ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 155
ห้องใต้ดินแห่งหนึ่งใต้สวนสนุก
บนเก้าอี้โยกที่สร้างจากไม้ ชายในชุดสูทกกำลังนั่งโยกเก้าอี้เบาๆ เครื่องเล่นด้านข้างกำลังขับกล่อมบนเพลง ในตอนนั้นเองหนึ่งในป้ายไม้จำนวนมากที่ห้อยอยู่รอบห้องหักลงมา 1 อัน ทำให้ชายในชุดสูทลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ ดวงตาสีดำมืดมนไร้ความรู้สึก เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ เมื่อเขายืนขึ้นสภาพห้องใต้ดินรวมทั้งชุดสูทของเขากลายเป็นเก่าขาด ห้องใต้ดินเต็มไปด้วยดินและฝุ่น เก้าอี้โยกพังลง เครื่องเล่นกลายเป็นสนิม เหลือแต่ป้ายไม้ที่ห้อยอยู่ยังสมบูรณ์เหมือนใหม่
“มีคนที่ดูจะใช้ได้เขามาสินะ”ชายในชุดสูทเก่าสาดแสะยิ้มอันบ้าคลั่งออกมา
…
ที่เครื่องเล่นถ้วยน้ำชา วิญญาณเด็กแฝดกอดกันอย่างมีความสุข แต่ในตอนนั้นเอง หมอกสีเทาก็ค่อยๆปกคลุมพื้นที่ทั่วทั้งสวนสนุก ใบหน้าของจิวโมไป๋เปลี่ยนไปเล็กน้อย เสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมยที่ยืนรออยู่ข้างนอก พวกมันพุ่งเข้ามายืนข้างจิวโมไป๋
“ตามพี่ชายมา พี่ชายจะพาพวกเธออกไปจากที่นี่”จิวโมไป๋พูดกับวิญญาณแฝด
วิญญาณเด็กสาวพยักหน้าเบาๆ แต่วิญญาณเด็กชายลังเล เขาละแวงไม่ไว้ใจจิวโมไป๋เท่าไหร่นัก
จิวโมไป๋ยิ้มให้วิญญาณเด็กชายก่อนจะพูดแนะนำตัว
“ฉันชื่อจิวโมไป๋ ไม่ต้องกลัวฉันหรอก ฉันจะไม่ทำอะไรพวกเธอ และจะพาเธออกไปจากที่คุมขังนี้เอง”
วิญญาณเด็กชายมองจิวโมไป๋ เขารู้สึกแปลกๆ เขารู้สึกไว้วางใจชายตรงหน้า ทั้งๆที่พึ่งเคยพบกัน เขาแทบไม่มีความทรงจำเหลืออยู่เลย แม้แต่น้องสาวของเอง เขาก็แค่รู้สึกถึงความผูกพัน ที่มาจากสายใยครอบครัว เขาจะไว้ใจชายตรงหน้าได้จริงเหรอ?
วิญญาณเด็กชายเงียบไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก็พยักหน้า เพราะเขายังเด็กเกินไป และยิ่งเสียความทรงจำ ทำให้เขาเลือกที่จะเชื่อความรู้สึกของตัวเอง
จิวโมไป๋ยิ้มให้วิญญาณเด็กชาย ก่อนจะยืนมือข้างหนึ่งมากุมมือเด็กชาย มืออีกข้างของเด็กชายถูกเด็กสาวจับไว้อยู่แล้ว
จิวโมไป๋เรียกกระบี่เลือนเร้นออกมา ฟันใส่พื้นที่ทางออกจากเครื่องเล่นถ้วยน้ำชา เกิดเสียงกรีดร้องขึ้นมา ก่อนที่เครื่องเล่นจะสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
จิวโมไป๋พาวิญญาณเด็กแฝดออกมา พร้อมกับเสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมยที่ยืนคุ้มกันอยู่รอบๆ เครื่องเล่นถ้วยน้ำชาก็พังทลายลงเป็นชิ้นๆ
หมอกสีเทาบางเบาเหมือนจะหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ จิวโมไป๋ไม่สนใจหมอกสีเทา เขาหันกลับมามองวิญญาณแฝดทั้งสอง
“พวกเธออยากจะติดตามฉันออกไปไหม แม้ว่าพวกเธอทั้งสอง จะไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม แต่ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำให้พวกเธอได้ทุกข์ใจอีก”จิวโมไป๋พูดกับทั้งสอง
วิญญาณเด็กสาวไม่ลังเลที่จะพยักหน้าเห็นด้วย วิญญาณเด็กชายคิดเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับ
จิวโมไปยิ้ม ก่อนจะใช้พลังวิญญาณสีเงินปนทองและเศษหยก วาดข่ายอาคมลงบนพื้น กลายเป็นวงแหวนข่ายอาคมขนาดเล็ก จิวโมไป๋ยื่นมือสองข้างออกมาไปทางวิญญาณเด็กทั้งสอง
“จับมือฉันไว้คนละข้าง ไม่ต้องกลัวมันไม่มีอะไรหรอก”วิญญาณเด็กแฝด ยื่นมาจับมือจิวโมไป๋ ก่อนที่ข่ายอาคมจะเรืองแสงสีเขียวอ่อน
ร่างของวิญญาณแฝดมีพลังงานสีเหลืองอ่อน ค่อยๆหลอมรวมกับแสงสีเขียวอ่อน
ข่ายอาคมค่อยๆกลายเป็นสีดำ ก่อนที่วิญญาณเด็กแฝดจะกลายเป็นแสงสีดำพุ่งหายเข้าไปตรงกลางหน้าผากของจิวโมไป๋
จิวโมไป๋นั่งลงทำสมาธิทันที ทะเลจิตวิญญาณสั่นไหวอย่างรุนแรง ทะเลจิตวิญญาณอยู่ๆก็ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว และในเวลาเดียวกัน ท้องฟ้าสีเงินทองก็กลายเป็นสีทองอ่อน
จิตสัมผัสของเขาขยายไป 1 กิโมเมตร!
จิวโมไป๋วาดฝ่ามือเบาๆ ปรากฏลวดลายสีทองอ่อนเหมือนเส้นด้าย หมุนวนกลายเป็นวงแหวน คล้ายวงแหวนเวทย์ ของผู้บ่มเพาะเวทมนตร์ แต่แตกต่างกันในด้านอักษรโบราณ และพลังงานที่ใช้ วงแหวนสีทองในมือของเขา สร้างจากพลังวิญญาณที่บริสุทธิ์ ไม่มีพลังเวทย์เจือปน
จิวโมไป๋พลิกฝ่ามือลง ข่ายอาคมสีทองขยายใหญ่ปกคลุมร่างของเขาและเสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมย
หมอกสีเทาที่อยู่โดยรอบสั่นไหวเล็กน้อย เหมือนตรวจจับอะไรบางอย่างอยู่ แต่สุดท้ายก็ลอยผ่านไป
จิวโมไป๋ยิ้มพอใจ ในที่สุดพลังวิญญาณของเขาอยู่ขั้นทองคำต้น เขาเข้าสู่เส้นทางปรมาจารย์ที่แท้จริง แม้จะไม่ได้แข็งแกร่งอะไรนัก แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องเสียเวลาหยิบวัตถุดิบมาใช้อีก
จิวโมไป๋หลับตาลง ตรงใจกลางทะเลวิญญาณมีผลึกสีขาวสีเหลี่ยมหมุนวนอยู่รอบๆ ดอกบัวหัวใจพิสุทธิ์ จิวโมไป๋มองเข้าไปภายในผลึกสีขาว ด้านในเขาก็พบวิญญาณเด็กแฝด กำลังสำรวจบ้านเล็กๆอย่างสงสัยใคร่รู้
“ที่นี่เป็นบ้านของพวกเธอ มันเป็นสถานทีที่ปลอดภัยที่สุด ไม่มีใครทำอะไรพวกเธอได้อีก ตอนนี้พวกเธอพักก่อนเถอะ วิญญาณของพวกเธออ่อนแอเกินไป”จิวโมไป๋ส่งเสียงผ่านวิญญาณพูดกับวิญญาณแฝดทั้งสอง
เมื่อได้ยินคำพูดของจิวโมไป๋ วิญญาณแฝดทั้งสองก็หาห้องนอนของตัวเอง และพักผ่อน เมื่อวิญญาณเข้าสู่การหลับไหล มันก็ดูดกลืนทะเลหมอกสีทองของเขา เข้าไปฟื้นฟูวิญญาณของพวกเขา
จิวโมไป๋เห็นกระบวนการดูดกลืน เขาก็ไม่ใส่ใจนักเพราะมันไม่ได้สร้างภาระอะไร
เขาสามารถฟื้นฟูพลังวิญญาณ ได้เร็วกว่าการดูดกลืนเพื่อฟื้นฟูวิญญาณของทั้งสอง
จิวโมไป๋เพ่งจิตกระตุ้นผลึกสีขาว หรือก็คือ อาณาเขตวิญญาณ บนฝามือของเขาปรากฎพื้นที่สี่เหลียมขนาดเล็ก สีขาว เขาสามารถควบคุมขนาดของมันได้ แต่ต้องแลกมาด้วยการใช้พลังวิญญาณจำนวนมหาศาล เขาเรียกมาดูก่อนที่จะเก็บกลับไป
เขาต้องทำอะไรอีกหลายอย่างในคืนนี้ เขาไม่สามารถเสียพลังวิญญาณโดยเปล่าประโยชน์ และอาณาเขตวิญญาณของวิญญาณแฝดเขาก็รู้จักเป็นอย่างดี เพราะมันเหมือนกับตอนที่เขาได้ทำสัญญากับวิญญาณแฝด ในอดีตไม่มีผิด
แม้วิญญาณเด็กทั้งสอง จะไม่ใช้วิญญาณดวงเดียวกัน แต่เพราะเป็นวิญญาณฝาแฝด ทำให้เกิดการหลอมรวมของอาณาเขตวิญญาณ พวกเขาจึงมีอาณาเขตวิญญาณเดียวกัน
เพราะแบบนี้ทำให้มีคนเข้าใจผิดว่า เขามีวิญญาณติดตามแค่ดวงเดียว แต่ที่จริงแล้วมี 2 ดวง
อาณาเขตวิญญาณของวิญญาณแฝดคือ อาณาเขตวิญญาณห้วงมรณะ ความสามารถ ทำให้ผู้ที่ตกอยู่ในอาณาเขตวิญญาณ จะถูกปลุกความรู้สึกหวาดระแวง ควบคุมจิตสำนึกตัวเองไม่อยู่ เหมือนเป็นคนงี่เง่าที่ชอบทำอะไรโง่ๆ จนทำให้ตัวเองหรือคนรอบข้างเดือนร้อน และตกอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยง
อาณาเขตวิญญาณห้วงมรณะ เหมือนจะไม่ได้แข็งแกร่งหรือมีความสามารถพิเศษที่แปลกประหลาดอะไรนัก แต่ถ้านำไปใช้ดีๆ มันเป็นอาณาเขตวิญญาณที่ทรงพลัง ที่สามารถจัดการพวกคนฉลาด ที่สามารถควบคุมตัวเองได้แม้จะอยู่ในสภาวะคับขัน
เมื่อตกอยู่ในอาณาเขตวิญญาณห้วงมรณะ แม้จะเป็นคนที่มีสภาวะจิตใจที่แข็งแกร่ง หรือพยายามตั้งสมาธิ ควบคุมตัวเองยังไงก็ไม่สามารถทำได้ ทำให้คนพวกนี้เสียท่าอาณาเขตวิญญาณห้วงมรณะมาไม่น้อย
แต่ข้อเสีย ที่ใหญ่ที่สุดของอาณาเขตวิญญาณห้วงมรณะคือ ไม่สามารถใช้กับคนประเภทไร้หัวคิด ไร้สมอง หรือพวกชอบเสี่ยงทำบ้าๆ ที่ไม่ได้ใช้สมองในการทำอะไร อาณาเขตวิญญาณห้วงมรณะแทบจะไม่มีความหมายกับคนเหล่านี้
แต่อาณาเขตวิญญาณของสองฝาแฝด ไม่ใช้แค่ให้เขาสามารถใช้อาณาเขตวิญญาณได้เท่านั้น ยังมอบความสามารถพิเศษติดตัวอันแข็งแกร่ง ให้กับเขา และเป็นที่มาของชื่ออาณาเขตวิญญาณ
สัมผัสมรณะ
เมื่อตกอยู่ในอันตราย หรือมีเหตุให้ต้องได้รับบาดเจ็บ จะสามารถรู้สึกได้ถึงอันตรายนั้นได้ในเสี่ยววินาที
โดยปกติเมื่อวิญญาณทำสัญญาเป็นผู้ติดตามกับผู้บ่มเพาะ ผู้บ่มเพาะจะสามารถใช้อาณาเขตวิญญาณ ของวิญญาณดวงนั้นได้ ความสามารถของอาณาเขตวิญญาณมีมากมายและหลากหลายรูปแบบ จนถึงขั้นพิสดาร แต่อาณาเขตวิญญาณ เป็นรูปแบบการใช้ ที่ผู้ใช้ต้องส่งพลังวิญญาณไปในอาณาเขตวิญญาณและปล่อยออกไป
ทำให้ยิ่งอาณาเขตวิญญาณแปลกประหลาดและทรงพลังมากเท่าไหร่ มันจะต้องใช้พลังวิญญาณจำนวนมหาศาลตามไปด้วย
แต่ความสามารถติดตัวนั้น ไม่เหมือนกัน เพราะมันเป็นความสามารถที่แสดงผลตลอดเวลา ไม่ต้องส่งพลังวิญญาณเพื่อกระตุ้นความสามารถ ความสามารถติดตัวสามารถใช้งานได้ โดยที่เจ้าของไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ
ความสามารถติดตัวมีโอกาส 1 ใน 1,000 ที่จะได้รับเมื่อทำสัญญาวิญญาณติดตาม แต่โดยปกติการรับวิญญาณติดตาม มีโอกาสน้อยมากอยู่แล้ว ประเทศมังกรมีไม่ถึง 10 คนที่มีวิญญาณติดตาม และพวกเขาไม่เคยรู้ด้วยซ้ำ ว่ามีวิญญาณที่สามารถมอบความสามารถพิเศษประเภทติดตัวได้
พูดได้ว่าจิวโมไป๋โชคดีมากที่ได้รับวิญญาณแฝดทั้งสอง
จิวโมไป๋ยิ้มออกมาอย่างมั่นใจมากขึ้น ความสามารถติดตัว สัมผัสแห่งมรณะ เป็นตัวช่วยสำคัญ ที่ทำให้เขารอดพ้นจากอันตรายมานับไม่ถ้วน จนเขาสามารถหลบหนีจากคนของเซียวหนานจิ้นได้ และสามารถกลับไปล้างแค้น แม้จะเกิดเรื่องผิดพลาดจนเกือบเอาชีวิตไปทิ้ง แต่เขาก็ยังหนีออกจากสถานการณ์นั้นได้
ต้องยกความดีให้กับสัมผัสมรณะ