ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 130
ดอกบัวหัวใจพิสุทธิ์หมุนวนเร็วขึ้นเรื่อยๆ หมอกสีเงินที่ลอยอยู่ค่อยๆหมุนวนบอบดอกบัว เพียงพริบตาในหมอกสีเงินก็มีแสงสีดอกจากๆปรากฏขึ้น ปัง! จิตสัมผัสของจิวโมไป๋ขยายขึ้นเป็น 200 เมตรในพริบ จิวโมไป๋เหมือนถูกกระชากสติ เขาตั้งสติได้ทันที เขาสูดอาจใจลึกๆสงบอารมณ์ด้านลบให้ลดลง
เขามองเด็กหนุ่มอย่างเย็นชา ในใจของเขาคิดถึงบางอย่างได้ เขาก็กำหมัดแน่น จิตสังหารใกล้จะปะทุออกมาอีกครั้ง
ถงเหวย เป็นบุตรคนรองตระกูลถง ตระกูลระดับกลาง พ่อและพี่ชายของเขาต่างก็เป็นตำรวจชั้นสูง และมีอิทธิพลใต้ดิน ทำให้ถงเหวยชอบทำร้ายคนอื่น คนที่ผิดใจกับเขา หลายคนต้องพิการ บางคนโชคร้ายต้องติดคุกโดยไร้ความผิด
ถ้าไม่ได้ก่อเหตุร้ายแรงหรือฆ่าคน ถงเหวยสามารถทำอะไรก็ได้ในเมืองเทียนซู เพราะมีคนในตระกูลแก้ไขความผิดทั้งหมด
เมื่อตอนที่เขาสืบหาข้อมูลของถงเหวย เพื่อหาวิธีแก้แค้น เขาก็ค้นพบความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลถงและเซียวหนานจิ้น เขาสืบหาลึกขึ้นเขาก็พบว่า สาเหตุที่ถงเหวยข่มขืนน้องสาวของเขา เพราะเซียวหนานจิ้นเป็นคนออกคำสั่งอยู่เบื้องหลัง
คดีข่มขืน ไม่ถูกจัดให้อยู่ในคดีร้ายแรง เท่ากับการฆ่าหรือก่อการร้าย ทำให้ Nuwa ไม่เข้ามาเกี่ยวข้องหรือติดตามคดีข่มขืนเพราะอยู่นอกหน้าที่ของระบบ
แต่คดีข่มขืนก็ยังเป็นคดีที่ใหญ่ ถ้ามีคดีแบบนี้ ตำรวจจะต้องทำการสืบสวนอย่างเต็มที่ เพราะถือว่าสร้างความเสียหายทั้งร่างกายและจิตใจของผู้เสียหาย แม้ผู้เสียหายจะไม่เสียชีวิต แต่จิตใจก็ถูกกระทำอย่างรุนแรง
แม้ว่าถงเหวยจะมีพ่อและพี่ชาย เป็นตำรวจยศสูงคอยช่วยเหลือ ก็ไม่สามารถปกปิดท้องฟ้าทั้งหมดได้
แต่ถงเหวยยอมเสี่ยงที่จะทำตามคำสั่งของเซียวหนานจิ้น เพราะถ้าเขาทำได้สำเร็จ เขาจะได้รับความไว้วางใจจากเซียวหนานจิ้นและตระกูลเซียว ซึ้งการกระทำของเขานั้นถูกต้อง เขาสามารถหลุดรอดจากคดีข่มขืนออกมาอย่างไร้มลทิน พร้อมกับครอบครัวของเขาได้รับการส่งเสริม จนตำแหน่งหน้าที่การงานเพิ่มขึ้นหลายขั้น ตระกูลถงได้กลายเป็นตระกูลระดับสูงในเวลาต่อมา
แม้ภายหลังจิวโมไป๋จะล้างแค้น ฆ่าถงเหวยและตรพกูลถงได้สำเร็จ แต่เขาก็ไม่อาจลบความรู้สึกเสียใจออกไปได้ เพราะการตายของจิวเสวี่ยเหม่ยเป็นความผิดของเขาเอง
เมื่อถงเหวยกล้าที่จะมาดักพบเขาที่นี่ มันไม่มีทางเป็นเรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน เซียวหนานจิ้นต้องติดต่อกับถงเหวยแล้ว
จิวโมไป๋สูดหายใจเบาๆ อารมณ์ค่อยๆเย็นลง รอยยิ้มเย็นชาค่อยๆปรากฏขึ้น
ถ้าอยากตายนักฉันก็จะสงเคราะห์ให้
แม้เขาในตอนนี้จะไม่สามารถจัดการกับเซียวหนานจิ้นได้ แต่คนอย่างถงเหวย เขามีหลายวิธีที่จะจัดการ
ในตอนที่เขาตามสืบถงเหวย เขาได้พบความลับหลายอย่าง ที่เขาสามารถนำมาจัดการตระกูลถงได้อย่างง่ายดาย และยังมีข้อมูลบางอย่าง ที่สามารถทำให้เซียวหนานจิ้นและตระกูลเซียวสั่นคลอนได้ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่พวกเขาพึ่งสูญเสียเงินจำนวนมหาศาล ถ้าข้อมูลชิ้นนั้นหลุดออกไป ตระกูลเซียวจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่…
“เสวี่ยเหม่ย มาที่นี่ด้วยเหรอ”ถงเหวยยิ้มให้จิวเสวี่ยเหม่ย แต่เหมือนทั้งสองจะไม่ค่อยสนิทกัน จิวเสวี่ยเหม่ยรักษาระยะห่างอย่างเห็นได้ชัด
“ใช้”
ถงเหวยยักไหล่ หันไปพูดกับเด็กสาวผมยาว จิวโมไป๋ก็เข้าใจว่าเด็กสาวผมยาว เป็นแฟนของ คนในกลุ่มของถงเหวย เมื่อพวกเขามาเที่ยวจึงชวนกลุ่มของเด็กสาวมาพร้อมกัน
กลุ่มของถงเหวย ทั้งหมด 6 คน รวมถงเหวย เป็น 7 คน และเป็นผู้ชายทั้งหมด แต่จิวโมไป๋ใข้จิตสัมผัสตรวจสอบ เขาก็พบว่า ในกลุ่มนั้นมีผู้บ่มเพาะพลัง ขั้นที่ 3 อยู่ 2 คน ที่แกล้งปลอมตัวเป็นวัยรุ่น ปะปนอยู่ในกลุ่ม ใต้เสื้อผ้ามีกระบองเหล็กแบบพกพาเหน็บไว้ข้างตัว พวกเขาคงเป็นผู้คุ้มกันของถงเหวย
จิวโมไป๋ยืนฟังเงียบๆอยู่ด้านข้าง เขาสังเกตเห็นว่า แม้ถงเหวยจะไม่พูดทักทายเขา แต่ก็มีบางช่วงที่เหมือนจะลอบสังเกตเขาอยู่เป็นระยะ และกำไลข้อมมือของถงเหวยเหมือนกำลังทำงานอยู่
จิวโมไป๋ทำเป็นไม่สนใจ เดินตามทั้งสองกลุ่ม เข้าไปเล่นด้านในพื้นที่สวนสนุกธีมซอมบี้
จิวเสวี่ยเหม่ยและเตี๋ยเสวี่ยเจียวเดินไปกับกลุ่มเด็กสาวทั้งสาม กลุ่มของถงเหวย เหมือนจะเดินนำหน้าขึ้นไป แต่ก็ไม่ทิ้งระยะห่างกันนัก
จิวโมไป๋ทำเป็นเดินตามกลุ่มเด็กสาวไปอย่างช้าๆ จิตสัมผัสของเขาก็ตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมด เขาก็พบว่าทุกที่มีกล้องวงจรปิด ไม่สามารถแอบทำร้ายคนได้เลย จิวโมไป๋สงสัยว่ากลุ่มของถงเหวย กำลังวางแผนจะทำอะไรอยู่
พวกเขาเล่นเครื่องเล่นไม่กี่ชิ้น ก่อนจะเดินไปถึงบ้านผีสิง
“พี่ชาย สนใจเข้าไปเล่นบ้านพี่สิงไหม”ถงเหวยเดินแยกออกจากกลุ่ม มาชวนจิวโมไป๋เข้าไปลองเล่นบ้านผีสิง
จิวเสวี่ยเหม่ยที่อยู่ข้างๆเกาะแขนเข้าไว้ พร้อมส่ายหัวเบาๆ
“ฉันไม่เข้า”จิวโมไป๋โบกมือปฏิเสธ
ถงเหวยเหมือนจะไม่พอใจเล็ก เขารีบเก็บซ่อนสีหน้า หันมาทางกลุ่มเด็กสาวด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ต้องกลัว มันก็แค่ของปลอม…”ถงเหวยพยายามพูดชักชวน
จิวโมไป๋ใช้จิตสัมผัสเข้าไปตรวจสอบ เพราะระยะทางที่เพิ่มขึ้น ทำให้เขาตรวจสอบได้ไกลขึ้น ไม่นานเขาก็ยิ้มบางเบา
สุดท้ายกลุ่มของเด็กสาวยอมเข้าไปในบ้านผีสิง จิวโมไป๋ให้เตี๋ยเสวี่ยเจียวรออยู่ร้านอาหารข้างๆ
เขาและกลุ่มถงเหวยซื้อตั๋วเข้าไป บ้านผีสิงเป็นรูปแบบเกมส์วิ่งหนีซอมบี้ในตึกร่าง เมื่อเข้าไปในตึกร้าง ประตูทางเข้าจะปิดลง ผู้เล่นจะต้องขึ้นไปถึงขั้น 6 ซึ่งเป็นชั้นดาลฟ้าแล้วโรยตัวลงมา เพื่อหนีออกจากตึก
พวกเขาเข้าไปในบ้านผีสิง ก็มีคนใส่ชุดซอมบี้ออกมาไล่ ผู้เล่นสามารถตอบโต้ซอมบี้เหล่านี้ได้ เพราะซอมบี้ทุกตัวเป็นผู้บ่มเพาะพลัง ทำให้คนที่ไม่ได้บ่มเพาะพลัง ไม่สามารถเอาชนะได้ ต้องวิ่งหนีอย่างเดียว กลุ่มของจิวโมไป๋ขึ้นมาถึงชั้น 3 จิวโมไป๋ใช้จิตสัมผัสตรวจสอบแล้ว ว่าห้องด้านหน้าเป็นห้องมืดยาว มีควันสีเทาหนาทึบ จิวโมไป๋แกล้งเดินช้าๆ มาใกล้ถงเหวย เมื่อพวกเขา เปิดประตูหมอกควันเอฟเฟคพิเศษหนาทึบ ก็พุ่งออกมา กลุ่มของพวกเขาต้องเดินผ่าหมอกเข้าไป
ในเวลานี้เอง จิวโมไป๋ใช้จิตสัมผัส หยุดการทำงานกล้องวงจรติดในห้องนี้ทั้งหมด จากนั้นเขาใช้จิตสัมผัสกระแทกสมองของถงเหวยทำให้มึนงง เคล็ดวิชานี้มีระดับความยากในการใช้สูงมาก และต้องใช้ระมัดระวัง ถ้าพลาดอาจทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บ แม้จะไม่รุนแรงมากนัก แต่มันทำให้เป้าหมายรู้สึกตัว
เมื่อถงเหวยนิ่งไป ไม่รอช้าจิวโมไป๋เปิดกำไลข้อมมือของถงเหวย ก่อนจะทำการแฮ็คระบบอย่างรวดเร็ว เพียงแค่ 4 วินาที จิวโมไป๋ก็แฮ็คกำไลข้อมือถงเหวยได้สำเร็จ เป็นเวลาเดียวกับที่ น้องสาวของเขาและกลุ่มเพื่อนๆเดินเข้ามา
กล้องวงจรติดกลับมาทำงานอีกครั้ง ถงเหวยสะบัดหัวเล็กน้อย หันมามองรอบๆ ด้วยความงุนงง
จิวโมไป๋ทำเป็นพูดคุยกับจิวเสี่ยวเหม่ย
ถงเหวยส่ายหัวไม่คิดอะไรหันกลับไปเดินนำต่อ
เมื่อขึ้นไปชั้น 6 เป็นห้องโถงขนาดใหญ่ ในทันทีที่พวกเขาเปิดประตูเข้าไป ก็มีคนประมาณ 20 คนรออยู่
กลุ่มเด็กสาวชะงักตกใจ เพราะกลุ่มคนเหล่านี้เป็นผู้ชายทั้งหมด และไม่ได้เป็นทีมงานบ้านผีสิง
“เหลาจิน พวกเขาคือใคร”เด็กสาวผมยาวถามแฟนหนุ่มด้านข้าง แต่เธอก็ถูกแฟนหนุ่มของเธอจับ เอามือไขว้หลัง
“โอ๊ย แกทำอะไร!”เด็กสาวผมยาวร้องด้วยความเจ็บปวด เธอหน้าซีดมองใบหน้าหื่นกระหายของแฟนหนุ่ม
“ชุนหลัน!!”จิวเสวี่ยเหม่ยร้องด้วยความตกใจ
จิวโมไป๋พุ่งเข้าไปจับแขนของชายหนุ่มออก ก่อนจะเตะกระเด็นออกไป
“อยู่ด้านหลังพี่”จิวโมไป๋ให้กลุ่มเด็กสาวอยู่ด้านหลัง เขามองถงเหวยที่ยืนยิ้มอย่างเย่อหยิ่ง แววตาฉายแววโรคจิตอ่อนๆออกมา กลุ่มคนที่รออยู่ต่างก็ดึงท่อนไม้ สนับมือ กระบอง ออกมา เดินมายืนข้างถงเหวย
“น่าเศร้าหน่อยนะพี่ชาย ที่ต้องเห็นภาพอะไรบางอย่างต่อจากนี้ ไม่ต้องห่วง ฉันจะดูแลเหม่ยเหม่ยอย่างดี…เป็นคนสุดท้าย”ถงเหวยพูดด้วยน้ำเสียงน่ารังเกียจ ลูกน้องด้านหลังก็วิ่งเข้าไปหาจิวโมไป๋ทั้งหมด
จิวโมไป๋ยิ้มเย็นชา เขาพุ่งเขาไปชกคนที่ถือท่อนไม้ที่วิ่งนำมา ก่อนจะแย่งมันมาฟาดคนด้านข้างกระเด็นไปชนคนด้านหลัง ก่อนจะบุกเข้าไปจัดการคนอื่นต่อ เหมือนเสือบุกเข้าเล้าไก่ที่ไร้ทางสู้
พริบตาเดียวผู้บ่มเพาะพลังต่างก็ล้มลงนอนกับพื้น แขนขาทุกส่วน ถูกทุบหักอย่างน่ากลัว
จิวโมไป๋เดินไปหาถงเหวย ที่ยืนตัวสั่นเทากับเพื่อนที่ไม่ได้บ่มเพาะพลัง
“อ…อย่า…อย่า ฉันไม่ได้ตั้ง… ตั้งใจ…มีคนส่ง…”ถงเหวยพูดติดอ่างตะกุกตะกัก เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
จิวโมไป๋มองถงเหวยอย่างโหดเหี้ยม เขาไม่รอให้ถงเหวยพูดจบ เขาชกไปที่ท้องของถงเหวย พร้อมกับปล่อยคลื่นพลังปราณบางเบาไหลไปตามเล่นชีพจร ลงไปที่อวัยวะเพศ และทำการทำลายต้อมสืบพันธุ์ ทำให้อวัยวะเพศไร้สมรรถภาพโดยสมบูรณ์ ร่างของถงเหวยล้มลงไปนอนลงบนพื้น และกรีดร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด
กลุ่มเพื่อนของลงเหว่ย หวาดกลัวแยกกันวิ่งหนีออกไป แต่ก็ออกไปไม่ได้ เพราะทางเข้าออก ถูกล็อคเอาไว้โดยถงเหวย
จิวโมไป๋มองถงเหวยแล้วกำหมัดแน่น เขาข่มอารมณ์ที่ต้องการสังหารอีกฝ่ายลง เพราะเขาไม่อยากทำให้แผนเสียหาย จิวโมไป๋จับกำไลข้อมมือของตัวเองแผ่วเบา มุมปากกระตุกยิ้มเย็นชาออกมา