ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 558 มนุษย์ต้นไม่ยักษ์!
“ถ้าพร้อมแล้ว พวกเราก็มาเริ่มการต่อสู้กันเถอะ”ถังเตี่ยวหย่งเคลื่อนร่างปิดร่างของชายหนุ่มจากสายตาของจิวโมไป๋
ก่อนที่กฎแห่งธาตุลมสีเขียวอ่อนจะห่อหุ้มร่างของเขา ราวกับเสื้อคลุมสายลม พลังกดดันอันทรงพลังแผ่พุ่งออกมาอย่างรุนแรง สายลมหมุนวนราวกับพายุอันบ้าคลั่ง เศษฝุ่นและหินปลิวไปตามแรงลม
จิวโมไป๋หรี่ตาลงหลบสายลมที่พัดเข้ามา
ในตอนนั้นเองถังเตี่ยวหย่งก็ทะยานตรงไปหาจิวโมไป๋ด้วยความเร็วสูง
จิวโมไป๋ใช้มือซ้ายยกพลองสีทองขึ้น ตั้งท่าเตรียมต่อสู้
“มองไปทางไหน”อยู่ๆเสียงของถังเตี่ยวหย่งก็ดังขึ้นที่ข้างหูอย่างกะทันหัน ใบหน้าของจิวโมไป๋พลันเปลี่ยนไป ก่อนจะกลับมาเป็นปรกติอย่างรวดเร็ว เขาไม่หันกลับไปมอง แต่ทะยานร่างไปข้างหน้า!
ถังเตี่ยวหย่งประหลาดใจเล็กน้อย ที่จิวโมไป๋สามารถมองผ่านวิชาสร้างเสียงของเขาได้อย่างรวดเร็ว ถ้าเป็นคนธรรมดา ถ้าเกิดอยู่ๆมีเสียงของคู่ต่อสู้ตรงหน้า ดังขึ้นที่ด้านหลังของตัวเอง เกือบ 90% จะต้องเกิดความสับสนไปชั่วขณะ และถ้าคนที่ไม่ระวังอาจจะหันกลับไปมอง ซึ่งมันจะเปิดโอกาสให้ เขาใช้ความเร็วเข้าประชิดตัวในชั่วพริบตา และจัดการฝ่ายตรงข้ามอย่างรวดเร็ว
นี้เป็นแผนที่เขาใช้เมื่อต่อสู้กับคู่ต่อสู้ทุกครั้ง และมันทำให้เขาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ที่ไม่ทันระวังอย่างง่ายดาย
แต่จิวโมไป๋ไม่สนใจเสียงด้านหลังและพุ่งตรงเข้ามาอย่างไม่ลังเล การตัดสินใจในชั่วพริบตา แสดงให้ถึงความฉลาดของจิวโมไป๋
ถังเตี่ยวหย่งยังคงวิ่งตรงไปโดยไม่ลดความเร็ว ก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆเขาปอด ก่อนจะเป่าลมออกไป สายลมบีบอัดเป็นเข็มนับพันพุ่งไปข้างหน้า
ฟุบ ฟุบ ฟุบ ฟุบ
จิวโมไป๋มองเข็มที่พุ่งเข้ามา ใช้มือซ้ายข้างเดียวควงพลองสีทองเป็นวงกลมปัดเข็มสายลมทั้งหมดออกไป ก่อนที่พวกเขาทั้งจะเข้าประจันหน้ากันในอึดใจต่อมา
จิวโมไป๋ฟาดพลองไปที่หัวขอถังเตี่ยวหย่งอย่างไม่ยังมือ พลังกดดันอันทรงพลังสร้างเงาเสายักษ์ฟาดออกไป
แต่ก่อนที่พลองจะกระทบถูกร่าง ถังเตี่ยวหย่งก็ใช้ความเร็วอันน่าตกใจโยกร่างหลบไปด้านข้าง และยกมือขึ้นและชี้นิ้วไปที่หัวใจของจิวโมไป๋ กฎแห่งธาตุลมหลอมรวมสายลมโดยรอบ และบีบอัดนิ้วชี้ ก่อนจะพุ่งออกไปราวกับลำแสงสีเขียวอ่อน
จิวโมไป๋หรี่ตาลงก่อนจะยกพลองสีทองขึ้นป้องกัน
เปรี้ยง! ร่างของจิวโมไป๋ถอยไปสามก้าว ใบหน้าของเขาพลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ถังเตี่ยวหย่งไม่ปล่อยให้จิวโมไป๋ได้ตั้งตัว นิ้วชี้ของเขายกขึ้น ลำแสงสีเขียวอ่อนโจมตีออกไปในชั่วอึดใจ
จิวโมไป๋ฟาดพลองสีทองไปที่ลำแสง
เปรี้ยง! ร่างของจิวโมไป๋ถอยไปอีกสองก้าว มือซ้ายของเขามีความรู้สึกช้าเล็กน้อย
วิชานิ้วของถังเตี่ยวหย่งไม่ใช้วิชาธรรมดาอย่างแน่นอน!
จิวโมไป๋ใช้ความคิด เขาสัมผัสได้ว่าวิชานิ้วของถังเตี่ยวหย่งแฝงไปด้วยความหมายหมุนวนอันลึกซึ้ง ความหมายหมุนวน มันช่วยเพิ่มแรงกระแทก มากกว่าปรกติถึง 3 เท่า!
ไม่แปลกเลยที่ร่างของเขาจะถูกกระแทกและมือมีอาการชา
ถังเตี่ยวหย่งสังเกตเห็นว่าจิวโมไป๋ กำลังทำความเข้าใจวิชาดรรชนีทะลวงเมฆของตัวเอง และดูเหมือนจะเข้าใจความหมายหมุนวนแล้วด้วย เขาก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชม เพียงแค่สองการโจมตีก็สามารถเข้าใจการโจมตีของเขาแล้ว
ระดับความเข้าใจของจิวโมไป๋ ช่างแข็งแกร่งจนน่ากลัว!
พึบ พึบ เงาสองร่างพุ่งทะยานมาด้วยความเร็วสูงเข้ามาจากทางซ้ายและทางขวาของจิวโมไป๋
โดยไม่หันไปมอง จิวโมไป๋ควงพลองสีทองเป็นวงกลม
เหมิงฉีฉีทะยานร่างเข้ามาราวกับลอยอยู่กลางอากาศ สายลมเหมือนพื้นให้เธอเหยียบย้ำ หญิงสาวร่ายรำกระบี่สั้นฟาดฟันไปกลางอากาศ สร้างคลื่นกระบี่นับไม่ถ้วนโจมตีจิวโมไป๋อย่างละลานตา
แม้คลื่นกระบี่จะไม่รวดเร็วและแหลมคมที่สุด แต่เงากระบี่โจมตีเข้าใส่จากแง่มุมอันน่าพิศวง ยากต่อการหลบหลีกหรือป้องกัน ทำให้จิวโมไป๋ไม่สามารถหลบได้ ต้องตั้งรับโดยตรงเท่านั้น!
เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง ทุกครั้งที่คลื่นกระบี่ถูกทำลาย จะเกิดสายลมรุนแรงปกคลุมร่างของจิวโมไป๋ เมื่อเขาทำลายคลื่นกระบี่ไปเกือบหมด ร่างของจิวโมไป๋ก็ถูกสายลมบีบรัด จนไม่สามารถหลบไปไหนได้!
“รับมือ!”ฉินฟู่หานที่กระโดดสูงเหนือพื้นเกือบแปดเมตรร้องตะโกนเตือน ก่อนจะฟันดาบ ส่งคลื่นดาบสายลมขนาดใหญ่เกือบ 10 เมตรผ่าลงมาจากด้านบน
ใบหน้าของจิวโมฉายแววตึงเครียด ดวงตากรอกไปมาอย่างรวดเร็ว หาทางหลบหนี แต่เขาไม่สามารถถอยหลังหรือหลบไปทางซ้ายหรือขวาได้ เพราะสายลมโอบล้อมร่างกาย ขังเขาเอาไว้
ก่อนที่เขาจะกัดฟันแน่น ตัดสินใจพุ่งตัวไปข้างหน้า เข้าใส่เงากระบี่ของเหมิงฉีฉี พลองสีทองส่องสว่างเจิดจ้าก่อนจะฟาดออกไปอย่างรุนแรงรับคมกระบี่ที่เหลือตรงหน้า
เปรี้ยง! คลื่นพลังสาดกระจายออกไปโดยรอย พื้นสนามประลองถูกทำลายเป็นชิ้นๆ
ฟุบ จิวโมไป๋กลิ้งไปบนพื้น ร่างกายเต็มไปด้วยแผลเล็กๆจำนวนมาก
ตูมมมม! คลื่นดาบของฉินฟู่หานฟันลงพื้นแบ่งสนามประลองเป็นสองส่วนอย่างน่าสะพรึงกลัว จิวโมไป๋ลุกขึ้นและพุ่งทะยานเข้าหาเหมิงฉีฉีโดยไม่หันไปมองด้านหลัง
แต่ยังไม่ทันทีเขาจะได้ไปไกล
ถังเตี่ยวหย่งก็ทะยานเข้ามาขวาง มือขวาของเขามีลูกบอลพลังงานสีเขียวอ่อนหมุนวนด้วยความเร็วสูง ก่อนที่เขาจะเหวี่ยงลูกพลังงานออกมา
ลูกบอลพลังงานสีเขียวอ่อน พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง แต่เมื่อผ่านไปได้ครึ่งทางมันก็แตกออกเป็นลำแสงนับสิบเส้น ทวีความเร็วขึ้นเป็นเท่าตัวโจมตีเข้าใส่จิวโมไป๋!
จิวโมไป๋กระทืบเท้าส่งตัวเองลอยหลบลำแสง
ตูม ตูม ตูม ตูม ลำแสงสีเขียวอ่อนทำลายสนามประลองเป็นหลุมลึก
“ตาย”ฉินฟู่หานอีกครั้งร้องตะโกน ดาบยาวฟันออกคลื่นสายลมดาบตัดฉับ ฟันผ่านห้วงอากาศเข้าใส่ร่างของจิวโมไป๋ที่ลอยอยู่กลางอากาศ
จิวโมไป๋ไม่มีท่าทางหวาดกลัว เขายกมือซ้ายขึ้นกฎแห่งธาตุไม้ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง ส่องแสงสีเขียวเข้มเจิดจ้า ก่อนที่เถาวัลย์จะไหลออกจากมือแตกระแหงเป็นร้อยๆเส้นขยายออก ปกคลุมเบื้องหน้าของเขา รับการโจมตีของฉินฟู่หาน
ฉัวะ! เถาวัลย์ถูกตัดออกอย่างง่ายดาย แต่ร่างของจิวโมไป๋พลันหายไปจากสายตา
วูบ จิวโมไป๋ปรากฏตัวขึ้นเบื้องล่าง แสงสีเขียวเข้มปกคลุมร่างของเขา ก่อนที่เขาจะกระทืบพื้น แสงสีเขียวเข้มไหลไปทั่วสนามประลอง
คลืนนนน ตูม ตูม ตูม รากต้นไม้สีน้ำตาลเข้มแทงขึ้นจากพื้นอย่างดุเดือด เข้าโจมตีทั้งสามคนอย่างรุนแรง
ฉินฟู่หายที่กำลังเข้าโจมตีจิวโมไป๋ ต้องหยุดชะงักและฟาดฟันดาบยาวตัดรากไม้ที่โจมตีเข้ามา และกระโดดไปตามด้านข้างของรากไม้
ถังเตี่ยวหย่งห่อหุ้มด้วยกฎแห่งธาตุลมเตะขาด้วยความเร็วสูง สร้างมีดสายลมตัดรากไม้เป็นชิ้นๆ เขาทะยานร่างพุ่งตรงเข้าหาจิวโมไป๋
เหมิงฉีฉีไม่หลบหนี เธอยืนอยู่กับที่และฟาดฟันกระบี่สั้นเหมือนร่ายรำ สร้างคลื่นกระบี่จำนวนมากตัดรากไม้ที่เข้าใกล้เธอ รอบร่างของเธอมีเศษซากรากต้นไม้กองอยู่นับไม่ถ้วน
“บัดซบ! เขามีพลังธาตุไม้มากขนาดไหนกัน!”ฉินฟู่หานหลบรากไม้ไปมาพร้อมกับมองจิวโมไป๋ด้วยความอิจฉา รากพวกนี้มีจำนวนเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด มันต้องกินพลังธาตุไม้ของจิวโมไป๋จำนวนมากแน่ๆ แต่จิวโมไป๋สามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่องและดูเหมือนจะไม่หมดแรง
จิวโมไป๋กวาดตามองไปมาก่อนจะกระทึบเท้าส่งพลังธาตุไม้ลงไปอีกครั้ง พลังธาตุไม้ที่เขากำลังส่งไปมากกว่าก่อนหน้าหลายเท่า ใบหน้าของเขาค่อยๆซีดเผือด แต่เขาก็ยังส่งพลังธาตุไม้ลงไปต่อไม่หยุด
ฟุบ ถังเตี่ยวหย่งพุ่งทะยานเข้ามาด้วยท่าร่างอันรวดเร็ว จนทิ้งเงาเลือนรางไว้เบื้องหลัง เขายกมือขึ้นกฎแห่งธาตุลมหลอมรวมสายลมโดยรอบ สร้างค้อนสายลมยักษ์สองเมตร ก่อนจะเหวี่ยงค้อนไปที่จิวโมไป๋
จิวโมไป๋เงยหน้าขึ้น พลังกดดันอันทรงพลังปะทุออกจากร่างจนชั้นบรรยากาศบิดเบี้ยว
เปรี้ยง! พื้นสนามประลองแตกออกก่อนที่รากไม้ขนาดใหญ่สามอันจะทะลุจากพื้นดินขึ้นมา
ค้อนสายลมกระแทกเข้าที่รากไม้ตรงหน้าของเขาอย่างจัง
ตูม! เปรี้ยง! คลื่นสายลมหมุนทะลวงอย่างรุนแรง รากไม้ยักษ์บิดเบี้ยวก่อนจะหักครึ่งและล้มฟาดลงพื้น
โครม!
ถังเตี่ยวหย่งหอบหายใจเล็กน้อย รูปแบบค้อยสายลมเขายังไม่ชำนาญมันกินพลังงานของเขาจำนวนมาก เขามองจิวโมไป๋ที่ใบหน้าซีดเผือด เขาก็รู้ว่าการต่อสู้ใกล้จะจบลงแล้ว
แต่ในตอนนั้นเอง รากไม้ยักษ์อีกสองอันก็แยกกันไปหาฉินฟู่หานและเหมิงฉีฉี
การเคลื่อนไหวของพวกมัน ทำให้พื้นสนามประลองสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ถังเตี่ยวหย่งขมวดคิ้ว สัญชาตญาณของเขาร้องบอกว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ แต่เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร เขาทะยานร่างเข้าหาจิวโมไป๋ เพื่อจบการต่อสู้
แต่ในตอนนั้นเอง รากไม้ยักษ์ที่เขาคิดว่าถูกทำลาย ก็เหวี่ยงรากยาวขึ้นและฟาดเข้าที่ร่างของเขาที่ลอยอยู่กลางอากาศอย่างจัง!
ผัวะ! ร่างของถังเตี่ยวหย่งกระเด็นไปหลายเมตร ก่อนที่เขาจะหมุนร่างและยันตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เสื้อผ้าของเขากระเซอะกระเซิงเล็กน้อย โชคดีที่เขาไหวตัวทัน ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องถูกรากไม้ยักษ์ฟาดเต็มแรงอย่างแน่นอน
คลืนนนน รากไม้ยักษ์ทะลวงผ่านพื้นสนามประลองพุ่งเข้ามาหาเขา ถังเตี่ยวหย่งยกมือปัดร่างกายเตรียมพร้อมที่จะใช้ความเร็วผ่านรากไม้ยักษ์
แต่ในตอนนั้นเอง กฎแห่งธาตุไม้สีเขียวเข้มก็เปล่งประกายอาบรากไม้ยักษ์ ความรู้สึกอันตรายแผ่ซ่านออกมาอย่างรุนแรง
รากไม้นับไม่ถ้วนที่อยู่บนพื้นพุ่งเข้าหารากไม้ยักษ์ทั้งสาม ที่กำลังไล่ตามศิษย์หลักทั้งสามคน
ก่อนที่พกวกมันจะม้วนตัวรวมเข้าหากัน ขนาดของรากไม้ค่อยๆใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ พลังกดขี่อันทรงพลังก็ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่จะรากไม้ยักษ์ทั้งสามจะกลายเป็นมนุษย์ต้นไม้สูง 7 เมตร 3 ตัว!
มนุษย์ต้นไม้สีน้ำตาลเข้ม ส่วนหัวมีรูปทรงเหมือนใบหน้ามนุษย์แต่ไร้ดวงตา ร่างขนาดใหญ่โตทรงพลัง แขนขาใหญ่และยาวราวท่อนซุง ข้อต่อสามารถบิดได้รอบทิศทาง ผิวมนุษย์ต้นไม้มีรอยเหี่ยวย่น ดูเก่าแก่โบราณ
“หึมมมมม”มนุษย์ต้นไม้ยักษ์ทั้งสามส่งเสียงออกมาราวกับสัตว์ร้องคำราม
ดวงตาของถังเตี่ยวหย่ง เหมิงฉีฉี ฉินฟู่หานและเหล่าผู้ชมต่างเบิกกว้างด้วยความตกใจ
“มนุษย์ต้นไม้พวกนี้มีชีวิต!”