ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 27
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง
จิวโมไป๋ก็ออกกระบวนท่าได้จนหมด เมื่อกลับมาเข้าท่ายืนตรง ไอสีขาวก็สงบลง ผิวหนังสีแดงเข้มค่อยๆกลับมาเป็นเหมือนเดิม ในตอนนั้นเองกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย สั่นระริกอย่างแผ่วเบา พร้อมความรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสะบายราวกับขึ้นสวรรค์ไปทั่วร่างกาย
ขยับร่างกายเล็กน้อย เขาก็รู้ว่าร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งขึ้นอีกหนึ่งระดับ รวมถึงทะเลลมปราณที่ขยายใหญ่ขึ้นเกือบครึ่งหนึ่ง ของขั้นผิวหนังต้น
สำรวจร่างกายที่เต็มไปด้วยของเหลวสีน้ำตาลดำ จิวโมไป๋ย่นหน้าไม่พอใจ เดินออกจากห้องฝึก ไปหยิบขวดแก้วอีกใบหนึ่งออกมาจากกล่องสมุรไพร ภายในเป็นของเหลวสีแดงเข้มจนเกือบจะเป็นสีดำ ก่อนที่จะเดินเข้าไปห้องน้ำ เขาเดินไปอยู่หน้าอ้างอาบน้ำสูงถึงอก ภายในเต็มไปด้วยน้ำใสสะอาดที่เขาใส่ไว้เมื่อช่วงเช้า
อ้างอาบน้ำแบบนี้ในห้องอาบน้ำของโรงแรมนั้นไม่แปลก เพาะในยุคสมัยแห่งการบ่มเพาะ มีผู้บ่มเพาะจำนวนมาก ที่มักจะผสมโอสถแช่ตัวอยู่ในอ่างน้ำ เมื่อตอนที่เขาเลือกห้องพัก เขาก็เลือกห้องที่มีอ่างอาบน้ำขนาดนี้
จิวโมไป๋กดปุ่มเร่งความร้อนที่ข้างอ่างน้ำ ก่อนที่จะหยิบขวดแก้วที่มีของเหลวสีแดงดำออกมาแล้วเทมันลงไปในอ่างน้ำ ในพริบตาที่ของเหลวหยดลงไปน้ำใสสะอาดก็เปลี่ยนเป็นสีดำ ฟองน้ำเดือดจนกลายเป็นไอความร้อนลอยขึ้นไปบนฝาเพดาน
เมื่อเห็นว่าได้ที่แล้ว จิวโมไปก็กระโดดลงไปแช่ทั้งตัว
ทันทีที่ลงไปแช่ในอ้างน้ำ ความเจ็บปวดแสบร้อนราวมดนับล้านตัวรุมกัด ก็จู่โจมเข้าสู่ร่างกายจนเจ็บปวดไปทั้งร่างกาย แต่เขาฝืนทนไม่กรีดร้องออกมาแม้แต่น้อย
ถ้าเป็นคนปกติที่จิตใจอ่อนแอ ไม่มีทางที่จะลงแช่ได้อย่างแน่นอน หรือถ้าเป็นคนที่มีร่างกายที่แข็งแกร่งขีดจำกัดของพวกเขา ก็ไม่มีทางเกิน 1 ชั่วโมง
โอสถกลั่นกายา
สรรพคุณ ช่วยปรับสภาพร่างกายหลังฝึกฝนให้ดียิ่งขึ้น และ เสริมสร้างร่างกายให้แข็งแกร่งและทนทานมากขึ้น
เวลาผ่านไป 1 ชั่วโมงครึ่ง ความร้อนก็หมดลง จิวโมไป๋ ค่อยๆลุยออกมาอย่างช้าๆ ผิวของเขาในตอนนี้กลายเป็นขาวนวลเนียนสุขภาพดี สิวหรือฝาบนไปหน้าถูกลอกออกไปจนหมด ถ้าคนรู้จักได้พบต้องรู้สึกแปลกใจกับการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน
เมื่อออกจากอ่างน้ำ จิวโมไป๋ก็สำรวจตัวเองอย่างพอใจ กล้าวเนื้อของเขาในตอนนี้พัฒนาขึ้นอย่างมาก แม้จะยังไม่แข็งแกร่งเท่าพี่รอง ที่ฝึกเคล็ดบ่มเพราะร่างกาย แต่ก็อยู่เหนือกว่าผู้บ่มเพาะภายใน
เขาเดินมาส่องกระจก เห็นเป็นชายหนุ่มใบหน้าขาวใส คมเข้ม แม้ไม่ได้หล่อเหลาเหมือนดารา แต่ก็ดูดีกว่าคนทั่วๆไป จิวโมไป๋ลูบใบหน้าอย่างแปลกใจเล็กน้อย ในตอนนี้เขาอ่อนเยาว์อย่างมาก เมื่อผัดเปลี่ยนกล้ามเนื้อชำระล้างสิ่งสกปกแล้ว ใบหน้าของเขาในตอนนี้เขารู้สึกว่าดูดีกว่าแต่ก่อนอย่างมาก
เมื่อสังเกตดูปรากฏว่าความสูงของเขาเพิ่มขึ้น 3 ซ.ม. ตอนนี้เขาสูง 173 ซ.ม. แล้ว ถ้าเขาบ่มเพาะอย่างตั้งใจอนาคตเขาจะต้องสูงขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน
จิวโมไป๋รู้สึกดีไม่น้อย สมแล้วที่เป็นวิชาหลอมร่างกายที่แข็งแกร่ง แม้ในอีกร้อยปีก็ถูกจัดว่าเป็นวิชาหลอมร่างกายที่แข็งแกร่งที่สุด
กระบวนท่าที่เขาใช้ในการผัดเปลี่ยนกล้ามเนื้อชำระล้างสิ่งสกปกคือ วิชาหลอมกายามังกรเทวะ ซึ่งมันไม่ได้เป็นวิชากระบวนท่าต่อสู้ แต่เป็นวิชากระบวนท่าออกกำลังกาย ที่มีไว้เพื่อเสริมสร้างรากฐานของร่างกายให้มั่นคงแข็งแกร่ง
ในอนาคตเคล็ดวิชาของผู้บ่มเพาะในโลกมีจำนวนมากมายจนนับไม่ถ้วน จึงได้มีจัดหมวดหมู่ของพวกมันให้เป็นละเบียบ โดยเคล็ดวิชาหลักๆคือ
เคล็ดบ่มเพาะพลัง
เคล็ดบ่มเพาะจิตวิญญาณ
วิชาหลอมร่างกาย
วิชาเสริม
วิชาต่อสู้
ในยุทธบ่มเพาะช่วงเริ่มต้นของประเทศมังกร เคล็ดบ่มเพาะพลัง มี 2 สายคือ บ่มเพาะร่างกาย และ บ่มเพาะภายใน ซึ่งทั้งสองสายมีทั้งข้อดีและขอเสียของมันเอง
ในภายหลังได้มีการหลอมรวมการบ่มเพาะทั้งสองสายให้รวมเป็นหนึ่ง ทำให้ความแข็งแกร่งของเคล็ดบ่มเพาะพลัง ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว
มันช่วยให้ผู้บ่มเพาะแข็งแกร่งทั้งภายนอกและภายใน ไม่ได้อ่อนแอเฉพาะทางอีกต่อไป
แต่เมื่อเวลาผ่านไป สำนักเส้าหลิน สำนักดัhงเดิมอันดับต้นๆของประเทศมังกร ได้คิดค้น กระบวนท่าออกกำลังกายขึ้นมาให้ศิษย์สำนักทุกคนต้องฝึกฝน นั้นคือ วิชาหลอมกายาอรหันทองคำ มันไม่ถูกจัดให้เป็นเคล็ดบ่มเพาะพลัง หรือ วิชาต่อสู้
ช่วงแรกไม่มีใครรู้สาเหตุ ว่าทำไมสำนักเสาหลินถึงสร้างวิชาไปไม่สุดซักทางราวกับเบ็ดขึ้นมา และสั่งให้ศิษย์ทุกคนต้องฝึกวิชาหลอมกายาอรหันทองคำ ไม่มีเว้น
เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี ศิษย์รุ่นใหม่ของสำนักเส้าหลิน ต่างก็แข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ เมื่อมีการประลองระหว่างสำนักในหลายปีหลังจากนั้น ศิษย์สำนักเสาหลินกว่า 90% ติดอันดับ จนสำนักอื่นหวาดกลัว
ผู้คนที่ตามหาความจริงจึงได้รู้ว่า วิชาหลอมร่างกายนั้นมีประโยชน์เช่นไร ในระดับสร้างรากฐาน การสร้างความแข็งแกร่งของร่างกายนั้นสำคัญอย่างยิ่ง
แต่การใช้เคล็ดบ่มเพาะพลังเป็นเพียวแค่ส่วนช่วยเล็กๆเท่านั้นที่จะช่วยเสริมรากฐาน ทำให้มีผู้บ่มเพาะพลัง ต้องหาวิชาต่อสู้ที่แข็งแกร่ง มาฝึกฝนเพื่อขัดเกาเสริ่มสร้างรากฐาน
ซึ่งมันไม่ครอบคลุม และ ไม่สามารถดึงศักยภาพขีดสุดของร่างกายออกมาได้ ทำให้ผู้บ่มเพาะสร้างรากฐานไม่แข็งแกร่งเพียงพอ เมื่อเลื่อนไปในระดับต่อไป ผู้บ่มเพาะจะค้นพอจุดอ่อนเล็กๆที่ยากจะแก้ไข ยิ่งเมื่อระดับสูงขึ้นจุดอ่อนนั้นจะยิ่งขยายขึ้น ทำให้ในอนาคตไม่สามารถก้าวผ่านระดับที่สูงขึ้นไปได้
วิชาหลอมร่างกาย จะมุ่งเน้นเพียงแค่สร้างความแข็งแกร่งให้รากฐานเพียงอย่างเดียว ผลของมันทำให้ผู้บ่มเพาะแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างแท้จริง ในอีกหลายสิบปีต่อมา วิชาหลอมร่างกาย จึงกลายเป็นวิชาที่ผู้บ่มเพาะทุกคนต้องฝึก ไม่ต่างจากเคล็ดบ่มเพาะพลัง
น่าเสียดายที่กว่าจะมีการค้นพบวิชาหลอมร่างกาย เขาก็ได้เลื่อนเป็นระดับปราณกำเนิด
ทำให้ในอดีตเขาไม่ได้ฝึกวิชาหลอมร่างกาย และไม่สนใจที่จะศึกษาเพิ่มเติม
แต่โชคยังดีที่ เขาได้รับวิชาหลอมร่างกายามังกรเทวะ โดยบังเอิญ
เมื่อตอนที่เขาอายุ 85 ปี มีเด็กหนุ่มจากตระกูลหลง ได้มาขอคำปรึกษาเรื่องการสร้างเคล็ดวิชา เด็กหนุ่มเป็นผู้สืบทอดสายเลือดมังกรภัยพิบัติ หรือก็คือเขาเป็น 1 ในหลานของซุนกวนหมิง ที่มีจำนวนนับไม่ถ้วน
เด็กหนุ่มมีพรสวรรค์อันน่ากลัวอย่างยิ่ง เขาสามารถศึกษาและตีความ แก้ไขเคล็ดวิชาต่างๆได้อย่างง่ายดาย เหนือกว่าเขาในวัยเดียวกันเสียอีก เด็กชายตระกูลหลงได้มาอาศัยอยู่กับเขาที่สำหนักเปลี่ยนสวรรค์อยู่หลายปี
จนกระทั้งเขาได้สร้างวิชาหลอมร่างกายามังกรเทวะได้สำเร็จ มันเป็นวิชาหลอมร่างกายที่คนธรรมดาที่ไม่มีสายเลือดมังกรพายุอัสนีไม่สามารถฝึกฝนได้
แต่ถ้าฝึกฝนกับสายเลือดมังกรภัยพิบัติ มันจะเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแกร่งและทรงพลังกว่าวิชาหลอมร่างการอื่นๆ
นี่เป็นเห็นผลที่เขาต้องการหลอมรวมกับเลือดมังกรพายุอัสนี
ในตอนนี้เขาได้ครอบครองสายเลือดและเคล็ดวิชาหลอมร่างกาย ที่เข้ากันได้แล้ว เขามั่นใจว่าร่างกายของเขาในอนาคตมันต้องทรงพลังอย่างแน่นอน
จิวโมไป๋ยิ้มพอใจใครบ้างที่ไม่อยากแข็งแกร่งดุจมังกร