ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 128
จิวโมไป๋ตัดสินใจกลับเมืองเทียนซูทันที เขาทิ้งเสี่ยวไป๋ เสี่ยวเหม่ย และเสี่ยวหวงไว้ที่เกาะโดดเดี่ยว เพื่อให้พวกมันช่วยตรวจสอบผู้บุกรุก เขาไม่รู้ว่าจะมีใครบุกเข้ามาตอนที่เขาไม่อยู่หรือไม่
จิวโมไป๋เดินไปที่ทางเข้า เขาโบกมือให้หลิวยี่อิงที่อยู่บนหน้าผา เธอกระโดดลงมาหาจิวโมไป๋แล้วถาม
“นายตัดสินใจกลับไปที่เมืองเทียนซูใช่ไหม”
“ฉันไม่อยากนอนระแวง อยู่ในเกาะตอนที่มีคนกำลังเฝ้าจับตามองอยู่”จิวโมไป๋แกล้งทำเป็นไม่พอใจ
“เมื่อไม่กี่นาทีก่อน คนๆนั้นติดต่อมาว่า กำลังเดินทางมาที่นี่…”หลิวยี่อิงพูด
“ไม่ต้องมาก็ได้ ถ้าพวกคุณต้องการช่วยหาคนที่คิดจะฆ่าฉันจริงๆ ก็ช่วยตรวจสอบคนที่ลงมือก็พอแล้ว”จิวโมไป๋เดินไปเปิดประตูเหล็กหันมามองหลิวยี่อิง และผายมือไปทางออก
หลิวยี่อิงมองสบตาจิวโมไป๋ เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกโมโหเล็กน้อย เธอเดินผ่านหน้าจิวโมไป๋ออกจากเกาะโดดเดี่ยว จิวโมไป๋ยิ้มแผ่วเบาเดินออกมาก่อนจะปิดประตูเหล็ก และเดินไปที่รถยนต์ของเขาที่จอดอยู่ข้างประตูเหล็ก
“ขอโทษด้วย ผมไม่ไว้ใจคุณ ผมให้คุณติดรถไปด้วยไม่ได้”จิวโมไป๋หันมาพูด ก่อนจะขึ้นรถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว
หลิวยี่อิงมองตามหลังรถยนต์อย่างไม่พอใจ เธอกดกำไลข้อมือเบาๆ ก็มีสายลมแหวกอากาศมาที่ด้านหน้า ม่านแสงล่องหนค่อยๆ เปิดออกเป็นเครื่องบินทรงรีเรียวสีเงินรูปร่างแปลกตา
“รอก่อน!”ชายชุดคลุมสีเขียวเข้มอุ้มชายชุดคลุมสีม่วงที่สลบไม่ได้สติมาจากด้านหลัง หลิวยี่อิงเปิดประตูเครื่องบิน และกระโดดขึ้นไป ตามมาด้วยชายชุดคลุมสีเขียวเข้มอุ้มชายชุดคลุมสีม่วงขึ้นเครื่องบิน ทุลักทุเลเล็กน้อยเพราะทางเข้าแคบ เมื่อประตูปิด เครื่องบินเปิดโหมดล่องหนบินออกไป
จิวโมไป๋กลับมาถึงเมืองเทียนซู ท้องฟ้าก็ค่อยๆมืดลง ตามอาคารเปิดไฟสว่างขับไล่ความมืด จิวโมไป๋ขับรถตรงกลับไปที่บ้าน ที่เขาไม่ได้กลับมานาน บ้านของเขาอยู่ไม่ไกลจากร้านอาหารตระกูลจิวมากนัก เป็นบ้านสามชั้น มีพื้นลายหน้าบ้านขนาดใหญ่ ให้บ่มเพาะพลังและฝึกกระบวนท่าต่อสู้
เขาจอดรถนอกบ้าน ใช้กุญแจของตัวเองเปิดประตูเล็กด้านข้าง เข้าไปในบ้าน ผ่านทางเดินยาวจนถึงตัวบ้าน เขาพบแม่ของเขาฮันหวูเหยาและหยินลั่วปิง กำลังนั่งดูรายการทำอาหาร ผ่านหน้าจอโฮโลแกรมขนาดใหญ่บนพนัง ที่ห้องนั่งเล่นด้านหน้า
“โมไป๋ ลูกจะกลับบ้าน ทำไมไม่บอกแม่”ฮันหวูเหยามองลูกชายอย่างแปลกใจ และลุกขึ้นยืนทำท่าจะเดินไปห้องครัว”แม่ไม่ได้ทำอาหารไว้ให้ลูกเลย รอก่อนแม่จะทำให้”
“ไม่ต้องหรอกครับแม่ เดี๋ยวผมทำอาหารเอง ผมไม่ได้ทำอาหารให้แม่ทานมานานแล้วนะครับ”จิวโมไป๋โบกมือห้าม ใบหน้าเขายิ้มออกมาอย่างไม่เคยเป็น เขามองบรรยากาศรอบๆ ด้วยอารมณ์ที่แปลกประหลาด นานเท่าไหร่แล้วนะ ที่เขาไม่ได้กลับมาที่บ้านหลังนี้ 60 หรือ 70 ปี?
จิวโมไป๋ให้แม่ของเขากลับไปที่ห้องนั่งเล่น ก่อนที่เขาจะเดินไปห้องครัว เห็นอาหารที่แม่เขาทำไว้เป็นมือเย็น ว่างอยู่ในตู้รักษาความร้อน เขาเปิดตู้เย็นหาวัตถุดิบ แต่ก่อนจะเริ่มทำอาหาร เขาเดินออกไปถามแม่ของเขา
“แม่ครับแล้วเหม่ยเหม่ยละครับ”
“อ่อ น้องสาวของลูกทำการบ้านเสร็จ ก็ไปเล่นเกมส์กับกับเจียวเจียวอยู่ที่ห้องด้านบน”ฮันหวูเหยาดูกำไลข้อมือ”เดี๋ยวก็ลงมากันแล้ว น้องสาวของลูกบ่นทั้งวัน ว่าลูกลืมเธอไปแล้ว”
จิวโมไป๋ยิ้มเจือนอย่างรู้สึกผิด เพราะเขาเคยพบประสบการณ์อันเลวร้ายมาก่อน ทำให้เขาไม่กล้าผ่อนคลาย ตั้งแต่ซ่อมตำหนักยุทธได้สำเร็จ เขาก็เอาแต่บ่มเพาะพลัง ไม่ได้สนใจครอบครัวอย่างที่เคย
“พรุ่งนี้ผมจะพาพวกเธอ ไปเที่ยวสวนสนุก เธอคงหายโกรธ”
“เหม่ยเหม่ย ให้ลูกไปเป็นเพื่อนสินะ พ่อและแม่ก็ไม่ว่าง คุณหยินก็ติดธุระ ไม่มีใครไปดูแลพวกเด็กๆเลย ถ้าลูกไปด้วยแม่ก็ไม่ต้องเป็นห่วง”ฮันหวูเหยายิ้มอ่อนโยน
“คุณหยินไปธุระ? ความทรงจำเธอกลับมาแล้วเหรอครับ”จิวโมไป๋ถาม เขาก็สงสัยมานานแล้วว่าทำไม ภรรยาของผู้นำเกาะผีเสื้อดารา ถูกทำร้ายจนใกล้ตาย ทำไมยังไม่มีคนของสำนักผีเสื้อดารามาตามหาเลย และจากท่าทางของคุณหยินลั่วปิง เธอไม่ยากกลับไปสำนักเท่าไหร่นัก
“ความทรงจำของเธอ ยังกลับมาไม่มากนักหรอก”ฮันหวูเหยาพูดด้วยน้ำเสียงเห็นใจ”แต่เหมือนจะมีบางอย่างที่จะกระตุ้นความทรงจำของเธอได้ เธอเลยออกตามหาสิ่งนั้นมาหลายวันแล้ว พรุ่งนี้วันเกิดของเจียวเจียว คุณหยินก็ไม่อยากไปหรอก แต่เมื่อลูกจะไปเที่ยวสวนสนุกกับเด็กๆ คุณหยินคงวางใจ ออกไปทำธุระของเธอได้”
จิวโมไป๋พยักหน้าอย่างแปลกใจ เหมือนมีอะไรน่าสงสัย แต่ไม่นานเขาก็ปัดความคิดนั้นทิ้งไป เขาเดินเข้าห้องครัวเริ่มลงมือทำอาหารจนเสร็จ
ไม่นานเด็กสาวทั้งสองก็เดินลงมา เมื่อเห็นจิวโมไป๋ จิวเสวี่ยเหม่ยพุ่งเข้ามากอดอย่างแรง
“พี่บ้า! หายไปตั้งหนึ่งเดือน ทำไมไม่กลับมาหาหนูบ้างเลย”จิวเสวี่ยเหม่ยบ่นไม่พอใจ ดวงตากลมโตมีประกายน้ำตาแวววาว เหมือนจะร้องไห้ออกมา จิวโมไป๋ยิ้มขอโทษพลางลูบหัวเด็กสาวเบาๆ
“พี่ขอโทษ”
“ไม่ยกโทษให้หรอก หึ”จิวเสวี่ยเหม่ยพูดจบ ก็หันหน้าหนีไปทางอื่น แต่ยังคงกอดจิวโมไป๋แน่น จิวโมไป๋ยิ้มแผ่วเบา หันมามองเด็กสาวตัวเล็กเตี๋ยเสวี่ยเจียว ที่ตอนนี้ไม่มีลักษณะอ่อนแอ เหมือนตอนที่พบกันครั้งแรก
เตี๋ยเสวี่ยเจียว เห็นจิวโมไป๋ยิ้มให้ ใบหน้าของเธอก็แดงก่ำถึงใบหู ด้วยความอาย เธอเดินไปหาแม่ของเธอแล้วหลบไปด้านหลัง
เห็นดังนั้นจิวโมไป๋ได้แต่ยิ้มให้
เมื่อถึงเวลาอาหาร ทั้งหมดนั่งลงรับประทานอาหาร ยกเว้นพ่อจิวโมเทียนที่อยู่ร้านอาหารตระกูลจิว
กินอาหารจนเสร็จ จิวเสวี่ยเหม่ยเกาะติดเขาเป็นกาวไม่ยอมปล่อย เตี๋ยเสวี่ยเจียวที่เขินอาย ก็กล้าพูดกับเขา แม้จะยังอายอยู่มากก็ตาม จิวโมไป๋พาเด็กๆล้างจาน และมานั่งเล่นดูละครซีรี่ย์ชื่อดัง บนหน้าจอโฮโลแกรม จนถึงช่วงดึกเด็กๆก็ถูกไล่ให้ไปนอน
จิวโมไป๋ขึ้นไปบนห้องของเขาที่ชั้นสอง ภายในห้องถูกทำความสะอาดจนไม่มีแม้แต่เศษฝุ่นเล็กๆ แสดงว่าแม่ของเขา เข้ามาทำความสะอาดเป็นประจำ เขาถอนหายใจ ดวงตาแดงขึ้นเล็กน้อย เขาสูดหายใจข่มอารมณ์ให้สงบลง
จิวโมไป๋อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดฝึก เดินมากลางห้องและเริ่ม ท่องเคล็ดบ่มเพาะพลังเตาหลอม 9 สุริยัน ร่างกายของเขาค่อยๆ ร้อนขึ้นเรื่อยๆจนเกิดควันสีขาวออกจากรูขุมขน ผิวหนังเกิดลวดลายสีทองเจือจาง ไม่รอช้าจิวโมไป๋เริ่มออกกระบวนท่าวิชาหลอมกายามังกรเทวะ 18 ท่า
ทุกกระบวนท่าเต็มไปด้วยพลัง เมื่อครบรอบที่หนึ่ง กล้ามเนื้อทั้วร่างเริ่มสั่นระริกอย่างรุนแรง ควันสีขาวค่อยๆกลายเป็นสีแดงประกายทองอ่อน
จิวโมไป๋ฝืนออกกระบวนท่าหลอมกายามังกรเทวะอีกหนึ่งรอบ ในทะเลสติ เตาหลอมทองแดงเลือนลางในตำนักยุทธเตาหลอม 9 สุริยัน หมุนวนอย่างรวดเร็ว เปลวไฟสีเขียวลุกไหม้อย่างน่าหวาดกลัว หยดปราณที่ตกลงไปในทะเลปราณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุด ปัง! ทะเลปราณขยายเพิ่มอย่างรวดเร็วเป็นสองเท่าของขนาดเดิม มันก็หยุดลง
ลวดลายมังกรทองแดงบนเสาตำหนักยุทธค่อยๆสมจริงขึ้น
ควันสีขาวปนเลือดม้วนตัวกลับเข้าร่างกาย จิวโมไป๋กำหมัดเบาๆ กล้ามเนื้อทั่วร่างบีบอัดเป็นมัดกล้ามเนื้อสวยงาม จิวโมไป๋สัมผัสได้ว่าความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ตำนักยุทธเตาหลอม 9 สุริยัน ขั้นที่ 2 กล้ามเนื้อกลาง
จิวโมไป๋ยิ้มพอใจเล็กน้อยเพราะมันเร็วกว่าที่คาดเอาไป อาจเป็นเพราะการต่อสู้ติดๆกันหลายครั้ง ทำให้การทะลวงผ่านขั้นเร็วขึ้นก็เป็นได้
เมื่อเวลายังมีอีกมาก จิวโมไป๋ก็ท่องเคล็ดบ่มเพาะพลังกระบี่เลือนเร้น ที่เขาไม่ได้บ่มเพาะอะไรเลย หลังจากทะลวงผ่านขั้นที่ 2 ต้น แต่ในทันทีที่ท่องเคล็ดบ่มเพาะพลังกระบี่เลือนเร้น ใจกลางตำหนักยุทธ กระบี่สีเทาเลือนลาง เหมือนกับกำลังฟาดฟัน อะไรบางอย่างอยู่หลายครั้ง และในเวลานั้นเอง
ปัง! ปัง!!! ทะเลปราณของตำหนักยุทธกระบี่เลือนเร้น ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่สงบนิ่งมีรอยกระเพื่อมเล็กน้อยเท่านั้น ทะเลปราณแผ่ขยายเร็วขึ้นเรื่อยๆและหยุดลงอย่างสงบ ขนาดของทะเลปราณกระบี่เลือนเร้น มีขนาดมากกว่า ทะเลปราณของตำหนักยุทธเตาหลอม 9 สุริยันถึง 2 เท่า
ลวดลายมังกรสีเทาบนเสาตำหนักยุทธกระบี่เลือนเร้น ชัดเจนขึ้นและแฝงพลังที่ผู้กระทำผิดต้องรู้สึกผิดบาป
ตำหนักยุทธกระบี่เลือนเร้น ขั้นที่ 2 ปลาย!