ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 309
“ถ้าฉันจะเข้าร่วมการประลองต้องทำยังไง”จิวโมไป๋หันไปถามอิวะ โซตะด้วยน้ำเสียงเฉยชา
ใบหน้าของอิวะ โซตะดีขึ้นเล็กน้อย เขามองจิวโมไป๋ด้วยความสงสัย เขาคิดว่าจิตสังหารเมื่อครู่เป็นเพียงภาพลวงตา?
เป็นไปไม่ได้!
เขามองไปยังไปใบหน้าซีดเผือกของทุกคน พวกเขาต้องสัมผัสได้ถึงจิตสังหารเมื่อครู่เหมือนกับเขา มันไม่ได้เป็นแค่ความรู้สึกลวงตาอย่างแน่นอน
อิวะ โซตะสูดลมหายใจ ก่อนจะตอบอย่างระมัดระวัง
“ถ้านายอยากเข้าสนามประลองฉันจะลงทะเบียนให้เอง”อิวะ โซตะหยุดเล็กน้อย ก่อนจะถาม”นายจะสุ่มคู่ต่อสู้หรือจะกำหนดคู่ต่อสู้เอง”
ทุกคนในห้องเงียบไม่พูดอะไร พวกเขาสงสัยว่าจิตสังหารมาจากจิวโมไป๋จริงหรือไม่ และใครเป็นคนที่เขาต้องการฆ่า?
จิวโมไป๋ชี้ไปยังจอมมาร เขาไม่ปกปิดการกระทำของเขาเพราะยิ่งเขาปกปิดมันจะยิ่งน่าสงสัยมากท่านั้น
การย้อนเวลาของเขาเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครเชื่อว่ามันมีอยู่จริง
พวกเขาไม่มีทางคิดออกว่าที่เขาเลือกชายวัยกลางคนเพราะอีกฝ่ายจะเป็นผู้ที่จะทำลายโลก
ทุกคนมองไปยังชายวัยกลางคนด้วยความส่งสัยซากุราอิ อาคาเนะที่นั่งห่างออกไปลอบกดกำไลข้อมือเพื่อส่งคนของตัวเองไปสืบสวนประวัติของชายวัยกลางคน
ซากายะ คิบาตะมองไปยังชายวัยกลางคนด้วยความดูแคลน เขาสามารถมองระดับการบ่มเพาพลังและความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายด้วยการมองเพียงครั้งเดียว
พี่น้องนาคามูระ เมื่อตั้งสติได้พวกเขาก็กลับไปอยู่ในโลกของพวกเขาสองคนไม่สนใจจิวโมไป๋แม้แต่น้อย
ในเวลาเดียวกันการต่อสู้บนสนามประลองก็จบ จอมมารเป็นคนชนะไปได้อย่างฉิวเฉียด เขาอาศัยจังหวะทีเผลอ หาโอกาสเอาชนะคู่ต่อสู้ไปได้
เมื่อเสียงประกาศผู้ชนะดังขึ้นเขาก็เดินไปห้องพักฟื้น กำไลข้อมือของเขาสั่นเบาๆ เขาก้มดูเงินเข้าด้วยความดีใจ เมื่อเข้าไปที่ห้องพักฟื้น เขาก็ตรงไปที่ถังสารอาหาร ที่ช่วยฟื้นฟูพลังและรักษาร่างกาย
นอนอยู่ 10 นาที ร่างกายของเขาก็กลับมาสมบูรณ์ เต็มไปด้วยพลัง
ชายวัยกลางคนเดินออกมาเขาลังเลว่าจะกลับเลยหรือจะรอคำสั่งเรียก
ในตอนนั้นเองกำไลข้อมือของเขาก็สั่น แววตาของชายวัลกลางคนเป็นประกายเขาเปิดกำไลข้อมูลทันที เมือเปิดออกเป็นข้อมูลคู่ต่อสู้ เมื่อพบว่าเป็นเด็กอายุ19 ปี เขาก็เบาใจ
นอกอายุไม่มีอะไรบอกอีกเลย แม้แต่ประวัติการต่อสู้ก็ยังเป็น 0
ชายวัยกลางคนลังเลว่าจะรับดีหรือไม่ เพราะเขากลัวว่าจะเจอกับลูกหลานตระกูลชั้นสูง ที่มาลงประลองเล่นๆ
ถ้าเขาทำให้บาดเจ็บ เขาอาจกลายเป็นปุ๋ยใต้ต้นไม้หรือกลายเป็นอาหารปลา
ลังเลอยู่นานในที่สุดเขาก็ตัดสินใจรับการประลอง
เมื่อยอมรับแล้ว เวลาในการประลองก็ปรากฏขึ้น อีก 5 นาที
ชายวัยกลางคนขมวดคิ้วสงสัย หาที่นั่งรอเวลา
เมื่อถึงเวลาเขาก็ไปยังสนามประลอง เขามองเห็นชายหนุ่มผู้ที่จะเป็นคู่ต่อสู้ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เขามั่นใจว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าเป็นลูกหลานของตระกูลชั้นสูงอย่างแน่นอน
ชายวัยกลางคนวางแผนแกล้งยอมแพ้ทัน
แต่เมื่อสัญญาณเริ่มการประลองดังขึ้น
จิวโมไป๋ก็พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบสนองหมัดที่ห่มหุ้มพลังกดดันก็ชกเข้าที่อกของเขาอย่างรุนแรง เสียงกระดูกแตกหักดังขึ้น ร่างของเขาลอยออกไปกระแทกเข้ากับผนังสนามประลองอย่างแรงจนเกิดหลุม
“อัก!”ชายวัยกลางคนกระอักเลือดสีแดง
จิวโมไป๋ส่ายหัวอย่างช้าๆ ใบหน้าและแววตาของเขาแสดงออกถึงความผิดหวังอย่างชัดเจน
“เขาไม่สามารถต่อสุ้ได้แล้ว”จิวโมไปกล่าวกับกรรมการที่อยู่บนพื้นที่ยกสูงนอกสนามประลอง
กรรมการชายกระโดดลงมาที่สนามประลองและเข้าไปตรวจสอบ พบว่าชายวัยกลางคนไม่สามารถต่อสู้ได้แล้ว
เสียงประกาศผู้ชนะก็ดังขึ้น
จิวโมไป๋หันหลังเดินจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันไปมองชายวัยกลางคน ใบหน้าของเขาบึ่งตึงผิดหวัง เขาเดินกลับเข้าไปในห้องพิเศษ
ทุกคนมองไปยังจิวโมไป๋ด้วยความประหลาดใจปนสงสัย
พวกเขาประหลาดใจที่จิวโมไป๋สามารถจัดการผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 6 โลหิตต้นได้ในการโจมตีเดียว และที่สงสัยพวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมจิวโมไป๋ถึงต่อสู้กับอีกฝ่าย
จิวโมไป๋เงียบไม่ตอบอะไรปล่อยให้พวกเขาสงสัยไปเอง
จิวโมไป๋หลับตานึกถึงชายวัยกลางคน เขาสัมผัสได้ถึงพลังงานสีส้มแดงในตำหนักยุทธของชายวัยกลางคนได้ เขาจดจำพลังงานนี้ได้ทันที เพราะมันเป็นพลังงานจากการบ่มเพาะพลังของเฝ่าพันธุ์จากมิติชั้นกลางที่โจมตีโลก
มันแสดงให้เห็นว่า ในปัจจุบันชายวัยกลางคนได้ติดต่อกับคนของมิติชั้นกลางได้แล้ว
มันเกิดอะไรขึ้น?
จิวโมไป๋ขมวดคิ้วแน่น ความสงสัยเริ่มก่อตัวขึ้น
ในตอนนี้แม้แต่โลกวิญญาณยังเปิดออกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงมิติชั้นล่างที่อยู่ใกล้กับมิติโลก พวกมันยังไม่แม้แต่จะเชื่อมต่อกับมิติโลก
แต่ตอนนี้ชายวัยกลางคนสามารถรับอะไรบางอย่างจากมิติชั้นกลางได้
ชายวัลกลางคนมีความลับอะไรที่ไม่มีใครรู้?
จิตใจของจิวโมไป๋ล่องลอยไม่สนใจการประลอง ความต้องการที่จะต่อสู้หายไป เหลือเพียงความสงสัยงุนงง
คนที่อยู่ในห้องพิเศษต่างก็ตกอยู่ในห่วงความคิดของตัวเองหลังจากที่จิวโมไป๋ปล่อยจิตสังหารออกมา
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง ในที่สุด พี่น้องนาคามูระ ก็ข้อตัวกลับ คนอื่นๆก็ทยอยกันกลับ
จิวโมไป๋ที่จะขึ้นไปพักก็ถูกอิวะ โซตะหยุดไหวก่อน เขามองอีกฝ่ายนิ่ง
อิวะ โซตะยิ้มก่อนจะขอแลกเปลี่ยนการติดต่อ จิวโมไป๋นิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะตกลง
พวกเขาแยกกันทันทีเมื่อออกจากลิฟท์
กลับห้อง เขาอาบน้ำและมานั่งหลับตาที่ห้อง จิตสัมผัสแผ่ขยายออกไป ในความมืดมีจุดสีทองเล็กๆกำลังเคลื่อนไหว
จิวโมไป๋เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าสีดำ หยิบหยกสลักรูปเหมือนตัวเองออกมา ถอดกำไลข้อมือวางทับรูปปั้น ก่อนที่เขาจะลอบออกจากโรงแรม ติดตามจุดสีทองที่เขาทิ้งไว้บนร่างจอมมาร
—