ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 444 ล็อคยีน การกลายพันธุ์
จางฟูไม่ประหลาดใจ ที่จิวโมไป๋ไม่รู้เกี่ยวกับยีน เพราะการปรุงยากับการวิจัยยีน มันคนละศาสตร์กัน ไม่แปลกเลยที่จิวโมไป๋จะไม่รู้ เขาปรับภาษาและค่อยๆอธิบายอย่างง่ายๆ
“เข้าใจผิดแล้ว การปลดล็อคยีนกับยีนกลายพันธุ์นั้นแตกต่างกัน”
จากฟูโบกมือโฮโลแกรมฉายสิ่งมีชีวิตต่างๆ
“สิ่งมีชีวิตจะมียีนแตกต่างกัน ตามสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิตนั้นๆ ในอดีตมนุษย์เองก็เช่นกัน แต่หลังจากที่โลกได้เกิดการเปลี่ยนแปลง มนุษย์บางคนได้เกิดการกลายพันธุ์ พวกเขาเหล่านั้นได้กระตุ้นยีนบรรพบุรุษในอดีตไม่รู้กี่สิบกี่ร้อนกี่พันรุ่น ยีนเหล่านั้นมีการผสมรวมกับสัตว์ร้าย สัตว์โบราณ หรือแม้แต่ภูตผีความเชื่อต่างๆ ทำให้สายเลือดของมนุษย์แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ยีนของมนุษย์ที่จริงแล้วได้ผสมผสานกับเผ่าพันธุ์ต่างๆมากมาย”
“การผสานยีนจะเกิดขึ้นได้กับการผสมพันธุ์ แต่มนุษย์ไม่สามารถผสมพันธุ์กับสิ่งมีชีวิตต่างเผ่าพันธุ์และให้กำเนิดได้ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้หนึ่งเกิดขึ้น คือเมื่อสัตว์สามารถวิวัฒนาการไปจนถึงจุดหนึ่ง พวกมันจะสามารถกลายร่างเป็นมนุษย์และสามารถผสมพันธุ์กับมนุษย์และให้กำเนิดมนุษย์ที่มียีนผสมเผ่าพันธุ์อื่นได้!”จางฟูพูดอย่างช้าๆ ข้อมูลพวกนี้ไม่ได้หายาก เพราะมีการวิจัยมาอย่างยาวนาน พวกเขาคาดเดาว่าโลกในอดีตเคยเป็นโลกแห่งการบ่มเพาะพลัง และมีเผ่าพันธุ์ต่างๆมากมาย ไม่แปลกที่ยีนของมนุษย์จะถูกผสมผสานกับยีนของสิ่งมีชีวิตต่างๆ
จางฟูมองไปที่โซ่ยีนก่อนจะโบกมือก่อนที่ยีนเส้นหนึ่งจะขยาย โซ่ยีนอันนี้ไม่ต่างจากโซ่ยีนอื่นๆ แต่เมื่อมองดูดีๆจะเห็นว่าข้อต่อโซ่ยีนมีความหนาแน่นผิดปกติ
“หลังจากเวลาผ่านไปหลายรุ่นสายเลือดสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตอื่นจะถูกสายเลือดมนุษย์กลืนกิน สายเลือดเหล่านี้จะค่อยๆหายไปในรุ่นหลังๆ จนกระทั้งเกิดเหตุการณ์พิเศษบางอย่าง ทำให้สายเลือดถูกปลุกขึ้นมา การกลายพันธุ์ของยีนก็คือตื่นของสายเลือด”
จางฟูเห็นว่าจิวโมไป๋เข้าใจแล้ว เขาจึงพูดต่อ
“การปลดล็อคยีนคือการทำลายห่วงโซ่ของยีนที่ขวางกันการพัฒนาให้สูงขึ้น”
จางฟูโบกมือก่อนที่โซ่ยีนอีกอันจะมาข้างหน้า โซ่ยีนอันนี้ดูธรรมดา จางฟูยิ้มเล็กน้อยและกล่าว
“โซ่ยีนอันนี้แตกต่างจากโซ่ยีนของมนุษย์อื่นๆ มันไม่ใช้ยีนของมนุษย์กลายพันธุ์ แต่เป็นยีนของมนุษย์บริสุทธิ์ ที่ไม่ผ่านการผสมของสายเลือดอื่นเลย”
จิวโมไป๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย
จางฟูยิ้มและอธิบายต่อ
“มนุษย์บริสุทธิ์ ไม่ถูกสายเลือดอื่นผสม แม้พวกเขาไม่ได้มีพรสวรรค์แตกต่างจากมนุษย์อื่นๆ แต่พวกเขามีบางสิ่งที่น่าตกใจคือ พวกเขาจะมีความสามารถพิเศษบางอย่างที่ทรงพลัง และความสามารถพิเศษยังสามารถพัฒนาต่อไปได้อย่างไร้สิ้นสุด”
จิวโมไป๋ได้ยินก็เข้าใจแล้วว่ามนุษย์บริสุทธิ์ ที่จางฟูกำลังพูดถึงคือ สายเลือดโบราณ
“การบ่มเพาะพลังมี 9 ขั้น แต่ละขั้นพวกมันจะต้องทะลวงผ่านความแข็งแกร่งของขีดกำจัดร่างกายของมนุษย์ เมื่อทะลวงผ่านแต่ละขั้นความแข็งแกร่งที่ร่างกายจะสามารถแบกรับจะเพิ่มขึ้น
แต่ที่น่าสนใจคือโซ่ยีน ของมนุษย์มี 9 ขั้นเช่นกัน!
จากการวิเคราะห์ ถ้าสามารถปลดล็อค โซ่ยีนได้ ยีนจะมีโอกาสวิวัฒนาการเป็นมนุษย์บริสุทธิ์ และอาจได้รับความสามารถอันทรงพลังนั้นมา!”
จางฟูหอบหายใจเล็กน้อย ดวงตาเป็นประกายเต็มไปด้วยพลัง
จิวโมไป๋ได้ยินก็รู้สึกแปลกๆเขาจึงความ
“งั้นแสดงว่ามนุษย์บริสุทธิ์ที่คุณพูดถึง ก็สามารถปลดล็อคยีนทั้ง 9 ได้แล้ว?”
จางฟูหายหน้าสีหน้าหม่นหมองลงเล็กน้อย
“ไม่ มนุษย์บริสุทธิ์เป็นเพียงชื่อเรียก พวกเขาโชคดี ได้รับความสามารถพิเศษก่อนปลดล็อคยีน พวกเขาสามารถปลดล็อคยีนและได้รับความสามารถพิเศษเพิ่มขึ้นได้!”
จิวโมไป๋ที่ได้ยินก็นิ่งไปเล็กน้อย เพราะเขามีสุดยอดความสามารถในการฟื้นฟู และเขาเคยเห็นเฉินหูที่มีความสามารถสุดยอดพละกำลังมาก่อน เขาถึงรู้ความแข็งแกร่งของสามารถพิเศษเป็นอย่างดี ไม่แปลกเลยที่เขาจะโลภเล็กน้อย
“ถึงอย่างไร มันก็เป็นแค่ข้อมูลที่องค์กรนอกรีตเขียนมาเท่านั้น ไม่รู้ว่าเป็นจริงหรือไม่ แต่ที่แน่นอนคือมียาชนิดหนึ่งที่สามารถปลดล็อคยีนได้จริงๆ”
จางฟูพูดจบก็โบกมือโฮโลแกรมที่มีข้อความหลายหน้าปรากฏตรงหน้าของจิวโมไป๋ เขาอ่านมัน เป็นข้อมูลเหมือนกับที่เขาเคยได้รับในตอนที่เขาไปช่วยเหลือเฉินหู คนขององค์กรนั้นระวังเกินไปพวกมันไม่เก็บข้อมูลยายีนพันธุกรรมที่สมบูรณ์ไว้เลย
เขาเคยเห็นยายีน ว่ามันสามารถทำลายล็อคยีนได้จริงๆ แต่ผลกระทบของมันที่เขาเคยเห็นก็คือ อ่อนแอกว่าผู้บ่มเพาะพลังระดับเดียวกัน
ซึ่งมันเป็นข้อเสียอย่างมาก เพราะแสดงให้เห็นถึงรากฐานที่อ่อนแอ
“ยาชนิดนี้ยังไม่สมบูรณ์ พวกเรากำลังสร้างมันให้สมบูรณ์ ฉันได้อ่านข้อมูลการทดลอง พวกมันถูกสร้างมากจากแนวคิดโอศถ 12 ชนิดของเธอ ฉันจึงต้องการเธอมาร่วมทดลอง”
จิวโมไป๋พยักหน้ารับ เขาเต็มใจเข้าร่วมการทดลอง เขาอยากรู้ว่ายายีนที่เสร็จสมบูรณ์จะเป็นยังไง แต่เหมือนเขาจะนึกขึ้นได้ว่าพรุ่งนี้ต้องไปเมืองเทียนจิงเพื่อเข้าร่วมการพนันหยก
จิวโมไป๋หันมาหาจางฟูและพูดด้วยด้วยความเขินอายเล็กน้อย
“ผมมีบางอย่างที่ต้องทำ ผมขอเวลา 5 วันได้ไหม หลังจาดนั้นผมจะเข้าร่วมการวิจัย”
“ได้ไม่มีปัญหา งานวิจัยพึ่งเริ่ม ยังมีบางอย่างที่ต้องแยกย่อยอีก”จางฟูพยักหน้าเห็นด้วย
จิวโมไป๋จึงถือโอกาสกล่าวลาทุกคน ก่อนไปเขาต้องลงชื่อเก็บความลับ ถ้าเขาทำข้อมูลหลุดออกไปจะต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรง