ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 137
เช้าวันต่อมา
แสงจากดวงอาทิตย์ส่องสว่างผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้อง จิวโมไป๋ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ สีหน้าของเขาผ่อนคลาย สบายใจอย่างหน้าประหลาด เขาลุกออกจากเตียงนอน เข้าห้องน้ำล้างหน้า ทำธุระส่วนตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าและเดินลงไปชั้นล่าง แม่ฮันหวูเหยาและคุณหยินลั่วปิงกำลังทำอาหารด้วยกันอยู่ เขารีบไปช่วยทั้งสองทำอาหาร
ไม่นานพ่อของเขาก็ลงมา เขาเดินไปนั่งดูข่าวจากทีวีโฮโลแกลมที่โซฟา
วันนี้เป็นวันหยุดวันอาทิตย์ จิวเสวี่ยเหม่ยหยุดเรียน ทำให้ตื่นสายกว่าปกติ
เตี๋ยเสวี่ยเจียวลงมา เธอเห็นจิวโมไป๋เธอก็หน้าแดงเล็กน้อย เพราะเมื่อวานพวกเขาไปเที่ยวสวนสนุกด้วยกัน ทำให้เด็กสาวลดความเขินอาย เมื่ออยู่ใกล้จิวโมไป๋ไปได้มาก
“พี่โมไป๋”เตี๋ยเสวี่ยเจียวพูดด้วยเสียงแผ่วเบาราวกระซิบ
“เจียวเจียวตื่นแล้วเหรอ?”จิวโมไป๋หันมายิ้มทักทายเด็กสาว
เตี๋ยเสวี่ยเจียวพยักหน้าเบาๆ เดินเข้าห้องครัว เพื่อช่วยทำอาหาร เธอหยิบจับวัตถุดิบยื่นส่ง ให้แม่ฮันหวูเหยาและคุณหยินลั่วปิงอย่างชำนาญ พวกเขาสี่คนทำอาหารในห้องครัวอยู่พักใหญ่จนเสร็จ
จิวเสวี่ยเหม่ยลงมาเป็นคนสุดท้าย เมื่ออาหารทั้งหมดวางบนโต๊ะทานอาหารพอดี
“พี่ชาย!”จิวเสวี่ยเหม่ยเห็นจิวโมไป๋ เธอก็กระโดดเข้ากอดเขาทันที เมื่อคืนเธออยากจะไปนอนกับพี่ชายของเธอ แต่ก็ถูกห้าม ทำให้เธอไม่พอใจเล็กน้อย เธอยังหวาดกลัวถงเหวยและพวก ที่จะทำร้ายเธอและเพื่อนของเธออยู่
จิวโมไป๋ลูบหัวเด็กสาวเบาๆ
“รีบกินอาหาร กินเสร็จแล้วพี่พาน้องและเจียวเจียว ไปซื้อของ เมื่อวานเรากลับมาเร็วไป ยังไม่ทันได้ซื้อของขวัญให้เจียวเจียวเลย”
เด็กสาวได้ยินดังนั้น ก็รีบนั่งลงกินอาหารทันที เตี๋ยเสวี่ยเจียวได้ยินก็ดวงตาเป็นประกาย เธอไม่พูดอะไร แต่เดินไปนั่งที่เกาอี้ของเธอ
ทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสามยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ทั้งหมดนั่งลงรับประทานอาหารด้วยกัน บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเป็นไปอย่างกลมกลืน
แต่ในตอนนั้นเอง บนหน้าจอทีวีโฮโลแกลม กำลังรายงานข่าวบางอย่่าง
“ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมกลุ่มผู้กระทำผิดแล้ว แต่กลุ่มผู้กระทำผิดกำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมตัวได้ พวกเขาจึงต้องเฝ้าตรวจคนเข้าออกหน้าโรงพยาบาล เพื่อป้องกันการหลบหนี”
นักข่าวสาวยืนอยู่หน้าโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง เบื้องหลังมีกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังยืนปิดทางเข้าออกโรงพยาบาลอยู่ ด้านหน้ามีกลุ่มคนกำลังยืนตะโกนด่าทอตำรวจอย่างไม่พอใจ จับใจความได้คราวๆว่า ตำรวจกำลังช่วยเหลือผู้ร้าย
“ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เข้าไปคุมตัวผู้กระทำผิด? แต่เลือกที่จะมาป้องกันอยู่ข้างนอก เพื่อไม่ใช้คนร้ายหลบหนี? หรือกลัวคนจะไปทำร้ายผู้กระทำผิด? นี่เป็นฉากบังหน้าเพื่อช่วยเหลือผู้กระทำผิดหรือไม่? และจากวีดีโออาชญากรรมรุนแรงนับร้อย ที่ถูกปล่อยออกมา ทำไมไม่มีใครรายงานฟ้องร้อง ผู้กระทำผิดในบันทึกคดี เลยสักคดีเดียว? สายข่าวของเรารายงานมาว่า หัวหน้ากลุ่มผู้กระทำผิด มีคนในครอบครัวเป็นตำรวจยศสูง…”
จิวเสวี่ยเหม่ยเห็นข่าวเธอก็ให้ความสนใจเล็กน้อย เมื่อได้ยินว่าผู้กระทำผิดมีคนในครอบครัวเป็นตำรวจยศสูง เธอก็เงยหน้ามองภาพโฮโลแกลมอย่างตั้งใจ
จนมีการบอกชื่อย่อ หัวหน้ากลุ่มผู้กระทำผิด จิวเสวี่ยเหม่ยก็มั่นใจว่าเป็น ถงเหวย เธอหันมาสบตาจิวโมไป๋ ทั้งสองแลกเปลี่ยนสายตากันก่อนจะกินอาหารต่อ
ข่าวจับกลุ่มถงเหวยโด่งดังไปทั่วประเทศมังกร เพราะผู้กระทำผิดมีตำรวจยศสูงอยู่เป็นคนในครอบครัว คอยช่วยเหลือให้ผู้กระทำผิด รอดพ้นมาได้หลายคดี ถ้าไม่มีวีดีโอถูกปล่อยออกมา จนเป็นประเด็นสังคม ผู้กระทำผิดอาจจะยังทำเรื่องเลวร้ายอยู่ก็เป็นได้
เรื่องนี้ไม่ใช้เรื่องเล็กๆ เพราะมันเกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมกันในสังคม โดยเฉพาะหลังจากที่ มีข่าวคนของตระกูลราชวงศ์ร่วมมือกับกลุ่มมือสังหารต่างชาติ ลอบสังหารคนในประเทศตัวเอง ในเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้ประชาชนธรรมดารู้สึกไม่ปลอดภัย พวกเขาพูดถึงเรื่องนี้กันในเว็บไซต์พูดคุย ถึง 10 ล้านคน ตั้งแต่เมื่อคืน เพราะประชาชนกลัวถูกคนที่มีอำนาจปกป้องผู้กระทำผิด ประชาชนจึงร่วมมือกันส่งข้อความ แจ้งไปทางรัฐบาลให้เร่งตรวจสอบ เพื่อกำจัดเชื้อร้ายนี้ทิ้งไป
บนหลังคาบ้าน ในเครื่องบินล่องหน
หลิวยี่อิง อ่านข่าวด้วยความแปลกใจ เพราะเธอติดตามจิวโมไป๋ เพื่อเฝ้าคุ้มครองความปลอดภัยของอีกฝ่าย เธอจึงเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด และบันทึกภาพเอาไว้ และเธอสืบสวนไปถึงตระกูลถง เพื่อแจ้งหน่วยของเธอ แต่เธอไม่คิดว่า วันต่อมาถงเหวยและตระกูลถงจะถูกตรวจสอบ แม้จะไม่เกี่ยวกับ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานก็ตาม
เธอกดกำไลข้อมือไม่กี่ครั้ง และส่งข้อมูลบางอย่างออกไป
ในบ้าน เมื่อรับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว พวกเขาก็ไปที่ร้านอาหารตระกูลจิว
จิวโมไป๋บอกเรื่องรถยนต์ให้พ่อแม่ได้รู้ ทั้งสองไม่ได้แสดงท่าทางอะไรนัก พวกเขาไม่ได้กังวลว่าเงิน ที่จิวโมไป๋ใช้ซื้อรถยนต์มาจากไหน เพราะพวกเขาเชื่อว่าลูกชายของพวกเขา ไม่เอาเงินมาจากการทำผิดกฏหมายแน่
จิวโมไป๋ไปช่วยพอแม่จัดการร้านอาหาร จนถึงช่วงสายของวัน เขาพาเด็กทั้งสองขับรถเที่ยวรอบๆเมืองเทียนซู ระหว่างขับรถ เขาก็ถือโอกาศตรวจสอบเหตุการณ์เมื่อคืน เขาเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตั้งด่านตรวจอย่างหนาแน่น
เขาลอบฟังได้ข้อมูลมาว่า เมื่อคืนมีกลุ่มผู้บ่มเพาะพลังหลายกลุ่มต่อสู้กัน ทำให้ตำรวจทำงานอย่างหนักตั้งแต่เมื่อคืน จนถึงเช้าพวกเขาต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้ประชาชนธรรมดาเดือดร้อน
จิวโมไป๋ขับรถไปที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง พาเด็กๆไปที่โรงภาพยนตร์เพื่อดูหนัง จากนั้นก็เดินเล่นกินข้าว และซื้อของเล่นให้เตี๋ยเสวี่ยเจียว ก่อนจะกลับไปที่ร้านอาหารตระกูลจิว
จิวโมไป๋อยู่จนถึงเย็น เขาก็ออกจากร้านอาหารตระกูลจิว ไปที่ตลาดสมุนไพรเทียนไห่
จิวโมไป๋จอดรถที่พื้นที่จอดรถและเดินไปที่ถนนโบราณโดยตรง
ผู้คนที่มาซื้อขายสินค้า ดูบางตาอย่างเห็นได้ชัด คงเป็นผลกระทบจากกลุ่มใต้ดินต่อสู้กันเมื่อคืน
จิวโมไป๋เดินเข้าไปในร้านศาลาหยก แต่คนที่ยืนหน้าเค้าเตอร์ ไม่ได้เป็นเถ้าแก่จ้าว แต่เป็นพนักงานชายหน้าตาเย็นชาไม่รับแขก
จิวโมไป๋ไม่สนใจ เขามองดูชั้นแรก ก่อนจะขึ้นไปที่ชั้น 2 มีแร่และหินแปลกๆมาใหม่จำนวนมาก จิวโมไป๋เลือกแร่พวกนั้นโดยไม่ต้องคิด เขาเรียกพนักงานมาขนแร่ทั้งหมดลงไป เมื่อคิดเงินราคากว่า 33 ล้านเครดิต
จิวโมไป๋จ้างพนักงานส่งสินค้า ไปที่ร้านอาหารตระกูลจิว
จากนั้นเขาก็เดินทั่วตลาดสมุนไพร เขาซื้อสมุนไพรจำนวนมาก และไปที่อาคารกลั่นโอสถ
เมื่อตอนที่เขาบุกเข้าไปทำลายแหล่งการเงินของกลุ่มต่างๆ เขาได้เก็บสมุนไพรและของต่างๆมาเป็นจำนวนมาก และมีสมุนไพรที่เขาได้รับมา เป็นสมุนไพรหายาก แม้แต่ในตอนที่พลังธรรมชาติฟื้นตัวเต็มที่ มันก็เป็นสมุนไพรที่หายากในระดับหนึ่ง
เขาอดใจไม่ได้ที่จะรีบมากลั่นมันเป็นโอสถ
จิวโมไป๋เดินมาถึงห้องกลั่นโอสถตระกูลลี่ฟู ที่เขาเคยมากลั่นโอสถ เห็นว่าแถวไม่ยาวนัก จิวโมไป๋ตัดสินใจเข้าไปใช้บริการที่นี่