ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 345
เวลาก่อนหน้านั้นเล็กน้อย อีกด้านของหมู่บ้านวัฒนธรรม บริเวณหมู่บ้านโบราณเกิดการต่อสู้อย่างรุนแรง เศษซากความเสียหายกระจายออกไปโดยรอบ บ้าน อาคารโบราณพังทะลายจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม
“แกตามฉันมาทำไม!”อิวะ โซตะที่ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลร้องตะโกนเสียงดังลั้น ดาบในมือก็ฟาดฟันดาบทำลายรูปปั้นชาวหน้าถือจอบ ถือเสียมที่ขวางหน้า พร้อมกับพุ่งหลบไปมาเพื่อหาทางฝ่าวงล้อมออกไป
“หึ! ข้าจะไม่ปล่อยให้แกหนีเอาตัวรอดไปคนเดียวแน่!”เทนงูที่ตอนนี้ปีกข้างซ้ายขาดหายไป ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด ดวงตาสีแดงก่ำมองไปยังอิวะ โซตะด้วยความโกรธแค้น ร่างกายก็ไม่อยู่เฉยชกทำลายรูปปั้นคล้ายหุ่นไล่กา
ในใจของมันโกรธแค้นจนแทบกระหักเลือด เดิมทีมันตั้งใจจะหลบหนีออกไปเพื่อหาที่ซ่อน แต่โชคร้ายถูกรูปปั้นมือธนูยิงสกัด จนต้องลงมาข้างล่างและบังเอิญเห็นอิวะ โซตะที่กำลังซ่อนตัวอยู่ในบ้านโบราณเพื่อฟื้นฟูพลังพอดี มันจึงตัดสินใจพากลุ่มรูปปั้นไปยังที่ซ่อน ทำให้อิวะ โซตะต้องพบกับการล้อมกรอบของรูปปั้น
แต่แทนที่มันจะได้ลดความกดดัน รูปปั้นเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถปลีกตัวหนีไปได้
มันต้องร่วมมือกับอิวะ โซตะต้องร่วมมือกันอย่างจำใจ แต่ในใจต่างคนต่างหาโอกาสใช้อีกฝ่ายเป็นตัวล่อ เพื่อให้ตัวเองได้หลบหนี
กลุ่มรูปปั้นเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รูปปั้นเขตพื้นที่อื่นเริ่มตรงเข้ามา รูปปั้นนักดาบ รูปปั้นมือธนูพุ่งเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
ในระหว่างที่พวกเขากำลังต่อสู้อยู่นั้นเอง!
เปรี้ยะ! ถนนที่พวกเขายืนอยู่ก็แตกร้าว เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ก่อนจะแยกออกเป็นร่องลึก ราวกับโลกแตก
ร่างของอิวะ โซตะและเทนงูตัวสั่นคลอนจนเกือบล้มลง พวกเขาแยกกันหาที่ยืนมั่นคง รูปปั้นที่โชคร้ายหลายตัวตกลงตามรอยแยก
หมอกสีเทาที่ลอยอยู่ไหลตกลงไปในรอยแยก กลิ่นอายน่าสะพรึงกลัวพลันพลุ่งพล่านอย่างรุนแรง พื้นยิ่งเกิดการแตกร้าวมากขึ้น
เทนงูเห็นท่าไม่ดี มันเรียกกฎแห่งสายลมจำนวนมากบกคลุมทั่วร่าง ก่อนจะพุ่งขึ้นฟ้าใช้สายลมพาร่างหลบหนีไป
แต่ในตอนนั้นเอง เศษซากที่อยู่ในรอยแยกถูกหมอกสีเทาบีบอัดกลายเป็นเส้นเหมือนหนวดหินที่มีความยืดหยุ่น ก่อนที่พวกมันจะทะลวงออกมาจากพื้นและเข้าโจมตีสิ่งมีชีวิตทุกสิ่งโดยรอบ!
อิวะ โซตะสัมผัสได้ถึงอันตรายเขาหมุนตัวตีลังกากลับหลัง
เปรี้ยะ!เปรี้ยะ!เปรี้ยะ! หนวดหินนับไม่ถ้วนแทงขึ้นมาจากจุดที่เขาเคยอยู่ ก่อนที่มันจะโค้งงอและพุ่งตามโจมตีติดๆ อิวะ โซตะใช้ท่าร่างเคลื่อนไหวหลบไปมา จุดที่เขาเคยอยู่ต่างก็ถูกหนวดหินทำลายจนเป็นหลุมลึกมากมาย
เทนงูที่พุ่งขึ้นฟ้ากำลังจะหลบหนี หนวดหินก็หมุนเป็นเกลียวบีบกันเป็นเหมือนหอกปลายแหลมนับสิบเล่ม ก่อนที่จะยิงหอกออกไปราวห่าฝนเข้าใส่ร่างของเทนงู
เสียงแหวกอากาศดังขึ้นด้านหลัง เทนงูรีบหันมาชกหอกหิน แต่เขาช้าไปหอกหินนับสิบเล่มกระหน่ำแทงไปทั่วร่าง จนเลือดสาดกระจายและเสียการควบคุม หมุนควงกลางอากาศและตกลงมาเหมือนตอนที่สู้กับจิวโมไป๋ไม่มีผิด
หนวดหินไม่มีความปราณีมันยิงหอกหินแหลมเข้าใส่ร่างของเทนงูที่กำลังร่วงหล่น
เทนงูข่มความเจ็บปวดตั้งสติ ก่อนที่หอกหินจะมาถึงตัว มันใช้สายลมกระแทกพื้นผลักร่างลอยขึ้น หลบหอกหินได้อย่างฉิวเฉียด
หนวดหินไม่ปล่อยหอกหินอีกมันพุ่งเข้าโจมตีพร้อมกัน ขนาดของมันไม่เท่ากันเล็กสุดแค่ครึ่งเมตร ใหญ่สุดก็ห้าเมตร การโจมตีไร้กฎเกณฑ์ยากที่จะหลบ
เทนงูที่บาดเจ็บสาหัส ข่มความเจ็บปวดกลิ้งตัวหลบไปมา ก่อนจะลุกขึ้นและใช้กฎแห่งธาตุลมเร่งความเร็ว โบกตัวไปมาหลบหนวดหินอย่างน่าหวาดเสียว
อิวะ โซตะพยายามหลบการโจมตีของหนวดหินที่พัวพันไม่หยุด เขาพยายามล่อการโจมตีไปใส่กลุ่มรูปปั้น มันก็ได้ผล แต่เขาก็ไม่สามารถหนีไปได้อยู่ดี
ความเสียหายเพิ่มมากขึ้น พื้นดินไม่เหลือสภาพเดิม หมู่บ้านโบราณกลายเป็นซากปรักหักพัง รูปปั้นหินโชคร้ายที่อยู่บริเวณนั้นถูกทำลายจนหมด
กว่าจะรู้ตัวพวกเขาทั้งสองก็ตกอยู่ในวงล้อมของหนวดหิน ไม่สามารถหลบหนีไปได้อีก
ในขณะที่พวกเขากำลังหมดหวัง คลื่นพลังอันหนาวเย็นก็กวาดผ่านร่างของพวกเขา ใบหน้าของทั้งสองซีดเผือดทันที
“ท่านเทพมาแล้ว”เทนงูตัวสั่นด้วยความกลัว
อิวะ โซตะกำดาบแน่นมองไปรอบๆ ก่อนที่ด้านหนึ่งของหนวดหินจะแหวกออก ร่างของเด็กสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างช้าๆ
เด็กสาวมีโครงหน้างดงามราวเทพธิดา ผมสีดำงดงามยาวถึงกลางหลัง เธออยู่ในชุดเสื้อผ้าทันสมัยสีดำสนิทที่ปิดมิดชิด เห็นเพียงท่อนแขนและใบหน้าที่ขาวไร้จุดด่างพร่อย
ถ้าเธออยู่ภายนอก เธอก็เหมือนคนธรรมดา ไม่แตกต่างจากคนอื่น ยกเว้นดวงตาสีดำสนิทที่กลืนกินตาขาวทั้งหมด ดวงตาสีดำไร้แสง ราวกับหลุมดำไร้ก้น
เธอเดินเข้ามาอย่างสงบนิ่งราวกับกำลังเดินเล่นในสวนหลังบ้าน ขัดกับความเสียหายโดยรอบอย่างสิ้นเชิง
ร่างของอิวะ โซตะสั่นระริกอย่างไม่อาจควบคุม เขาไม่สามารถสัมผัสอะไรจากร่างของเด็กสาวได้เลย แต่เขากับรู้สึกกลัวอย่างที่เขาไม่เคยมาก่อน!
—
สามารถแสดงความคิดเห็นติชมได้นะครับ