตัวเองเธอทำท่าจะเข้าไปหาเรื่องอีกฝ่าย แต่ชายวัยกลางคนพุงพลุ้ย เดินเข้ามาเสียก่อน ทำให้เธอรีบเก็บสีหน้าอย่างรวดเร็วเปลี่ยนเป็นอ่อนหวาน เธอเดินเข้าไปคล้องแขนชายวัยกลางคนพุงพลุ้ยก่อนกระซิบอย่างออดอ้อน
“ที่รัก ดูนกตัวนั้นสิ อายุแค่ไม่กี่วันแต่ลักษณะของมันดีมาก ถ้าเราซื้อไป ชื่อเสียงของสนามประลองสัตว์จิงหวน ของเราต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน”จบคำเธอใช้หางตามองไปทางฝานลู่ แต่ก็ต้องหลบสายตาเพราะอีกฝ่ายไม่แม้แต่ชายตามองมาที่เธอเลย
ชายวัยกลางคนพุงพลุ้ยมองนกอินทรีด้วยแววตาเป็นประกายไม่รอช้าเขาเสนอราคาทันที
“5 แสนเครดิต!”
“หัวหน้าฟู่เอาอีกแล้ว”กลุ่มคนรอบข้างซุบซิบกันเบาๆ แต่จิวโมไป๋ที่อยู่ด้านหลังได้ยิน
“เพิ่มราคาสูงทันทีแบบนี้แสดงว่าเขาต้องการเอานกอินทรีตัวนี้แน่ๆ ถ้าใครเสนอราคาประมูลแข่งต้องจบไม่สวยแน่”
“เมื่อสองวันก่อนเขาอยากได้หมาป่ากลายพันธุ์ที่มีเขี้ยวยาว แต่มีคนประมูลแข่งจนชนะหมาป่าตัวนั้นไป ฉันจำได้ว่า เมื่อวานที่สนามประลองสัตว์จิงหวน มีหมาป่าตัวใหม่เป็นหมาป่าที่มีเขี้ยวยาว ไม่ต้องสงสัยเลยว่า…”
“เฮ้อ… ดูจากลักษณะของนกอินทรีตัวนี้ราคาของมันน่าจะเกิน 1 ล้านเครดิตแน่ๆ”
ระหว่างที่ผู้คนซุบซิบกันชายแก่เจ้าของร้านในตอนนี้หน้าซีดขาว เด็กฝาแฝดตาแดงเกือบจะร้องให้ พวกเขาต้องเคยได้ยินเกี่ยวกับหัวหน้าฟู่มาอย่างแน่นอน
ฝานลู่มองมาที่หัวหน้าหานแววตาของเขาเย็นชาเล็กน้อย
“ไม่คิดเลยว่าหัวหน้าฟู่ยังชอบทำอะไรแบบนี้อีก”
หัวหน้าฟู่มองไปทางต้นเสียงเห็นฝานลู่ เขาก็ยิ้มเล็กน้อย
“นายน้อยฝานนี้เอง ตอนนี้กิจการสนามประลองของคุณเป็นยังไงบ้าง ของฉันตอนนี้สนามประลองของฉันกำลังดีขึ้นเรื่อยๆ อีกไม่นานคงกลายเป็นสนามประลองอันดับต้นๆของเมืองเทียนซูแน่”หัวหน้าฟู่หัวเราะเมื่อพูดจบ
ทำให้ฝานลู่กำหมัดแน่นแต่เขาก็ไม่พูดอะไร เขาหันไปดูชายแก่เจ้าของร้านอย่างลังเล แต่สุดท้ายเขาต้องกัดฟันหันหลังเดินจากไป
“น่าสงสารนายน้อยฝานจริงๆ ตั้งแต่หัวหน้าฝานตาย คนของสนามประลองก็ถูกขุดออกมาเรื่อยๆ ตอนนี้สนามประลองของนายน้อยฝานก็ใกล้ปิดกิจการแล้ว”
“คนขุดก็หัวหน้าฟู่ ไม่ใช่หรือไง มีข่าวลือว่าที่หัวหน้าฝานตายเป็นฝีมือของหัวหน้าฟู่”กลุ่มคนซุบซิบกันเบาๆ
จิวโมไป๋เหมือนพึ่งนึกออกว่าทำไมเขาถึงคุ้นเคยกับฝานลู่ เพราะในอนาคตอีกฝ่ายจะเป็นหนึ่งในหัวหน้าหน่วยนักรบ ด้วยพรสวรรค์ที่โดดเด่นในการฝึกสัตว์และการวางแผนบัญชาการรบที่แข็งแกร่ง ทำให้เขาเป็นทัพหน้าที่คอยต่อสู้อยู่แนวหน้าเสมอ
ฝานลู่ยังเป็นผู้บ่มเพาะพลังเพียงไม่กี่คนที่ได้รับสร้างรูปปั้นอนุสรณ์เกียรติยศ เพื่อเชิดชูคุณความดี รูปปั่นของเขาถูกสร้างที่ใจกลางเมืองอานซี เมืองที่อยู่ใกล้กับประตูมิติระดับต่ำ มิติรกร้างสีแดง
การต่อสู่ที่ทำให้เขาได้รับรูปปั้นอนุสรณ์เกียรติยศ คือการต่อสู้ที่ มิติรกร้างสีแดง เขาอาศัยผู้บ่มเพาะพลัง 510 คน ผ่าวงล้อมของกองทัพเผ่าอสูรโอหิตแดง จำนวนนับหมื่นตัวระดับการบ่มเพาะของพวกมันเหนือกว่าคนของฝานลู่หลายขั้น
แม้จำนวนและระดับการบ่มเพาะจะต่างกันมาก แต่ด้วยแผนการต่อสู่ที่แยบยน ทำให้ในครั้งนั้น เขาสามารถ หนีรอดออกมาได้พร้อมผู้บ่มเพาะพลัง 376 คน และข่าวสำคัญ ที่ทำให้ในอนาคต พวกเขาสามารถเป็นพันธมิตรกับเผ่านักรบรอยสัก สามารถหยุดยั้งการบุกรุกผ่านประตูมิติเข้ามายังโลก และได้รับทรัพยากรหายากจำนวนมหาศาล ความแข็งแกร่งขององค์กรและประเทศมังกรก้าวหน้าขึ้นอย่างก้าวกระโดด
แต่โชคร้าย ในตอนที่ฝานลู่เป็นแนวหน้าในการสำรวจมิติระดับกลาง มิติสงครามหมื่นดินแดน หนึ่งในมิติที่เป็นสนามต่อสู้ระหว่างผู้บ่มเพาะพลัง ฝานลู่และหน่วยของเขาอีก 308 คนเสียชีวิตทันที ทำให้ประวัติที่โดดเด่นของเขาต้องจบลงอย่างน่าเศร้า
จิวโมไป๋หันกลับมาดูการประมูล โอกาสพบกันในอนาคตยังมีอยู่ ในตอนนี้เขาต้องสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเองก่อน
ตอนนี้ไม่มีใครกล้าประมูลต่อ จิวโมไป๋เดินผ่านผู้คนไปด้านหน้าก่อนจะพูดราคาประมูล
“2 ล้านเครดิต!”