ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 267
เทียนคุนเฟิงมองร่างของอ้าวจินหลงด้วยความสงบ ก่อนที่จะมีสายฟ้าสีม่วงปะทุขึ้นบนร่าง และในชั่วพริบตาร่างของเขาพลันหายวับไป
อ้าวจินหลงชกหมัดออกไปเบื้องหน้า หมัดของเขาเหมือนชกส่งๆ แต่เมื่อผ่านไปได้ครึ่งหนึ่งพลังหมัดก็ระเบิดออกอย่างรุนแรง
เคร้ง! ร่างของเทียนคุนเฟิงปรากฏขึ้น คมดาบฟันลงไปที่หมัดพอดี คมดาบบาดลึกผ่านเนื้อลงไปถูกกระดูกมือหยุดเอาไว้
ใบหน้าของเทียนคุนเฟิงยังสงบไม่ประหลาดใจ สายฟ้าปะทุบนร่างของเขาอีกครั้ง ก่อนที่ร่างของเขาจะเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็ว ก่อนที่คมดาบสาบฟ้านับไม่ถ้วนจะฟันเข้าใส่ร่างของอ้าวจินหลง
เกล็ดมังกรทองทั่วร่างถูกทำลายเป็นชิ้นๆ เลือดสีแดงไหลทะลักอย่างน่ากลัว
แต่ใบหน้าของอ้าวจินหลงยังคงสงบ ในตอนนี้ทั้งสองภายในพลังสมาธิสูงสุดละเลยความเจ็บปวดทั้งหมด
อ้าวจินหลงรู้ตัวว่าไม่สามารถตามสายฟ้าได้ทัน เขาจึงขยับร่างในชั่วพริบตา ใช้เกล็ดมังกรตรงส่วนที่ไม่เสียหายรับคมดาบ แม้จะได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่ถึงขั้นอันตราย
คมดาบบนเกล็ดมังกรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
จนผู้คนเริ่มรู้สึกว่าการต่อสู้เริ่มอันตรายมากเกินไปแล้ว
ผู้ตรวจสอบยังไม่มาอีก
ตูม!
เสียงปะทะดังขึ้นอีกครั้ง ร่างของเทียนคุนเฟิงกระเด็นออกไป ตรงบริเวณกลางอกของเสื้อคลุมมีรอยหมัดชกทำลายเนื้อผ้าอย่างชัดเจน
มุมปาดของเทียนคุนเฟิงมีเลือดสีแดงไหลออกมาช้าๆ
“เกิดอะไรขึ้น!”
“ด้วยความเร็วของคุณชายเทียน ไม่มีทางที่จะสามารถโดนโจมตี”
ผู้คนสับสนว่าเกิดอะไรขึ้น
มีเพียงจิวโมไป๋ที่มองการต่อสู้อยู้ตลอดรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ดาบตัดสายฟ้า เป็นวิชาดาบระดับสูงที่หลอมรวมกฎแห่งธตุสายฟ้าเอาไว้ ความเร็วและความแหลมคมสูงสุดยากต้านทาน
ถ้าต่อสู้กับคนปกติ แม้แต่ผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 8 ชีพจนต้น ก็ไม่สามารถรับมือได้
แต่โชคร้ายที่มาเจอกับอ้าวจินหลง ที่เป็นมนุษย์มังกรเลือดบริสุทธิ์ เกล็ดมังกรนอกจากมีการป้องกันที่แข็งแกร่ง และยังมีผลในการลดการโจมตีด้วยกฎแห่งธาตุเล็กน้อย แม้ว่าการโจมตีของเทียนคุนเฟิงจะเฉียบขาดแม่นยำ
แต่ด้วยความเร็วของเคล็ดวิชาที่สูงเกินไป ทำให้เขายากที่จะควบคุม เปลี่ยนการโจมตีกลางคันได้
อ้าวจินหลงมองออกตั้งแต่การปะทะกันครั้งแรก เขาจึงเสี่ยงใช้ร่างกายรับการโจมตี และพยายามโจมตีออกไป
ดูจากที่เขาสามารถใช้เกล็ดที่ไม่เสียหายรับการโจมตีได้ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าอ้าวจินหลงอ่านการวิถีการโจมตีได้ขาด
และที่น่าแปลกใจคือ อ้าวจินหลงที่ใช้พลังแข็งกร้าวโจมตีมาตลอด เขาสามารถเข้าใจการโจมตีระลอกคลื่นได้
ทุกหมัดที่เขาชกแฝงไปด้วยการโจมตีระลอกคลื่น
ถ้าเป็นปกติเทียนคุนเฟิงสามารถหลบการโจมตีระลอกคลื่นได้
แต้ด้วยความเร็วของเคล็ดวิชา ทำให้เขาไม่สามารถเปลี่ยนการโจมตีได้ทัน ทำให้เขาค่อยๆรับการโจมตีระลอกคลื่นไปเรื่อยๆ จนในที่สุดร่างกายก็ทนไม่ไหว ถูกหมัดสุดท้าย
อ้าวจินหลงค่อยๆเดินไปหาเทียนคุนเฟิงอย่างช้าๆ
เทียนคุนเฟิงรู้ตัวเช่นกันว่าเขาถูกการระลอกคลื่น เขามั่นใจในตัวเองเกินไป เขาค่อยๆสงบสติดาบในมือตอนนี้มีรอยร้าวเล็กๆบนใบดาบ
ดาบทดสอบไม่ได้สร้างด้วยโลหะคุณภาพ แต่สามารถทนมาถึงขั้นนี้ แสดงให้เห็นถึงการควบคุมพลังของเทียนคุนเฟิงที่แข็งแกร่ง
แต่เขายังอ่อนแอเกินไป
อ้าวจินหลงไม่พูดอะไร เขาพุ่งเข้ามาชกหมัดใส่เทียนคุนเฟิงหมัดของเขามีระลอกพลังกวาดไปโดยรอบ
ปกติแล้วระลอกพลังเล็กๆไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก แต่ตอนนี้อวัยวะภายในของเทียนคุนเฟิงไม่มั่นคง ถ้าถูกคลื่นระลอกสะกิดเบาๆ การเคลื่อนไหวของเขาจะช้าลงอย่างมาก และมันยังสร้างความเสียหายร้ายแรงภายในร่างกาย
หมัดค่อยๆชกมาอย่างช้าๆ
แต่เทียนคุนเฟิงในตอนนี้สงบลงอย่างมากอย่างน่าประหลาด สายตาที่มองหมัดเข้ามาเหมือนจะเกิดการเปลี่ยนแปลง เขาเห็นพลังงานบางอย่างได้ชัดเจนขึ้น โลกทั้งใบเหมือนเปลี่ยนไป สมองของเขาเหมือนถูกชำระล้างด้วยพลังงานลึกลับ
จิวโมไป๋ที่ดูอยู่ถึงกับตกใจ
ปลุกพลังวิญญาณ!
เขาไม่คิดเลยว่าเทียนคุนเฟิงจะปลุกพลังวิญญาณในช่วงเวลานี้
เทียนคุนเฟิงกับมาได้สติ เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ด้วยสัญชาตญาณของเขาที่กำลังร้องบอก เขามั่นใจว่ามันส่งผลดีกับเขาแน่ๆ
ในชั่วพริบตาที่หมัดจะถึงร่าง สายฟ้าก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่ร่างของเทียนคุนเฟิงจะหายวับไป
“ถึงจะหลบไปก็เสียเวลาเปล่า”อ้าวจินหลงกล่าวก่อนจะหันกับมาและชกหมัด
ฉัวะ! คมดาบฟันลงไปที่บาดแผลเดิมเลือดสีแดงไหลทะลักอย่างน่ากลัว
อ้าวจินหลงใช้ท่าร่างถอยออกมามือกุมบาดแผลเอาไว้เพื่อหลุดเลือด เขามองไปที่เทียนคุนเฟิงด้วยสายตาตกตะลึง
เทียนคุนเฟิงมองอ้าวจินหลงด้วยแววตาสงบนิ่ง แต่ในใจกำลังเดือดพล่าน
เขารู้จุดอ่อนของตัวเองดี ประสาทสัมผัสของเขาช้ากว่าความเร็ว ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวเปลี่ยนท่าทางได้ทัน แต่เขาไม่รู้เพราะอะไรทำให้ประสาทสัมผัสของเขาเหมือนจะพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
เทียนคุนเฟิงตัดสินใจจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุด เพื่อไปศึกษาว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ในขณะที่เขากำลังจะเข้าไปโจมตีอ้าวจินหลง
เสียงแหวกอากาศก็ดังขึ้นจากด้านข้างเขาใช้ท่าร่างหลบอย่างรวดเร็ว
คมดาบฟันผ่านร่างของเขาอย่างฉิวเฉียด
เขาเหลือบตามองชายในชุดคลุมที่โจมตี
โดยไม่ต้องพูดอะไร
คมดาบสายฟ้าก็ฟันฉับไปด้วยความเร็วสูง
เคร้ง!
ดาบของเขาถูกหยุดด้วยดาบของฝ่ายตรงข้าม
กฎแห่งธาตุดินแผ่กระจายออกจากร่างของอีกฝ่ายอย่างช้าๆ
“ถ้าเป็นเวลาปกติ ฉันอาจจะแพ้นายเล็กน้อย แต่นายในสภาพตอนนี้ ไม่สามารถเอาชนะฉันได้”ชายในชุดคลุมฟันกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง เขาใช้คมดาบอันหนักหน่วยกระแทกร่างของเทียนคุนเฟิงกระเด็นออกไป
อ้าวจินหลงใช้เวลาให้คุ้มค่าเขารีบฟื้นฟูพลัง มองไปยังชายชุดคลุมด้วยท่าทางไม่พอใจ
“แกเป็นใคร ทำไมมายุ่งกับการต่อสู้ของข้า”
“ฉันตงหมิง ตระกูลเยว่ ฉันก็ไม่ยากจะยุ่งกับการต่อสู้ของพวกนาย แต่พวกนายต่อสู้กันนานเกินไป มันรบกวนเวลาพักของฉัน ฉันเลยมาจัดการพวกนายทั้งสอง ฉันจะได้มีเวลาไปพัก”เยว่ตงหมิงกล่าวเสียงดัง ด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง
ใบหน้าของอ้าวจินหลงเปลี่ยนไป เขารู้จักตระกูลเยว่เป็นอย่างดี
“ฮ่าๆ ข้าไม่คิดเลยว่าจะมีทายาท 3 ตระกูลผู้พิทักษ์ จะน่าอายแบบนี้”
“ตระกูลเยว่!(ดิน) ปีนี้ตระกูลเยว์ก็ส่งคนเข้าหน่วยลับด้วยเหรอ ปีก่อนตระกูลฟง(ลม) ก็ส่งอัจฉริยะของตระกูลเข้าหน่วยลับไปแล้ว 1 คน พวกเขาต้องการจะยึดหน่วยลับใช่ไหม”ผู้ที่ได้ยินกระซิบเสียงเบา กลัวเยว่จะได้ยิน
ตระกูลผู้พิทักษ์คือตำแหน่งผู้คุ้มครองประเทศมังกร ตระกูลผู้พิทักษ์ตั้งแต่โบราณมี 8 ตระกูล แต่ในปัจจุบัน เหลือเพียง 3 ตระกูลผู้พิทักษ์เท่านั้น
เยว่(ดิน) ฟง(ลม) เล่ย(สายฟ้า)
ตระกูลผู้พิทักษ์คล้ายกับตระกูลเทียนที่อยู่มานานตั้งแต่สมัยโบราณ แต่จะแตกต่างกันตรงที่ ตระกูลเทียนเหมือนผู้เฝ้ามองไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง ไม่แปลกที่จะอยู่รอดได้ ขอเพียงรักษาความแข็งแกร่งเอาไว้
แต่ตระกูลผู้พิทักษ์ทุกรุ่นจะอยู่ในขั่วการเมือง ไม่สามารถหลบหนีได้ ทำให้เกิดการต่อสู้หลายครั้ง ตระกูลผู้พิทักษ์ที่ไม่สามารถยืนอยู่ได้ก็ต้องถูกล้มลง
ตระกูลผู้พิทักษ์มีแต่ลดไม่มีเพิ่ม ทำให้สามารถเห็นได้ว่า ตระกูลผู้พิทักษ์ที่สามารถอยู่จนถึงปัจจุบันแข็งแกร่งขนาดไหน
และที่ทุกคนตกใจก็เพราะ ทุกครั้งที่ตระกูลผู้พิทักษ์เข้ายุ่งกับการเมือง จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้น
ทำให้ทุกตระกูลจะต้องดูท่าทีว่าตระกูลผู้พิทักษ์ทั้ง 3 กำลังจะทำอะไร ถ้ามีอะไรผิดปกติพวกเขาจะรีบปรับเปลี่ยนทันที
เมื่อพวกเขาเห็นตระกูลเยว่ ส่งคนเข้าหน่วยลับ พวกเขาก็เริ่มเห็นลางไม่ดีบางอย่าง
บางคนถึงขั้นจะถอนตัวออกจากการทดสอบ
เยว่ตงหมิงไม่สนใจที่คนธรรมดาสามัญพูด ในสายตาของเขาพวกเขาไม่ต่างจากมดที่สามารถพูดได้เท่านั้น ความเย่อหยิ่งของเขามันฝังลึกลงไปในกระดูก
ในสายตาของเขาในตอนนี้มองไปยังเทียนคุนเฟิงและอ้าวจินหลง เหมือนมองเหยื่อ
ถ้าเขาสามารถจัดการทั้ง 2 และแย่งเข็มทิศตัวตนมาได้ ในบันทึกข้อมูลของเขาจะเขียนว่าเขาสามารถล้มอัจฉริยะสัตว์ประหลาดได้ถึง 2 คน
เกียรติยศยิ่งใหญ่แบบนี้เขาไม่สามารถปล่อยทิ้งไปได้ แม้จะผิดใจกับตระกูลเทียน เขาก็ไม่สน เขารู้กฎของตระกูลเทียนเป็นอย่างดี ว่าพวกเขาจะไม่ยุ่งกับการต่อสู้ของรุ่นเยาว์ ขอแค่เขาไม่ฆ่าเทียนคุนเฟิง ก็ไม่มีปัญหาตามมา
ส่วนวังมังกรแดนใต้ พวกเขากำลังทำสัญญาสงบศึก ใครผิดสัญญาก่อน โดยไม่มีเหตุผลจะต้องถูกประนามอย่างรุนแรง
พวกรักศักดิ์ศรีอย่างคนของวังมังกรแดนใต้ ถ้าพวกเขาต้องการจะหาเรื่อง พวกเขาจะไม่ส่งกองกำลังใหญ่มาแน่ ส่วนกองกำลังเล็กๆ ตระกูลของเขาสามารถจัดการได้ง่ายๆ
พูดได้ว่าในตอนนี้เขามีแต่ได้กับได้
เยว่ตงหมิงเผลอเลียปากโดยไม่รู้ตัว
อ้าวจินหลงมองเยว่ตงหมิงอย่างเย็นช้า
“หึหึ แกคิดว่าแค่แกจะสามารถเอาชนะฉันได้เหรอ”
เยว่ตงหมิงไม่พูดอะไรเขายกมือขึ้น ก็มีคน 15 คนเดินมาด้านหลังเขา
“น่าไม่อาย คนของตระกูลพิทักษ์ทุกคน น่าไม่อายแบบแกไหม!”
“อย่าเสียเวลาเลยรีบๆจบการต่อสู้เถอะ ฉันจะได้ไปเอาเจี๋ยงกู่หลานสีม่วงต่อ”
อ้าวจินหลงได้ยินใบหน้าก็เปลี่ยนสี เขาลืมจุดประสงค์เดิมของเขาไป หลังจากพบเทียนคุนเฟิง
ในชั่วพริบตาที่เขาเผลอ
เยว่ตงหมิงก็พุ่งตัวเขามาและฟันดาบอย่างรุนแรงไปที่กลางอกของอ้าวจินหลง
ฉัวะ!
“แก!”อ้าวจินหลงแค่นเสียง มือซ้ายป้องกันดาบเอาไว้ได้ทัน แต่คมดาบบาดแผลลึกลงไปถึงกระดูก เลือดสีแดงสดไหลออกจากฝ่ามืออย่างช้าๆ
—