ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 277
ภายในห้องประชุมสำนักงานหน่วยลับเขตเพาะพันธุ์หมายเลข 2 กลางห้องประชุมมีภาพโฮโลแกรมเสมือนของชายหญิงหลากช่วงอายุ พวกเขากำลังพูดคุยกันอย่างเคร่งเครียด
“เขตเพาะพันธุ์หมายเลข 1 มีผู้ทดสอบหายไปทั้งหมด 11 คน”
“เขตเพาะพันธุ์หมายเลข 2 มีผู้ทดสอบหายไปทั้งหมด 13 คน”
“เขตเพาะพันธุ์หมายเลข 3 มีผู้ทดสอบหายไปทั้งหมด 17 คน”
“เขตเพาะพันธุ์หมายเลข 4 มีผู้ทดสอบหายไปทั้งหมด 15 คน”
“ในช่วงเวลาที่สัญญาณติดตามตัวของผู้ทดสอบหายไป ทางเราได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรติดและภาพจากดาวเทียมทั้งหมดแล้ว แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไรในการทดสอบ…เหมือนกับว่าอยู่ๆผู้ทดสอบหายตัวไปเอง”ชายวัยกลางคนในโฮโลแกรมกล่าวจบก็นิ่ง ท่าทางของเขาอึกอักเหมือนอยากจะพูดอะไรเพิ่มเติม แต่สุดท้ายเขาเลือกที่จะเงียบ
“ไม่มีรถหรือเครื่องบินผ่านบริเวณเขตเพาะพันธุ์ในช่วงเวลาที่สัญญาณติดตามตัวของผู้ทดสอบหายไป”หญิงสาวในโฮแกรมอีกคนกล่าวเสริมขึ้น
“ฝ่ายตรวจสอบ ยืนยันตัวตนทุกคนที่หายไปแล้วหรือยัง”
“ทางเรายืนยันตัวตนทุกคนแล้ว ว่าผู้ที่หายตัวไป เป็นประชาชนของประเทศมังกรจริงๆ มีประวัติตั้งแต่แรกเกิดจนถึงปัจจุบัน ไม่ได้เป็นบุคคลที่แฝงตัวเข้ามาทดสอบ”
ทุกคนพูดกันอีกครู่หนึ่ง สุดท้ายชายวัยกลางคนที่นิ่งเงียบไม่พูดอะไร ก็เอ่ยขึ้น
“สร้างภารกิจตรวจสอบระดับ 3 ดาว ให้ตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้นในระหว่างการทดสอบ และสร้างภารกิจค้นหาระดับ 4 ดาว เพื่อตามหาตัวผู้ทดสอบที่หายไปทั้งหมด ตอนนี้สถานการณ์ของเราไม่มั่นคง เพราะเหตุการณ์สังหารหมู่นักวิจัย ทำให้รัฐบาลหาเรื่องเล่นงานพวกเรา ว่าไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ดังนั้นเราไม่สามารถผิดพลาดได้อีก”
“ครับ/ค่ะ”ทุกคนขานรับคำ ก่อนที่ภาพโฮโลแกรมจะตัดไปทันที
คนในห้องประชุมหมายเลข 2 เงียบกันครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจ
“น่าแปลก ทำไมภารกิจแค่ระดับ 3 และ 4 ดาว คนหายไปห้าสิบกว่าคนในระหว่างการทดสอบเข้าหน่วยลับ ที่มีการเฝ้าระวังระดับสูงที่สุดแบบนี้ การหายตัวไปแบบนี้มันกระทบถึงความมั่นคงของหน่วยอย่างมาก ระดับภารกิจอย่างน้อยก็ต้องระดับ 6 ดาวขึ้นไปแล้ว”ชายในชุดคลุมสีฟ้ากล่าวขึ้นด้วยความสงสัย
หญิงสาวในชุดคลุมที่อยู่ข้างๆกระซิบตอบเสียงเบา”ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่อยู่ๆจะมีใครหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทั้งๆที่มีระบบรักษาความปลอดภัยล้อมรอบเขตเพาะพันธุ์อย่างแน่นหนาขนาดนั้น มีเพียงคนภายในให้ความช่วยเหลือเท่านั้น ถึงจะสามารถทำได้ และคนๆนั้นก็ต้อง…”หญิงสาวหยุดพูดและส่ายหัวเบาๆ
“หมายความว่ายังไง?”ชายในชุดคลุมสีฟ้าหันไปถามด้วยความสงสัย
ชายหนุ่มในชุดคลุมอีกคนเห็นท่าทางใสซื่อของเพื่อนร่วมหน่วย เขาก็ตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ
“คนๆนั้นไม่ได้มีตำแหน่งเล็กๆยังไงล่ะ”ชายหนุ่มในชุดคุลมโบกมือเบาๆ หน้าจอโปล่งใสปรากฎขึ้นและส่งมันไปให้ชายในชุดคลุมสีฟ้าและกล่าว
“ดูรายชื่อคนที่หายตัวไปทั้งหมด พวกเขาเป็นอัจฉริยะที่เกิดจากครอบครัวสามัญ ไม่มีพื้นหลังที่ยิ่งใหญ่ การหายตัวไปของพวกเขามันไม่ใช่เรื่องสำคัญเสียด้วยซ้ำ ไม่แปลกเลยที่ระดับภารกิจแค่ 3 และ 4 ดาว และดูๆแล้วไม่มีใครกล้ารับภารกิจไปทำซะด้วยซ้ำ”
ได้ยินดังนั้นชายในชุดคลุมสีฟ้าก็เข้าใจที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อ
ในการทดสอบครั้งนี้มีคนของตระกูลชั้นสูงจำนวนมากเข้าทดสอบ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ทดสอบไม่ว่าทางใดก็ตาม ต่างก็ถูกกันออกจากการทดสอบ ในการทดสอบแทบไม่มีผู้ตรวจสอบจากตระกูลชั้นสูงอยู่เลย ผู้ตรวจสอบที่เหลือก็ไม่มีอำนาจสั่งการอะไร ทำให้เกิดความล่าช้าในการตรวจสอบ ในระหว่างการทดสอบจึงเกิดช่องว่างบางอย่างขึ้น เป็นโอกาสที่จะลักพาตัวอัจฉริยะจากครอบครัวธรรมดาไป
ผู้ทดสอบที่ถูกลักพาตัวไป เป็นเพียงคนธรรมดา ทำให้ไม่มีใครเดือดร้อนในการหายตัวไปของพวกเขา นอกจากครอบครัวของผู้สูญหาย ถ้าหาตัวไม่พอแค่จ่ายหาเสียหายเพียงเล็กน้อย คดีก็สามารถปิดลงได้
พูดได้ว่าการสร้างภารกิจทั้ง 2 ขึ้นมา เหมือนการสร้างเปล่า ไม่ได้สำคัญอะไร ไม่แปลกเลยที่ไม่มีใครคิดที่จะตามหาคนที่ถูกลักพาตัวไป
ทุกคนในห้องที่นั่งเงียบไม่สนใจที่จะรับภารกิจ พวกเขาต่างก็พูดคุยกันเรื่องอื่นๆ เหมือนลืมไปแล้วว่ามีผู้ทดสอบหายไป ชายชุดคลุมสีฟ้าถอนหายใจ มือบีบกำแน่น เขาอยากจะออกไปทำภารกิจ แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะนั่งนิ่ง
ห้องกลั่น
“น้องเล็กที่นี่มีประโยชน์อะไรเหรอ?”หวังเสี่ยวเปาเอ่ยถามจิวโมไป๋ขณะที่พวกเขาเดินไปในห้องโถง สายตามองซ้ายมองขวา เห็นนักรบฝึกหัดคนอื่นๆที่มีท่าทางกระตือรือร้นที่จะเข้าไปในห้องที่มีประตูปิดกั้น เขาสังเกตุเห็นว่าทางด้านห้องกลั่นกายามีคนต่อแถวเข้าห้องที่หมายเลข 1 เพียงห้องเดียว ห้องอื่นๆไม่มีใครต่อแถว ทางด้านห้่องกลั่นธาตุ มี ทั้งหมด 8 ห้อง เขาสังเกตุเห็นว่าตรงประตูแต่ละห้องมีตัวอักษรกำกับบอกธาตุเอาไว้ ดิน น้ำ ไฟ ทอง ไม้ ลม สายฟ้า น้ำแข็ง
หลิวยี้เอินและเซี่ยลี่เยว์ ทั้งสองมองสบตากันและเหลือบไปมองกระบี่ของกันและกัน พวกเธอก็รู้ว่าฝ่ายตรงความเป็นผู้ใช้กระบี่ โดยไม่ต้องให้จิวโมไป๋ช่วยแนะนำตัว พวกเธอต่างก็แนะนำตัวกัน และพูดคุยกันไปเล็กน้อย ก็กลายเป็นคุ้นเคยอย่างรวดเร็ว อาจเพราะเป็นผู้ใช้กระบี่เหมือนกันจึงเข้ากันง่าย
พวกเธอทั้งสองพูดคุยกันไม่สนใจหวังเสี่ยวเปาที่กำลังถามจิวโมไป๋
จิวโมไป๋เดินมาข้างๆหวังเสี่ยวเปาและชี้ไปที่ห้องกลั่นกายาและอธิบายให้หวังเสี่ยวเปาเข้าใจ
ห้องกลั่นกายา เกือบจะเหมือนห้องแรงโนมถ่วงสูง ที่ใช้แรงกดทับของแรงโนมถ่วงทำให้ร่างกายหนักขึ้น การฝึกฝนในแรงโนมถ่วงที่มากกว่าปกติจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย แต่ข้อเสียของมันคือ สร้างความเสียหายให้กับร่างกายมากกว่าปกติเช่นกัน
ปกติแล้วผู้ที่จะฝึกในห้องแรงโนมถ่วงสูง จะต้องมีกำลังทรัพย์ที่จะใช้ ห้องโภชนาการ ที่ช่วยซ่อมแซมความเสียหายให้กับร่างกาย ถ้าขาดห้องโภชนาการ ร่างกายอาจพังก่อน ถ้าผิดพลาดอาจพิการได้
แต่ห้องกลั่นกายามีสรรพคุณพิเศษ ในห้องจะมีความหนาแน่นของพลังธรรมชาติ 10 เท่าจากภายนอก และแรงดึงดูดภายในห้องไม่ได้กดทับจากบนกดลงมาล่าง เหมือนห้องแรงโนมถ่วงทั่วไป
แต่จะบีบอัดเข้าหาร่างกายจากรอบทิศทาง โดยมีร่างกายเป็นสูญกลาง ทำให้ร่างกายรู้สึกหนัก แต่ไม่เสียสมดุลในการขยับร่างกาย สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ มีเพียงแค่แรงดึงดูดที่กดทับเข้าหาร่าง ทำให้ขยับร่างกายลำบากมากขึ้นเท่านั้น ข้อดีคือทำให้สามารถฝึนฝนร่างกายได้โดยไม่ต้องปรับการเคลื่อนไหว สามารถใช้เคล็ดวิชาได้ตามปกติ ทำให้ลดความเสียหายของร่างกายไปได้มาก
ห้องหมายเลข 1 มีแรงดึงดูด 2 เท่า ค่าเข้าห้อง 1 ชั่วโมง/ 4 คะแนนเครดิต (ราคาปกติ 20 คะแนนเครดิต)
ห้องหมายเลข 2 มีแรงดึงดูด 3 เท่า ค่าเข้าห้อง 1 ชั่วโมง/ 8 คะแนนเครดิต (ราคาปกติ 40 คะแนนเครดิต)
ห้องหมายเลข 3 มีแรงดึงดูด 4 เท่า ค่าเข้าห้อง 1 ชั่วโมง/ 12 คะแนนเครดิต (ราคาปกติ 60 คะแนนเครดิต)
“พลังธรรมชาติที่หนาแน่น 10 เท่า ทำให้การฟื้นตัวเร็วขึ้น มันจะซ่อมแซมความเสียหายของร่างกายในระหว่างการฝึก ทำให้การฝึกในห้องกลั่นกายาแทบจะไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย สามารถฝึนฝนอย่างหนักหน่วงได้อย่างสะบายใจ”จิวโมไป๋อธิบายถึงประโยชน์ของห้องกลั่นร่างกาย ก่อนที่จะมองไปยังห้องกลั่นธาตุ
“ห้องกลั่นธาตุ ภายในห้องจะมีพลังงานกฎแห่งธาตุหนาแน่นสูงและบริสุทธิ์มาก เหมาะสำหรับเพิ่มความแข็งแกร่งของกฎแห่งธาตุ แต่มันไม่เหมาะกับคนที่ยังไม่ตระหนักกฎแห่งธาตุ เพราะเราไม่รู้ว่าตัวเองจะปลุกกฎแห่งธาตุอะไร ถ้าเข้าผิด จะกลายเป็นเสียเงินอย่างเปล่าประโยชน์
ค่าเข้าห้องกลั่นธาตุ 5 ธาตุพื้นฐาน ดิน น้ำ ไฟ ทอง ไม้ 1 ชั่วโมง/ 4 คะแนนเครดิต (ราคาปกติ 20 คะแนนเครดิต)
ธาตุ ลม สายฟ้า น้ำแข็ง 1 ชั่วโมง / 8 คะแนนเครดิต (ราคาปกติ 40 คะแนนเครดิต)”
“ฉันแนะนำให้พี่ใหญ่เข้าห้องกลั่นกายาหมายเลข 2 เพื่อฝึกฝนพื้นฐานร่างกายให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น แรงโนมถ่วง 3 เท่า ไม่สร้างความเสียหายให้พี่ใหญ่มากนัก”จิวโมไป๋แนะนำ
เกาะโดดเดียวมีความหนาแน่นของกฎแห่งธาตุดิน มากกว่าห้องกลั่นธาตุดิน มันไม่จำเป็นที่จะเสียคะแนนเครดิตอย่างเปล่าประโยชน์
หวังเสี่ยวเปารู้ว่าที่เกาะโดดเดียวมีพลังกฎแห่งธาตุดินหนาแน่น เขาไม่จำเป็นต้องเข้าห้องกลั่นธาตุ เขาพยักหน้าและหันไปมองห้องกลั่นกายาด้วยความสนใจ
หลิวยี้เอินและเซี่ยลี่เยว์ ก็เลือกห้องกลั่นกายาเช่นกัน จิวโมไป๋แปลกใจเล็กน้อยที่หลิวยี้เอินเลือกห้องกลั่นกายา แต่เขาไม่ได้ถาม
ในระหว่างนั้นเอง เหยาติงหลงก็เดินเข้ามา เขาสังเกตุเห็นพวกจิวโมไป๋ตั้งแต่ตอนที่พวกเขาไปรับรางวัล แต่เพราะคนใส่เสื้อคลุมจำนวนมาก ทำให้คาดกัน เขาเดินหาอยู่นานก็เข้ามาที่ห้องกลั่นโดยบังเอิญ เขาจำเสี่ยวหงที่พันรอบแขนของหลิวยี้เอินได้ เขาเดาว่าเธอเป็นคนในกลุ่มของจิวโมไป๋ จึงเดินเข้ามาหา
หวังเสี่ยวเปาทักทายพี่เขยในอนาคตอย่างสุภาพ พวกเขาพูดคุยกันเล็กน้อย ก็มีเสียงดังขึ้นจากด้านหลัง
“หึ!”
พวกเขาหันไปมองก็เห็นคนในชุดคลุมสีเทาเดินผ่านไป กลิ่นอายร้อนแรงจากร่างของอีกฝ่าย ไม่ต้องใช้จิตสัมผัสเขาก็เดาได้ว่าเป็นจูหวังเฉิน เขาไม่คิดเลยว่าจูหวังเฉินจะใจเย็นไม่รีบร้อนรับภารกิจเหมือนคนอื่นๆ และยังมาที่ห้องกลั่น
—