ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 134
จิวโมไป๋หยิบยันต์พายุจากแหวนมิติเก็บของ ออกมาโยนใส่กลุ่มคนที่ขวางทาง แผ่นยันต์ถูกเผาไหม้กลายเป็นพายุพัดจนกลุ่มคนกระจัดกระจาย แต่กลุ่มคนเหล่านี้ ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาถอยออกมาจากใจกลางพายุ และตั้งหลักป้องกันไม่เปิดช่องว่าง
จิวโมไป๋รู้อยู่แล้วว่า มันไม่สามารถจัดการคนเหล่านั้นได้ง่ายๆ เขาอาศัยช่วงเวลาที่เกิดพายุ เขาพุ่งผ่านออกไปโดยตรง!
เสื้อคลุมสีดำถูกพายุพัดโบกสะบัดอย่างรุนแรง แต่ร่างกายของจิวโมไป๋ยังมั่นคง ไม่สั่นไหว เขาพุ่งออกจากพายุ เข้าชกผู้บ่มเพาะด้านข้าง กระเด็นไปกระแทกกำแพง เขาตั้งใจจะทำลายแนวป้องกันให้พังทะลายลง แต่ก่อนที่เขาจะพุ่งเข้าไปจัดการคนอื่นต่อ
ปัง! ปัง! เสียงปืนดังขึ้นสองนัดติด จิวโมไป๋หมุนตัวหลบอย่างกระชั้นชิด แววตาของเขาเปลี่ยนไปเมื่อเห็นว่ากระสุนนัดหนึ่ง ยิงถูกกลุ่มคนที่ล้อมเขาอยู่
คนพวกนี้ไม่สนใจพวกเดียวกันเลย!
จิวโมไป๋คิดได้ เขาก็ไม่เสี่ยงเข้าสู้ยืดเยื้อ เขาพุ่งเข้าไปทางคนถือปืน ปัง! ปัง! เสียงปืนดังอีกครั้ง แต่จิวโมไป๋ มองวิถีกระสุนออก เขาโยกหัวหลบเล็กน้อย ก็หลบพ้นวิถีกระสุนอย่างง่ายดาย เบื้องหน้าของมือปืน มีคนถือดาบยาวขวางเอาไว้ จิวโมไป๋ชะงักเท้า เกิดเป็นร่างเงาพุ่งไป
ย่างก้าวประกายภูต!
คนถือดายยาวฟันใส่ร่างเงา ขาดครึ่งสลายหายไป เขายืนอึ้งและถูกชกเข้าที่ท้องเต็มแรงจนกระเด็นไปด้านหลัง มือปืนหลบออกไปก่อนหน้านี้เล็กน้อย ทำให้เขาไม่ถูกชน เขาหมุนตัวกลับมายกปืนขึ้นเพื่อที่จะยิง
ปัง! เสียงปืนดังอีกด้าน จิวโมไป๋สังเกตวิถีกระสุนที่ยิงมา เขาหมอบตัวลงเตะสกัดขามือปืนล้มลง หลบวิธีกระสุนได้อย่างหวุดหวิด ส่วนตัวเขาอาศัยจังหวะนั้นเอง หยิบขวดแก้วเปล่า จากแหวนมิติเก็บของโยนใส่ มือปืนอีกคนที่ยิงมา
เพล้ง! ขวดแก้วกระแทกเต็มศีรษะ มือปืนร้องด้วยความเจ็บปวด เผลอยกมือกุมหัว จิวโมไป๋พุ่งเข้าไปศอกที่กลางอกจนมือปืนกระอักเลือด
เหลือมือปืนอีกหนึ่ง คนๆนี้ฉลาดมาก เขาไม่ยิงเลยซักนัดเดียว แต่เลือกที่จะถอยไป หมอบตรงที่ทางขึ้นบันไดจากชั้น 8 เขาเฝ้ารอจากระยะไกล
คนถืออาวุธที่ล้อมอยู่ วิ่งเข้าไปหาจิวโมไป๋ เสียงแหวกอากาศเข้าใส่ทุกทิศทาง จิวโมไป๋หลบหลีกและชก เตะตอบโต้อย่างรุนแรง แต่ก็ไม่มีช่องว่างออกไปได้ คนกลุ่มนี้ถูกฝึกมาอย่างดี เมื่อมีคนถูกโจมตี อีกคนจะเข้ามาแทนที่ทันที ถ้าเขายังออมมืออยู่คงไม่สามารถหลบหนีออกไปได้ เวลาเหลือน้อยลงทุกทีก่อนที่กองหนุนจะมาถึง
จิวโมไป๋ตัดสินใจพุ่งออกฝ่าออกไปโดยตรง
เขาใช้หมัดชกอาวุธทุกอย่างที่ขวางหน้า และพุ่งกระแทกคนที่ขวางทางออกไป เกล็ดมังกรทองที่ห่อหุ้มผิวหนัง ป้องกันอาวุธที่กระหน่ำลงมาด้านหลัง ดีที่อาวุธพวกนี้สร้างจากเหล็กธรรมดา ทำให้แค่สร้างความเจ็บปวดอยู่บ้างเล็กน้อย
แต่ก่อนจะหลบออกมา ห่างตาเหลือบไปเห็นดาบยาววางอยู่ จิวโมไป๋พุ่งเข้าไปคว้าดายยาวจากมือ หันด้านสันดาบฟันปัดกลุ่มคนที่ตามหลังมากระเด็นออกไป และพุ่งตัวด้วยความเร็วสูงไปทางทางลงชั้น 8
จิวโมไป๋ เลือกที่จะบุกตรงๆ เขาท่องเคล็ดบ่มเพาะกระบี่เลือนเร้น จิตใจสงบลงอย่างน่าประหลาด และสัญชาตญาณเฉียบคมขึ้น ดาบยาวในมือ แม้จะไม่ถนัด แต่ก็พอจะรู้สึกคุ้นเคยอยู่บ้าง
มือปืนรอจังหวะนี้อยู่แล้ว เขายิงใส่ไม่ยั้ง แต่ทุกนัดผ่านการคำนวนมาอย่างดี
ปัง! ลูกกระสุนพุ่งเข้าใส่จุดตายอย่างแม่นยำ จิวโมไป๋ฟันลูกกระสุนปืนที่ขวางหน้าขาดครึ่ง สองนัด ซ้อน และพุ่งตัวไปข้างหน้า มือปืนก็ยิงมาไม่หยุด จิวโมไป๋ก็ฟันปัดกระสุนปืนโดยไม่มีทีท่าจะหยุดชะงัก เหมือนปลาว่ายฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวกราด จนมาถึงครึ่งทาง มือปืนก็ควักปืนอีกกระบอกออกมาถือสองมือ และรัวยิงไม่ยั้ง
แต่จิวโมไป๋กับหายตัวไปอย่างรวดเร็ว
จิวโมไป๋ใช้ย่างก้าวประกายภูต ทิ้งเงาลวงตาเอาไว้ ส่วนตัวเองวิ่งใต่กำแพงกลับด้าน โดยใช้พลังวิญญาณยึดตัว เขากระโดดข้ามร่างของมือปืนลงบันไดจากไปอย่างรวดเร็ว
มือปืนเห็นร่างเงาสลายหายไป เขาชะงักตกใจ เสียงแหวกอากาศก็พุ่งมาจากด้านหลัง เขาเหวี่ยงปืนไปไปทางด้านหลัง ดาบยาวก็เสียบเข้าที่แขนของเขาเสียก่อน เป็นเวลาเดียวกับที่สัญญาไฟไหม้จะดังขึ้น
เมื่อสัญญาณไฟไหม้ดังขึ้น จิวโมไป๋ก็ลงมาที่ชั้น 8 กระโดดออกจากหน้าต่าง ทางเดิมกับทางที่ลอบเข้ามา มือกดกำไลข้อมือหยุดการทำงานกล้องวงจรติดของโรงแรม และปีนกลับห้องตัวเองที่ชั้น 3
เมื่อเข้าห้อง จิวโมไป๋เปลี่ยนเสื้อผ้าเก็บเข้ามิติเก็บ เปลี่ยนใบหน้ากลับมาเป็นชายผิวเหลืองหล่อเหล่าอายุ 30 จิวโมไป๋ไม่ลืมพรมกลิ่นทั่วร่าง แต่เป็นแค่การเจือจางจนแทบไม่ได้กลิ่น เมื่อเสร็จแล้วเขาก็เดินออกจากห้อง ในท่าทางโซเซเล็กน้อย
เขาเนียนไปกับคนอื่นๆ ที่วิ่งออกจากโรงแรมเพราะเสียงสัญญาณเตือน และคนของโรงแรมสวนมากขึ้นไปที่ชั้น 9 กันหมด ทำให้ไม่สามารถป้องกันคนออกจากโรมแรมได้ จิวโมไป๋อาศัยจังหวะช่วงชุลมุน เขาก็แซกตัวออกมาอย่างรวดเร็ว เขาค่อยๆหลบลีกกล้อง จนออกจากเขตของกลุ่มสัตว์ร้ายได้สำเร็จ เขาก็เดินไปที่พื้นดินเปิดโล่งแห่งหนึ่ง
“ออกมาได้แล้ว ฉันรู้ว่าแก ตามฉันมานานแล้ว”จิวโมไป๋พูดขึ้นเสียงด้วยเสียงแหบ ในมือของเขา แอบเทขวดใส่เศษหยกลงบนพื้น โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น
“หึหึ ระวังตัวดีมาก สมแล้ว ที่กล้าทำร้ายนายน้อยของพวกเรา”ชายชราร่างเล็กปรากฏตัวขึ้น ใบหน้าของเขาซูบตอบเหมือนหนู แววตาของเขามีประกายชั่วร้าย ท่าทางเหมือนหัวขโมย
จิวโมไป๋เงียบไม่พูดอะไรออกมา เขาตั้งท่าระวังตัว ดวงตาภายใต้ผ้าคลุมหัวมีประกายสีเงินปนทอง เศษหยกบนพื้นค่อยๆกระจายแยกตัวกันออกไป โดยที่ไม่มีใครพบ
ชายชราร่างเล็กเห็นว่าจิวโมไป๋ไม่พูดอะไรเลย เขาก็หัวเราะเบาๆ เดินมาหยุดห่างจากจิวโมไป๋ 10 เมตร เขามองจิวโมไป๋เล็กน้อย
“ฉันสนใจยันต์ที่แกใช้ ส่งมันมาให้ฉันดีๆ ถ้าฉันรู้สึกดี ฉันอาจจะยอมปล่อยแกไปก็ได้”ชายชราร่างเล็กพูดด้วยเสียงออกคำสั่ง เขาไม่มีท่าทีสนใจต่อรองเลยแม้แต่น้อย
จิวโมไป๋ยังคงเงียบไม่พูดอะไร แต่ประสาทสัมผัสเร่งเร้าถึงขีดสุด เขาไม่สามารถประมาทผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 6 โลหิตได้ และที่สำคัญ ชายชราร่างเล็กสามารถหลบการตรวจจับ ของจิตสัมผัสได้ แสดงว่าชายชราต้องมี เคล็ดวิชาที่ปกปิดตัวตน
จิวโมไป๋คาดเดาตัวตนของชายชราร่างเล็กได้บางส่วน ชายชราร่างเล็ก ต้องเป็นผู้อาวุโส หรือ ศิษย์สำนักยุทธดังเดิมสายโจร เพราะสำนักยุทธสายโจร เกือบทุกสำนักมีวิชาประเภทนี้
ถ้าเป็นจริงอย่างที่เขาคาดเดา เขาก็ลำบากและโชคดีในเวลาเดียวกัน…
ชายชรามองสำรวจชายตรงหน้าด้วยรอยยยิ้มแปลกประหลาด เขาเป็นคนดูแลทางเข้าชั้น 9 เมื่อถูกเรียกตัวไปหาคนร้ายที่ทำร้ายถงเหวย เขาก็ไม่ค่อยจะสนใจที่จะทำตามเท่าไหร่นัก เขาออกไปแค่แสดงใบหน้า ก่อนจะเดินกลับ แต่พอมาถึง เขาก็พบว่าโรมแรมถูกบุกรุก เขาได้ไปถึงในระหว่างกำลังต่อสู้กันอยู่ที่ชั้น 9 เขาก็พบแผ่นยันต์ที่สามารถเรียกพายุอันรุนแรงออกมาได้
เขาเลือกที่จะไม่ช่วย เขาวางแผนที่จะแย่งชิงแผ่นยันต์มาเป็นของตัวเอง
แผ่นยันต์อาคมที่เขาเคยพบ มีราคามหาศาล มีแค่คนสำคัญของยอดสำนักยุทธดั้งเดิมเท่านั้นที่มี ไม่ต้องพูดถึงแผ่นยันต์ที่สามารถสร้างพายุ ที่สามารถจัดการผู้บ่มเพาะพลัง จำนวนมากในคราวเดียวได้ มันต้องมีราคามากกว่ายันต์พวกนั้นหลายเท่า แววตาของชายชราร่างเล็กแสดงออกถึงความโลภออกมาอย่างชัดเจน
โชคดีที่เขาไม่แสดงตัว เขารออยู่ด้านนอก จนเห็นว่าจิวโมไป๋ออกมาจากหน้าต่างชั้น 8 และเข้าชั้น 3 เขาก็ติดตามจนมาถึงที่นี่
หึหึ ถ้าข้าได้ยันต์มาละก็….
จิวโมไป๋สังเกตเห็นชายชรา กำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ เขาไม่รอช้า พุ่งเขาหาชายชราพร้อมชกหมัดใส่ที่กลางอก แต่เมื่อใกล้ถึงตัว ชายชราก็หลบด้วยความเร็วสูง จิวโมไป๋ก็ไม่มีท่าทีตกใจ เขาชกใส่ชายชราติดกันหลายหมัด
ชายชรายิ้มดูแคลน เขาหลบก่อนจะฟาดฝ่ามือตอบโต้ แต่จิวโมไป๋ชกหมัดสวนกลับ
ปัง! เสียงปะทะกันสนั้น ร่างของจิวโมไป๋สั่นคลอนอย่างรุนแรง แต่ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนัก
แต่ชายชราถูกแรงปะทะกระแทกถอยไปสองก้าว ใบหน้าน่าเกลียดของเขาแดงก้ำ ชายชราหยิบมีดสั้นออกมา แววตาของเขาเป็นประกายเย็นเยือก
“กล้าทำให้ฉันคนนี้ต้องขายหน้า แกตาย!”ชายชราเคลื่อนร่างด้วยความเร็วสูง มาด้านข้างแล้วแทงมีดอย่างแม่นยำที่กลางอกของจิวโมไป๋
ปัก! จิวโมไป๋ยกแขนซ้ายขึ้นมาป้องกันได้ทันท้วงที และหมัดขวาชกออกใส่ร่างชายชราร่างเล็ก แต่ก็ไม่โดน ชายชราใช้ท่าร่างหลบหลีกและกระหน่ำฟันจิวโมไป๋ไม่ยั้่ง
แต่ก็ถูกจิวโมไป๋ป้องกันไว้ได้หมด
ชายชราถอยออกมาเล็กน้อยใบหน้าของเขาในตอนนี้มืดครึ้ม เขาสังเกตใต้เสื้อคลุมมีเกราะสีทองป้องกันอยู่
“แกใส่เกราะป้องกันสินะ ได้! ฉันจะตัดหัวแกออกมา!”ชายชราร่างเล็กโกรธจนใกล้บ้า เขาหยิบมีดสั้นออกมาสี่เล่ม โยนใส่จิวโมไป๋ มืออีกข้างชักดาบสั้นจากด้านหลังมาถือ และพุ่งตัวตามมีดสั้นไปหาจิวโมไป๋
จิวโมไป๋ท่องเคล็ดบ่มเพาะพลังเตาหลอมเก้าสุริยัน เกิดควันสีขาวออกจากร่าง กล้ามเนื้อทั่วร่างบีบอัดเป็นมัดกล้ามเนื้อทรงพลัง เกล็ดทองเปร่งประกายขึ้นเล็กน้อย
เขาชกหมัดซ้ายใส่มีดที่ถูกโยนมา ทำลายพวกมันทั้งหมด และชกหมัดขวาใส่ดาบสั้นที่ชายชราร่างเล็กฟันลงมาจนแตกเป็นชิ้นๆ ชายชราร่างเล็กตกใจ แต่ก็ยังไหวตัวทันเขาหลบออกไปทิ้งระยะห่าง
ชายชรารู้ดีว่าเขามีจุดเด่นเรื่องความเร็ว ถ้าเขายังต่อสู้ยืดเยื้อต่อไป จิวโมไป๋ไม่มีทางหนีเขาไปได้แน่ และจะต้องหมดแรงในที่สุด ชายชรากัดฟันข่มความไม่พอใจ ตัดสินใจต่อสู้ยื้อเยื้อ แม้จะเสียหน้าก็ตาม
จิวโมไป๋ลอบยิ้มในใจ สำนักโจรจริงๆ ท่าทางรวดเร็ว ฉับไว แต่หลักของวิชาคือหลบหนี ไม่ได้มีไว้เพื่อการต่อสู้ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถ สัมผัสตัวชายชราร่างเล็กได้ แต่ชายชราร่างเล็กก็ทำอะไรเขาไม่ได้เช่นกัน
จิวโมไป๋ก็ไม่ยอมเสียเวลาไปเปล่าๆ เขาหลอกล่อชายชราร่างเล็กไปยืนที่เขาต้องการได้สำเร็จ
ปัง! จิวโมไป๋เหยียบพื้นแตกเป็นชิ้นๆ พุ่งเข้าใส่ชายชราร่างเล็ก แรงกดดันแผ่ขยายออกจากร่างของจิวโมไป๋ เหมือนภูเขาลูกยักษ์กำลังทุ้มเข้าใส่ ชายชราชะงักตกใจกับพลังกดดันที่ปะทะเข้ากับร่าง และเมื่อได้สติเขากำลังจะหลบออกไป
จิวโมไป๋ยิ้มเย็น ใช้สัญลักษณ์มือพริบตาเดียว 16 รูปแบบ วงกลมข่ายอาคมสีเขียวอ่อนปรากฏขึ้นบนพื้น และเส้นแสงสีเขียวเหมือนเชือกพุ่งขึ้นจากพื้น มามัดร่างชายชราร่างเล็กทุกส่วนของร่างกาย จนยากแก่การหลบหนีออกมา
“นี้มันอะไรกัน!”ชายชราถูกเชือกแสงมัดทั่วร่าง เขาร้องตะโกนอย่างตื่นตระหนก จิวโมไป๋พุ่งเข้ามาชกหน้าอกชายชราร่างเล็กอย่างแรง จนกระอักเลือดออกมากองใหญ่และสลบไป
จิวโมไป๋สูดลมหายใจช้าๆ ควันขาวทั่วร่างกลับเข้าไปในร่างกาย จิวโมไป๋มองร่างชายชราเล็กน้อย และตั้งใจจะรีบออกไปจากที่แห่งนี้ แต่ก่อนจะไป จิตสัมผัสของเขาก็ตรวจสอบร่างของชายชรา เขาค้นพบอะไรบางอย่าง
เมื่อก้มลงไปหยิบสิ่งนั้นออกมา เป็นแผ่นหนังโบราณที่ม้วนเก็บไว้ในถุงผ้าอย่างดี เมื่อเปิดแผ่นหนังออกมา มันเป็นแผนที่อะไรบางอย่าง
จิวโมไป๋กวาดตาดูเหมือนไม่คอยสนใจนัก แต่เมื่อมองดีๆ เขาก็ต้องก้มลงมองใหม่อีกครั้งอย่างแปลกใจ