ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 293
ไอร้อนสีขาวที่เกิดจากการโจมตีปกคลุมพื้นที่โดยรอบ ร่างของเนี่ยฟูหานหายวับไป ก่อนจะปรากฎตัวด้านข้างของเฉินหูและกล่าว
“รีบไปจากที่นี่ ไปให้เร็วที่สุด”พูดจบเขาก็ไปยืนอยู่หน้ากลุ่มไอร้อน สายฟ้าสามสีแลบไปมาทั่วร่าง เตรียมพร้อมที่จะลงมือได้ทุกเมื่อ
เฉินหูขมวดคิ้ว เขาสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นจากพื้นดินที่เขายืนอยู่ได้ เขาไม่ได้โง่ถึงขนาดอ่านสถานการไม่ออก ถ้าเขายังอยู่ต่อ จะเป็นตัวถ่วงของเนี่ยฟูหานเปล่าๆ เขาจึงอุ้มร่างของหญิงสาวที่อยู่ในสภาพล่อแล่แทบจะไม่ได้สติและจากไปทันที
แต่ในตอนนั้นเองอากาศก็ร้อนขึ้นอย่างฉับพลัน จนผิวของเขาเริ่มรู้สึกร้อนลวก เฉินหูไม่รอช้าระเบิดพลังวิ่งออกไปสุดกำลัง
“อ๊าาาากกก!”เสียงร้องคำรามดังมาจากใจกลางกลุ่มไอร้อนสีขาว พายุสีแดงเพลิงหมุนวนอย่างรุนแรงพัดไอร้อนสีขาวจะกระจัดกระจายออกไป เห็นร่างของชายวัยกลางคนที่ปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงสีแดงส้ม สายตาสีแดงฉานมองตรงมายังร่างของเนี่ยฟูหานด้วยความโกรธแค้น เลือดที่ไหลออกจากบาดแผลทั่วร่าง ถูกเปลวไฟเผาไหม้จนกลายเป็นไอสีแดงดำ และรอยแดงคล่ำขนาดใหญ่ที่แก้มข้างช้าย ทำให้เขาใบดูโหดเหี้ยมดุร้ายมากยิ่งขึ้น
โดยไม่พูดอะไร ชายวัยกลางคนก็ทะยานร่างเข้าหาเนี่ยฟูหาน หมัดขวาห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงหมุนวนเป็นพายุ ชกออกมาอย่างรุนแรง
“ตาย!!!”
ตูมมม!!!
คลื่นพลังระเบิดออกเป็นพายุเพลิง เผาไหม้ทำลายล้างพื้นที่ข้างหน้าทั้งหมด พื้นที่กว่า 30 ตารางเมตร ต้นไม้และพื้นดินถูกเผาไหม้กลายเป็นเถ้าถ่าน แต่ไร้ร่างของเนี่ยฟูหาน
ชายวัยกลางคนหมุนควับอย่างรวดเร็วและเตะไปด้านหลัง พลังธาตุสีแดงไหลลงไปอัดแน่นที่ขา ในจังหวะเดียวกันเนี่ยฟูหานก็ปรากฎตัวขึ้นตรงนั้นพอดี
เปรี้ยงงง! ตูมมม!!! คลืนนน พื้นตรงหน้ากลายเป็นเศษฝุ่นสีดำลอยกระเด็นออกไปไกล
เปรี๊ยะ! เสียงสายฟ้าดังขึ้นห่างออกไปเล็กน้อย ร่างของเนี่ยฟูหานก็ปรากฎขึ้น ชายเสื้อคลุมด้านขวาล่างมีรอยเผาไหม้สีดำขนาดหนึ่งนิ้ว เพราะเขาใส่ชุดสีขาวสะท้อนแสงทำให้สามารถเห็นรอยไหม้ได้อย่างชัดเจน แม้ว่าจะเป็นรอยเล็กๆก็ตาม
เนี่ยฟูหานสะบัดมือซ้ายเบาๆรอยไหม้ก็สีดำก็หายไป มือขวาของเขาก็ห่อหุ้มด้วยสายฟ้าสีแดง ก่อนจะฟาดฝ่ามืออกไฟ สายฟ้าสีแดงแตกออกเป็นตาข่ายสายฟ้ากวาดทุกสิ่งตรงหน้า
ชายวัยกลางคนไม่คิดที่จะป้องกัน เขาระเบิดเปลวเพลิงออกจากร่าง กฎแห่งธาตุหมุนวนจนเกิดเงาระฆังเสมือน เขาชกหมัดออกไป เงาระฆังเพลิงขยายใหญ่ขึ้นและชนเข้ากับตาข่ายสายฟ้าสีแดง
ตูมมม!
เสียงการปะทะดังสนั่น พื้นดินแตกร้าว คลื่นพลังม้วนฝุ่นสีดำเข้ามาปกคลุมไปทั่วบริเวณ
ชายวัยกลางคนไม่หยุดการโจมตี เขาเร่งพลังกดดันจนชั้นอากาศโดยรอบสั่นสะเทือน พัดฝุ่นที่บดบังทัศนวิสัยกระจายออกไป เมื่อเห็นร่างของเนี่ยฟูหานเขาก็โจมตีออกไปสุดกำลัง คลื่นพลังอันแข็งแกร่งระเบิดออกอย่างรุนแรงทำลายร้างทุกสิ่งที่อยู่โดยรอบ
เนี่ยฟูหานโบกมือสายฟ้าสีม่วงและแดง ระเบิดออกเป็นระลอกสายฟ้าสองสีกระหน่ำเข้าโจมตี
ตูมมม!!! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!
“อัก!”ร่างของชายวัยกลางกระอักเลือดออกมาเล็กน้อย ร่างกายมีบาดแผลและรอยไหม้หลายจุด เขายังยืนอยู่ที่เดิมรอบๆร่างของเขามีรอยหลุ่มพรุนเล็กใหญ่นับไม่ถ้วน เจาะพื้นดินแตกกระจายเป็นวงกว้าง มันเกิดจากเศษสายฟ้าที่กระจายออกไปจากการปะทะเมื่อครู่
เนี่ยฟูหานถอยหายออกไปไกล เสื้อคลุมสีขาวสะท้อนแสงมีรอยสีดำหลายจุดอย่างเห็นได้ชัด
ชายวัยกลางคนสูดลมหายใจช้าๆ สายตาของเขาไม่เคยละไปจากเนี่ยฟูหาน เปลวเพลิงที่มอดดับก็จุดประกายขึ้นมาใหม่
เขารู้ว่าความเร็วสู้เนี่ยฟูหานไม่ได้ เขาจึงใช้รัศมีการโจมตีเป็นวงกว้าง เข้าสะกดข่มเนี่ยฟูหานเอาไว้ ไม่ให้อีกฝ่ายเป็นคนโจมตีได้เพียงฝ่ายเดียว
จากการต่อสู้ที่ผ่านมา เขาคาดเดาได้ว่าเนี่ยฟูหาน ไม่ได้มีประสบการณ์ต่อสู้ที่แท้จริงมากนัก ทำให้ไม่สามารถจบการต่อสู้ได้ เขาจึงสามารถลากการต่อให้ได้นานที่สุด เพื่อรอกำลังสนับสนุน
เห็นว่าชายวัยกลางคนยังมีแรงเหลือ เนี่ยฟูหานก็ขมวดคิ้วแน่น คลื่นพลังที่ร้อนระอุ เผาไหม้ร่างกายของเขาอย่างรุนแรง แม้จะไม่ถูกโจมตีแต่มันก็ทำให้ร่างกายใต้เสื้อคลุมชุ่มไปด้วยเหงื่อ ร่างกายของเขาเริ่มเหนื่อยล้าอย่างช่วยไม่ได้
เนี่ยฟูหานถอยร่นทิ้งระยะห่างไปอีกหลายสิบก้าว ก่อนจะตัดสินใจใช้สายฟ้าโจมตีจากระยะไกล สายฟ้าสีม่วงถูกบีบอัดเหมือนหอกพุ่งโจมตีออกไปในทันที เสียงฉีกอากาศดังแหลกสายลมเข้ามาอย่างน่าสะพรึง
ชายวัยกลางคนกัดฟันแน่น ใช้พลังกดดันและกฎแห่งธาตุไฟ ปกคลุมทั่วร่าง บาดแผลทั่วร่างปริกแตกจนเลือดไหลทะลักออกมายิ่งกว่าเดิม
“ฆ่า!”หมัดที่อัดแน่นไปด้วยเปลวเพลิงเกิดเงาเสมือนระฆังเพลิง ชกตรงไปทำลาย หอกสายฟ้าม่วงจนแตกกระจาย แต่พลังที่หลงเหลือก็ยังซ๊อตไปทั่วแขนและร่างกาย มันยิ่งทำให้เกิดรอยไหม้และบาดแผลใหม่ ชายวัยกลางคนไม่สนใจบาดแผลทะยานร่างตรงเข้าปะทะเนี่ยฟูหานอย่างไม่เกรงกลัว
เนี่ยฟูหานจึงต้องถอยและโจมตีตอบโต้จากระยะไกลอีกครั้ง
ชายวัยกลางคนก็สามารถใช้การโจมตีสลายการโจมตีไปได้ทุกครั้ง
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ร่างของชายวัยกลางคนอาบไปด้วยรอยแผลนับไม่ถ้วน แต่เนี่ยฟูหานก็ยังไม่สามารถจบการต่อสู้ได้
ชายวัยกลางคนไม่ใช้อวตารระฆังทองสีเพลิงเหมือนตอนแรก แต่พลังป้องกันกายเนื้อไม่ธรรมดา สามารถทนการโจมตีอันรุนแรงได้นานขนาดนี้
และด้วยระดับการบ่มเพาะพลังที่ห่างกัน 2 ขั้น ทำให้เนี่ยฟูหานยิ่งจบการต่อสู้ได้ยากขึ้นไปอีก
ทั้งสองต่อสู้กันเกือบ 1 นาที พื้นที่โดยรอบเสียหายอย่างรุนแรง จนไม่สามารถจำสภาพในอดีตของมันได้
เนี่ยฟูหานเริ่มเหนื่อยหอบ แม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เสื้อคลุมสีขาวสะท้อนแสงในตอนนี้เต็มไปด้วยคราบเขม่าสำเทาดำ หมดความงดงาม ทางด้านของชายวัยกลางคนในตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยเลือด แต่เขาก็สามารถยื้นเวลาเนี่ยฟูหานเอาไว้ได้
แต่อยู่ๆชายวัยกลางคนก็หยุดการต่อสู้ และสูดลมหายใจช้าๆ เพื่อพื้นฟูพลัง
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงแหวกอากาศพุ่งเข้ามาจากระยะไกล เนี่ยฟูหานชะงักและหยุดการต่อสู้ ก่อนจะถอยหลัง แต่ในทิศทางที่เขาจะไป มีร่างของหญิงวัยกลางคนในชุดสีน้ำเงินฟ้ายืนขวางทางไว้
ทำให้เขาต้องหยุดเท้า กวาดมองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง
ชายวัยกลางคนร่างผอมในชุดสีน้ำตาลส้มเหินร่างมาจากอีกด้าน เขามองไปยังเนี่ยฟูหาน หญิงวัยกลางคน และหันไปเห็นชายวัยกลางคนที่กำลังฟื้นฟูพลังอยู่ เขาก็หัวเราะเยาะเย้ยชายวัยกลางคนทันที
“ฮ่าๆ สภาพของนายดูไม่ได้เลยนะ ดูเหมือนว่าถ้าฉันมาช้าไปสัก 5 วินาที สภาพศพของนายคงไม่ดีแน่ๆ ฮ่าๆ”
ชายวัยกลางคนเงียบไม่ตอบอะไร เขาหลับตาฟื้นฟูพลังอย่างช้าๆ
“ผู้พิทักษ์เฉิน อย่าทำให้เรื่องวุ่นวาย ปล่อยให้ ผู้พิทักษ์หง ได้พัก เรามีหน้าที่ต้องสอบสวนตัวตนของผู้บุกรุก”หญิงวัยกลางคนอีกด้านกล่าวขึ้น น้ำเสียงของเธอเย็นชา ดวงตาที่แผงไปด้วยอันตรายของเธอ จ้องมองไปยังร่างของเนี่ยฟูหานไม่ละสายตา
ด้านหน้ามีชายวัยกลางคน หรือผู้พิทักษ์หง กำลังฟื้นฟูพลัง ด้านหลังทางซ้ายมีผู้พิทักษ์เฉิน และด้านขวาเป็นหญิงวัยกลางคน ในตอนนี้เขากำลังถูกล้อม 3 ด้าน ไม่สามารถขยับไปทางไหนได้ เขาตั้งสมาธิใช้สายฟ้าสีเขียวเข้มไหลเวียนภายในร่างโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ค่อยๆลดลง
“โอ้… ผู้พิทักษ์หลัน ฉันได้ยินว่าผู้พิทักษ์ไป๋ เสียชีวิตในการบุกรุกใช่ไหม น่าเสียดายอัจฉริยะอย่างเขาจริงๆ ที่ต้องจบชีวิตตั้งแต่อายุน้อยๆ ถ้าเขาสามารถมีชีวิตอยู่ต่อ เขาอาจกลายเป็นเสาหลักขององค์กรได้”ผู้พิทักษ์เฉินกล่าวด้วยท่าทางเสียใจ แต่น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความล้อเลียน”ฉันขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ถ้าจัดงานศพเมื่อไหร่ฉันจะไปร่วมงานด้วย”
สายตาของผู้พิทักษ์หลัน หันมาจ้องไปที่ผู้พิทักษ์เฉิน ดวงตาเต็มไปด้วยกลิ่นอาจสังหารอย่างเข้มข้น พลังกดดันอันมหาศาลก็ระเบิดออกจากร่างของเธออย่างรุนแรง ทำให้พื้นดินเบื้องล่างสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
“หุบปาก!”
ผู้พิทักษ์เฉินยกยิ้ม ทำเป็นมองไปทางอื่นไม่พูดอะไรอีก
ผู้พิทักษ์พลันหันมามองเนี่ยฟูหานอย่างช้าๆ พลังกดดันก็โอบล้อมร่างของเขาไว้ตรงกลางไม่ให้สามารถหลบหนีได้
“บอกมา! แกเป็นคนบุกเข้าไปขโมยข้อมูลของพวกเรา ใช่หรือไม่”ผู้พิทักษ์พลันกล่าวถามอย่างช้าๆ พลังกดดันค่อยๆหนักขึ้น
“แกสามารถตอบแค่ใช้ หรือ ไม่ ได้เท่านั้น อย่าเล่นลิ้น ฉันไม่มีความอดทนมากนัก”
—-