ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 437 หยุนปิง
“ชายชราเลอะเลือน! ในเวลานี้ประเทศออกกฏหมายพิเศษ ห้ามการต่อสู้ระหว่างกองกำลัง แสร้งทำเป็นไม่รู้ อาจลดความผิดของการฝ่าฝืนกฏหมายต่อสู้ระหว่างกองกำลังได้บ้าง แต่การโจมตีคนของหน่วยเงาไม่สามารถลดโทษได้!”ชายวัยกลางคนแค่นเสียง พลังกดดันพลันระเบิดออกจากร่าง เงาปลาคาร์ฟสีขาวลายฟ้าเขียวตัวเล็กแหวกว่ายไปมารอบร่างของเขา ในตอนนั้นเองกฎแห่งธาตุน้ำสีฟ้าอ่อนพลันปะทุออกมาอย่างรุนแรง เมฆดำก่อตัวขึ้นก่อนเม็ดฝนจะตกลงมา
ชายวัยกลางคนชักดาบออกมาและฟันออกไปอย่างช้าๆ แต่เมื่อฟันไปจนสุดเม็ดฝนทั้งหมดที่ตกลงมาก็ถูกม้วนเป็นคลื่นโถมไปข้างหน้าเข้าปะทะกับดาบเพลิงยักษ์
ตูม! คลื่นพลังทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรง คลื่นน้ำถูความร้อนเผาไหม้จนกลายเป็นไอสีดำแตกกระจายไปทั่ว ก่อนที่ดาบเพลิงยักษ์จะทะลวงผ่านคลื่นน้ำเข้ามา ความเร็วของมันลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ชายวัยกลางคนขมวดคิ้วแน่น เขายกดาบฟาดฟันออกไปอีกหลายครั้ง คลื่นน้ำโถมเข้าต้าน แต่ก็ถูกดาบเพลิงยักษ์ทำลายอย่างง่ายดาย แต่มันก็สามารถลดความเร็วของดาบเพลิงยักษ์ได้
ในตอนนั้นเอง คลื่นความหนาวเย็นยะเยือกก็แผ่กระจายมาจากเครื่องบินล่องหนอีกลำ ก่อนที่หญิงสาวจะกระโดดออกจากห้องเครื่อง ใบหน้างดงามราวเทพธิดา ทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะจ้องมอง แต่ใบหน้าของเธอกับเย็นชาราวรูปสลัดน้ำแข็ง ทำให้ผู้คนไม่กล้าจ้องมองเธอตรง ได้แต่ลอบชื่นชมอยู่ห่างๆ
ใบหน้าของชายวัยกลางคนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขารู้สึกอับอาจเล็กน้อยที่ต้องขายหน้าสาวงาม
ผู้บ่มเพาะพลังหญิงนั้นหายากและมีจำนวนน้อยนิด ที่เป็นอย่างนั้น ไม่ใช่เพราะผู้หญิงบ่มเพาะพลังแข็งแกร่งน้อยกว่าผู้ชาย แต่เป็นเพราะในอดีตผู้บ่มเพาะพลังผู้หญิงมีจำนวนน้อยมาก ถ้าไม่ใช่บุตรของผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่ง หรือสำนักของผู้หญิงโดยตรง ก็แทบจะไม่มีใครส่งผู้หญิงบ่มเพาะพลังเลย
ทำให้ในอดีตผู้บ่มเพาะพลังส่วนใหญ่ ล้วนเป็นผู้ชาย
ต่างจากในยุครุ่งอรุณ ผู้บ่มเพาะพลังรุ่นใหม่มีทั้งหญิงและชาย เพราะทุกเพศมีสิทธิ์เลือกอนาคตของตัวเองได้
ผู้บ่มเพาะพลังหญิงยุคก่อนที่แข็งแกร่ง ก็แทบนับได้ด้วยนิ้วมือข้างเดียว
หยุนปิง เป็นผู้บ่มเพาะพลังหญิงอัจฉริยะที่หายาก ก่อนยุครุ่งอรุณ เมื่อเธออายุ 26 เธอก็อยู่ขั้นที่ 5 กระดูก เป็นอัจฉริยะที่เหนือกว่ารุ่นเดียวกัน เมื่อเข้าสู่ยุครุ่งอรุณความแข็งแกร่งของเธอเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เธอมีอายุเพียง 34 ปีเท่านั้น ระดับการบ่มเพาะพลังก็อยู่ขั้นที่ 9 กำเนิดปราณแล้ว
ผู้บ่มเพาะพลังที่อยู่ขั้นที่ 9 กำเนิดปราณส่วนมากจะมีอายุมากกว่า 60 ปี หญิงสาวสามารถเลื่อนเป็นขั้นที่ 9 กำเนิดปราณด้วยอายุน้อยกว่าค่าเฉลี่ยเกือบ 2 เท่า อนาคตของเธอมีโอกาสทะลวงไปยังระดับพลังที่สูงขึ้นได้
ด้วยพรสวรรค์และใบหน้ารูปร่างที่งดงามไร้ที่ติทำให้ หยุนปิงกลายเป็นที่หมายป้องของผุ้บ่มเพาะพลังชายนับไม่ถ้วน ถ้าได้แต่งงานกับเธอลูกหลานอาจได้รับพรสวรรค์อันแข็งแกร่ง ทำให้วงตระกูลแข็งแกร่งยิ่งขึ้นได้
ชายวัยกลางคนสูดลมหายใจสงบสติ แสดงสีหน้าอบอุ่นอ่อนโยน กฎแห่งธาตุน้ำทวีความรุนแรงขึ้นต้านดาบเพลิงยักษ์ เขาแสดงความแข็งแกร่งของตัวเองให้หยิงสาวได้เห็น
หยุนปิงเห็นว่าชายวัยกลางคนไม่สามารถต้านดาบเพลิงได้ เธอก็แผ่พลังกดดันออกมา ไอหมอกเย็นยะเยือกแผ่กระจายออกจากร่างของเธอ ผสานกับน้ำฝนที่ตกลงมาพริบตาเดียวหิมะอันหนาวเหน็บก็ตกลงมา
อุณหภูมิที่ร้อนแรงถูกความหนาวเย็นสะกด
ดวงตาของฮิโรกิที่มองไปยังหยุนปิงส่องประกายเจิดจ้า มือตบลงไปที่กำไลข้อมือเปิดโหมดถ่ายวีดีโอสด จากนั้นเขาก็เร่งเร้าพลัง เพลิงผลาญธุลีลุกไหม้อย่างน่ากลัว
หิมะที่กำลังตกถูกเผาไหม้กลายเป็นไอสีดำ
“เปลวเพลิงแข็งแกร่งมาก นั้นมันเปลวเพลิงอะไรกัน!”ชายวัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงสั่นคลอนเล็กน้อย
เขาเคยอ่านเกี่ยวกับเปลวเพลิงต่างๆจากบันทึกโบราณมาบ้าง เปลวเพลิงพวกนี้มีคุณสมบัติอันตรายหลายอย่าง มีคนนับไม่ถ้วนที่ถูกเปลวเพลิงพวกนี้ฆ่าตายเพราะความไม่รู้ จึงมีคำเตือนบันทึกไว้ท้ายตำราว่า
ถ้าไม่อยากตายเร็ว อย่าเข้าใกล้เปลวเพลิงประหลาดอย่างเด็ดขาด
ชายวัยกลางคนพ้นลมหายใจออกมา ก่อนจะระเบิดเพลงดาบ คลื่นนับร้อนม้วนตัวเป็นคลื่นยักษ์โถมเข้าต้านดาบเพลิง พลังทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรง คลื่นน้ำถูกความร้อนต้มจนเดือด
หยุนปิงหยิบหยกสีขาวนวลออกมา แสงสีขาวสาดประกายระยิบระยับบนผิวหยก คลื่นน้ำพลันกลายเป็นน้ำแข็งสะกดดาบเพลิงอย่างสมบูรณ์
ฮิโรกิกระอักเลือดออกมา ร่างเซถอยไปหลายก้ามก่อนจะล้มลง
ชายวัยกลางคนและหยุนปิงสั่งให้เครื่องบินล่องหนทั้งสองลำลงจอดที่พื้น ประตูห้องผู้โดยสารเปิดออก
จี้หยางเฟยในชุดสีขาวกระโดดออกจากเครื่องบินล่องหนที่หยุนปิงยืนอยู่ เครื่องบินล่องหนอีกลำชายในชุดคลุมสีเทาของหน่วยเงากระโดดออกมา
“อาจารย์”จี้หยางเฟยเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง เปลวเพลิงที่ฝ่ายตรงข้ามใช้มันอันตรายมาก เขาที่อยู่ในเครื่องบินยังสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิอันน่ากลัว
“ไม่ต้องห่วง นายรีบไปหาคนของเรา เพื่อรับตัวกลับเถอะ ทางนี้ฉันจะอยู่ช่วยผู้บัญชาการภาคยามาโมโตะเอง”หญิงสาวกล่าว
“ครับอาจารย์”จี้หยางเฟยพยักหน้ารับคำ
ยามาโมโตะได้ยินดังนั้น ก็หันไปบอกกับลูกศิษย์ของตัวเอง
“ไปช่วยร้อยเอกจี้”
“ครับ”ชายหนุ่มชุดเทาพยักหน้า
จี้หยางเฟยและชายชุดเทาแนกตัวออกไป
หยุนปิงหันกลับมามองฮิโรกิที่อยู่ในสภาพอ่อนกำลังเต็มที เขาไม่น่าจะสามารถใช้การโจมตีรุนแรงได้อีก
ฮิโรกิสูดลมหายใจ ดวงตาเริ่มดวงตาพร่ามัว ใกล้จะล้มลงไปได้ทุกเมื่อ ในตอนนั้นเองกำไลข้อมือ ก็ส่งเสียง เขาก้มลงอ่านข้อความใหม่ เขาก็ถอนหายใจด้วยความสุข อย่างน้อยคนของสำนักก็ไม่ต้องถูกเจ้านายลงโทษ
กลังอ่านจบข้อความใหม่ก็ถูกส่งมา ฮิโรกิก้มลงอ่านใบหน้าก็เปลี่ยนไป เขาเงยหน้าขึ้นมองไปยังหยุนปิง ก่อนจะถอนหายใจออกมา เปลวเพลิงผลาญธุลีพลันลุกไหม้อีกครั้ง เปลวเพลิงขยายใหญ่ขึ้นจนถึงท้องฟ้าเมฆฝนถูกเปลวเพลิงเผาไหม้จนหมดสิ้น ไม่มีน้ำฝนตกลงมาอีก ส่วนน้ำฝนที่ตกลงมาตอนแรกก็ถูกเผาไหม้จนกลายเป็นไอจนหมดสิ้น