ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 15
เมื่อเดินออกจากห้องสอบจิวโมไป๋แกล้งทำสีหน้ามืดมนเล็กน้อย พนักงานสาวอวิ่นชูฉิน เห็นท่าทางของเขาแล้วเธอก็เดาได้ว่าเขาสอบไม่ผ่านแน่ๆ เธอจึงเดินเข้ามาแล้วกล่าวปลอบใจ
“วันหน้ามาอีกนะคะ มีไม่มากหรอกที่เด็กอายุเท่าคุณมาทดสอบ”
เขายิ้มรับและเดินออกมา แต่ในตอนนั้นเอง
พนักงานชายหานซงก็เดินเข้ามาขวางหน้าด้วยสีหน้าดูแคลน
“หึหึ ฉันบอกแล้วใงว่าที่นี่ไม่ได้ที่เด็กอย่างแกจะมาเล่นไอ้หนู”
เห็นท่าทางวางกล้ามของอีกฝ่ายแล้ว เขาก็อกที่จะรู้ขำขึ้นมาไม่ได้ เขาแกล้งตีหน้าไม่พอใจ
“ถอยไป”
หานซงเดินเข้ามาอย่างช้าๆใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มแล้วตบไหล่จิวโมไป๋แรงๆ 1 ที ซึ่งมันทำให้เขาเกือบทรุด ความเจ็บปวดราวกับถูกค้อนทุบ
“ทีหลังอย่ามาก่อกวนที่นี่อีกไม่อย่างนั้น…”หานซงลากเสียงยาว แล้วพลักเขาออกไปด้านข้าง ยังดีที่เขาประคองตัวไว้ ไม่ได้ล้มลงไป
“หึ”หานซงแค่นเสียงดูถูกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเดินไปนั่งไหว้ห้างโดยไม่สนใจจิวโมไป๋อีก
จิวโมไป๋บีบไหล่ซ้ายที่ถูกตบด้วยความเจ็บปวด จากแรงตบแล้วอีกฝ่ายน่าจะอยู่ในขั้นกล้ามเนื้อต้น
แค่แรงตบของระดับกล้ามเนื้อก็แทบจะทำให้กระดูกของเขาแตกเป็นเสี่ยงๆแล้ว ไม่ต้องพูดถึงถ้าต่อสู้กันจริงๆ เขาคงไม่สามารถสู้ได้แน่
จิวโมไป๋ข่มความโกรธ ประคองตัวเองเดินลงไปอย่างรวดเร็ว เขาต้องรีบบ่มเพาะพลังให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นเขาอาจเผลอตายอย่างโง่ๆเข้าจริงๆก็ได้
เดินออกจากสมาคมปรุงยา เขาก็เดินไปทางทิศตะวันตกของตลาดสมุนไพรเทียนไห่
ทิศใต้จะเป็นทางเชื่อมจากตัวเมือง ทำให้มีร้านค้าสองข้างทางคึกคักเต็มไปด้วยผู้คน แต่สมุนไพรล้ำค้าจะมีน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นโอสถหรือสมุนไพรคุณภาพต่ำ เพราะผู้คนที่จับจ่ายอยู่ส่วนมากจะเป็นคนธรรมดา
ทิศเหนือจะเป็นทางเชื่อมออกไปที่ป่าสวรรค์โบราณ ทำให้ส่วนนี้มักจะมีสมุนไพรล้ำค่าปรากฏขึ้นบ่อยๆ และผู้คนส่วนมากจะเป็นผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่ง
ทิศตะวันออกจะแตกต่างจากทิศอื่น เพราะมันมีโรงแรมร้านอาหาร ผับ บาร์ คาสิโน และ สถานเริงรมจำนวนมาก เหมาะสำหรับคนที่ได้ทรัพจากการผจญภัยแล้วเอามาผลาญ
ทิศตะวันตกจะมีสมุนไพรคุณภาพสูงไปจนถึงล้ำค่า นอกจากนั้นยังมีพวกของแปลกๆที่เก็บได้จาก ป่าสวรรค์โบราณ รวมไปถึงของโบราณจากทั่วสารทิศ ที่เอามาวางขาย ทำให้ ทิศตะวันตกของตลาดสมุนไพรเทียนไห่ มีชื่อเรียกพิเศษว่า ถนนโบราณ ที่เต็มไปด้วยของแปลกๆสารพัด
เดินเข้ามาเขาก็สัมผัสได้ทันที ว่าถนนโบราณ นั้นแตกต่างจากส่วนอื่นของตลาดสมุรไพรเทียนไห่ ตลอดทางด้านหน้าของตึกสูง จะมีซุ้มเล็กๆ ขายสิ้นค้ามากมายตลอดทาง
ทิศอื่นจะมีการคุมเข้มไม่ให้มีซุ้มขายของขวางหน้าร้านเพราะมันจะส่งผลกระทบต่อคนที่เช่าหรือซื้อตึก
แต่ถนนโบราณกับ ไม่มีการขัดขวางการตั้งซุ้ม ทำให้ตลอดทางอัดแน่นไปด้วยผู้คนมากกว่าทิศอื่น เรียกได้ว่าเป็นถนที่คึกคักจนน่ากลัว
จิวโมไป๋เดินผ่านผู้คนไปเรื่อยๆระหว่างทางก็มองสำรวจสินค้าพลางใช้ความทรงจำระลึกถึงสรรพคุณของสินค้าต่างๆ แต่ก็ไม่พบอะไรน่าสนใจ
เขาเงยหน้ามองป้ายร้านตลอด แต่ก็ไม่พอ จนกระทั้งเดินไปเกือบจะสุดทางผู้คนรอบข้างก็น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
เขาที่กำลังคิดว่า ร้านนั้นอาจยังไม่เปิด ขณะที่กำลังถอดใจเดินกับ สายตาก็ไปสะดุดกับอาคารที่อยู่รองสุดท้ายของถนน
ร้านศาลาหยก
“มันอยู่ที่นี่จริงๆ”ทันทีที่เห็นป้ายชื่อร้าน จิวโมไป๋ก็เผลอกำมืออย่างตื่นเต้น แต่ไม่นานก็ต้องสงบลง เพราะเขาไม่รู้ว่า ‘สิ่งนั้น’ จะเข้ามาอยู่ในร้านแล้วหรือยัง
ตั้งสติอยู่ครู่ใหญ่เมื่อใจเย็นลงแล้วเขาก็เดินเข้าไปในร้าน
ทันทีที่เข้าไปด้านใน เขาก็กวาดตาสำรวจอย่างแปลกใจ ภายในร้านเต็มไปด้วยก้อนแร่แปลกประหลาดมากมายวางซุมตามมุมต่างๆ หน้าเคาเตอร์มีตู้โชว์เป็นกระจกนิรภัยภายในเป็นหยกคุณภาพสูง
จัดร้านแปลกมาก
“ยินดีตอนรับ”ทันทีที่เห็นว่ามีคนเข้าร้าน เถ้าแก่วัยชราหนวดขาวยาวถึงกลางอก ก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว
เห็นท่าทางค่องแคล้วรวดเร็ว ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดฝาดของเถ้าแก่ เขาก็มั่นใจได้ทันทีว่าอีกฝ่ายเป็นผู้บ่มเพาะ และไม่ใช้ผู้บ่มเพาะธรรมดา ด้วยประสบการณ์กว่า 100 ปี เถ้าแก่น่าจะอยู่ในขั้นที่ 7 ไขกระดูก
คนที่อายุถึงขนาดนี้และการบ่มเพราะสูง แสดงว่าเขาต้องฝึกบ่มเพาะก่อนที่จะมีตำหนักยุทธ เพราะในยุครุงอรุณ คนวัยกลางคนขึ้นไปถึงจะมีตำหนักยุทธ พวกเขาก็ไม่ฝึกบ่มเพาะ แม้ว่ามันจะมีประโยชน์มากมายก็ตาม เพราะมันต้องใช่ทรัพยากรจำนวนมากในการบ่มเพาะ
คนระดับกลางและล่าง แทบจะไม่สามารถบ่มเพาะได้ ซึ่งคนที่อายุมากขนาดนั้นแทนที่จะบ่มเพาะเอง ให้ลูกให้หลานฝึกไปจะดีกว่า
เถ้าแก่ต้องมีเบื้องหลังไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
จิวโมไป๋ก้มหัวสุภาพมากขึ้น
“ผมขอเดินดูของก่อนนะครับ ถ้าเลือกได้แล้วผมจะเรียกเถ้าแก่เอง”
“ฮ่าๆไม่เป็นไรพ่อหนุ่ม ดูได้ตามสะบาย”เถ้าแกชราลูบเคราสีขาวเบาๆพลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
จิวโมไป๋ก้มหัวขอตัวแล้วเดินไปดูรอบๆร้าน เขาพยายามสงบจิตใจให้ดีที่สุด ไม่ให้ตื่นเต้นจนอีกฝ่ายจับสังเกต
ผู้บ่มเพาะขั้นที่ 7 ไขกระดูก อีกก้าวเดียวจะถึงขั้นที่ 8 ชีพจร แสดงว่าอีกฝ่ายเริ่มที่จะสามารถใช้ปราณได้แล้ว
ประสาทสัมผัสของอีกฝ่ายจะต้องเฉียบคมและทรงพลังมาก ถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาดเขาอาจจะไม่ได้ของที่ต้องการณ์ เขาต้องสงบใจให้เย็น และแกล้งทำเป็นไม่สนใจมันมากนัก
เดินดูไปหนึ่งรอบก็ไม่เจอของที่ต้องการ แม้จะมีแร่ที่มีคุณสมบัติพิเศษอยู่บาง แต่พวกมันก็ต้องผ่านวิธีพิเศษ ถึงจะใช้ได้ ซึ่งตอนนี้เขานั้นยังไม่มีความสามารถพอ เขาจึงแอบจำมันไว้ก่อนในอนาคตเมื่อมีเงินมากพอ จะกลับมาซื้อในภายหลัง
เดินวนอีก 2 ก็ยังหาไม่เจอ หรือว่ามันยังไม่เข้าร้าน?