ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 463 การต่อสู้รอบสุดท้าย 3
ดวงตานกอินทรีของปู๋จิงคงหรี่ลงเล็กน้อย พลังกดดันอันรุนแรงพลันระเบิดออกมาราวพายุ มันพัดทุกสิ่งโดยรอบออกไป แม้แต่เปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้ก็ถูกสายลมอันรุนแรงพันออกไป
จิวโมไป๋ถูกสายลมพัดออกมา ก่อนที่เขาจะระเบิดพลังกดดันออกมาต้านทาน กฎแห่งธาตุสายฟ้าอาบไปทั่วร่าง เสียงฟ้าแลบดังกึกก้อง ก่อนที่สายฟ้าสีม่วงจะไหลไปที่พลองทอง เสียงบทสวดบางอย่างดังขึ้นอย่างแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ เสียงของสายฝนและสายฟ้ากลบเสียงลึกลับจนแทบไม่ได้ยิน
จิวโมไป๋กระแทกเท้า ก่อนที่ร่างของเขาจะทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง พลองทองฟาดลงมา คลื่นพลังแผ่ออกมาอย่างรุนแรงราวกับพายุสายฟ้าถล่ม
ปู๋จิงคงจะใช้ท่าร่างหลบ แต่เมื่อเขาขยับ ร่างกายเหมือนถูกพลังลึกลับบางอย่างกดทับเอาไว้ พลังลึกลับเหมือนพายุที่ดูดร่างของเขาไม่ให้สามารถขยับได้
เมื่อพลองทองใกล้เขามา สีหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์พลันเปลี่ยนไป มือซ้ายที่ว่างยกขึ้น ในมือถือลูกเหล็กกลมสีขาว
ดวงตาของจิวโมไป๋มองไปที่ลูกเหล็ก จิตสัมผัสมองผ่านเข้าไป ใบหน้าของเขาพลันเปลี่ยนไปทันที
กริ้ก สลักบนลูกเหล็กหลุดออก ปู๋จิงคงโยนลูกเหล็กขึ้นก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงนอนราบกับพื้นทันที
พลองทองฟาดลงไปที่ลูกเหล็ก พอดี สายเกินไปที่จะเปลี่ยนการโจมตี
ตูม! ระเบิดอันรุนแรงพุ่งขึ้นท้องฟ้า แรงระเบิดอัดกระแทกร่างของจิวโมไป๋หมุนคว้างเป็นลูกข่าง บนร่างของเขามีเงาเตาหลอมทองแดงเลือนลางปกคุมทั่วร่าง มันป้องกันแรงกระแทกส่วนใหญ่ไปได้
ปู๋จิงคงลุกขึ้น ก่อนจะยกปืนในมือขวาขึ้นและในมือซ้ายตอนนี้มีปืนสีเงินสลักกุหลาบดำ
ปืนทั้งสองกระหน่ำยิงจิวโมไป๋ที่ลอยอยู่ไม่ยั้ง
จิวโมไป๋เหลือบตามองกระสุนที่พุ่งเข้ามา เขาก็ยกมือขวาขึ้น ก่อนที่กฎแห่งธาตุไม้สีเขียวเข้มจะระเบิดออก ตาข่ายเถาวัลย์ขยายใหญ่ดักกระสุนทุกนัด เมื่อกระสุนกระทบตาขายเถาวัลย์ มันก็ระเบิดออกอย่างรุนแรง แรกระเบิดกระแทกร่างของจิวโมไป๋กระเด็นออกไปไกลขึ้น เลือดในคอกระอักออกมา
ปู๋จิงคงใช้ท่าร่างเคลื่อนตัวมาดักทางที่จิวโมไป๋จะล่วงลงมา ปืนสองกระบอกยกขึ้นและกระหน่ำยิงอีกครั้ง
จิวโมไป๋โบกมือ ตาข่ายเถาวัลย์ป้องกันกระสุนปืน ก่อนที่จะระเบิดและกระแทกร่างของจิวโมไป๋กระเด็นไปอีกครั้ง
ปู๋จิงคงมองจิวโมไป๋ที่ดูเหมือนไม่มีทางสู้ได้อีก เขาก็เริ่มหมดความสนใจ ก่อนจะเก็บปืนสีดำ และหยิบลูกเหล็กระเบิดออกมา 3 ลูก เขาดึงสลักและโยนขึ้นไป
ตูม ตูม ตูม แรงระเบิดพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ทำให้เมฆดำเกิดรูโหว่
ร่างของจิวโมไป๋หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ปู๋จิงคงไม่เห็นร่างของจิวโมไป๋ เขาก็รู้สึกแปลกๆ สัญชาตญาณร้องบอกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขากวาดตามองรอบๆ พื้นที่โดยรอบถูกไฟเผาไหม้จนกลายเป็นตอตะโกสีดำ
เปรี๊ยะ เสียงแผ่วเบาแทบจะไม่ได้ยินดังขึ้นจากด้านข้าง ปู๋จิงคงหันควับไป มองเห็น ต้นไม้ต้นหนึ่งล้มลง เขาก็เลื่อนสายตาเพื่อสำรวจไปทางอื่น
ในตอนนั้นเอง เสียงแหวกอากาศก็ดังจากด้านหลัง
ปู๋จิงคงหันกลับไปพร้อมยกปืนสีเงินขึ้นมา
ฉับ! ปืนสีเงินถูกตัดครึ่ง ก่อนที่เงาสีเทาจะตัดมือ ปู๋จิงคงก็ปล่อยปืนแทบจะในทันที และใช้ท่าร่างถอยออกมา มือขวาก็หยิบปืนสีดำขึ้นมา
แต่ประกายสีเทาก็แทงออกมาด้วยความเร็วสูง ปู๋จิงคงมองไปที่ด้านหลังประกายสีเทา ก็เห็นจิวโมไป๋ในสภาพ บาดเจ็บสาหัส เสื้อผ้าถูกทำลายจนหมด เผยให้เห็นผิวหนังตามร่างกายถูกเผาไหม้อย่างรุนแรง มีเลือดสีแดงไหลแห้งกรัตรงบาดแผลที่สมานกันแล้ว
ดวงตาจิวโมไป๋มอง จับจ้องการเคลื่อนไหวของปู๋จิงคงตาไม่กระพริบ โชคดีก่อนที่ระเบิดจะทำงาน เขาใช้เถาวัลย์ดึงร่างให้พ้นระยะการระเบิด ไม่อย่างนั้นร่างของเขาต้องถูกระเบิดเป็นชิ้นๆอย่างแน่นอน
ปู๋จิงคงใช้ท่าร่างถอย แต่กระบี่เลือนเร้นแทงไล่ตามโดยไม่ลดความเร็ว
จิวโมไป๋ไล่ตามปู๋จิงคงไม่ปล่อย ก่อนที่การย่างก้าวจะเปลี่ยนไป ร่างของเขาพลันแยกเป็นสามร่างโจมตีจากสามทิศทาง ประกายสีเทาวูบวาบไปมา
ปู๋จิงคงยกปืนขึ้นมาจะยิง ปืนก็ถูกเงากระบี่ตัดปืนเป็นสองท่อนอีกครั้ง ปู๋จิงคงมองซ้ายมองขวาหาทางถอย แต่พื้นที่ป่าโดยรอบ ถูกเปลวไฟเผาเป็นตอตะโกจนหมด ยากที่จะหลบหนีหรือซ่อนตัวได้
จิวโมไป๋ทะยานร่างไล่ตาม เขาไล่ต้อนปู๋จิงคงจนเริ่มจนมุม
ปู๋จิงคงที่ไร้อาวุธ พยายามใช้ท่าร่างเพื่อหาช่องทางหลบหนี
จิวโมไป๋ยกกระบี่เลือนเร้นขึ้น ก่อนจะแทงกระบี่ออกไป เงากระบี่อันแหลมคมพุ่งแหวกอากาศ แต่ก่อนที่คมกระบี่เลือนเร้นจะแทงใส่ร่างของปู๋จิงคง
ร่างของปู๋จิงคงพลันหายวับไป ปรากฏตัวอีกครั้งที่ด้านหลังของจิวโมไป๋ ความเร็วของปู๋จิงคง พลันเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวอย่างฉับพลัน ในมือของเขามีมีดสีทอง 2 เล่ม ที่หยิบออกมาตอนไหนไม่รู้ คมมีดทั้งสองอาบไปด้วยกฎแห่งสายลมสีเขียวอ่อน แผ่รัศมีอันแหลมคมออกมา ปู๋จิงคงกวัดแกว่งใบมีด เกิดเงากระบี่นับ 10 โจมตีไปที่หลังของจิวโมไป๋