ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 391

พันเอกนาคามูระยกมือห้ามไม่ให้ใครเข้าใกล้ ก่อนจะกระโดดออกไปและอธิบายสถานการณ์ให้เหล่าผู้อาวุโส

เมื่อได้ยินพวกเขาก็มีท่าทางแตกตื่นตกใจ เพราะไม่คิดว่าทาเคยูชิจะสามารถใช้วิชาต้องห้ามลมลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิได้

มีผู้อาวุโสคนหนึ่งจะเข้าไปตรวจอาการของทาเคยูชิ แต่พันเอกนาคามูระเข้าไปห้ามไว้

ทุกคนจึงดูจิวโมไป๋ที่กำลังรักษาทาเคยูชิอยู่ห่างๆไม่เข้าไปรบกวน

“ถ้าผู้อาวุโสรองอยู่ เขาน่าจะสามารถช่วยได้”ผู้อาวุโสคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยความเสียใจ

เหล่าผู้อาวุโสต่างถอนหายใจ พวกเขาไม่คิดว่าจิวโมไป๋จะสามารถรักษาได้เลย เพราะผลลับจากการใช้วิชาต้องห้ามลมลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิมันน่ากลัวเกินไป

จิวโมไป๋ไม่สนใจผู้อาวุโสที่จับตาดูอยู่ เขาตรวจสอบทาเคยูชิต่อ ยิ่งตรวจสอบลึกขึ้นเขายิ่งค้นพบความประหลาดใจของเคล็ดบ่มเพาะพลังนี้

บ้า! จิวโมไป๋ร้องตะโกนด่าทอในใจด้วยความโกรธ คนคิดเคล็ดวิชานี้ต้องบ้าแน่ๆ

จิวโมไป๋สูดลมหายใจอย่างรุนแรง จนผู้คนที่ดูอยู่เป็นกังวล จิวโมไป๋รีบเก็บสีหน้า ก่อนจะตรวจสอบต่อไป เขาก็ขมวดคิ้ว ก่อนจะคลายออก สลับไปมาหลายครั้งก่อนจะกลับมาเรียบเฉยเหมือนเดิม

ความคิดของคนที่สร้างเคล็ดบ่มเพาะพลังนี้บ้า ไร้สติ จริงๆ แต่ยิ่งเขาค้นลึกขึ้น เขาก็ค้นพบความเป็นไปได้บางอย่าง

จิวโมไป๋ถอนหายใจออกมา มีคำกล่าวว่า อัจฉริยะกับคนบ้าห่างกันเพียงแค่กำแพงกันบางๆ

เคล็ดบ่มเพาะพลังนี้ยังไม่สมบูรณ์ คนสร้างไม่ได้ศึกษาการสร้างเคล็ดวิชามาก่อน พูดได้ว่าเป็นมือใหม่ ทำให้เกิดความผิดพลาดมากมาย แต่คนสร้างก็สามารถดันทุรังสร้างมันขึ้นมาจนได้

น่าเสียดายที่เคล็ดบ่มเพาะพลังนี้พบทางตัน ไม่สามารถไปต่อได้

การประสานความสงบและตื่นตัว เป็นแนวคิดที่ดี แต่ยากที่จะสำเร็จ

แม้ว่าในโลกแห่งการบ่มเพาะพลัง มีเคล็ดบ่มเพาะพลังที่ผสานทั้งได้อยู่มากมายก็ตาม

แต่แนวคิดของเคล็ดบ่มเพาะพลังที่ทาเคยูชิฝึก มันเป็นการรวมกฎแห่งธาตุสายฟ้าไว้ที่ความสงบ รวมกฎแห่งธาตุไฟไว้ที่การตื่นตัว มันเป็นแนวคิดที่สุดโต่งเกินไป!

กฎแห่งธาตุไฟและสายฟ้าเป็นกฎแห่งธาตุที่มีพลังการทำลายล้างสูง ไม่ต้องพูดถึงการหลอมรวมพวกมัน มันยิ่งเพิ่มพลังทำลายล้างให้รุนแรงยิ่งกว่าเดิม

ถ้าไม่มีร่างกายที่ทรงพลัง แค่ฝึกฝนเคล็ดวิชานี้ร่างกายก็แตกซ่านแล้ว

วิธิการรวมกฎแห่งธาตุทั้งสองธาตุ ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด แต่ที่ทำให้เคล็ดบ่มเพาะพลังนี้ยากที่จะสำเร็จ เพราะการจัดวางแนวคิดพื้นฐานที่ผิดพลาดตั้งแต่ต้น!

กฎแห่งสายฟ้าในความสงบ เป็นความคิดที่ดีเพราะสายฟ้าจะช่วยกระตุ้นเส้นประสาทเสริมสร้างประสาทสัมผัสให้แข็งแกร่งขึ้น แต่มันเป็นกฎแห่งธาตุสายฟ้า มันมีความแปรปรวนรุนแรงที่สุดในกฎแห่งธาตุทั้งหมด

เขามั่นใจว่าเคล็ดบ่มเพาะพลังที่แฝงแนวคิดสายฟ้าในความสงบ ดัดแปลงมาจากเคล็ดบ่มเพาะพลังหลักของสำนักดาบสายฟ้าคำรณ

การฝึนฝนแนวคิดนี้ยากลำบากอย่างมาก เพราะความแปรปรวนอันรุนแรง ผู้ฝึกจะต้องมีจิตสัมผัสที่แข็งแกร่งและมีพรสวรรค์ในการตระหนักกฎแห่งธาตุสายฟ้าได้

แม้จะไม่ถึงกับเป็นอัจฉริยะ แต่ต้องมีความเข้าใจเล็กน้อย เพื่อช่วยให้ฝึกฝนเคล็ดบ่มเพาะพลังนี้ได้

ไม่แปลกเลยที่ศิษย์สำนักดาบสายฟ้าคำรณจะมีจำนวนน้อย

ในยุครุ่งอรุณสำนักชั้นสูงส่วนใหญ่มีศิษย์หลายพันคน สำนักดาบสายฟ้าคำรณมีแค่ 300 ถึง 400 คนถือว่าจำนวนน้อยมาก

ผู้ที่ฝึกฝนเคล็ดบ่มเพาะพลังนี้ได้จะต้องมีพรสวรรค์ระดับหนึ่ง ไม่แปลกเลยที่ศิษย์ของสำนักดาบสายฟ้าคำรณจะแข็งแกร่งกว่าศิษย์ของสำนักอื่น

เคล็ดบ่มเพาะพลังที่มีกฎแห่งสายฟ้าในความสงบ ว่าฝึกยากแล้ว การร่วมเข้ากับกฎแห่งไฟในความตื่นตัว เป็นแนวคิดการผสานที่สุดโต่งและบ้าระห่ำ!

ไม่แปลกเลยที่ผู้ฝึกจะตายก่อนจะสำเร็จ

ถ้าผู้เคล็ดบ่มเพาะพลังตระหนักกฎแห่งธาตุทั้งสอง เขาจะไม่ประหลาดใจ แต่ทาเคยูชิยังไม่ตระหนักกฎแห่งธาตุที่เกี่ยวข้องสักธาตุเดียว การที่เขาใช้เคล็ดวิชานี้เป็นการทำลายตัวเองอย่างแท้จริง เพราะเป็นการฝืนดึงดูดกฎแห่งธาตุที่ตัวเองไม่สามารถควบคุมได้เข้าสู่ร่างกาย

การทำแบบนี้เหมือนกับวิชาต้องห้าม ที่สร้างภาระให้กับร่างกายอย่างรุนแรง

ไม่แปลกเลยที่ทาเคยูชิจะมีอาการสาหัสแบบนี้

จิวโมไป๋ควบคุมจิตสัมผัสเริ่มตรวจสอบอย่างจริงจัง พร้อมกับทำท่าใช้กฎแห่งธาตุไม้รักษาไปด้วย

ผู้คิดจะผสานเคล็ดวิชาต่างกฎแห่งธาตุอย่างน้อย ก็ต้องเอาแนวคิดฝั่งตรงข้าม ใช้ความขัดแย้ง เพื่อปรับสมดุล เช่นไฟกับน้ำ สายฟ้ากับไม้

หรือใช้กฎแห่งธาตุที่สนับสนุนกัน เพิ่มเสริมความแข็งแกร่ง เช่น ไม้กับไฟ ดินกับทอง

กฎแห่งธาตุที่ผสานในวิชาที่สร้างขึ้น ไม่เพียงแต่มีพลังทำลายล้าง ควรแฝงไปด้วยแนวคิดอื่น ไม่สุดโต่งมีแต่การทำลายล้างอย่างสิ้นเชิง

ยิ่งดูจิวโมไป๋ยิ่งถอนหายใจ แนวคิดสุดโต่งเกินไปจริงๆ แต่อย่างน้อยก็สามารถสร้างเคล็ดวิชาขึ้นมาได้ แม้จะถึงทางตันแล้วก็ตาม

จิวโมไป๋เริ่มใช้พลังวิญญาณคัดลอกเคล็ดบ่มเพาะพลัง แม้จะเป็นเพียงการหายใจ ไม่ได้เป็นเคล็ดวิชาทั้งหมด เพราะไม่มีตำราที่เขียนหลักการของเคล็ดบ่มเพาะพลังทั้งหมด แต่มันก็พอที่จะช่วยให้เขาเข้าใจเคล็ดวิชานี้ได้

พลังวิญญาณไหลไปตามร่างกาย ไม่กระทบกับพลังรุนแรงที่กำลังรอการปะทุ เมื่อพลังวิญญาณไหลไปถึงตำแหน่งตับ ก็กระทบกับพลังบางที่หล่อเลี้ยงรักษาตับไม่ให้ถูกทำลาย

ใบหน้าของจิวโมไป๋เปลี่ยนเป็นตกตะลึง

กฎแห่งธาตุไม้!

ในเคล็ดบ่มเพาะพลังมีกฎแห่งธาตุไม้แฝงอยู่ด้วย!

—

กฎแห่งธาตุสายฟ้า ไฟ ไม้ ทุกคนนึกถึงใครครับ ฮ่าๆ

เฉลยล่วงหน้าครับ เคล็ดบ่มเพาะพลังที่เนี่ยฟูหายฝึกคือเทพสายฟ้าไรจิน

ในโลกอดีตที่จิวโมไป๋ไม่ได้ย้อนเวลา ในตอนที่เนี่ยฟูหานหลบหนี เขาหนีมาที่ประเทศเกาะด้วยความช่วยเหลือของอาจารย์พระเอก(ช่วยแบบลับๆ) เนียฟูหานมีญาติทางฝั่งแม่เป็นคนประเทศเกาะ(ยายของเนี่ยฟูหานและป้าของอาจารย์พระเอก)

หลายคนอาจลืมไปแล้ว ว่าเงาลวงตาของเคล็ดบ่มเพาะพลังของเนี่ยฟูหานเป็นวงแหวนเทพเจ้าประเทศเกาะ เพราะเขาฝึกเคล็ดบ่มเพาะพลังเทพสายฟ้าไรจินจากทางฝั่งแม่

เมื่อหลบซ่อนตัวสร้างกองกำลังที่ประเทศเกาะ เนี่ยฟูหานมีโอกาสรู้จักกับทาเคยูชิ และได้รับเคล็ดบ่มเพาะพลังลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิมา

เมื่อรวมกับหิน 3 สี ที่เขาได้รับจากเหตุการสังหารหมู่ ทำให้ความแข็งแกร่งของเนี่ยฟูหายทะยานขึ้น

เพราะจิวโมไป๋เปลี่ยนอนาคต ทำให้เนี่ยฟูหานพลาดเคล็ดวิชานี้ไป รอดูกันต่อไปครับว่าเนี่ยฟูหานจะได้รับเคล็ดวิชานี้ไปหรือไม่ ฮ่าๆ