ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 299
สำหรับเนี่ยฟูหาน เขาไม่แปลกใจ เพราะอีกฝ่ายแค่เหนื่อยจากการต่อสู้ กินโอสถที่เขาให้และพักผ่อน ก็ฟื้นฟูพลังได้
แต่ลู่วาน เธอได้รับบาดเจ็บภายในอย่างรุนแรง ในตอนที่เขาทิ้งเธอไว้ที่อาคารร้าง เธอก็ยังไม่ฟื้นสติ แค่เวลาไม่กี่ชั่วโมงเธอก็สามารถฟื้นฟูร่างกายจนกลับมาเป็นปกติได้ เทคโนโลยี่การแพทย์ของเธอไม่ธรรมดาอย่างที่คิด
“น้องชาย รู้หรือยังว่าเมืองเทียนจิง ถูกปิด…”เนี่ยฟูหานเห็นจิวโมไป๋เข้ามาเขาก็พล่ามยาว โดยที่ไม่รอให้เขาได้สั่งอาหาร
จิวโมไป๋พยักหน้าเป็นบางครั้ง เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขากำลังฟังอยู่ มือก็เลือกอาหารสำหรับตัวเองและเสี่ยวหง
จากที่เนี่ยฟูหานพูด
เมืองเทียนจิงถูกสั่งปิดการเข้าออกเมือง และมีคำสั่งห้ามไม่ให้ประชาชนออกนอกที่พัก 1 วัน รัฐบาลทำการออกคำสั่งหยุดให้กับทุกคน มันไม่ส่งผลต่อการทำงานหรือการเรียนในอนาคต และในระหว่างนี้ รัฐบาลจะส่งอาหารให้ 3 มื้อ ประชาชนไม่อดตายอย่างแน่นอน
ในช่วงเช้า บริษัทและอาคารหลายหลังถูกรื้อค้น พวกเขาก็พบฐานลับมากมายทั่วเมืองเทียนจิง และค้นพบแหล่งกบดานของอาชญากรสำคัญที่มีหมายจับ
“ฉันไม่รู้ว่าใครที่โพสข้อมูลพวกนั้น ฮ่าๆตอนนี้ตระกูลจิงอยู่ไม่สุขแน่ๆ”เนี่ยฟูหานหัวเราะเสียงดังไม่สนใจใคร
แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานว่าตระกูลจิงเกี่ยวข้องกับเหตุการนี้ แต่ทุกคนรู้ดีว่าตระกูลจิงต้องเกี่ยวข้องด้วยไม่มากก็น้อย ความเสียหายที่เกิดขึ้นมันทำให้ตระกูลจิงนั่งไม่ติดแน่
อาหารของจิวโมไป๋และเสี่ยวหงมาเสิร์ฟ เขาก็ลงมือทาน เสี่ยวหงเลื่อยออกมากินเนื้อย่างอย่างช้าๆ เนี่ยฟูหานก้มลงเหล่มองมันเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อ เขาเป็นคนเดียวที่พูด
ลู่หว่านทานอาหารเงียบๆไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่จิวโมไป๋เข้ามา จิวโมไป๋ก็ไม่พูดไม่มองเธอ
ลู่หว่านทานอาหารเสร็จเธอก็วางช้อนลง ก่อนจะเช็ดปากอย่างสุภาพ
“ฉันขอตัวขึ้นไปพักก่อน”พูดจบเธอก็ลุกขึ้นและเดินจากไปทันที
จิวโมไป๋ลอบมองตามหลังด้วยความงุนงง เมื่อครู่นี้เขาสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจจางๆจากน้ำเสียงของเธอ เนี่ยฟูหานมองตามหลังน้าสาวของเขา ก่อนจะเอียงหัวมากระซิบกับจิวโมไป๋อย่างแผ่วเบา
“ฉันสัมผัสได้ว่าน้าของฉันกำลังอารมณ์เสียมากๆ”
จิวโมไป๋ไม่สนใจท่าทางซุบซิบของเนี่ยฟูหาน เขาคิดว่าเธอยังไม่ฟื้นตัวจากการบาดเจ็บ ทำให้ต้องกลับไปรักษาตัว
จิวโมไป๋และเสี่ยวหงทานอาหารจนเสร็จ พวกเขาก็กำลังจะกลับไปที่ห้องของตัวเอง เพราะไม่สามารถออกไปได้
“น้องชายไปชั้นบนสุดกันไหม”เนี่ยฟูหานชักชวน
จิวโมไป๋ส่ายหัว ชั้นบนสุดมีบาร์ตั้งอยู่ ตอนนี้พึ่งกี่โมงเอง เขาไม่อยากเมาตั้งแต่หัววัน
เนี่ยฟูหานแสดงท่าทางเสียใจ พวกเขาขึ้นลิฟท์ไปด้วยกัน ก่อนจะถึงห้องชั้นที่พัก เนี่ยฟูหานก็นึกอะไรได้
“น้องชาย การพนันหยกถูกเลื่อนไป 7 วัน ถ้าน้องชายไม่มีธุระที่อื่น น้องชายก็อยู่ที่นี่ได้ ฉันจะอยู่ที่นี่จนถึงวันแข่งพนันหยก แล้วพวกเราจะไปรับเงินด้วยกัน”เนี่ยฟูหานพูดพร้อมกับหัวเราะ
จิวโมไป๋พยักหน้าตกลง เขาต้องการหยกคุณภาพสูงอยู่แล้ว เขาไม่พลาดการแข่งขันพนันหยกครั้งนี้แน่
เมื่อถึงชั้นจิวโมไป๋ก็ออกจากลิฟท์ เนี่ยฟูหานขึ้นไปต่อ
จิวโมไป๋บ่มเพาะพลัง เสี่ยวหงนอนบนเตียงเปิดTV ดูรายการต่างๆด้วยความสนใจ มื้อเที่ยงและเย็นเขาพบแต่เนี่ยฟูหาน ลู่หว่านสั่งอาหารกลับไปทานไม่ลงมาทานที่ห้องอาหาร
เวลาตี 2 ครึ่ง จิวโมไป๋ก็ลุกขึ้นใส่ชุดสีเทาของหน่วยมังกรซ่อน เขากระโดดลงไปจากโรงแรมIL เดินไปตามถนนที่ว่างเปล่า เดินไปไม่นานก็มีรถตำรวจขับมาจอด จิวโมไป๋เปิดกำไลข้อมือฉายโฮโลแกรมให้ตำรวจดู
พอพวกเขารู้ว่าจิวโมไป๋เป็นคนของหน่วยลับ ก็เปลี่ยนท่าทาง พวกเขาขับพาจิวโมไป๋ไปสถานที่ภารกิจ
ไปถึงสถานที่ภารกิจจิวโมไป๋ก็เดินไปที่อาคารร้างหลังเดิม ที่เมื่อคืนเขาวางหยกแกะสลักเอาไว้ จิวโมไป๋หาที่นั่งรอเวลา ในระหว่างนั้นก็เปิดภารกิจมาดูอีกครั้ง
ภารกิจระดับ 0 ดาว (กำลังดำเนินงาน)
ชื่อภารกิจ : เฝ้าระวังตึกร้าง B ถนน 215 เขต 13 เมืองเทียนจิง
เนื้อหาภารกิจ : ตรวจสอบความผิดปกติของตึกร้าง B ระยะเวลา 5 วัน (เหลือ 4 วัน)
หมายเหตุ : มีรายงานว่า ภายในตึกร้าง B ช่วงเวลา 3.00 – 3.30 น. จะมีเสียงกรีดร้องไร้ทิศทาง ไม่ทราบจุดกำเนิดเสียงแน่ชัด
รางวัล : 3 คะแนนภารกิจ , 2 คะแนนเครดิต
บันทึกภารกิจ : วันที่ 1 ไม่พบสิ่งผิดปกติ
จิวโมไป๋ปิดภารกิจและเข้าไปดูฟอรั่มข่าวเมืองเทียนจิง
เขาก็พบว่ามีรายงานการค้นพบฐานลับหลายแห่ง อย่างที่เนี่ยฟูหานบอกจริงๆ แต่ฐานลับเป็นเพียงฐานเปล่าๆ และไม่พบหลักฐานใดๆที่เชื่อมโยงเกี่ยวกับองค์กร หรือตระกูลเฉิน
จิวโมไป๋กวาดตาดูอยู่ครู่หนึ่งก็ไม่พบอะไรน่าสนใจ เขาก็ใช้ตัวตนของหน่วยมังกรซ่อน เข้าไปที่เว็บไซต์ของหน่วย ที่สามารถรู้ข้อมูลเชิงลึกของรัฐบาลได้ เขาก็พบว่าสายลับที่แฝงตัวในรัฐบาลถูกฆ่าตายจนหมด จำนวนเกือบ 100 คน โดยที่ไม่สามารถจับตัวฆาตกรได้
การฆ่าแบบนี้ จิวโมไป๋นึกไปถึงผู้มีสายเลือดเงาทมิฬ ดูเหมือนว่าผู้มีสายเลือดเงาทมิฬ จะไม่ได้มีแค่คนเดียว
จิวโมไป๋ดูข้อมูลไปเรื่อยๆจนไปสะดุดที่ข่าวสำคัญ เพราะเหตุการณ์สังหารครั้งนี้ จึงมีการประชุมลงมติเพื่อกำหนดเส้นทางการพัฒนาระบบNuwa
ใบหน้าของจิวโมไป๋กลายเป็นจริงจังขึ้นมา เพราะในอดีต ไม่เคยมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น
การจะพัฒนาระบบNuwa จะเป็นวาระการประชุมแห่งชาติ เพราะทุกครั้งที่มีการพัฒนาระบบNuwa จะมีการลบหรือเพิ่มกฎหมายข้อบังคับต่างๆ ซึ่งกฎที่เพิ่มลงไปส่วนมากจะหนุนหลังชนชั้นสูงเสียมากกว่า
ในอดีตการพัฒนาระบบNuwa มีครั้งหนึ่งหลังจากที่มีการจัดการกวาดล้างหน่วยมังกรซ่อน ทำให้กฎที่หนุนชนชั้นสูงถูกลบออกจากนวนมาก ทำให้ชนชั้นธรรมดา สามารถมีสิทธิ์มีเสียงขึ้นได้บ้าง
แต่ในการพัฒนาระบบNuwa ครั้งนี้ เร็วกว่ากำหนด และมันก็ทำให้ชนชั้นสูงสามารถเพิ่มกฎในระบบNuwaได้
เขาไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
จิวโมไป๋ปิดกำไลข้อมือถอนหายใจยาวเยียด เหม่อมองไปยังอาคารฝั่งตรงข้ามและถอนหายใจอีกครั้ง อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
ฮืออ์ฮืออออ ในตอนนั้นเองเสียงอะไรบางอย่างลอยตามสายลมมา จิวโมไป๋ชะงักเล็กน้อยก่อนจะใช้จิตสัมผัสตรวจสอบไปที่อาคารฝั่งตกข้าม
เขาก็พบวิญญาณผู้หญิงสีดำซีดเดินวนไปมาอย่างช้าๆที่ชั้น 10 ของอาคาร จิตสัมผัสของเขาตรวจสอบวิญญาณของหญิงสาว เขาก็พบว่าหัวของเธอแตกเป็นหลุมกลมลึก ไอสีดำไหลออกมาจากรู้นั้น
วิญญาณเป็นกลาง
จิวโมไป๋วิเคาะห์อย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะกระโดดข้ามไปที่ร่างของวิญาณดวงนั้น
“มีอะไรให้ฉันช่วยไหม”จิวโมไป๋กล่าวอย่างอ่อนโยน เขาเก็บพลังวิญญาณไว้ในร่าง เหลือเพียงดวงตาสะท้อนสีทองเจือจาง
วิญญาณหญิงสาวชะงักเท้า ก่อนจะคอยๆหันมามองจิวโมไป๋ คอของเธอบิดเบี้ยวเอียงไปชิดไหลอีกด้าน ทำให้เธอต้องหันกลับมาทั้งตัวถึงจะหันมาได้
จิวโมไป๋นิ่งเฉยไม่สนใจท่าทางน่าสะพรึงกลัวของเธอ
“นายมองเห็นฉัน…”วิญญาณหญิงสาวกล่าวอย่างช้าๆ น้ำเสียงนืดเนื่อยไร้อารมณ์
จิวโมไป๋ไม่แปลกใจเมื่อกลายเป็นวิญญาณเป็นกลาง อารมณ์เกือบทุกอย่างจะหายไปเหลือเพียงอารมณ์ตกข้างเล็กน้อยเท่านั้น
ถ้าเป็นวิญญาณแค้น อารมณ์ด้านลบจะเด่นชัดขึ้นมา
“ใช่ฉันสามารถมองเห็นเธอได้”จิวโมไป๋ตอบง่ายๆ เขารู้ดีว่าวิญญาณเป็นกลาง มีแค่ความรู้สึกติดค้างสุดท้ายหลงเหลืออยู่เท่านั้น การพูดคุยกับวิญญาณพวกนี้ เป็นการเสียเวลาเปล่า เขาต้องใช้ความจริงใจสื่อสารกับพวกมัน ก่อนที่เขาจะถามย้ำอีกครั้ง
“มีอะไรให้ฉันช่วยไหม”
วิญญาณหญิงสาวนิ่งไปเล็กน้อย ร่างสีดำของเธอซีดลงอย่างรวดเร็ว เพราะเธอกำลังใช้พลังวิญญาณฟื้นฟูความทรงจำโดยไม่รู้ตัว
“ช่วยฉันตามหาชายคนหนึ่งให้ฉันได้ไหม”วิญญาณหญิงสาวกล่าว
“ได้”จิวโมไป๋พยักหน้า ก่อนที่จะยกมือขึ้น เขาเชื่อมต่อพลังวิญญาณกับวิญญาณหญิงสาวอย่างนุ่มนวล ไม่ทิ้งความเสียหายให้กับวิญญาณของเธอ และยังจะรักษาให้มั่นคงยิ่งขึ้น
เขาอ่านความทรงจำในวิญญาณอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะขมวดคิ้ว
ช่างเป็นเรื่องบังเอิญ
ผู้ชายที่หญิงสาวต้องการให้เขาตามหาคือ จิงมู่ไท่
“เธอจะตามหาเขาทำไม?”จิวโมไป๋ถามขึ้นอย่างอดไม่ได้
วิญญาณสาวนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงนืดเนื่อยไร้อารมณ์
“ฉันไม่รู้”
จิวโมไป๋ถอนหายใจก่อนพูด
“ตามฉันมา ฉันจะพาไปพบเขา”
ก่อนที่เขาะหยิบแผ่นยันต์สีขาวออกมา
วิญญาณหญิงสาวเงียบ จิวโมไป๋ถือว่าตกลง เขาโบกมือ ก่อนที่วิญญาณหญิงสาวจะเข้ามาอยู่ในแผ่นยันต์
จิวโมไป๋ถอนหายใจ เขาพอจะคาดเดาได้ว่าวิญญาณสาวต้องการอะไร จากประสบการณ์อันยาวนาน วิญญาณสาวมีโอกาสสูงมาก เมื่อเธอไปพบกับจิงมู่ไท่แล้วเธอจะกลายเป็นวิญญาณแค้น
จิวโมไป๋เก็บยันต์ผนึกวิญญาณ และเปิดกำไลข้อมือเพื่อรายงานภารกิจ ก็มีเสียงรถขับเข้ามาที่นี่
จิวโมไป๋เดินมาตรงระเบียงและมองลงไปด้านล่าง
รถตู้สีดำ 3 คัน ขับมาจอดใต้อาคาร จากนั้นกลุ่มชายร่างใหญ่ 15 คนก็เดินลงจากรถ พวกเขายืนเรียงแถวก่อนจะเปิดทาง ชายคนนึ่งเดินลงมาจากรถตู้ด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง
จิงมู่หยาน!
จิวโมไป๋เห็นดังนั้น เขาก็ยิ้มออกมาอย่างแผ่วเบา
—-