ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 36
“จิวโมไป๋ วันนี้ไม่มีเรียนเหรอ”หลานซูเมิ่งร้องถามอย่างขึ้น ขณะที่เซียวหนานจิ้นยังคงประดับรอยยิ้มไว้บนใบหน้า ทั้งๆที่แฟนตัวเองกำลังพูดคุยกับผู้ชายคนอื่น อย่างสนิทสนม ท่าทางของเขาเหมือนไม่รู้สึกโกรธเคืองอะไร ดูแล้วเหมือนผู้ชายที่ใจกว้าง น่าชื่นชม
“วันนี้ฉันต้องไปทำธุระข้างนอกเลยไม่ได้เข้าเรียน”จิวโมไป๋หันไปตอบหลานซูเมิ่ง โดยทำเป็นเมินเซียวหนานจิ้น เหมือนมองไม่เห็นอีกฝ่าย
เซียวหนานจิ้นขมวดคิ้วไม่พอใจวูบหนึ่ง ก็กลับมาเหมือนเดิม
“อ่อ เอานี่ไปสิ”หลานซูเมิ่ง ยื่นบัตรอะไรบางอย่างให้กับเขา 2 ใบ
จิวโมไป๋รับมาดู เป็นบัตรเข้างานเทคโนโลยีโลกอนาคต
“ในงานนี้ มีการทดสอบโลกเสมือนจริงครั้งที่ 5 ด้วยนะ นายเรียนสาขาโลกเสมือนจริงไม่ใช้เหรอ ถ้าเข้าไปแล้วอาจจะได้มีโอกาส ได้พูดคุยกับนักวิชาการโลกเสมือนจริงด้วยนะ นอกจากนั้นเขายังเปิดโอกาศ ให้คนภายนอกทดสอบความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับโลกเสมือนจริง ถ้าผ่านการทดสอบ นายอาจได้เป็นนักเรียนวิชาการ ก็ได้นะ”
หลานซูเมิ่งแนะนำอย่างกระตือรือร้น
“ช่วงนี้ฉันยุ่งๆอยู่ ไม่มีเวลาไปหรอก เอามาให้ฉันเสียของเปล่าๆ”จิวโมไป๋ยืนบัตรคืน
“ฉันเองก็ไม่ว่างไปเหมือนกัน นายเก็บไว้ก่อนก็ได้”หลานซูเมิ่งเอามือเก็บไว้ด้านหลังไม่ยอมรับบัตรคืน
“ขอบใจนะ เดียวไว้วันหลังฉันจะตอบแทน”จิวโมไป๋กล่าวขอบคุณ ในใจก็กระซิบเสียงเบา เดียวฉันจัดการเซียวหนานจิ้นเป็นการแก้แค้นให้เธอก็แล้วกัน
“ได้เลย”หลานซูเมิ่งยิ้มดีใจ ดูเหมือนว่าจิวโมไป๋จะทำใจเรื่องที่ตำหนักยุทธเสียหายได้แล้ว
“ซูเมิ่ง ถ้าไม่รีบไปตอนนี้ จะเข้าเรียนสายแล้วนะ”เซียวหนานจิ้นที่ถูกละเลยมานานเอ่ยขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เหมือนจะรู้สึกอะไรบางอย่าง หลานซูเมิ่งจึงไม่พูดต่อหันมาเอ่ยปากลา
“ได้เวลาเช้าเรียนแล้ว ฉันไปก่อนนะ ไว้เจอกันใหม่”
“ไว้เจอกัน”จิวโมไป๋โบกมือลา แล้วหันมาก้มหัวเล็กน้อยให้เซียวหนานจิ้นก่อนเดินจากไป
เมื่อเดินออกมาสักพัก เขาก็หันกลับไปมอง ก็เห็นทั้งคู่เดินจากไปไกลแล้ว จิวโมไป๋ส่ายหัวเบาๆ
การเจอกันครั้งนี้ ดูแล้วหลานซูเมิ่งจะรับรู้อะไรบางอย่างได้ เซียวหนานจิ้นอาจจะเลื่อนเวลาลงมือ ให้หลานซูเมิ่งตายใจก่อน แต่เขายังแน่ใจไม่ได้ ดังนั้นทำตามแผนเดิมจะปลอดภัยกว่า
เขาก้มมองงานเทคโนโลยีโลกอนาคตในมือด้วยรอยยิ้ม อนาคตเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ในอดีตเขาไม่ได้บัตรไปงาน เพราะเขาหลบหน้าไม่ยอมพบหน้าหลานซูเมิ่ง
เมื่อคิดได้แล้วเขาก็เก็บบัตรลงกระเป๋า ก่อนที่จะเดินไปยังเขตการค้าด้านข้างมหาวิทยาลัย เมื่อเดินเข้าไปรอบข้างเต็มไปด้วยผู้คนคึกคัก โดยเฉพาะหนุ่มสาวที่ส่วนมากจะเดินกันเป็นคู่
เขาเดินไปยังอาคารที่ดูทันสมัยที่สุด
สมาคมปรุงยา
ก่อนเข้าไปในอาคาร เขายกหมวกเสื้อโค๊ทสีดำมาคลุมหัวและนำผ้าปิดปากสีดำมาใส่ แล้วเดินเข้าไปด้านใน
“มีอะไรให้ช่วยไหมคะ”พนักงานตอนรับสาวเดินเข้ามาเอ่ยปากถาม แววตามองสำรวจคนในเสื้อโค๊ท ที่ปกปิดใบหน้าเหมือนจะมาทำอะไรผิดกฏหมาย
“ฉันมาลงทะเบียนใช้ระบบค้าขายสูตรโอสถ”จิวโมไป๋ดัดเสียงแหบเล็กน้อย
“อ่อ เชิญทางนี่เลยค่ะ”พนักงานสาวพยักหน้ารับก่อนที่จะพาไปขึ้นลิฟท์ไปชั้น 3 เธอไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่อีกฝ่ายจะปิดบังหน้าตา เพราะนักปรุงยาส่วนมากที่ชอบรักษาความเป็นส่วนตัว
เมื่อขึ้นไปชั้น 3 เธอก็ส่งงานให้พนักงานสาวอีกคน เธอพาเขาไปที่ลงทะเบียน บนชั้นนี้แบ่งเป็นช่องย่อยๆหลายช่องให้เข้าไปลงทะเบียน หรือ รับสิทธิ์ต่างๆ
เหตุผลที่สมาคมปรุงยา ไม่เปิดลงทะเบียนระบบต่างๆในรูปแบบออนไลน์ และต้องมีคะแนนนักปรุงยาเพียงพอ ถึงจะเปิดระบบใหม่ๆได้ ก็เพราะอยากให้นักปรุงยามีส่วนร่วมกับสมาคมบ้าง ไม่ได้หายเข้ากลีบเมฆหลังจากทดสอบปรุงยาเสร็จแล้ว
เพราะส่วนมากนักปรุงยาจะอายุมาก จึงมีนิสัยเก็บตัวไม่ชอบคบค้าสมาคมกับใคร และในยุคสมันที่โอสถมีราคาแพงมหาศาล จึงเกิดการแข่งขันกันระหว่างนักปรุงยาอย่างรุนแรง ยิ่งทำให้เกิดความบาดหมางระหว่างกันมากขึ้นไปอีก
ทำให้เป็นการยากที่จะทำให้นักปรุงยาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ถ้าไม่มีอะไรกระตุ้นให้มาใช้บริการที่สมาคมบ้างละก็ สมาคมปรุงยาการเป็นอาคารร้างไปจริงๆก็เป็นได้
เมื่อเข้าไปนั่งที่ช่องหมายเลข 305 เป็นชายวัยกลางคนใบหน้าคมเข้มใจดี ในชุดสูทพนักงานตอนรับ
“เชิญวางมือตรงนี่ได้เลยครับ”
จิวโมไป๋พนักหน้ารับ ก่อนที่จะวางมือลงบนแผนสีดำ ไม่นานก็มีหน้าจอโปร่งใสลอยขึ้นมา เป็นข้อมูลประจำตัว มีชื่อฉายา เตาหลอม 9 สุริยัน และ อายุ 18 ปี ส่วนช่องอื่น ถูกติดเครื่องหมายxxx มุมบนสุดมีดวงดาวสีเขียวอ่อน 1 ดวง บ่งบอกว่าเขาเป็นนักปรุงยา 1 ดาว
“ที่แท้คุณก็คือนักปรุงยาอัจฉริยะที่เด็กที่สุด”พนักชายวัยกลางคน พูดเสียงเบา พยายามระงับความอารมณ์ตื่นเต้นให้สงบลง ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ
“ลงทะเบียนใช้ระบบครั้งแรกไม่เสียค่าลงทะเบียน… ลงทะเบียนระบบค้าขายสูตรโอสถ กดยืนยันได้เลยครับ”พนักงานชายวัยกลางยิ้มพร้อมกับกดบนหน้าจอโปร่งใสไม่กี่ครั้ง ก็มีหน้าลงทะเบียนปรากฏขึ้น
จิวโมไป๋พยักหน้าพอใจ กับท่าทางของพนักงานอย่างมาก เขาทำงานอย่างเป็นมืออาชีพ ตอนที่เขามาลงทะเบียนก็คิดว่าจะต้องมีเรื่องปวดหัวตามมาแน่ๆ
แต่ดูเหมือนว่า สถานะการณ์จะแตกต่างจากที่เขาคิดเอาไว้ แต่มันก็ดีแล้ว
เมื่ออีกฝ่ายไม่พยายามพูดซักถามอะไร เขาก็ลงทะเบียนจนเสร็จ
“คุณจะลงทะเบียนระบบอื่นเลยไหมครับ เพราะคุณเป็นนักปรุงยาอายุน้อยที่สุด จึงได้สิทธิ์ในการเปิดระบบทั้งหมด โดยไม่ต้องเสียค่าใช่จ่ายหรือคะแนนผลงานใดๆทั้งสิ้น”พนักงานชายวัยกลางคนอธิบายแล้วลดเสียงลง
“ผมเห็นท่าทางของคุณแล้ว คุณคงไม่อยากจะมาที่นี่บ่อยๆ ผมแนะนำให้คุณเปิดระบบทั้งหมดเลยดีกว่านะครับ”
“ได้”จิวโมไป๋หัวเราะในใจ เขาจำได้ว่าคนที่รับลงทะเบียนจะได้รับ ผมตอบแทน 0.01% ของเงินที่นักปรุงยาได้รับทุกการแลกเปลี่ยน เขาเลือกที่จะแกล้งโง่ทำเป็นไม่รู้ เพราะยังไงเขาก็ไม่อยากมาที่นี่อีก เพราะมันเสี่ยงที่จะทำให้ตัวตนของเขาเปิดเผยก่อนเวลาอันควร
พนักงานชายวัยกลางกดหน้าจออีกหลายครั้ง ก็ส่งมาให้เขาลงทะเบียนเรื่อยๆ ไม่นานก็เสร็จ
“ขอบคุณที่ใช้บริการ เดินทางปลอดภัยนะครับ”พนักงานชายวัยกลางคนยิ้มกว้าง พลางโบกมือส่งจิวโมไป๋ ที่หน้าประดูทางเข้าสมาคมปรุงยา
“คุณพ่อมายืนทำอะไรตรงนี้คะ”หญิงสาวสูงโปร่ง ใบหน้าอ่อนเยาว์มีสเน่ห์ พูดขึ้นขณะที่เดินมายืนด้านข้างพนักงานชายวัยกลางคน เมื่อเห็นชุดที่พ่อของเธอใส่ เธออดพูดขึ้นมาไม่ได้
“แล้วนี่…ชุดพนักงานไม่ใช่เหรอคะ คุณพ่อหนีงานมาเล่นเป็นพนักงานอีกแล้วใช่ไหม”
“แค่กๆ งานของพ่อลูกก็แย้งไปดูแลหมดแล้ว ลูกจะให้พ่องานอะไร ลูกอยากให้พ่อได้พักมันก็ดี แต่พ่ออยากทำงานไม่อยากเป็นตาแก่ที่เอาแต่นั่งๆนอนๆ ลูกไม่ต้องมาห้ามพออีกเข้าใจไหม”พนักงานชายวัยกลางแกล้งทำท่าทางขึงขัง ก่อนที่จะเดินหนีไปดื้อๆ ทำให้หญิงสาวยิ้มอ่อนก่อนที่จะเดินออกจากสมาคมปรุงยา
“คุณหนูหลิวหวูชิง ไม่ตามท่านหัวหน้าสมาคมไปเหรอค่ะ”เลขาสาวเดินเข้ามาถามด้วยสีหน้ากังวล
“ถ้าท่านประธาน อยากทำอะไรก็ปล่อยให้ท่านทำไป แต่อย่าลืมส่งคนคอยดูแลท่านด้วย”หลิวหวูชิงพูดด้วยท่าทางสง่างาม ก่อนที่จะเดินขึ้นรถยนต์คันหรูที่มีคนเปิดประตูรอรับ
“คุณหนูเราจะไปร่วมแสดงความยินดี กับนักปรุงยาอายุน้อยอันดับ 2 นักปรุงยาลี่ฟูจิ้ว… เลยไหมครับ.”
“อืม”
…
ผู้หญิงเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ ถ้าสงสัยว่าใครจะได้เป็นนางเอกไปดู หน้าแนะนำนิยาย ตรงประวัติพระเอกเลยครับ