ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 177
วิญญาณสีเลือดปัดมือออก คลืนพลังสีเลือดพุ่งเข้าใส่กลุ่มของพวกเขา จิวโมไป๋เอาตัวเข้าขวาง เกล็ดมังกรสีทองปกคลุมทั่วร่าง
ปัง! คลืนพลังสีเลือดสลายหายไป เมื่อปะทะเข้ากับร่างของจิวโมไป๋ ชุดคลุมที่เขาใส่ขาดเป็นชิ้นๆ
จิวโมไป๋สูดลมหายใจ ลดความเจ็บปวด มือโยนแผ่นยันต์บนมือทั้งหมดออกไป เมื่อแผ่นยันต์เผาไหม้ กลายเป็นบอลเพลิงขนาดยักษ์พุ่งเข้าหาร่างของวิญญาณสีเลือด
คลื่นความร้อน ทำให้อุณหภูมิที่ติดลบร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว
วิญญาณสีเลือดแยกเขี้ยวยิ้มเยาะ มีดชำแหละสองข้างฟันออกไปพร้อมกันเป็นคลื่นคมมีดสีเลือด ทำลายลูกบอลเพลิงยักษ์
ตูม! แรงระเบิดทำให้ร่างของวิญญาณสีเลือดกระเด็นไปด้านหลังหลายก้าว ผิวของมันถูกเผาทำลายจนดำไหม้
“แก!…”วิญญาณสีเลือดอ้าปากพูด
แต่เสี่ยวเหมยเคลื่อนร่างอย่างรวดเร็วกลายเป็นประกลายแสงสีขาว โจมตีวิญญาณสีเลือดอย่างรุนแรง เพียงเสี้ยวพริบตามันฝากรอยแผลนับไม่ถ้วน วิญญาณสีเลือดร้องคำรามคลืนพลังห่อหุ้มร่างกายป้องกันการโจมตีทั้งหมด มีดชำแหละทั้งสองมือฟันตัดออกเป็นคมมีดสีเลือดเข้าหาเสี่ยวเหมยที่กำลังเข้ามาโจมตี
เสี่ยวเหมยใช้ท่าร่างอันฉับไหว หลบคลื่นมีดสีเลือดได้ แต่โต๊ะโลหะที่วางเรียงกันด้านหลังของมันถูกตัดลง เป็นชิ้นๆ
เสี่ยวไป๋ แยกเขี้ยวร้องคำราม ร่างของมันขยายใหญ่ขึ้น สูง 2 เมตร คมเขี้ยวสีขาวมุกแยกออกกว้าง ดวงตาสีเขียวลุกไหม กลายเป็นเพลิงสีเขียวเข้ม ขนทั่วร่างของมันมีประกายเขียวเข้มเป็นประกายราวกับกำลังลุกไหม้ พลังอันน่าสะพรึงกลัว กดดันแผ่ขยาย กดดันวิญญาณสีเลือดกดมันชะงักด้วยความตกใจ
เสี่ยวไป๋พุ่งเข้าหาวิญญาณสีเลือดตรงๆ พลังอันมหาศาลและความร้อนที่เผาไหมหลอมรวมกับความร้อนที่เหลือของบอลเพลิงยักษ์ ทำให้อาการที่เย็นยะเยือกร้อนขึ้น จนในห้องกลายเป็นร้อนอบอ้าว
โครม! กรงเล็บทรงพลังที่ห่อหุมเปลวเพลิง กระแทกร่างของวิญญาณสีเลือดอย่างแรงจนมันกระเด็นออกไป แต่ไม่นานมันก็ลุกขึ้นมา บาดแผลขนาดใหญ่ตรงหน้าอกค่อยๆ สมานอย่างรวดเร็ว ราวกับว่ามันเป็นอมตะ
“ทุกคนออกไปจากที่นี่”จิวโมไป๋เห็นว่าการต่อสู้จะเริ่มรุนแรงขึ้น เขาให้หวังเสี่ยวเปา อูเหวิน มูคัง และเฉินหูออกไป ถ้าพวกเขายังอยู่ที่นี่อาจได้รับบาดเจ็บได้
ทุกคนพยักหน้าอย่างไม่ดื้อรั้น พวกเขารู้ขีดจำกัดของตัวเองดี พวกเขาอยู่ก็อาจทำให้คนที่กำลังต่อสู้ต้องคอยพะวงเป็นห่วง
หวังเสี่ยวเปาเข้าไปพยุงเฉินหูที่ร่างกายฟื้นตัวได้มากแล้ว มู่คังเดินนำไปเป็นคนแรก อูเหวินหยิบคันธนูมาคอยเฝ้าระวังอยู่ด้านหลัง สายตามองไปทางที่กำลังต่อสู้อยู่
แต่ในตอนที่พวกเขากำลังไปถึงประตูทางออกจากห้องชำแหละ
วิญญาณสีเลือดหันมามองพวกเขาก่อนจะร้องเสียงดัง
“คิดว่าเข้ามาที่นี่แล้วจะได้ออกไปหรือไง ถ้าฉันไม่อนุญาต ไม่ว่าใครหน้าไหน ก็ออกไปไม่ได้!”วิญญาณสีเลือดกรีดร้อง หมอกสีเลือดปนดำกลายเป็นของเหลว เข้าไปยังศพที่ยังไม่ได้ชำแหละ
ศพค่อยๆลุกขึ้นอย่างช้าๆ กล้ามเนื้อทั่วร่างขยายใหญ่ขึ้นเป็นมัดๆ พวกมันกลายเป็นคนงานชำแหละ 12 ร่าง
พวกมันวิ่งไปขวางทางออกจากห้องชำแหละ
หวังเสี่ยวเปากัดฟันเป็นทัพหน้าบุกโจมตี หอกยาวแทงเข้าไปที่คนงานโรงชำแหละอย่างแรง ยังดีที่คนงานโรงชำแหละพวกนี้มีความแข็งแกร่ง น้อยกว่าคนงานโรงชำแหละที่พวกเขาเคยต่อสู้ 1 ขั้นใหญ่
คนงานโรงชำแหละพวกนี้ แค่คนเดียวก็สามารถต่อสู้ได้ แต่เฉินหูในตอนนี้บาดเจ็บหนักสภาพไม่สมบูรณ์ แต่เขาก็ฝืนตัวต่อสู้กับคนงานโรงชำแหละ
จิวโมไป๋ใช้สมาธิจับตามองการเคลื่อนไหวของวิญญาณสีเลือด เขารอจังหวะโจมตี
เสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมย เข้าต่อสู้อย่างดุเดือดรุนแรง ยิ่งต่อสู้ความเสียหายยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ของต่างๆในห้องชำแหละกลายเป็นเศษซากชิ้นส่วน ไม่เหลือชิ้นดี
เสี่ยวไป๋อ้าปากกว้างเปลวไปสีเขียวลุกไหม้ และพุ่งออกจากปากไปใส่ร่างของวิญญาณสีเลือด แต่มันก็ใช้คลื่นพลังเลือด ปัดการโจมตีที่รุนแรงออกไป
เพราะระดับการบ่มเพาะแตกต่างกันเกินไป และร่างกายของวิญญาณเลือดก็เหนือกว่าระดับการบ่มเพาะพลังไปมาก ยิ่งต่อสู้นานเท่าไหร่ เสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมยยิ่งอ่อนแรง
หมอกสีเลือดที่ปกคลุมโรงงานชำแหละยิ่งหนาแน่นขึ้นจนกลายเป็นหยดเลือด
“ต้องรีบจัดการมันก่อนมันจะพัฒนาเป็นปีศาจ”จิวโมไป่ร้องเตือนเสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมย เขายกกระบี่เลือนเร้นฟาดฟัน 10 กระบี่เข้าใส่ลำคอของวิญญาณสีเลือด แต่มันยกมีดชำแหละขึ้นมากัน พลังกระบี่ทำให้ร่างของวิญญาณสีเลือดสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
เมื่อจิวโมไป๋เปิดโอกาส เสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมยใช้กระบวนท่าที่ทรงพลังที่สุดเข้าใส่วิญญาณสีเลือด
ฉัวะ! ร่างของมันปรากฏรอยแผลสาหัส แต่มันยังคงยืนได้ บาดแผลค่อยๆสมานอย่างช้าๆ ความเร็วในการฟื้นฟูลดลงอย่างเห็นได้ชัด
“ข้าไม่เชื่อ!”วิญญาณสีเลือดกรีดร้องเสียงดัง พื้นที่มันยืนกลายเป็นน้ำเลือดม้วนขึ้น กลายเป็นก้อนแข็งก่อนจะพุ่งเข้าหาทุกคน
อูเหวินไหวตัวทัน เขายกธนูขึ้นมากัน แต่ร่างของเขากระเด็นไปชนกำแพงอย่างแรง ก่อนจะร่วงลงมาด้านล่าง สติของเขามึนงงเล็กน้อย
หวังเสียวเปา ใช้ท่าร่างหลบไปอีกฝั่ง ใช้ร่างของคนงานโรงชำแหละรับการโจมตี
มู่คังเลือกที่จะใช้วิธีเดียวกับหวังเสี่ยวเปา
เฉินหูที่ซวยซ้ำสอง เขายกท่อนแขนที่ใส่ถุงมือเหล็กขึ้นมาป้องกันแต่ แรงปะทะทำให้เขากระเด็นออกไปอย่างรุนแรง เขากลิ้งไปตามพื้นราวลูกบอลหลายตลบ ก่อนจะหยุดลง ร่างของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล
เฉินหูร้องออกมาอย่างไร้ประโยชน์ ดูเหมือนเขาจะเป็นภาระให้กับทุกคน
จิวโมไป๋ใช้ย่างก้าวประกายภูตหลบออกมา เขาเห็นวิญญาณสีเลือดดูเหมือนจะอ่อนกำลังลง เขาหยิบยันต์ออกมาอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้แผนยันต์นับ24 ใบ ลอยขึ้นมาด้านหน้าของจิวโมไป๋อย่างเป็นระเบียบ
“เสี่ยวไป๋ เสี่ยวเหมยหลบ!”จิวโมไป๋ร้องบอก และเร่งพลังวิญญาณสีทอง ห่อหุ้มแผ่นยันต์ทั้งหมด ก่อนที่แผ่นยันต์จะพุ่งไปที่ร่างของวิญญาณสีเลือด
แผ่นยันต์ถูกเผาไหม้กลายเป็นแสงสีเขียวอ่อนและสีแดงเพลิงหลอมรวมกัน
เพลิงกัมปนาท
บึม! เสียงระเบิดดังสนั่นพร้อมกับคลื่นทำลายล้างอันรุนแรงทำลายชั้นบนของโรงงานชำแหละทั้งหมด อาคารสั่นไหวอย่างรุนแรงพร้อมจะพลังทลายลงมาได้ทุกเมื่อ
พวกเขารีบหนีออกจากชั้นใต้ดิน
“ไปช่วยคนที่อยู่ในห้องขัง”จิวโมไป๋บอกคนอื่น ส่วนตัวเองคอยเฝ้าระวังมองไปที่จุดระเบิด
คลื่นระเบิดหายไป เหลือร่องรอยที่เกิดจากพลังทำลาย พื้นดินตรงจุดนั้นกลายเป็นสีดำราวเถ้าถ่าน
แต่ใจกลางมีร่างสีเลือด ที่บาดเจ็บสาหัสเลือดสีดำไหลทะลักอย่างห้ามไม่ได้
เสี่ยวไปและเสี่ยวเหมยที่หลบออกมา พวกมันแลบลิ้นออกมาด้วยความตกใจ พวกมันไม่คิดเลยว่าจิวโมไป๋จะมีไม้เด็ดแบบนี้
แต่การโจมตีที่รุนแรง ทำให้พลังวิญญาณของจิวโมไป๋ ลดลงไปมหาศาล
แต่ในจังหวะที่พวกเขากำลังผ่อนคลาย ร่างที่บาดเจ็บสาหัสของวิญญาณสีเลือด ก็พุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วราวกับไม่ได้บาดเจ็บ ดวงตาสีดำเป็นประกลายบ้าคลั่งมากขึ้น มันเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว มีดชำแหละฟันใส่ร่างของเสี่ยวไป๋ แต่เสี่ยวไป๋พุ่งเข้าหาวิญญาณสีเลือดพร้อมใช้กรงเล็บตบร่างของวิญญาณสีเลือด
หน้าอกของมันฉีกขาดลึกเข้าไปอีกจนเห็นกระดูกที่แตกราว บาดแผลสมานช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
เสียวเหมยเข้าต่อสู้วิญญาณสีเลือดสนับสนุนเสี่ยวไป๋
จิวโมไป๋หยิบยาฟื้นพลังออกมาดื่ม ความเหนื่อยล้าลดลงเล็กน้อย เขาเข้าไปช่วยเสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมยต่อสู้
วิญญาณสีเลือดต่อสู้อย่างไม่กลัวตาย ทุกการโจมตีเป็นการโจมตีสุดพลัง พลังทำลายมหาศาล ทำให้พวกเขาต้องหลบไม่กล้าปะทะตรงๆ
แต่ในระหว่างที่พวกเขา กำลังต่อสู้อย่างตึงมือกับความบ้าคลั่งของวิญญาณสีเลือด เฉินหูพุ่งเข้ามาจากด้านข้างวิญญาณสีเลือด โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น หมัดของเขาพุ่งเข้าใส่ร่างของวิญญาณสีเลือด เสียงคำรามราวราชสีห์ดังสนั่น รอบหมัดมีพลังสีทองห่อหุ้ม
ปัง!
หมัดทรงพลังชกเข้าที่หัวของวิญญาณสีเลือดอย่างรุนแรง จนร่างของวิญญาณสีเลือดหมุนกระเด็นออกไป
ร่างของเฉินหูร่วงลงไปนอนกับพื้น เขาฉีกยิ้มออกก่อนจะสลบไป
จิวโมไป๋มองเฉินหูด้วยความตกใจ