ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 222
ตู่บ่อชารับรู้ถึงอันตรายจากร่างของจิวโมไป๋ได้ เขาถอยหลังไปหลายก้าวด้วยความกลัว แต่ในเวลานั้นเองร่างของจิวโมไป๋หายไปจากสายตา ตู่บ่อชาตกใจยกดาบขึ้นและกวาดสายตามองไปรอบๆ
วูบ! จิวโมไป๋ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าอย่างฉับพลัน กระบี่สีเทาแทงออกมาอย่างรวดเร็ว คมกระบี่ฉีกอากาศเกิดเป็นประกายแสง พริบตาเดียวก็เกือบปะทะร่าง
ตู่บ่อชาเห็นคมกระบี่แหลมคมแทงเข้ามา เขายกดาบขึ้นมาฟันปัดการโจมตี
แกร็ง!แรงปะทะทำให้ตู่บ่อชาต้องถอยไปเกือบสี่ก้าว
จิวโมไป๋ก็ทะยานร่างตามมาติดๆ กระบี่กวัดแกว่งเข้าโจมตีไม่ให้ได้ตั้งตัว
ตู่บ่อชาได้แต่ถอยร่นและปัดป้องการโจมตี เมื่อปะทะกันหลายครั้ง เขาก็สามารถคาดเดาระดับการบ่มเพาะพลังของจิวโมไป๋ได้ จากพละกำลังน่าจะอยู่ที่ขั้นที่ 7 ไขกระดูกปลาย ความแข็งแกร่งไม่ต่างกับตัวเขาเองมากนัก
ตู่บ่อชาสูดลมหายใจลึกๆ เรียกความมั่นใจ และพลันคิดขึ้นได้ว่า ที่จิวโมไป๋สามารถสังหารนักฆ่าแมงป่องได้ เป็นเพราะการลอบสังหาร ถ้าต่อสู้ตรงๆสภาพก็ไม่ต่างจากเขามากนัก
“บัดซบ!”
ดาบในมือฟาดฟันอย่างดุดันมากขึ้น ตู่บ่อชารู้สึกเสียหน้าที่เคยหวาดกลัวจิวโมไป๋ พลังกดดันแผ่ขยายออกจากร่าง เพิ่มพลังลงไปในการโจมตี หวังจะฟันจิวโมไป๋เพื่อล้างอาย
คมดาบทำลายพื้นที่ทั้งหมดที่ฟันลงไป
จิวโมไป๋ใช้ท่าร่างพื้นฐานหลบหลีก และตอบโต้การโจมตีของตู๋บ่อชาอย่างไม่กินแรง เขากำลังทดสอบความแข็งแกร่งของตัวเอง
ก่อนหน้าเขาไม่แน่ใจว่า ว่าในปัจจุบันเขาแข็งแกร่งขนาดไหน
การได้ต่อสู้กับตู่บ่อชาที่มีพละกำลังพอๆกัน ทำให้เขาสามารถตระหนักถึงความแข็งแกร่งของตัวเองได้
เรียกได้ว่า ไม่มีใครเหมาะที่จะทดสอบความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา ได้เท่ากับตู่บ่อชาอีกแล้ว
ตู๋บ่อชาไม่ได้เป็นคนธรรมดา เขาเป็นถึงรองหัวหน้าหน่วยลัย แม้จะมีนิสัยน่ารังเกียจใช้อำนาจไปในทางที่ผิด แต่ตู่บ่อชาก็สามารถเป็นถึงรองหัวหน้าหน่วยได้ ถ้าพลังฝีมือไม่แข็งแกร่งพอ ใช้แต่เส้นสาย ก็ไม่มีทางได้รับต่ำแหน่งนี้ไป
พลังฝีมือของตู่บ่อชาอย่างน้อย จะต้องแข็งแกร่งกว่าผู้บ่มเพาะพลังทั่วไป ในขั้นบ่มเพาะพลังเท่ากัน
อาศัยความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว ไม่ใช้อะไรเข้าช่วย จิวโมไป๋มั่นใจว่าเขาจะสามารถต่อสู้กับผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 7 ไขกระดูกปลายได้ทั่วไป ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
ในขณะที่ตู่บ่อชากำลังไล่ตามจิวโมไป๋ เขาก็กล่าวท้าทานไม่หยุด
“ถ้าเป็นลูกผู้ชายพอ ก็อย่าเอาแต่หนี!”ตู่บ่อชาเริ่มเหนื่อยหอบ เขาตามท่าร่างของจิวโมไป๋ไม่ทัน ทุกครั้งที่โจมตีอีกฝ่ายจะหลบได้ตลอด เหมือนเขากำลังต่อสู้กับผีอยู่
จิวโมไป๋ที่กำลังโยกตัวหลบดาบที่ฟันมาผ่านหน้าไป เขาก็ยิ้มภายในหน้ากากไม้ ร่างของเขาพลันหายวับไปอีกครั้ง ตู่บ่อชาไม่ลนลาน เขามองรอบๆอย่างใจเย็นที่สุด
อยู่ๆร่างของตู่บ่อชาก็สั่นสะท้านขึ้นมา เขาใช้ความรู้สึกหันไปด้านหลังและฟันดาบกวาดเป็นวงกลม
ดาบฟันไปที่ว่างเปล่า ใบหน้าของตู่บ่อชาซีด ในเวลานั้นเอง
วูบ! คมกระบี่ก็ปรากฏอีกด้าน แทงไปที่แขนขวาของตู่บ่อชาที่ถือดาบ
ตู่บ่อชารีบโยกตัวหลบ แต่ช้าไป
ฉัวะ! “อ๊าาากกก”ตู่บ่อชากรีดร้องเสียงดัง กระบี่แทงแฉลบแขนขวา จนเกิดลอยแผลลึก เลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมาอย่างน่ากลัว แต่มือของตู่บ่อชาไม่ปล่อยดาบ
จิวโมไป๋ดึงกระบี่กลับ ก่อนจะฟันกระบี่ออกไปอีกครั้ง คมกระบี่เลือนเร้นเกิดเป็นเงาเส้นวิถีกระบี่อันงดงาม เหมือนกับว่าจะสามารถตัดได้ทุกสิ่งได้
วิชากระบี่ล้างบาป ตัดมาร
สัมผัสได้ถึงอันตรายกำลังใกล้เข้ามา ตู่บ่อชาก็ใช้ท่าร่างถอยไป แต่เขาช้าไปได้แต่ยกดาบขึ้นมาป้องกัน
ฉัวะ! คมกระบี่ตัดดาบเหล็กชั้นยอดขาดเป็นสองท่อนเหมือนตัดเนย ตู่บ่อชาตกตลึงมองใบดาบที่ร่วงลงไปบนพื้น อย่างไม่อาจเชื่อสายตา ว่าดาบราคาแพงที่เขาต้องใช้เงินจำนวนมากซื้อมันมา จะมาพังง่ายๆแบบนี้
ในชั่วเวลาที่ตู่บ่อชาเสียสมาธิ
หมัดของจิวโมไป๋ก็ชกเข้าที่ท้องอย่างรุนแรง ร่างของตู่บ่อชาลอยกระเด็นไปชนกับกำแพงด้านหลังอย่างรุนแรง
ตูม! เศษซากกำแพงพังทะลายลงมาฝั่งร่างของตู่บ่อชาอยู่ด้านล่าง
จิวโมไป๋ปลดพลังมังกร และสูดหายใจเฮือกใหญ่ แม้จะใช้พลังมังกรเพียงไม่กี่วินาที แต่พลังกายที่เสียไปไม่ใช้น้อยๆ เขาใช้จิตสัมผัสตรวจสอบตู่บ่อชาใต้ซากกำแพง เขาพอว่าเพียงแค่หมดสติ ยังไม่เป็นอันตราย
จิวโมไป๋ตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมด เมื่อเห็นว่าไม่ทิ้งร่องรอยใดๆเอาไว้ เขาก็ใช้พลังวิญญาณยกมีดผนึกโลหิตให้ลอยกับมาที่มือ และเก็บลงไปในแหวนมิติเก็บของ และหลบออกจากพื้นที่ตรงนี้ทันที
เมื่อหาสถานที่ซ่อนได้แล้ว เขาก็ใช้จิตสัมผัสตรวจสอบนักฆ่าที่เหลือ เขาเสียเวลาไปมากจากการต่อสู้ ไม่อาจเสียเวลาไปได้อีก จิวโมไป๋มองไปที่ห้องพักฟื้นตัวของเฉินหู คนของหน่วยลับพาเฉินหูและเย่จื่อปิงไปสถานที่หลบภัยเรียบร้อยเขาก็เบาใจ จากนั้นเขาก็ตรวจสอบการต่อสู้ของนักฆ่าในสนามประลอง
ร่างของจิวโมไป๋ก็หายวับไปทันที…
ผ่านไป 5 นาที จิวโมไป๋สังหารนักฆ่าที่มีระดับการบ่มเพาะพลังขั้นที่ 7 ไขกระดูกต้นไปอีก 2 คน
นักฆ่าที่ยังต่อสู้ได้เหลือไม่ถึงครึ่ง ในตอนนี้คนของหน่วยลับและกลุ่มผู้บ่มเพาะพลัง ได้เข้าควบคุมสถานะการได้เรียบร้อยแล้ว ผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องได้หนีออกจากสนามประลองจนหมด
มันหมายความว่า ยากที่เขาจะลอบสังหารนักฆ่าได้อีก เพราะถ้าเขากำจักนักฆ่าจะเป็นการแย่งผลงานของคนอื่น อาจกลายเป็นเป้าโจมตีได้
ที่เขาสังหารนักฆ่าแมงป่อง ที่เป็นเป้าหมายของตู่บ่อชา เพราะอีกฝ่ายไม่สนใจว่าจะมีผู้คนได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ของพวกเขาหรือไม่ เขาไม่ยากให้อีกฝ่ายได้ผลงานนั้นไป
จิวโมไป๋ใช้จิตสัมผัสคอยเฝ้าดู ว่าจะมีใครพลาดท่าหรือไม่ เขาจะได้เข้าไปช่วยเหลือได้ทัน
ในเวลานั้นเอง แผ่นดินก็สั่นไหวอย่างรุนแรง ราวกับว่ากำลังเกิดแผ่นดินไหว จิวโมไป๋รีบกระโดดไปที่พื้นที่สูง และมองไปยังทิศทางหนึ่งนอกสนามประลอง เขาก็ต้องตกตะลึง
ก่อนหน้านั้นเล็กน้อย
นอกสนามประลองพื้นที่โล่งกวางในอดีต กลายเป็นหลุมบ่อและมีรอยตัดบาดลึกลงไป ซานคุนหมิงลอยอยู่บนท้องฟ้า รอบร่างของเขามีหอกดินนับสิบ ลอยอยู่กลางอากาศราวกับไร้แรงดึงดูด
ตรงข้ามร่างของลอร์ดแวมไพร์กลายเป็นสีดำราวกับหมึก ไม่มีแสงที่สามารถสะท้อนความมืดบนร่างได้
ร่างของลอร์ดแวมไพร์พลันกลายเป็นค้างคาวสีดำนับไม่ถ้วน พุ่งเข้าหาร่างของซานคุนหมิง เสียงค้างคาวกระพือปีกและเสียงกรีดร้อง เกิดคลื่นเสียงทำลายล้างโดยรอบ
ซานคุนหมิงยกมือขึ้น รอยร้าวบนนาฬิกาทรายขยายใหญ่ขึ้นจนเกือบทั้งอัน
ลูกพลังแรงดึงดูดสีดำ พุ่งออกจากฝ่ามือ ตรงไปที่กลุ่มค้างคาว และดูดค้างคาวทั้งหมดมารวมกันตรงลูกพลังแรงดึงดูด ไม่สามารถหลุดออกมาได้สักตัวเดียว
ซานคุนหมิงสะบัดมืออีกข้าง หอกดินนับสิบพุ่งตรงไปยังฝูงค้างคาว
หอกปฐพี
ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก
หอกทั้งหมดเข้าเป้า ไปที่ค้างคาวไม่มีพลาดเป้า ค้างคาวกรีดร้องเสียงแหลมออกมา ก่อนที่ร่างของค้างคาวก็มีพลังงานสีดำลุกท้วม
ค้างคาวเหล่านั้นกำลังดิ้นอย่างบ้าคลั่ง ให้หลุดจากลูกพลังแรงดึงดูด
ซานคุนหมิงที่ลอยอยู่ไม่รอช้าก็คลายมือออก
ฝนดิน
ตูม!
หอกดินทั้งสิบระเบิดออกกลายเป็นฝนดินนับไม่ถ้วน พุ่งปะทะฝูงค้างคาวจากภายในออกไป ก่อนที่ฝนดินจะถูกดูดกลับมาห่อหุ้มค้างคาวจากด้านนอก
ฝูงค้างคาวถูกฝนดินทำร้ายร่างไม่เป็นชิ้นดี แล้วยังจะถูกฝนดินที่ถูกดึงดูดกลับมาบีบอัดจนแทบแหลกเละอีก
พลังสีดำที่ปกคลุมฝูงค้างคาว พยายามที่จะหลอมรวมกันเพื่อกลับร่าง แต่โชคร้ายที่ลูกพลังดึงดูดไม่ปล่อยให้แวมไพร์ลอร์ดได้ทำ
ซานคุงหมิงยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น นาฬิกาทรายที่ลอยอยู่หมุนเร็วขึ้นพร้อมรอยแตกที่ขยายใหญ่ขึ้น จนมีบางส่วนแตกออกและสลายหายไป ใบหน้าของซานคุนหมิงก็ขาวซีดจนหน้ากลัว เขาตบฝ่ามือลง
ลูกพลังที่ดูดฝูงค้างคาว พุ่งลงไปกระแทกพื้นอย่างรุนแรง
ตูมมมม! แรงกระแทกอันรุนแรง ทำให้พื้นที่โดยรอบกว่า 2 ตารางกิโลเมตรสั่นสะเทือนราวกับเกิดแผ่นดินไหว เศษฝุ่นควันคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ก่อนจะค่อยๆลอยกระจายหายไป
จึงสามารถมองเห็นปากหลุมกว้าง 50 เมตร
ก้นหลุมมีของเหลวสีดำค่อยๆจับกลุ่มกันอย่างช้าๆ ก่อนจะรวมกันกลับมาเป็นร่างของลอร์ดแวมไพร์ ที่อยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัส แต่ไม่นานบาดแผลก็สมานอย่างรวดเร็ว เลือดสีดำที่ไหลออกจากร่าง ไหลย้อนกลับเข้าไปในร่าง
“อย่าลืมว่าฉันเป็นอมตะ การโจมตีแค่นี้ไม่สามารถฆ่าฉันได้หรอก”ลอร์ดแวมไพร์กล่าวอย่างเยียดหยาม แต่ท่าทางระมัดระวังมากขึ้น คลื่นพลังสีดำที่ปกคลุมร่างอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด
ลอร์ดแวมไพร์ปรายตามองใบหน้าขาวซีดของซานคุนหมิง ก็กล่าวว่า”ดูจากสภาพของแกแล้ว คงจะทนไม่ไหวแล้วสินะ”
ซานคุนหมิงยังคงลอยอยู่บนอากาศท่ามกลางความมืดมิด ยากที่จะเห็นใบหน้าใต้ผ้าคลุม แต่เพราะอีกฝ่ายเป็นแวมไพร์ ที่สามารถมองเห็นในความมืดได้ชัดเจน ไม่แปลกที่จะพบความผิดปกติได้
ถึงใบหน้าจะขาวซีด แต่ซานคุนหมิงก็ไม่แสดงความอ่อนแอให้เห็น
ลอร์ดแวมไพร์ยิ้มเย้ยหยัน พลางครุ่นคิดถึงวิธีฝ่าพลังแรงดึงดูดที่น่ารำคาญเข้าไป ไม่นานแววตาของลอร์ดแวมไพร์ก็เป็นประกาย คลื่นพลังสีดำไหลไปรวมที่ด้านหลัง เกิดเป็นเงาโครงกระดูกสวมชุดคลุมสีดำเก่าขาด สูงเกือบ 4 เมตร กลิ่นอายแห่งความตายแผ่ซ่าน พื้นดินแห้งแตกระแหง ต้นไม้ใบหญ้าต่างเหี่ยวเฉาอย่างรวดเร็ว
“ถึงแม้ว่าฉันจะไม่สามารถเข้าใกล้แกได้ แต่ฉันมีอีกหลายวิธีที่จะพลาญพลังของแก้ให้หมด”ลอร์ดแวมไพร์กล่าวเสียงเหี้ยม
—