ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 344
จิวโมไป๋เข้าใจทันทีว่าทำไมรูปปั้นทั้งสองถึงไม่สามารถใช้ยันต์ชำระล้างได้ วิญญาณแค้นที่ควบคุมรูปปั้นทั้งสองได้ฝังหินสีหรือหินกำเนิดธาตุไว้ภายในรูปปั้นเพื่อส่งพลังงาน ทำให้รูปปั้นทั้งสองสามารถใช้พลังกฎแห่งธาตุได้
และมันยังมีผลในการขัดขวางยันต์ชำระล้างอย่างคาดไม่ถึง
เขาไม่รู้ว่าวิญญาณแค้นที่ควบคุมรูปปั้นต้องการแบบนี้หรือไม่ แต่การที่มันใช้หินสีเพื่อให้รูปั้นควบคุมกฎแห่งธาตุเป็นเรื่องจริง
จิวโมไป๋เก็บหินสีเขียวอ่อนในแหวนมิติเก็บของทันที
แม้ว่าหินสีเขียวอ่อนจะมีเพียงธาตุเดียว ไม่เหมือนหินสามสีของเนี่ยฟูหาน แต่มันก็ยังมีราคามหาศาล ทำให้จิวโมไป๋อดไม่ได้ที่จะมองขึ้นไปที่ศาลเจ้าที่พังทะลาย ตรงที่รูปปั้นเทพีสุริยันกำลังดิ้นล้นทำลายเถาวัลย์ที่รัดอยู่
จิวโมไป๋ถอนหายใจ ก่อนจะตัดใจ ถ้าไม่รีบหนีกลุ่มรูปปั้นนับพันจะขึ้นมา ไม่สามารถหนีไปได้
“เป็นอะไรหรือเปล่า”จิวโมไป๋หันมาถามสองพี่น้องนาคามูระ
“ไม่เป็นไร พวกเรารีบไปกันเถอะ”นาคามูระ อิโทซะตอบ เขารู้ถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามา
ทั้งสามรีบลงจากภูเขาทันที ในระหว่างนั้นจิวโมไป๋ก็ลอบใช้พลังวิญญาณปกคลุมร่างของพวกเขา ทำให้รูปปั้นไม่สามารถสัมผัสได้ นอกจากมองเห็นในระยะสายตา
พวกเขาอ้อมหลบสวนกับกลุ่มรูปปั้นที่ขึ้นภูเขาศาลเจ้า
นาคามูระ คิยูมิขมวดคิ้วสงสัย แต่ไม่พูดอะไร
ตูม! เมื่อพวกเขาลงมาถึงตีนเขา ด้านบนก็เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง เปลวเพลิงสีส้มขยายเป็นวงกว้างเผาไหม้ทั้งภูเขาศาลเจ้า กลายเป็นทะเลเพลิง ไอร้อนปะทะเข้าใส่พวกเขาต้องถอยไปหลายสิบก้าว คลื่นความร้อนจะลดลง
จิวโมไป๋และพี่น้องนาคามูระยืนมองด้วยความตกใจ ถ้าพวกเขาช้ากว่านี้เล็กน้อย พวกเขาคงโดนเผาไปด้วยแน่ๆ
จิวโมไป๋ส่ายหัวเบาๆ คนสร้างที่นี่วางการป้องกันไว้หลายขั้น ไม่ปล่อยให้ใครหลบหนีไปได้
ช้าต่อไปอีกไม่ได้ พวกเขารีบไปทางออกจากหมู่บ้านวัฒนธรรม โดยมีจิวโมไป๋นำหน้า
ไปได้ครึ่งทางนาคามูระ คิยูมิก็ร้องขึ้น
จิวโมไป๋หยุดกึก หันไปมองก็ตกตะลึง ร่างของนาคามูระคิยูมิหดลงเรื่อยๆกลายเป็นแมวสีดำตัวเล็ก มันเดินออกจากเสื้อคลุมที่ทับร่างและร้องเหมี่ยว! ดวงตาสีน้ำตาลฉายแววเขินอาย
นาคามูระ อิโทซะหยิบแมวดำมาไว้ในอ้อมแขนและหยิบดาบของน้องสาวของเขาที่ตกอยู่มาเหน็บเอว อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่อธิบายอะไรให้จิวโมไป๋ฟัง
จิวโมไป๋ก็ไม่ถาม เขาหันกลับและเดินนำต่อ แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวเขาก็หยุดลง สายตามองลงไปที่หมอกสีเทาที่จับตัวเป็นระอองเหลว ตอนนี้มันลอยขึ้นมาถึงเอว ใบหน้าของจิวโมไป๋ก็เปลี่ยนไปทันที เพราะเขาสัมผัสได้ถึงการใช้พลังวิญญาณเพื่อตรวจสอบตำแหน่ง
ก่อนที่เขาจะได้บอกนาคามูระ อิโทซะ ที่ห่างไกลออกไปก็เกิดการเคลื่อนไหว
กลุ่มรูปปั้นที่โดยรอบพุ่งมายังพวกเขาทันที
นาคามูระ อิโทซะดึงฮู้ดหัวลงและให้แมวดำหรือนาคามูระ คิยูมิไปอยู่ในนั้น เธอโผล่หัวแมวออกมามองไปรอบๆ
“พลังแห่งโชคหมดพอดี”นาคามูระ อิโทซะพูดเบาๆ แต่ไม่อธิบาย
จิวโมไป๋เข้าใจทันทีว่าทำไมอยู่ๆถึงถูกพบ
ตึง ตึง ตึง
รูปปั้นซามูไร รูปปั้นจิ้งจอก รูปปั้นชาวนาถือจอบ และรูปปั้นอื่นๆ พุ่งออกมาจากข้างทางและเข้าโจมตีพวกเขา
จิวโมไป๋เหวียงคฑาขักขระทำลายพวกมันก่อนจะพุ่งไปทางออก
นาคามูระ อิโทซะดึงดาบออกมาและจับสองมือ เขาฟาดฟันตัดพวกมันแยกเป็นส่วนๆอย่างง่ายดายและเร่งความเร็วตามหลังจิวโมไป๋ติดๆ เขาเปลี่ยนการใช้ความเร็ว เป็นเพิ่มพลังโจมตี เพื่อประหยัดแรง
พวกเขาพุ่งฝ่าคลื่นรูปปั้นที่ขัดขวางไปเรื่อยๆ จนมาถึงเขตตึกสูงหน้าทางเข้า ใกล้จะถึงทางออก
แต่ในตอนนั้นเองคลื่นพลังกดดันอันมหาศาลก็กระแทกร่างของทั้งสองจนกระเด็นถอยไปสองก้าว
ใบหน้าของจิวโมไป๋และนาคามูระอิโทซะเปลี่ยนไป
ตรงหน้ามีรูปปั้นพระสูงเพียง 2 เมตร ล้อมรอบไปด้วยปางมือนับไม่ถ้วน พลังกดดันท่ีมันปล่อยออกมาอยู่ขั้นที่ 7 ไขกระดูกปลาย!
จิวโมไป๋สูดลมหายใจช้าๆ เกล็ดมังกรทองก็ปรากฏขึ้นทัวร่าง เขาไม่ปกปิดการใช้เกร็ดมังกรทองอีกต่อไป
นาคามูระ อิโทซะมองไปยังจิวโมไปด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย แต่ไม่คิดอะไรมาก เขาคิดว่าจิวโมไป๋มีสายเลือดสัตว์ประเภทมีเกร็ดสีทอง
“ฉันจัดการมันเอง นายจัดการรูปปั้นที่เหลือ”จิวโมไป๋พูดจบก็พุ่งทะยานด้วยความเร็วสูง เขาไม่อ้อมแรงแม้แต่น้อย เมื่อเข้าใกล้เขาก็ระเบิดพลังโจมตีทั้งหมด
พลังมังกร!
คฑาขักขระฟาดออกไป เกิดคลื่นสายลมล้อมรอบรูปปั้นเทพพันกร คลื่นสายลมโถมเข้าขัดขวางไม่ให้มันสามารถขยับได้
แต่ก่อนที่คฑาขักขระจะถึงตัว ร่างของรูปปั้นเทพพันกรก็เคลื่อนไหว ปางมือนับไม่ถ้วนขยับพร้อมกับกฏแห่งธาตุทองไหลทะลักอย่างรุนแรง จนเกิดเงาพระเจ้าขนาด 5 เมตรฟาดฝ่ามือทองขนาดยักษ์พุ่งเข้าปะทะ
เปรี้ยง! คลื่นพลังระเบิดออกอย่างรุนแรง จนตึกสูงรอบด้านสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและเกิดรอยร้ามมากมาย
ร่างของจิวโมไป๋ถอยกรูดไปด้านหลัง แขนสั่นระริก
ทางด้านรูปปั้นเทพพันกร ร่างของมันยืนอย่างมั่นคง ปางมือขยับไปมาน่าเกรงขาม
“ตาย!”จิวโมไป๋ร้องคำรามเสียงดัง พลังกดดันอันแข็งแกร่งแผ่กระจายออกโดยรอบ คฑาขักขระในมือส่งเสียงคล้ายบทสวดบางอย่าง
วูบ ร่างของจิวโมไป๋หายไปปรากฏที่ด้านหลังของรูปปั้นเทพพันกร คฑาขักขระกระหน่ำฟาดออกราวพายุคลั่ง
รูปปั้นเทพพันกรไม่หันกลับ แต่ปางต่างๆเข้าต้านการโจมตีทั้งหมด
เกิดเสียงปะทะดังกึกก้อง ก่อนที่ร่างของจิวโมไป๋จะถอยออกไป
รูปปั้นเทพพันกรค่อยๆหันมาอย่างช้าๆ พลังกดดันอันน่าเกรงขามปิดล้อมรอบด้าน
นาคามูระ อิโทซะที่กำลังต้านกลุ่มรูปปั้นอยู่หันมามองเป็นระยะด้วยความกังวล
จิวโมไป๋เหยียดยิ้มเย็นยะเยือก
โดยไม่รู้ตัวหลังของรูปปั้นเทพพันกรมีแผ่นยันต์นับสิบแผ่นติดอยู่
“ทำลาย!”
คลืนนนน ตูมมม! แผ่นยันต์เผาไหม้กลายเป็นพายุและระเบิดเพลิงหลอมร่วมกัน เกิดเป็นเกี้ยวพายุเพลิงเผาไหม้รูปปั้นเทพพันกรตรงกลางอย่างรุนแรง!
—
แสดงความคิดเห็นติชมได้นะครับ^^