ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 165
จิวโมไป๋ใช้จิตสัมผัสตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมด เขาก็พบจี้หยางเฟยกำลังเดินไปที่ต้นไม้ใหญ่ที่ถูกเขาเผาเมื่อครู่ เขาถอนจิตสัมผัสออกและตรวจสอบที่อื่น ก็พบมู่คังและฉินซื่อหลันอยู่หน้าทางเข้าเขาวงกต เขาแปลกใจเล็กน้อยที่ทั้งสองอยู่ด้วยกัน
ตงมอเทียนกำลังนอนไม่ได้สติอยู่อีกด้านของเขาวงกต
ผู้บ่มเพาะพลังทั้ง 3 กำลังออกจากเขาวงกตอีกด้านหนึ่ง
จิวโมไป๋ไปรับเสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมยที่สวนดอกไม้ เขาพบว่าในตอนนี้เสี่ยวไป๋เปิดทะเลจิตวิญญาณแล้ว เขาลูบหัวเบาๆ
“กลับไปฉันจะสอนเคล็ดบ่มเพาะจิตวิญญาณให้”จิวโมไป๋พูด
เสี่ยวไป๋หยักหัวเล็กๆเบาๆและกระโดดเกาะไหล่จิวโมไป๋ เสี่ยวเหมยกระโดดเข้าไปในแขนและใช้หัวออดอ้อน
จิวโมไป๋ยิ้มแผ่วเบาตบหัวมันเบาๆ และไปหามู่คังที่ทางเข้าเขาวงกต
เมื่อเห็นจิวโมไป๋เดินออกจากเขาวงกต มู่คังก็เดินขากระเพกไปหาจิวโมไป๋
“ฉันขอขอบคุณอีกครั้ง ถ้าไม่ได้นายมาช่วยฉันคงตายไปแล้ว”มู่คังรีบขอบคุณจิวโมไป๋
“ไม่ต้องขอบคุณ ฉันมีธุระที่ต้องจัดการที่นี่อยู่แล้ว”จิวโมไป๋โบกมือไม่ให้มู่คังขอบคุณ
ดวงตาของเขาเป็นสีทองวูบหนึ่งก่อนหายไป จิวโมไป๋แปลกใจที่มู่คังสามารถสร้างทะเลจิตวิญญาณได้แล้ว พรสวรรค์ของมู่คังเหนือกว่าที่เขาคาดเอาไว้
“นายพักอยู่ที่ไหน มาพักที่โรงแรมของฉันไหม”มู่คังเชิญจิวโมไป๋
“ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ฉันจะออกจากเมืองนี้แล้ว”จิวโมไป๋จะพูดปฏิเสธ
“นายจะไปที่ไหนต่อ”มู่คังพูดถามออกไปโดยไม่คิด
“เมืองฉางอัน”จิวโมไป๋ตอบ
“พอดีเลย พรุ่งนี้ฉันก็จะไปเมืองฉางอันเหมือนกัน เอาอย่างนี้เป็นไง นายมาพักที่โรงแรมของฉัน พรุ่งนี้ออกไปเมืองฉางอันพร้อมกันเลย”มู่คังพูดด้วยความกระตือรือร้น อยากจะเชิญจิวโมไป๋จริงๆ
จิวโมไป๋จะพูดปฏิเสธอีกครั้ง แต่เมื่อคิดอีกที เขาก็พยักหน้าตกลง ถ้าเขาออกห่างจากมู่คังในตอนนี้ เมื่อตงมอเทียนฟื้นกลับมา ชักชวนให้มู่คังทำเรื่องเลวร้ายอีก
เขาจะต้องทำให้มู่คังไม่ถูกหลอกง่ายๆ
มู่คังกำหมัดแน่นด้วยความดีใจ เขากดกำไลข้อมือ ที่ตอนนี้กลับมาใช้งานได้แล้วเรียก ผู้คุ้มกันของตัวเองมารับ
ผู้คุ้มกันหญิงที่เป็นผู้ติดตามของฉินซื่อหลัน ก็มารับเธอพอดี พวกเขารีบร้อนจากไป
มู่คังมองไปทางฉินซื่อหลันก่อนจะกลับมาพูดกับจิวโมไป๋ แต่เป็นการพูดฝ่ายเดียวเสียมากกว่า
เมื่อผู้คุมกันชายวัยกลางคนมารับ พวกเขาก็ออกจากสวนสนุกทันที
โดยที่มู่คังลืมตงมอเทียนไปแล้ว
ไปถึงโรงแรมที่เขาเช่า จิวโมไป๋แกล้งทำเป็นเข้าไปเก็บของ ก่อนจะเดินออกมาพร้อมกระเป๋าใบเล็กที่หยิบออกมาจากแหวนมิติเก็บของ
เมื่อไปถึงโรงแรมของตระกูลมู่ เขาก็ไม่แปลกใจกับความหรูหราของมัน เพราะอีกฝ่ายเป็นถึงตระกูลชั้นสูงที่เป็นคนสนิทของตระกูลราชวงศ์ ความมั่งคังและอิทธิพลที่พวกเขาสะสมไม่ได้อ่อนแอเลย
จิวโมไป๋ทิ้งตัวลงนอน เสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมยกระโดดขึ้นมานอนข้างๆ พวกเขานอนหลับทันที เพราะความเหน็ดเหนื่อยตลอดทั้งคืน
ตอนเช้าหิมะสีขาวปกคลุมทั้งเมืองฉางซา บนถนนพนักงานทำความสะอาดกำลังกวาดหิมะที่อยู่บนทางเท้า
จิวโมไป่ลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เขาก็พาเสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมยลงไปด้านล่าง
มู่คังมารอรับอยู่ด้านข้าง เขาพาจิวโมไป๋ไปที่ห้องอาหาร จิวโมไป๋ก็พบกับฉินซื่อหลัน ที่กำลังรอยู่
พวกเขาทั้งสามทักทายกัน ก่อนจะสั่งอาหาร เสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมยกระโดดขึ้นนั่งบนโต๊ะอย่างเย่อหยิ่ง
ฉินซื่อหลันดูเหมือนจะสนใจเสี่ยวเหมยไม่น้อย เธอสั่งอาหารมาเลี้ยงเสี่ยวเหมยไม่อั้น จนเสี่ยวไป๋มองอย่างอิจฉาเล็กน้อย มู่คังเห็นดังนั้นก็สั่งอาหารมาเลี้ยงเสี่ยวไป๋
เมื่ออาหารมาเสิร์ฟ พวกเขาก็ลงมือรับประทานอาหารจนเสร็จ
ฉินซื่อหลันมองไปที่จิวโมไป๋แล้วพูดถึงสาเหตุที่เธอมาพบจิวโมไป๋วันนี้
“ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดยังไงดี เมื่อวานนายก็เห็นแล้วว่าในสวนสนุกร้างมันมี สิ่งเหนือธรรมชาติ…”ฉินซื่อหลันขอความช่วยเหลือจากจิวโมไป๋ เธอเล่าว่า เมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนอยู่ๆน้าของเธอ ก็แสดงอาการผิดปกติบางอย่าง เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
เมื่อคนในตระกูลของเธอสืบหาสาเหตุ พวกเขาก็พบว่าน้าของเธอ เกิดอาการหลังไปตรวจสอบ โบราณสถานแห่งหนึ่ง…
ฉินซื่อหลันเปิดโฮโลแกรมรูปภาพขึ้นมา เป็นรูปถ่ายน้าของเธอ และรูปโบราณสถานและสิ่งของหลายชนิด
น้าของเธอเอาของพวกนี้วางขายในการประมูลที่จะเริ่มในเย็นวันนี้ แต่เมื่อ 2 วันก่อนน้าของเธออยู่ๆก็เป็นลมไม่ได้สติ จิตแพทย์ตรวจสอบว่า สมองส่วนที่ทำให้นอนหลับถูกอะไรบางอย่างกดเอาไว้ ทำให้นอนหลับลึกไม่ได้สติ ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไรก็ตาม ก็ไม่สามารถปลุกได้
“เมื่อวานฉันเห็นนาย ใช้ยันต์ที่สามารถทำลายปีศาจนั้นได้”ฉินซื่อหลันพูดกับมู่คัง และหันมามองจิวโมไป๋
เมื่อเธอกลับมาวิเคราะห์ที่บ้าน เธอก็พบว่าจิวโมไป๋ อยู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นที่สวนสนุกร้างอย่างไม่มีที่มา และท่าทางสำนึกบุญคุณของมู่คังที่มีให้กับจิวโมไป๋ มันบอกอะไรได้หลายอย่าง
เธอจึงคาดเดาว่าจิวโมไป๋ น่าจะเป็นคนที่ให้แผ่นยันต์กับมู่คัง ถ้าเป็นแบบนั้น จิวโมไป๋อาจมีวิธีกำจัดปีศาจก็ได้ อาการน้าของเธอมันแปลกประหลาดเกินไป เธออาจถูกอะไรบางอย่างเข้าสิงก็ได้ ดังนั้นเธอจึงมาพูดขอร้องให้จิวโมไป๋ไปดูน้าของเธอ
จิวโมไป๋ได้ยินว่าจะมีงานประมูล เขาตัดสินใจช่วยเหลือฉินซื่อหลันทันที ถ้าเขามีเส้นสายตระกูลฉิน และตระกูลมู่ เมื่อเขาประมูลสิ่งของมาได้ เขาไม่ต้องกลัวถูกคนมาชิงมันไป
“ตกลง ฉันจะไปดูอาการของน้า…”จิวโมไป๋มองฉินซือหลัน
“น้าของฉันชื่อ ฉินอิงหลิน“ฉินซื่อหลันพูด
“ฉันไปด้วย”มู่คังขอตามไปด้วย เรื่องเมื่อคืนทำให้เขาพบโลกใหม่ ที่น่าสนใจ ในตอนนี้ใครจะห้ามเขาก็ไม่ฟัง
ฉินซื่อหลันพยักให้มู่คังไปด้วยกัน
พวกเขานั่งรถไฟฟ้า ไปลงที่หมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ใกล้กับเมืองฉางอัน เมื่อออกจากสถานนีรถไฟฟ้า ก็มีคนมารอรับ
เมื่อไปถึงคฤหาสน์เล็กๆบนเขา จิวโมไป๋ก็พบว่าที่นี่มีการคุ้มกันแน่นหนามาก
พวกเขาเดินเข้าไปในคฤหาสน์โดยที่ไม่มีใครห้าม จนมาถึงห้องบนชั้น 2
ทันทีที่เขาไปในห้อง จิวโมไป๋ก็เห็นน้าสาวของฉินซื่อหลัน ฉินอิงหลินกำลังนอนหลับ เหมือนคนนอนหลับธรรมดา ใบหน้าสีชมพูอ่อนมีน้ำมีนวล ไม่มีอาการของการถูกวิญญาณร้าย ทำร้ายแม้แต่น้อย
จิวโมไป๋ใช้จิตสัมผัสตรวจสอบ คิ้วของเขาก็ขมวดทันที
คำสาป
—
ว่าจะหลับ แต่สุดท้ายก็ลุกมาเขียนให้จบ ฮ่าๆ