ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 538 ด่านสุดท้าย
จิวโมไป๋หมุนตัวสองรอบไปที่ลำต้นของต้นไม้ด้านข้าง จากนั้นเขาก็ถีบเท้าไปที่ลำต้นไม้ ส่งตัวเองลอยขึ้น
ฟุบ ฟุบ ฟุบ เงาสีดำไร้ร่องรอยสามสาย ปักลงที่ต้นไม้ที่เขาเคยอยู่
มันเป็นมีดสั้นสามเล่มที่ถูกปามาจากอีกด้าน
จิวโมไป๋หมุนตัวลงที่กิ่งไม้ใหญ่ จากนั้นเขาก็ใช้ท่าร่าง เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วไปตามต้นไม้และพุ่งออกไปทันที ไม่สนใจที่จะต่อสู้
ด้านหลังของเขา บนต้นไม้ชายชุดเขียว สามคนปรากฏตัวขึ้น พวกเขาใช้ท่าร่างไล่ตามจิวโมไป๋
แต่จิวโมไป๋ไม่สนใจพวกเขา เร่งความเร็วเคลื่อนไหวผ่านต้นไม้ที่ขวางทาง เพียงไม่กี่พริบตาร่างของจิวโมไป๋ก็หายไปจากสายตาของผู้ไล่ล่า
ศิษย์นอกที่ไล่ตามต่างตกตะลึง ตระกูลฟงขึ้นชื่อเรื่องมีวิชาดาบและท่าร่างอันรวดเร็ว มีเพียงไม่กี่กองกำลังที่สามารถมีความเร็วทัดเทียมกับพวกเขาได้ แต่ท่าร่างของจิวโมไป๋ดูเหมือนว่าจะเหนือกว่าพวกเขาไปอีก!
พวกเขากัดฟัน ใช้ท่าร่างที่เร็วที่สุดของพวกเขา ไล่ตามอย่างดุเดือด
จิวโมไป๋เคลื่อนตัวผ่านป่าไม้ ใกล้พ้นป่าพายุคลั่งเรื่อยๆ จนเหลืออีกแค่ 200 เมตร เขาก็มองเห็นหมอกสีขาวสูง 10 เมตรปกคลุมหุบเหวพายุคลั่งจากระยะใกล้ มองผ่านๆเหมือนกำแพง
แต่ก่อนที่เขาจะได้ออกจากป่าพายุคลั่ง ก็มีศิษย์นอกสามคน ยืนขวางตรงหน้า
พวกเขาทั้งสาม ต่างถืออาวุธ ยืนรอจิวโมไป๋เพื่อต่อสู้ตรงๆ ไม่ซ่อนตัวเหมือนคนที่ผ่านๆมา
จิตสัมผัสของจิวโมไป๋ขยายออก เขาลอบยิ้มในใจ เขาใช้ความเร็วเท่าเดิมไม่ชะลอตัวลง
“หยุด!”ศิษย์นอกชายคนแรกร้องตะโกนเสียงดัง ก่อนที่เขาและอีกสองคนจะระเบิดพลังกดดันพร้อมกัน
คลื่นพลังกดดันของพวกเขาผสานกันเหมือนกำแพง ตั้งประจันหน้ากับจิวโมไป๋
ถ้าจิวโมไป๋ไม่ลดความเร็ว แม้จะไม่บาดเจ็บ แต่มันก็จะทำให้เขาสูญเสียการเคลื่อนไหวไปชั่วขณะ มันจะสร้างโอกาสให้พวกเขาได้โจมตี
จิวโมไป๋รู้ความตั้งใจของทั้งสาม แต่เขาไม่คิดที่จะชะลอความเร็ว ก่อนที่ร่างของเขาจะถึงระยะกำแพงพลังกดดัน เขาก็ยกพลองสีทองขึ้นและปาออกไปสุดแรง พลังกดดันของเขาหลอมรวมไปที่พลองสีทอง เกิดไอร้อนแผ่ออกมา พลองสีทองแหวกสายลมตรงดิ่งไปหาทั้งสาม!
ใบหน้าของทั้งสามคนพลันเปลี่ยนไป พวกเขาสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามอันตรายจากพลองสีทอง ที่กำลังพุ่งเข้ามา พวกเขาพลันเคลื่อนไหวแทบจะพร้อมกัน กระโดดหลบออกไปด้านข้าง
กำแพงพลังกดดันของพวกเขาสลายออก
ปัง! พลองสีทองจมลึกลงพื้นอย่างน่ากลัว
จิวโมไป๋ทะยานร่างเข้าไปอย่างรวดเร็ว
“พวกงี่เง่าเอ๊ย!”เสียงสบถไม่พอใจตั้งขึ้นจากทางขวา
“โจมตีพร้อมกัน อย่าให้ผ่านไปได้!”ก่อนที่เสียงสั่งการที่เหมือนกันจะดังมาจากทางซ้าย แทบจะในทันที เสียงพวกนี้เหมือนจะสร้างความสับสน
แต่จิวโมไป๋ไม่วอกแวก เขาไปถึงที่พลองสีทองที่ปักอยู่ เขาก็หยุดเท้าอย่างฉับพลัน แต่เพราะความเร็วทำให้ร่างของเขาไถลไปสี่เมตรก่อนจะหยุด หน้าพลองสีทองพอดี เขาเอื่อมมือไปจับ
ฟุบ ฟุบ ฟุบ มีดสั้นนับไม่ถ้วนโจมตีพร้อมกันจากทางด้านซ้ายและขวา ในเวลาเดียวกันก็มีร่างในชุดสีเขียวสิบคนทะยานออกจากสองข้างทาง ตามมีดสั้นไปติดๆ
จิวโมไป๋มองมีดสั้นที่พุ่งเข้ามาตาไม่กระพริบ เขากระทืบเท้าลงพื้นอย่างแรง พื้นแตกร้าวราวกับใยแมงมุม ก่อนที่เขาจะใช้พลองสีทองงัดพื้นดินที่แตกออก และโยนพวกมันไปรอบๆ สร้างกำแพงดินอย่าง่ายๆขึ้น
แต่กำแพงดินที่สร้างอย่างกะทันหัน มันไม่สามารถป้องกันมีดสั้นได้จริงๆ
มีดสั้นทะลวงผ่านกำแพงดินเข้ามา
ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก กำแพงดินพังทลายฝุ่นควันกระจัดกระจาย ปกคลุมพื้นที่โดยรอบ
ศิษย์นอกที่ไล่ตามมีดสั้นหยุดเท้าและกระจายกันล้อมกลุ่มฝุ่นควัน
คลื่นนนน วูบ วูบ วูบ อยู่ๆพื้นดินก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เหล่าศิษย์ตัวสั่นคลอน พวกเขาประคองตัวเองมองไปในกลุ่มควัน ก็เห็นเส้นสีดำเคลื่อนไหวอย่างแปลกประหลาด
คลื่นนน! ก่อนที่พวกเขาจะตั้งตัว รากไม้ขนาดเท้าขาผู้ชายนับสิบเส้น ก็พุ่งออกมาโจมตีกวาดร่างของพวกเขา ราวกับตบแมลง พวกเขากระเด็นกระดอนออกไปอย่างหมดสภาพ
คนที่กำลังตามมาหยุดชะงัก แต่ก็ช้าไป รากไม้พุ่งเข้าโจมตีใส่พวกเขาอย่างรวดเร็ว
คนที่อยู่ไกลออกจากระยะการโจมตี ยืนตะลึงด้วยความตกใจ แต่พวกเขาไม่ถอย สองมือกระชับอาวุธแน่น
แต่ในตอนนั้นเอง ต้นไม้รอบๆพลันสั่นไหว กิ่งไม้ด้านบนฟาดลงมาใส่ร่างของพวกเขาอย่างกะทันหัน จัดการพวกเขาอย่างรวดเร็ว
เพียงไม่ถึง 30 วินาที จิวโมไป๋ก็สามารถจัดการพวกเขาได้จนหมดสิ้น
จิวโมไป๋มองเวลาผ่านไป 14 นาที เหลือเวลาอีกมากกว่าครึ่ง เขาจึงมุ่งหน้าไปต่อ เขาออกจากป่าพายุคลั่ง ก็เป็นพื้นที่กว้าง 200 เมตร ก่อนถึงหุบเหวพายุคลั่ง
จิวโมไป๋วิ่งไปอย่างช้าๆ สายตามองไปยังหมอกขาวเทา ที่ปกคลุมหุบเหวพายุคลั่ง เขาไม่ใช้ท่าร่างเหมือนกับรออะไรบางอย่าง
เมื่อเขาวิ่งไปเกือบครึ่งทาง อยู่ๆเขาก็ยกพลองสีทองขึ้นพลังกดดันไปรวมกันที่พลองสีทอง ก่อนที่เขาจะฟาดลงพื้นอย่างรุนแรง
ตูม! พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ดินใต้เท้าของเขายุบลงครึ่งเมตร กว้างกว่า 20 เมตร
“อ๊าาาากกก”เสียงกรีดร้องแผ่วเบาดังออกมาจากใต้พื้นดิน
จิวโมไป๋ใช้สองมือประกบที่อกแสงสีเขียวเข้มส่องสว่าง ที่กลางฝ่ามือทั้งสอง ก่อนจะคุกเข่าและวางมือลงกับพื้น
พื้นดินตรงฝ่ามือแตกออก เถาวัลย์เส้นเท้านิ้วก็ผุดขึ้นจากพื้นดินและขยายออกไป ก่อนที่พวกมันจะดึงร่างของศิษย์นอกประมาณ 5 คนที่หมดสติขึ้นจากพื้นดิน
จิวโมไป๋เดินไปหาพวกเขา ก็พบว่ากระดูกบางส่วนถูกทำลาย เขาจึงวางฝ่ามือบนร่างของพวกเขา และใช้กฎแห่งธาตุไม้รักษาบาดแผล และเชื่อมต่อกระดูกบางส่วน
ที่เขาเสียเวลารักษา ก็เพราะว่า กระดูกเป็นชิ้นส่วนของร่างกายที่สำคัญ ถ้ากระดูกเสียหายและรักษาไม่ทัน กระดูกอายผิดรูป ทำให้การเคลื่อนไว้ไม่เหมือนเดิม และถ้าปล่อยไว้นานจะเกิดบาดแผลมืด ทำให้ความแข็งแกร่งถดถอย แม้ว่าในปัจจุบันจะมีเทคโนโลยี่รักษาที่ดี แต่มันก็ไม่สามารถรักษาได้เต็มร้อย
และเขาไม่อยากถูกคิดบัญชีย้อนหลัง ถ้าเขาทำให้ศิษย์ของพวกเขาสูญเสียความสามารถ