ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 29
จิวโมไป๋เดินตรงกลับหอพักที่มหาวิทยาลัยเทียนซู เมื่อเข้าไปในห้องก็ไม่เจอใคร เขาวางกล่องสมุนไพรไว้ใต้เตียง ก่อนที่จะทิ้งตัวนั่งลงบนที่นอน
“ไม่คิดเลยว่าฉันจะช่วยคนตระกูลถัง”จิโมไป๋ถอนหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย สีหน้าของเขาในตอนนี้มืดมนลงเล็กน้อย
เขาจำเรื่องมรดกตระกูลถังได้แค่รางๆเท่านั้น เพราะเขาไม่ได้สนใจติดตามข่าวสารของมัน
ตระกูลถังเป็น เป็นตระกูลโบราณสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์ ตระกูลถังเป็นตระกูลโบราณที่แข็งแกร่งอันดับต้นๆของประเทศ เหนือกว่าตระกูลเซียวอย่างมาก ทายาทของตระกูลถัง ส่วนมากจะเข้ารับราชการ และกว่า 80% จะเข้ารับราชการทหาร ทำให้พวกเขามีอำนาจในกองทัพ
แต่ใครจะคิดว่าตระกูลที่ทรงอำนาจกว่าพันปี จะถึงคราวแตกแยกได้ง่ายๆ เมื่อถังเทียนเหวิน ประมุขตระกูลถัง หัวใจวายเฉียบล้มเหลวเสียชีวิต โดยที่ไม่ได้เขียนพินัยกรรมทิ้งเอาไว้
ในภายหลังผู้คนต่างตั้งข้อสงสัยว่า ทำถังเทียนเหวิน ถึงทำเรื่องสะเพร่าแบบนี้ได้ ไม่สมกับเป็นผู้นำที่ดูแลตระกูลมาหลายสิบปีเลยแม้แต่น้อย
เพราะไม่ได้เขียนพินัยกรรมเอาไว้ มรดกทรัพย์สินของตระกูลที่มีมากมายมหาศาลก็ไม่สามารถแบ่งกันได้ง่ายๆ
ทำให้เกิดการต่อสู้แย่งชิงมรดกกันอย่างดุเดือด
ต้องเข้าใจก่อนว่าตระกูลโบราณไม่ได้มีแค่เงินเท่านั้น แต่พวกเขามีมรดกที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ รวมถึงสมบัติของราชวงศ์ ที่สืบทอดต่อกันมาหลายพันปี
ในยุคบ่มเพาะพลัง สมบัติโบราณส่วนมากมักจะมีกลิ่นอาจสมบัติล้ำค่า สมบัติบางชิ้นอาจจะกลายเป็นสมบัติวิเศษที่ทรงพลัง จึงไม่ใช้เรื่องง่ายที่จะแบ่งมรดกกันได้ง่ายๆ
ทายาทสายตรงของถังเทียนเหวินมี 5 คน พวกเขานอกจากจะมีตำแหน่งในกองทัพ พวกเขายังเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูง ทำให้ไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบกัน และพวกเขาต่างมีลูกหลานรุ่นใหม่ของพวกเขาเอง ที่ต้องใช้สมบัติล้ำค่าในการช่วยส่งเสริมการบ่มเพาะ
เรื่องราวหลังจากนี้เหมือนกับเป็นนิยาย ทายาทสายตรงต่อสู้กันอย่างดุเดือดราวกับจะแลกชีวิตกัน
แต่อยู่ๆก็มีทายาทสายรองจากไหนไม่ทราบ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการต่อสู้แย่งชิงมรดกตระกูลถัง
ประวัติของบุคคลลึกลับนั้น น่าสนใจมากเพาะมันเหมือนกับพระเอกในนิยาย เขาสร้างชื่อเสียงและก่อร่างสร้างตัวเองจากความว่างเปล่า พื้นฐานครอบครัวยากจนสุดขีดจนไม่น่าจะบ่มเพาะพลังได้ แต่ด้วยพรสวรรค์ที่สูงส่ง เขาได้ต่อสู้และไต่เต้าจนเป็นอันดับ 1 ในผู้แข็งแกร่งในรุ่นเดียวกันจากทั่วประเทศมังกร
สุดท้ายเขาบังเอิญค้นพบว่า เขาเป็นหลานของถังเทียนเหวิน แต่เขาเป็นลูกของบุตรสาว ที่แต่งงานออกจากบ้านไปแต่งงานกับคนชั้นล่าง
แต่ถังเทียนเหวินไม่ชอบจึงถูกขับไล่ออกจากตระกูล และถูกลบชื่ออกจากประวัติตระกูลถัง
ในภายหลังเขาได้กลับไปต่อสู้เพื่อเอาเกรียติยศของพ่อแม่กลับคืน เขาต้องฝ่าฟันกับคนรุ่นเดียวกันจนไปถึงคนรุ่นอาวุโส เขาต้องผ่านอุปสรรค์ต่างๆมากมาย จนสุดท้ายเขาก็ได้รับมรดกทั้งหมด กลายเป็นประมุขตระกูลถัง และได้คุมกองกำลังของตระกูลถังทั้งหมด และเขายึดครองมิติชั้นสูงมากกว่า 4 แห่งและก่อสร้างนิกายของตัวเองขึ้นมา
ประมุขนิกายจรัสฟ้า จี้หยางเฟย
จิวโมไป๋ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ เขาได้ช่วยชีวิตถังเทียนเหวิน ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังใง
เขานิ่งคิดครู่หนค่ง ในตอนนี้จี้หยางเฟย น่าจะเป็นนักศึกษา ปี 4 ของมหาวิทยาลัยคุนหลิน และได้เข้ารวมกับองค์กรลับเป็นเวลา 1 ปีแล้ว
เขาไม่เคยพบกับจี้หยางเฟยโดยตรงมาก่อน เพราะกว่าเขาจะได้เข้าองค์กรลับ ก็อีก 10 ปี ในตอนนั้น จี้หยางเฟยก็ได้ตำแหน่งระดับสูงขององค์กร กลายเป็นมังกรเหินบินทะยาน เกินกว่าคนธรรมดาจะสามารถสัมผัสได้ เขาได้แต่ฟังจากคำเล่าลือ และผลงานระดับสุดยอดที่อีกฝ่ายได้ทำ ภารกิจระดับสูงที่ไม่มีใครสามารถทำได้ ส่วนมากจี้หยางเฟยจะเป็นคนจัดการทั้งหมด
สำหรับเขาแล้ว จี้หยางเฟย เป็นตัวเอกในนิยายอย่างแท้จริง
อีก 3 เดือนจะมีการสอบต่อสู้ของผู้บ่มเพาะ ถ้าเขาสามารถสร้างผลงานโดดเด่น เขาอาจจะได้รับความสนใจจากองค์กรลับ เขาจะมีโอกาศเข้าองค์กรลับก็ได้
เขายิ้มอย่างฝันเฟื้องเล็กน้อย แล้วส่ายหน้าไล่ความคิด แล้วนึกถึงอดีต ถ้าเขาไม่บังเอิญแสดงพรสวรรค์ในการหลอมยา และ ปรับปรุงวิชาต่อสู้ละก็ เขาคงไม่มีสิทธิ์ รู้จักแม้กระทั้งชื่อขององค์กรลับเสียด้วยซ้ำ
อัจฉริยะในรอบร้อยปีอย่าง จี้หยางเฟย ยังเข้ารวมองค์กรลับ ตอนอายุ 20 ปี เขาฝึกฝนบ่มเพาะอย่างหนักตั้งแต่อายุ 15 ปี เพื่อที่จะท้าทายสวรรค์
ส่วนเขาแม้จะได้ความทรงจำและความรู้กว่าร้อยปี แต่เวลาการฝึกฝนแค่ 3 เดือนมันอาจจะไม่พอ แต่ถ้ารอเลื่อนไปปีหน้า มันก็ช้าเกินไป
ไม่สิ เขายังมีโอกาศ จิวโมไป๋กำหมัดแน่น จิตวิญญาณต่อสู้ลุกโชติช่วง มีแต่ต้องพยายามเท่านั้น ถ้ายังชักช้าอยู่อาจจะไม่ทันจริงๆก็ได้
เมื่อตั้งเป้าหมายได้แล้วเขาก็ต้องจัดการปัญหากวนใจทั้งหมดก่อน เขากดโทรออก หาหวังเสี่ยวเปา
สัญญาณดังไม่กี่ครั้งก็มีคนกดรับสาย
“พี่ใหญ่ทำไมพวกพี่ไม่อยู่หอพัก?”จิวโมไป๋ถาม
“ฉันมาทำธุระข้างนอกเลยพาน้องรองและน้องสามมาด้วยกัน น้องเล็กไม่ต้องเป็นห่วงพรุ่งนี้พวกเราก็กลับแล้ว”เสียงปลายส่ายสั่นติดแหบเล็กน้อย
“ตกลง พรุ่งนี้เจอกัน”เมื่อกดวางสาย ดวงตาของเขาก็ทอประกายเย็นเฉียบ
“ตอนนี้ทั้งสามคนลงถูก ลากไปเข้ารวมการต่อสู้แล้วแน่ๆ”เมื่อคิดใคร่ครวญดูแล้ว เขาก็หยิบกล่องสมุนไพรออกมา ภายในมีแผ่นกระดาษเนื้อดีเงาวาว พู่กัน และขวดแก้วเล็กๆหลายสิบขวด