ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 248

ระลอกน้ำวงกลมเสมือนจริงขยายออกหนึ่งในสี่ของห้องโถงทดสอบ รูปปั้นทองแดงหญิงอยู่ตรงกลางห้อง กระบี่ในมือโบกสะบัดฟาดฟันอย่างเชื้องช้า ราวกับกำลังร่ายรำกระบี่ ระลอกน้ำกระจายออกไปพร้อมคลื่นกระบี่นับไม่ถ้วนโจมตีเข้าหาจิวโมไป๋ที่อยู่สุดขอบ

ใบหน้าของจิวโมไป๋เคร่งเครียด เขาได้แต่ใช้ท่าร่างย่างก้าวประกายภูติหลบหนีคลื่นกระบี่ที่โจมตีเข้ามา เงาคลื่นกระบี่ฟาดฟันปิดกันทุกทางไม่ให้เขาผ่านระลอกคลื่นเข้าไปได้ รัศมีอันแหลมคมรุนแรงจากคลื่นกระบี่ ตัดผ่านอากาศจนเกิดรอยแยกขึ้น ถ้าพลาดโดนโจมตี เขาจะได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงได้

จิวโมไป๋วิ่งวนรอบระลอกน้ำ เขาก็มองไปยังคมกระบี่ที่โจมตีเข้ามาในระหว่างหลบหนี น่าแปลกที่เขาค่อยๆมองเห็นวิถีกระบี่ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เขาหรี่ตามองด้วยความประหลาดใจและก้มหัวหลบหลีกคมกระบี่ที่โจมตีเข้ามา

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ เหงื่อเม็ดใสผุดออกจากร่างกาย การหลบหนีแบบนี้มันกินพละกำลังและสมาธิอย่างมหาศาล

จนกระทั้งแขนซ้ายที่บาดเจ็บได้ฟื้นฟูจนกลับมาใช้งานได้

จิวโมไป๋ก็โยกเพียงแค่ศีรษะก็หลบคมกระบี่ที่แทงเข้ามาจากด้านหลัง โดยไม่ต้องหันไปมอง นัยน์ตาของเขาเป็นประกายเจิดจ้า ก่อนที่เขาจะหมุนตัวกลับ และฟันกระบี่เข้าปะทะกลับคลื่นกระบี่ของรูปปั้นทองแดง

เปรี้ยง! เสียงปะทะดังสนั่น ร่างของจิวโมไป๋ชะงักเพียงเล็กน้อย เกล็ดมังกรทองปกคลุมทั่วร่าง ป้องกันคลื่นพลังจากการปะทะ ก่อนที่เขาจะพุ่งเข้าไปต่อ

วูบ ระลอกน้ำผ่านร่างของจิวโมไป๋ไป ก่อนที่คลื่นกระบี่นับไม่ถ้วนจะโจมตีเข้ามาขัดขวางไม่ให้เขาก้าวไปข้างหน้า

เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! คมกระบี่ปะทะกันดังติดๆกัน จิวโมไป๋ใช้การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยหลบและโจมตี โดยอาศัยเพียงการโยกตัวหลบเท่านั้น ถ้ามีการโจมตีที่ไม่สามารถหลบได้เขาจะใช้กระบี่ป้องกันทันที

ทำให้ร่างของเขาพุ่งไปข้างหน้าเร็วขึ้น เขาแหวกฝ่าคลื่นกระบี่เข้าไปตรงๆ!

จิวโมไป๋จ้องไปยังคลื่นกระบี่ที่ฟันเข้ามา ในชั่วเวลาที่คลื่นกระบี่พลันเปลี่ยนการเคลื่อนไหว จากช้าเป็นรวดเร็ว เกิดเป็นประกายแสงวูบหนึ่ง จิวโมไป๋ก็โจมตีก่อนในชั่วพริบตาที่คลื่นกระบี่เปลี่ยนการเคลื่อนไหว

เปรี้ยง! คลื่นกระบี่ถูกฟันกระจายออกไปโดยรอบ

จิวโมไป๋สูดลมหายใจระงับความตื่นเต้น ร่างของเขาพุ่งเข้าไปข้างหน้าต่อ และโจมตีปะทะกับคลื่นกระบี่ที่โจมตีเข้ามา ยิ่งฝ่าเข้าไปลึกขึ้น คลื่นกระบี่ที่โจมตีเข้ามาก็รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่จิวโมไป๋ก็สามารถฝ่าคลื่นกระบี่เข้าไปได้ แม้ว่าความเร็วจะลดลงก็ตาม

กลางห้องโถงทดสอบ ร่างของรูปปั้นทองแดงหญิง ยังคงฟันกระบี่ออกไปอย่างเชื้องช้างดงาม แต่ระลอกน้ำกระจายออกเร็วขึ้นถี่ขึ้น จนเริ่มมองเห็นคลื่นกระบี่เรียงซ้อนกันบนอากาศเข้าโจมตีจิวโมไป๋

แต่จิวโมไป๋ไม่สนใจ เขาบุกเข้ามาไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เสื้อผ้าของเขาเริ่มฉีกขาดจากคลื่นปะทะ แต่เขาไม่สนใจพลังสมาธิเร่งถึงขีดสุด เพื่ออ่านคลื่นกระบี่ที่โจมตีเข้ามาและโจมตีออกไปทำลายคลื่นกระบี่

ยิ่งต่อสู้จิวโมไป๋เหมือนจะยิ่งขยับร่างกายได้ดีขึ้นเรื่อยๆ กระบี่เคลื่อนไหวดั่งใจนึก

จิวโมไป๋สูดลมหายใจเล็กน้อยระงับความตื่นเต้น บันทึกคมกระบี่ ช่วยเพิ่มระดับความเข้าใจในวิชากระบี่ของเขาให้มากขึ้นจริงๆ ทำให้เขาสามารถซึบซับความลึกล้ำของวิถีกระบี่ได้ ทั้งๆที่ในอดีตเขาไม่เคยมีความเข้าใจระดับนี้มาก่อน

เขาโชคดีจริงๆที่ได้พบกับรูปปั้นทองแดงหญิง ระลอกน้ำคลื่นกระบี่ที่อันตราย เหมือนจะช่วยให้เขาได้ซึมซับความลึกซึ้งของวิถีกระบี่ช้า

ในอดีตเขาเลือกที่จะศึกษาวิถีกระบี่เร็ว เพราะเขาต้องการสังหารฝ่ายตรงข้ามในการโจมตีเพียงครั้งเดียว ไม่ต่อสู้ยืดเยื้อ เพราะเขารู้ดีว่าพรสวรรค์ของตัวเอง ไม่สามารถใช้การโจมตีที่ซับซ้อนมากได้

แม้แต่วิชากระบี่ล้างบาปที่เขาสร้างขึ้น ยังเป็นวิถีกระบี่เร็ว

เมื่อย้อนเวลากลับมาเขาก็ใช้แต่กระบี่เร็ว ทำให้การต่อสู้ที่ยืดเยื้อเขาแทบจะทำอะไรไม่ได้ ต้องใช้อะไรบางอย่างที่ช่วยในการจบการต่อสู้

เมื่อเห็นรูปปั้นทองแดงใช้วิถีกระบี่ช้า ด้วยความเข้าใจในวิชากระบี่ที่เพิ่มขึ้น มันทำให้เขาดูดซับความลึกล้ำของวิถีกระบี่ช้าของรูปปั้นทองแดงหญิง ลงไปในวิถีกระบี่ของตัวเอง

เส้นทางพัฒนาวิถีกระบี่ของเขาในอนาคตจะเปิดกว้างมากยิ่งขึ้น

ดวงตาของจิวโมไป๋ดูมึนเมาเล็กน้อยในการซึมซับวิถีกระบี่ช้า

โชคของเขาดีจริงๆที่ได้สู้กับรูปปั้นทองแดงหญิง

ร่างของจิวโมไป๋ค่อยๆช้าลง เมื่อคลื่นกระบี่ที่โจมตีมาเริ่มมากขึ้น เงาคลื่นกระบี่ร่องลอยอยู่บนอากาศก่อนจะโจมตีเข้ามาไม่หยุด แม้ว่าเขาจะซึมซับวิถีกระบี่ช้าไปมากก็ยากที่จะต้านทานทั้งหมดได้

จิวโมไป๋ค่อยๆเดินช้าลง แต่เขาไม่กังวล เขาค่อยๆซึมซับวิถีกระบี่ช้าจากรูปปั้นทองแดง เขาเดินช้าลงเรื่อยๆ แต่เขาก็ยังเดินหน้าไปต่อ ไม่มีทีท่าจะหยุดลง

เวลาค่อยๆผ่านไปเรื่อยๆจนเหลือ 5 นาทีสุดท้าน จิวโมไป๋อยู่ห่างจากรูปปันทองแดง 10 เมตร เข้าผ่านมาได้เพียงสองในสามเท่านั้น

ร่างของจิวโมไป๋เหนื่อยโทรมอย่างมาก เสื้อผ้าของเขาถูกคมกระบี่ติดขาดจนกลายเป็นชิ้นๆ เกร็ดมังกรทองมีรอยขีดข่วนมากมาย

จนกระทั้งเท้าของเขาผ่านระยะ 10 เมตรไปได้

รูปปั้นทองแดงหญิงก็เปลี่ยนการเคลื่อนไหว เป็นฟันกระบี่ออกไปอย่างรวดเร็ว กลิ่นอายบนร่างของมันแผ่กระจายความรู้สึกเย็นยะเยือก รัศมีกระบี่พลันเปลี่ยนเป็นแหลมคมรุนแรง ระลอกน้ำที่นิ่งสงบกลายเป็นคลื่นกระเพื่อมอย่างรุนแรง

คลื่นกระบี่ฉีกผ่านอากาศเข้าหาร่างของจิวโมไป๋อย่างรวดเร็ว

จิวโมไป๋สังเกตการเปลี่ยนแปลงนั้นได้ในทันที และเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เขาใช้ย่างก้าวประกายภูติโยกตัวหลบคลื่นกระบี่ไปได้อย่างฉิวเฉียด

ฉัวะ เสียงฉีกผ่านอากาศดังผ่านร่างของเขาไป

แต่ในตอนนั้นเอง คลื่นกระบี่นับไม่ถ้วนก็พุ่งเข้าใส่ร่างของเขา ปิดกั้นการเคลื่อนไหวของเขาทั้งหมด!

จิวโมไป๋โจมตีออกไปเพื่อต้านรับ แต่คลื่นกระบี่ที่โจมตีมาอย่างรวดเร็ว พลันเปลี่ยนเป็นเชื้องช้าในชั่วพริบตา

ใบหน้าของจิวโมไป๋พลันเปลี่ยนไป กระบี่ของเขาโจมตีไปก่อนที่คลื่นกระบี่จะมาถึง

คลื่นกระบี่ช้าพลันเปลี่ยนเป็นเร็วโจมตีเข้าใส่ร่างของเขาทันที

สัมผัสมรณะพลันกระตุ้นร่างกาย หมุนตัวหลบไปด้านข้างในระยะประชิด

ฉัวะ! คลื่นกระบี่ฟันเข้าใส่ ร่างของจิวโมไป๋กลิ้งไปทางด้านข้าง เกล็ดมังกรทองแตกกระจายเป็นชิ้นๆ เลือดสีแดงสนไหลออกมาเป็นจำนวนมาก

จิวโมไป๋กลิ้งตัวก่อนจะลุกขึ้น ใบหน้าของเขาซีดเผือก ร่างด้านซ้ายมีบาดแผลรอยฟันสามรอย ทุกบดแผลสาหัส แต่ก็เลี่ยงจุดตายได้ทั้งหมด

เร็ว เปลี่ยนเป็น ช้า!

เป็นไปไม่ได้!

จิวโมไป๋มองไปยังรูปปั้นทองแดงหญิงด้วยความตกตะลึง วิถีการโจมตีจากช้าเป็นเร็ว แม้จะยาก แต่ก็สามารถทำได้ ถ้าใช้ความพยายามหรือมีพรสวรรค์เพียงพอ แต่จากเร็วเป็นช้า เป็นการวิถีโจมตีที่ยากกว่าช้าเป็นเร็วหลายเท่า วิธีการควบคุมยากกว่ากันหลายเท่า มันต้องใช้ความเข้าใจที่ลึกซึ้ง และอาจสร้างความเจ็บปวดให้กับผู้ใช้ได้

ทำให้การโจมตีจากเร็วเป็นช้า เป็นเครื่องหมายของยอดฝีมือในวิถีเชื้องช้าระดับสูง!

ยังไม่ทันทีจิวโมไป๋จะตั้งตัว รูปปั้นทองแดงหญิงก็ร่ายรำกระบี่อีกครั้ง

คลื่นกระบี่พุ่งเข้าหาจิวโมไป๋ด้วยความเร็วสูง

จิวโมไป๋เรียกกฎแห่งธาตุไม้ฟื้นฟูบาดแผล ก่อนที่จะยกกระบี่ขึ้น

คลื่นกระบี่พลันเปลี่ยนเป็นช้าอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้ ในตอนนั้นเองจิวโมไป๋ก็ฟันกระบี่ออกไปอย่างเชื้องช้า

เปรี้ยง!

คมกระบี่ทำลายคลื่นกระบี่ทันที

จิวโมไป๋ลอบถอนหายใจ เขารู้แล้วว่ารูปปั้นทองแดงหญิงในช่วงระดับการบ่มเพาะพลังเท่านี้ ยังควบคุมการโจมตีกระบี่เร็วเป็นช้าไม่ดีนัก

มันทำให้จิวโมไป๋แก้ทางได้อย่างรวดเร็ว

เขาไม่รอช้าพุ่งเข้าไปต่อ

รูปปั้นทองแดงหญิงหลังจากที่โจมตีพลาดไป มันก็เปลี่ยนการโจมตี เป็นพุ่งเข้าหาจิวโมไป๋ คมกระบี่เป็นประกายสีฟ้าอ่อน ก่อนที่ระลอกน้ำเสมือนจริงจะหมุนวนกลายเป็นสายน้ำห่อหุ่มคมกระบี่

นัยน์ตาของจิวโมไป๋หรี่ลงเล็กน้อย ร่างของเขาพลันแยกเป็น 9 ร่าง ล้อมรอบรูปปั้นทองแดงหญิงจากทุกทิศทาง และฟันกระบี่เข้าใส่

แต่รูปปั้นทองแดงหญิงกับนิ่งสงบหมุนร่างเป็นวงกกลม กฎแห่งธาตุน้ำบนคมกระบี่พลันเป็นผีเสื้อสายน้ำนับไม่ถ้วนบินกระจายออกไป ฉีกทำลายร่างแยกทั้งหมด

จิวโมไป๋ร่างจริงโจมตีมันทันที แต่ในตอนที่คมกระบี่ตัดผ่านผีเสื้อสายน้ำ มันก็รวมตัวใหม่หลังจากที่คมกระบี่ตัดผ่านไป และพุ่งเข้าหาจิวโมไป๋ต่อ

จิวโมไป๋เห็นดังนั้น เขาก็ใช้ท่าร่างหลบหนี แต่ผีเสื้อสายน้ำก็เหมือนมีชีวิต พวกมันไล่ตามจิวโมไป๋ติดๆ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าผีเสื้อสายน้ำพวกนี้ คือวิถีกระบี่ที่หลอมรวมกับกฎแห่งธาตุน้ำ เป็นการโจมตีไร้สิ้นสุด ไม่สามารถทำลายได้ ระยะการเคลื่อนไหวของผีเสื้อสายน้ำอยู่ภายในระลอกน้ำ

จิวโมไป๋ก็ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ร่างกายของเขาไม่สามารถยืดเยื้อได้อีกต่อไป และเขาก็ได้ดูดซับวิถีกระบี่มามากพอแล้ว

เมื่อตัดสินใจได้ เกล็ดมังกรทองทั่วร่างพลันส่งเสียงกรีดร้องและปกคลุมทั่วร่าง บาดแผลตรงเกล็ดมังกรทองยังไม่สามารถฟื้นฟูได้ แต่เขาก็ไม่สนใจ กล้ามเนื้อของจิวโมไป๋บีบรัดจนเกิดเป็นมัดกล้ามอันทรงพลัง

“ตาย!”จิวโมไป๋คำราม และพุ่งฝ่าผีเสื้อสายน้ำไป ก่อนจะใช้พลังมังกร ฟันกระบี่ออกไปทำลายผีเสื้อน้ำ และใช้ท่าร่างผ่านผีเสื้อสายน้ำไป

ผีเสื้อสายน้ำที่ถูกทำลายรวมตัวกันใหม่และตามจิวโมไป๋ไม่ปล่อย

ฉัวะ!ฉัวะ!ฉัวะ!ฉัวะ!ฉัวะ!ฉัวะ!

บาดแผลจำนวนมากปรากฎบนร่างของจิวโมไป๋ เมื่อเคลื่อนที่ผ่านผีเสื้อสายน้ำที่ไม่ถูกทำลาย

ระยะ 9 เมตรพลันหดสั้นอย่างรวดเร็ว

รูปปั้นทองแดงหญิง หมุนกระบี่ฟันไปยังจิวโมไป๋ ผีเสื้อสายน้ำก็ปรากฎขึ้นอีก เขาขวางหน้าของจิวโมไป๋

แต่จิวโมไป๋ที่พุ่งเข้ามาตรงๆพลันแยกร่างเงาออกเป็น 18 ร่างกระจายออกไปโดยรอบ!

ย่างก้าวประกายภูติขั้นที่ 2 !

ผีเสื้อสายน้ำพลันกระจายตัวออกไปโดยรอบตามร่างแยกไป

และในตอนนั้นเองจิวโมไป๋ก็ปรากฎตัวที่หลังของรูปปั้นทองแดงหญิง และแทงไปที่อกอย่างแม่นยำ

รูปปั้นทองแดงหญิงก็หมุนตัวป้องกันรับได้ทัน แต่ร่างของรูปปั้นทองแดงหญิงถูกกระแทกไปด้านหลังอย่างรุนแรง

จิวโมไป๋เคลื่อนไหวตามไปอย่างรวดเร็ว

รูปปั้นทองแดงหญิงหมุนตัวประคองร่างเอาไว้ได้ จิวโมไป๋พุ่งเข้าไปโจมตีไม่ยั้ง คมกระบี่แฝงพลังมังกร ทำให้ทุกการโจมตีรุนแรงและทรงพลังอย่างมาก

แต่รูปปั้นทองแดงหญิงก็สามารถรับทุกการโจมตีได้ทั้งหมด ด้วยการเคลื่อนไหวไร้ที่ติ

ในตอนนั้นเองผีเสื้อสายน้ำก็ทำลายร่างแยกทั้งหมด และพุ่งมาที่จิวโมไป๋ เขาไม่มีทางรอดจากการโจมตีจากผีเสื้อสายน้ำทั้งหมดได้

ใบหน้าของจิวโมไป๋ตึงเครียด แต่ไม่ยอมแพ้เขาใช้พลังทั้งหมดฟันกระบี่ ทำลายผีเสื้อสายน้ำทั้งหมด แต่ร่างกายของเขารับการโจมตีจำนวนมากเช่นกัน เลือดสีแดงสดอาบทั่วร่าง เกร็ดมังกรทองแตกร้าวจนไม่เหลือสภาพสมบูรณ์

ก่อนที่จิวโมไป๋จะพุ่งไปยังรูปปั้นทองแดงหญิง ด้วยร่างกายที่ใกล้ตายเต็มที

รูปปั้นทองแดงหญิงยืนนิ่งเฉย และฟันกระบี่โจมตีอย่างงดงามไร้ทีติ คลื่นกระบี่ฉีกกระชากฟื้นที่โดยรอบอย่างน่าหวาดกลัว

จิวโมไป๋ก็แทงกระบี่ออกไปด้วยพลังทั้งหมด!

เปรี้ยง! ฉัวะ! ฉึก! เลือดสีแดงสาดกระจายออกไปโดยรอบ ก่อนที่ร่างของจิวโมไป๋จะล้มลงที่พื้น แขนขวาและขาซ้ายของเขาถูกตัดขาด และร่างของเขาถูกตัดผ่านไปครึ่งตัวเลือดไหลทะลักอย่างน่ากลัว

จิวโมไป๋ที่นอนอยู่บนพื้นยิ้มอย่างแผวเบา ตาของเขาค่อยๆปิดลงอย่างช้าๆ

“ไม่คิดเลยว่าฉันจะทำอะไรแบบนี้”

ตุบ! รูปปั้นทองแดงหญิงค่อยๆลมลงตรงหน้าอกมีกระบี่เลือนเร้นปักอยู่จนมิดด้าม

“จบการทดสอบ…”

ในขณะที่จิวโมไป๋ผ่านการทดสอบ

วัดแห่งหนึ่ง บนดินแดนที่ห่างไกล

หน้าหอทดสอบชั้นที่ 4 พลันเปล่งประกายสีเงินเจิดจ้า ก่อนที่หมายเลข 4 จะปรากฏขึ้น ผู้บ่มเพาะพลังที่อยู่บริเวณนั้นต่างก็หันไปดูด้วยความตกใจ

“เกิดอะไรขึ้น สีเงินปรากฎขึ้นอีกคนแล้ว”

“ไม่น่าเชื่อ เพียงแค่วันเดียว เขาก็ผ่านชั้นที่ 4”

ผู้คนต่างพูดคุยกันอย่างดุเดือด

“พวกเรา ดูเร็วว่าเขาจะมีผลบุญเท่าไหร่”ผู้บ่มเพาะพลังคนหนึ่งพูด ก่อนที่ทุกคนจะเงียบและรอคอย

อยู่ๆหมายเลข 4 สีเงินก็เหมือนจะระเบิด แสงสีเงินเปล่งประกายออกไปโดยรอบ เพียงพริบตาเดียวแสงสีเงินก็ปกคลุมวัดแห่งนี้ทั้งหมด และส่องสว่างออกไปนอกเขตมิติของวัด แสงสีเงินปกคลุมไปกว่า 1 ใน 100 ของดินแดนแห่งนี้ทั้งหมด

แสงสีเงินเปล่งประกายบนแผนดิน สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนที่ถูกแสงสีเงินปกคลุมต่างก็ทำความเคารพด้วยท่าทางสุภาพ

ผู้บ่มเพาะพลังรีบออกไปนอกเขตมิติวัด พวกเขามองแสงสีเงินที่ไกลสุดสายตา พวกเขาก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ

“ผู้มีบุญกลับชาติมาเกิด!”

—-