ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 284
จิวโมไป๋ตรงไปที่ตำแหน่งที่ตั้งของโรงงานที่ได้รับ จากกลุ่มคนที่จะลักพาตัวหลี่ฟูจิว ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากที่เขาอยู่มากนัก เขาเดินเท้าโดยไม่ใช้รถโดยสาร ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที เขาก็ไปถึง
ตำแหน่งที่เขาได้รับเป็นแค่โรงงานร้าง ที่ถูกทิ้งร้างมาหลายปีไม่มีอะไรเลย
จิวโมไป๋ซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้สูงห่างจากโรงงานร้างไม่ไกลนัก เขาระมัดระวังว่ามีคนเฝ้าสถานที่หรือไม่ ใช้จิตสัมผัสตรวจสอบอยู่ครู่ใหญ่ ไม่มีคน ไม่มีห้องลับ ไม่มีอะไรเลย
คิ้วของจิวโมไป๋ขมวดแน่นเขาเริ่มกังวลว่าจะไม่พบอะไร แต่ในที่สุดเขาก็พบห้องลับซ่อนอยู่ชั้นใต้ดินของอาคารโรงงานร้างข้างๆ
เขาเคลื่อนย้ายร่างอย่างแผ่วเบา ผ่านเศษใบไม้ที่ร่วงลงพื้นจนสูง หญ้าที่รกทึบ ต้นไม้ที่ล้มตาย แอ่งน้ำเล็กๆที่กลายเป็นโคลน เขาผ่านพวกมันไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆไว้เบื้องหลัง
ไปถึงโรงงานร้าง เขาก็ใช้จิตสัมผัสตรวจเข้าไปในห้องลับ เขาก็พบว่าทุกอย่างถูกทำความสะอาดจนไร้ร่องรอย ไม่สามารถตรวจสอบอะไรได้เลย
ใบหน้าของจิวโมไป๋กลายเป็นเคร่งเครียด เพราะนี้เป็นเพียงเบาะแสเดียวที่สามารถตามหาเฉินหูได้
ในขณะที่เขาจะตัดสินใจลงไปในห้องลับ เพื่อตรวจสอบด้วยตัวเอง ดวงตาของเขาเป็นประกาย จิตสัมผัสของเขาสังเกตเห็นกล้องวงจรติดขนาดเล็กเพียง 5 ซ.ม. ซ่อนอยู่ในมุมอับจากสายตา ตรงหน้าทางเข้าห้องลับ
ถ้าเป็นคนธรรมดา ไม่มีจิตสัมผัสก็ยากที่จะเจอกล้องที่ซ่อนอยู่
จิตสัมผัสของเขาตรวจสอบกล้องวงจรติดพบว่ามันยังทำงานอยู่ แต่ไม่นานเขาก็ต้องผิดหวัง เพราะมันเป็นกล้องวงจรปิดไร้สาย พลังงานของมันเป็นแบตเตอรี่พลังงานบริสุทธิ์ สามารถใช้งานได้ถึง 1 ปี
กล้องวงจรปิดอันนี้ทำหน้าที่แค่บันทึกภาพและส่งข้อมูลทางเดียว กล้องวงจรปิดชนิดนี้ถูกสั่งห้ามจากรัฐบาล ไม่ให้นำเข้าประเทศ เพราะไม่สามารถตรวจสอบการส่งข้อมูลได้
ทำให้ผู้ที่ใช้งานในทางที่ผิด สามารถดักจับภาพและส่งออกไปโดยที่ไม่สามารถตามหาได้ปลายทางได้ มันจะส่งผลให้เกิดอาชญากรรมจำนวนมากได้
จิวโมไป๋ถอนหายใจด้วยความจนปัญญา ถ้าไม่สามารถแฮ๊คหาจุดส่งสัญญาณได้ เขาก็ไม่สามารถตรวจสอบถึงปลายทางที่กล้องวงจรติดจะส่งภาพไปได้ การตามหาเฉินหูถูกตัดขาดทันที
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ เขาค่อยๆตั้งสติคิดหาวิธี และเขานึกอะไรบางอย่างได้ เขาตรวจสอบกล้องวงจรติดอีกครั้งดวงตาของเขาก้เป็นประกาย
เขารีบออกไปจากโรงงานร้างทันที เขาหยิบกำไลข้อมือสำรองออกมาและหาร้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใกล้ๆ เขาก็พบร้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เล็กๆไม่ไกลจากโรงงานร้างมากนัก เขาใช้พลังวิญญาณหยุดการทำงานของกล้องวงจรปิดทั้งหมดของร้าน และเข้าไปในร้านทันที ไม่รอช้าเขาหยิบสิ่งของบางอย่างออกมา และใช้ห้องทำงานด้านหลังร้าน และลงมือทำการประดิษฐ์สิ่งของขึ้นมาหนึ่งชิ้น ใช้เวลา 30 นาที เขาก็ทำเสร็จ
ก่อนจะออกจากร้านเขาทิ้งขวดโอสถ 12 ชนิด โอสถละ 100 เม็ด ไว้บนเคาน์เตอร์
เมื่อกลับไปถึงโรงงานร้าง เขาก็หยิบอุปกรณ์ที่ประดิษฐ์ออกมา เขาเปิดใช้งานทันที
หน้าจอโฮโลแกรมบนกำไลข้อมือสำรอง ค่อยๆปรากฎการเชื่อมต่อข้อมูล ดวงตาของจิวโมไป๋เป็นประกาย
“กล้องวงจรติดถ่ายโอนข้อมูลทางเดียวรุ่นเก่าจริงๆด้วย”จิวโมไป๋ถอนหายใจในความโชคดี ในตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นกล้องวงจรติดถ่ายโอนข้อมูลทางเดียวรุ่นใหม่ ที่มีระบบรบกวนการดักสัญญาณสมบูรณ์แบบ ที่ไม่สามารถใช้เครื่องมือดักสัญญาณได้
เมื่อพบว่าเป็นรุ่นเก่า เขาก็สามารถสร้างเครื่องดักสัญญาณได้
ในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยี่ของกล้องวงจรปิดส่งสัญญาณทางเดียวรุ่นเก่า จะยังไม่มีใครสามารถดักจับสัญญาณได้ แต่ในอนาคตไม่นานจะมีการค้นพบวิธีดักสัญญาณ ทำให้เกิด รุ่นใหม่ที่มีระบบรบกวนการดักสัญญาณสมบูรณ์แบบ ที่ไม่มีวิธีดักสัญญาณได้อีกเลย
แต่ด้วยความรู้ในอนาคต จิวโมไป๋รู้วิธีสร้างเครื่องดักสัญญาณสำหรับรุ่นเก่า แม้จะไม่สามารถดักจับข้อมูลได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็สามารถรู้ว่าสัญญาณถูกส่งไปที่ไหน
จิวโมไป๋กดไปที่โฮโลแกรมไม่นาน เขาก็พบตำแหน่งที่ข้อมูลจากกล้องวงจรปิดถูกส่งไป
เมื่อได้แล้วจิวโมไป๋ก็ประหลาดใจเล็กน้อย เพราะตำแหน่งสถานที่ได้ มันอยู่ที่เขตพนันหินหยก
มันไกลจากที่เขาอยู่มาก
จิวโมไป๋ใช้เคล็ดวิชาเปลี่ยนใบหน้า ให้เป็นชายวัยกลางคนใบหน้าธรรมดา ปรับขนาดร่างกายให้สูงและอ้วนเล็กน้อย จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เหมือนนักเที่ยวกลางคืน เขาเดินไปที่ถนนและโบกรถโดยสารไปที่เขตพนันหินหยก
“คุณจะไปตลาดผีเหรอ?”คนขับถามขึ้น
“ใช้”จิวโมไป๋ตอบ
“ถ้าคุณจะไปตลาดผี ฉันแนะนำให้ไปตลาดผีเขต 8 ฉันได้ยินว่ามีนักท่องเที่ยวโชคดีได้หินหยกคุณภาพสูงขายได้หลายล้านเครดิต…”คนขับพูดไปเรื่อยๆ
จิวโมไป๋ทำเป็นพูดตอบโต้ไป
รถจอดโดยสารจอดที่ทางเข้าเขตพนันหินหยก ในตอนนี้เขตพนันหินยังเต็มไปด้วยความคึกคัก แต่ที่แตกต่างจากเวลาปกติคือ ร้านพนันหินที่เป็นอาคารปิดทั้งหมด หินพนันหยกที่ขายในตอนนี้จะเป็นแบบแบกะดิน หินพนันหยกกองบนผ้าที่ผ้าปูพื้น ลูกค้าที่จะซื้อสามารถซื้อไปได้ทันที ไม่ต้องรอประมูล
ตลาดผี จะเปิดหลังตี 3 ถึง ตี 4 ครึ่งของทุกวัน การซื้อขายหินพนันหยกจะเป็นแบบซื้อเร็ว ไม่มีการประมูล
การซื้อขายแล้วแต่การที่คนซื้อและคนขายตกลงราคากัน
นอกจากหินพนันหยก ยังมีของโบราณ โอสถ และสิ่งผิดกฎหมายขายที่นี่ในเวลานี้ นอกจากนั้น ในเวลานี้ยังมีกลุ่มแก็งจำนวนมากออกมาเล่นงาน รีดไถ นักท่องเที่ยวที่เดินในตลาดผี โดยที่ไม่มีใครควบคุม
พูดได้ว่าเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง เป็นช่วงเวลาปล่อยผีอย่างแท้จริง
จิวโมไป๋ไม่สนใจความวุ่นวาย เขาเดินไปตามตำแหน่งที่ได้รับ เขาเดินฝ่าคนที่พลุ่งพล่าน ไปจนถึงร้านขนาดกลางไม่ใหญ่ไม่เล็ก ดูธรรมดา แต่เมื่อเขาใช้จิตสัมผัสตรวจสอบดีๆ มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งมาก
มีผู้บ่มเพาะพลังระดับ 6 โลหิตหลายคนแต่งตัวเป็นคนขายหินพนันหยกอยู่หน้าร้าน และยังมีผู้คุ้มกันที่แต่งตัวเป็นนักท่องเที่ยวเดินตรวจสอบรอบๆร้าน
จิวโมไป๋ตรวจสอบผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 6 โลหิต เขาก็พบความรู้สึกที่พบจากผู้ใช้ยีนพันธุกรรมที่เขาเคยพบมาก่อน
ดวงตาจิวโมไป๋เป็นประกาย เขาไม่ได้มาผิด
จิวโมไป๋เฝ้าดูการเคลื่อนไหวอยู่ห่างๆ เขาก็พบว่าผู้คุ้มกันที่แต่งตัวเป็นนักท่องเที่ยว จะเดินวนรอบร้าน และเปลี่ยนคนทุกๆ 10 นาที เพื่อไม่ให้คนผิดสังเกต เขาตัดสินใจทันที เขาไปซ่อนตัวมุมอับที่ผู้คุ้มกันร้านเดินผ่าน
รอไม่ถึง 3 นาที เขาก็จัดการผู้คุ้มกันร้านที๋โชคร้ายและปลอมตัวทันที เขาเดินตามทางที่จะต้องเดินอ้อมไปมา และเดินผ่านหน้าร้านอีก 3 ครั้ง ก่อนจะเดินไปด้านข้างร้าน ซึ่งมีห้องเล็กๆให้เข้าไป
เมื่อเข้าไปก็พบว่ามันเป็นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ในห้องมีชายและหญิงวัยกลางคน 2 คนท่าทางเย็นชารออยู่ พวกเขาไม่กล่าวทักทาย ทั้ง 2 คนเดินผ่านเขาออกไป เพื่อเปลี่ยนกะเดินรอบร้านกับเขา
จิวโมไป๋มองไปรอบๆและเดินไปเปิดทางเข้าห้องลับด้านหลังตู้เสื้อผ้า เป็นทางยาวลงไป
ยังไม่ทันได้เดินเข้าไป เขาก็พบว่าห้องลับใต้ร้านถูกสร้างด้วยวัตถุพิเศษรบกวนจิดสัมผัส แม้จะไม่สามารถตัดการใช้จิตสัมผัสได้เหมือนสำนักงานใหญ่ของหน่วยมังกรซ่อน แต่ก็ทำให้รัศมีการมองเห็นพล่ามัวจนแทบไร้ประโยชน์
ขณะที่กำลังตัดสินใจว่าจะเข้าไปดีหรือไม่ อยู่ๆเขาก็ถูกสะกิตที่ด้านหลังอย่างแผ่วเบา
พอหันขวับกลับไปอย่างรวดเร็ว เขาก็พบหญิงวัยกลางคน ในชุดธรรมดาเหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไป เขาก็จำได้ทันทีว่าเธอเป็นผู้คุ้มกันร้านอีกคน ที่อยู่กะเดียวกับคนที่เขาจัดการและแฝงตัวแทน
จิวโมไป๋ขยับมือจะจัดการหญิงวัยกลางคน เขาก็สังเกตเห็นดวงตาคู่งามเป็นประกาย ไม่เหมือนกับวัย เขาก็รู้ได้ทันทีว่า’เธอ’เป็นใคร
“คุณเป็นใคร?”
“นายเป็นใคร?”
ทั้งสองพูดพร้อมกัน
จิวโมไป๋ยิ้มแผ่วเบากระตุกยิ้มขึ้นอย่างแผ่วเบา
หญิงวัยกลางคนชะงักเล็กน้อยก่อนจะยิ้มเช่นกัน
“เราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า?”
—