ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 603 การพัฒนาอันรวดเร็วของบริษัทเนบิวลา
หลังจบงานแสดงสินค้า กำไลข้อมือ NL 1 ได้ออกสู่สายตาของผู้คนในประเทศมังกร ด้วยการประมวลผลที่เร็วกว่ากำไลข้อมือที่ดีที่สุดในท้องตลาดถึง 30% หลังจากที่เทคโนโลยี่กำไลข้อมือสื่อสาร หยุดชะงักมาหลายปี
ทำให้กำไลข้อมือ NL 1 กลายเป็นที่นิยมในทันที
โดยเฉพาะเกมส์ต่อสู้ความรู้สึกเสมือนจริง มันได้รับความสนใจอย่างมาก
เพียง 1 วันหลังจากที่กำไลข้อมือ NL 1 ได้ส่งถึงมือผู้สั่งจองสินค้า ได้มีสตรีมเมอร์จำนวนมาก ทำการถ่ายทอดสดแสดงเกมส์ต่อสู้ความรู้สึกเสมือนจริง ในสื่อวีดีโอต่างๆ
ทำให้กำไลข้อมือกลายเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
ในเวลาไม่ถึง 4 วัน สนามต่อสู้และบริเวณที่มีลานกว้าง ในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ เต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังต่อสู้กับโฮโลแกรมเสมือนจริง
กลุ่มผู้คนมุ่งดูและร้องตะโกนเชียร์ด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ
การต่อสู้เสมือนจริงกลายเป็นกีฬาใหม่ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากทุกคน
กราฟมูลค่าของบริษัทเนบิวล่าเพิ่มขึ้นเป็นเส้นตรง กลายเป็นขนมหวานแสนอร่อย ที่ทุกคนต้องการที่จะกลืนกิน
ยังดีที่ในเวลานี้เอง รัฐบาลได้เข้าพบจิวโมเทียน เพื่อขอความร่วมมือ ในการใช้เกมส์ต่อสู้ความรู้สึกเหมือนจริง ให้กับทหารที่ไม่มีประสบการณ์ต่อสู้ เพื่อฝึกฝนพวกเขา ผ่านการต่อสู้จำลอง
บริษัทเนบิวล่าตกลงร่วมมือ และส่งกำไลข้อมือรุ่นพิเศษ ที่ดีกว่ากำไลข้อมือ NL 1 ที่วางขายในท้องตลาดให้กับรัฐบาล ในราคาต้นทุน
ทำให้บริษัทเนบิวล่าได้รับการคุ้มครองจากรัฐบาล กองกำลังที่ต้องการใช้วิธีชั่วร้าย เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งของบริษัทเนบิวล่า ต้องยั้งมือไม่กล้าทำอะไรรุนแรง ต้องกับไปใช้วิธีปรกติ เข้าหาบริษัทเนบิวล่าโดยตรงและทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อหุ้นของบริษัท
แต่บริษัทเนบิวล่าในเวลานี้ไม่ต้องการเงินจากกลุ่มการลงทุนใดๆ เงินที่จิวโมไป๋มอบให้ มากพอที่บริษัทจะสามารถหมุนเงินได้ทัน
และด้วยความช่วยเหลือของบริษัทถังหยาง การผลิตกำไลข้อมือ NL 1 ผลิตได้ทันต่อการสั่งซื้อจากคนทั้งประเทศ
ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาใดๆ ที่จำเป็นต้องรับเงินจากกลุ่มการลงทุนอื่นๆ
กลุ่มการลงทุนเหล่านี้ ได้แต่มองมูลค่าของบริษัทเนบิวล่าที่เพิ่มขึ้นไม่หยุดด้วยความอิจฉาตาร้อน
บริษัทถังหยาง
ถังซื่อเหยาอ่านรายงานที่เลขาของเธอส่งมา ด้วยความรู้สึกเสียดาย ที่เธอพลาด ไม่ยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนหุ้นกับบริษัทเนบิวล่า ในตอนที่เธอเสนอความร่วมมือ แม้จะได้รับเพียงไม่กี่ % ของหุ้น มันก็คุ้มที่จะแลกเปลี่ยน
ในเวลาไม่กี่วันมูลค่าหุ้นของบริษัทเนบิวล่าเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า ถ้าบริษัทเนบิวล่าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต มูลค่าของมันก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า
เธอสามารถคาดเดาได้เลยว่าในอนาคต บริษัทเนบิวล่าจะกลายเป็นระดับโลก มูลค่าหลักล้านล้านเครดิตได้
ถังซื่อเหยาถอนหายใจ ก่อนจะกดติดต่อไปยังฮั่วหวูเหยา เพื่อขอนัดทานอาหารด้วยกัน
ฮั่นหวูเหยาตอบรับทันที เธอชื่นชอบถังซื่อเหยาอยู่แล้ว
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เข้าสู้วันสิ้นปีใหม่
หิมะสีขาวปกคลุมทั่วประเทศมังกร
ห้องวิจัยลัย
“ในที่สุดก็สำเร็จ”จิวโมไป๋ถอนสายตาออกจากจอโฮโลแกรม และยกมือนวดที่ตาสองข้างเบาๆ เพื่อคลายความอ่อนล้า ใบหน้าของจิวโมไป๋โทรมเล็กน้อย ผมฟูไม่ได้จัดทรงให้เรียบร้อย
“เสร็จแล้วเหรอ? ผลเป็นยังไง?”จางฟูที่นั่งอยู่ข้างๆหันมาถาม สภาพของเขาโทรมกว่าจิวโมไป๋ แต่เขาไม่แสดงท่าทางอ่อนแอตามอายุ เขายังกระฉับกระเฉงเต็มไปด้วยพลัง
“ครับ ยาพันธุกรรมตัวนี้ มันสามารถแก้ไขข้อบกพร่องของยีนโรคมะเร็งได้จริงๆ”จิวโมไป๋พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเล็กน้อย ความเหนื่อยล้าจากการทำงานตลอดสัปดาห์หายไปทันที
หลังจากที่พวกเขาพบว่ายาพันธุกรรม ทำให้พันธุกรรมเสียหาย ไม่สามารถใช้ได้ พวกเขาจึงคิดที่จะใช้ยาพันธุกรรมในเส้นทางที่อ่อนโยน
แต่หลังจากที่พวกเขาทดลองได้ไม่นาน พวกเขาก็พบว่า พวกเขาคิดง่ายเกินไป
ยีนพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต เป็นเรื่องลึกลับที่ยากจะทำความเข้าใจ และด้วยเทคโนโลยี่ในปัจจุบัน ที่ยังไม่ก้าวหน้าเพียงพอ มันจึงยากที่พวกเขาจะทำการวิจัยได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่พลาดรายละเอียดใดๆ
พวกเขาใช้เวลาหลายวัน ก็พบทางตัน ไม่สามารถผ่านไปได้
ยาพันธุกรรม แม้จะทำให้อ่อนโยนที่สุด มันก็ยังส่งผลกระทบต่อคนรุ่นต่อๆไปอยู่ดี
แม้ผลกระทบจะมีเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อถึงรุ่นต่อๆ มันจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนระเบิดในรุ่นใดรุ่นหนึ่ง
พูดได้ว่าไม่มีทางที่เมื่อปรับปรุงยีนพันธุกรรมแล้ว จะไม่ส่งผลต่อพันธุกรรมของคนรุ่นต่อไป
พวกเขาจึงได้แต่งมเข็ม ทดลองทุกๆความเป็นไปได้
จนกระทั้งพวกเขาได้ความคิดบางอย่าง
ถ้าไม่ซ่อมแซมยีนพันธุกรรมที่อ่อนด้อย แต่เป็นการกำจัดยีนพันธุกรรมอันตรายโดยตรงไปเลย ผลของมันจะเป็นยังไง?
พวกเขาก็กลับมาทำการวิจัยใหม่อย่างแข็งขัน
ยีนพันธุกรรมอันตรายที่พวกเขากำลังพูดถึงก็คือ ยีนโรคมะเร็ง!
ยีนโรคมะเร็งมีหลายชนิด มีแบบที่เป็นเฉพาะบุคคล และมียีนโรคมะเร็งที่สามารถส่งต่อไปยังรุ่นต่อไป ยีนโรคมะเร็งเหล่านี้เป็นอันตรายถึงตาย แม้จะไม่ตาย แต่ก็ต้องได้รับการรักษาอยู่เสมอ เพื่อประคองอาการ ไม่ให้กลับมาใหม่หรือทรุดตัวลง
ในปัจจุบัน มีผู้คนจำนวนมากเป็นโรคมะเร็ง เพิ่มมากขึ้นทุกปี เหตุผลการเป็นโรคมะเร็งอาจไม่ได้เป็นเพราะยีนโรคมะเร็งโดยตรง อาจเป็นเพราะสิ่งแวดล้อมของโลกในปัจจุบัน ที่ส่งผลกระทบต่อมนุษย์และสัตว์
แต่มันไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ยีนโรคมะเร็งเป็นยีนอันตรายที่สามารถส่งต่อไปยังรุ่นต่อไปได้
เพราะเหตุนี้เอง ทำให้พวกเขามีความคิดว่า ถ้าพวกเขากำจัดยีนโรคมะเร็งได้ แม้ผลกระทบของยายีนพันธุกรรม จะยังส่งต่อไปยังรุ่นต่อๆไป
แต่ถ้าพวกเขาสามารถควบคุมผลกระทบของมัน ทำลายเพียงแค่ยีนโรคมะเร็งเท่านั้น ผลประโยชน์ที่ได้จะมีมากมายมหาศาล
ผู้ป่วยโรคมะเร็งนับไม่ถ้วนจะได้รับการรักษา ในอนาคตจะไม่มีใครเป็นโรงคมะเร็งอีกต่อไป!