ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 79
แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านหน้าต่างเข้ามากระทบร่างกาย ทำให้จิวโมไป๋ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ดวงตาของเขาทอประกายสีเงินจางๆ
จิวโมไป๋ลุกขึ้นจากเตียงแล้วยืนปิดร่างกายจนเสียงกระดูกดังกรอบแกรบ เสี่ยวไป๋ที่นอนขดตัวเป็นลูกบอลกลมๆสีขาวลายเงินแปลกตาอยู่บนเตียง ผงกหัวขึ้นอย่างงัวเงีย ดวงตาสีเขียวมรกตจ้องเขม่งมองจิวโมไป๋อย่างไม่พอใจ
“ขอโทษที”เห็นท่าทางไม่พอใจของเจ้าเหมียวจิวโมไป๋หัวเราะออกมาก่อนจะพูดขอโทษ แต่มือไม่วายลูบไล้ไปตามตัวที่ขดเป็นก่อนกลมอย่างอดไม่ได้
โฮกๆๆ
เสี่ยวไป๋ร้องคำรามเหมือนไม่พอใจ แต่ร่างกายขยุกขยิกไปมาอย่างพออกพอใจ ทำให้จิวโมไป๋อดขำไม่ได้
แกล้งเสี่ยวไป๋จนพอใจ จิวโมไป๋ก็เดินออกจากห้องแล้วลงมือเตรียมอาหารอย่างผ่อนคลายไม่เร่งรีบบ่มเพาะพลัง
ช่วง 1 เดือนมานี้ เขาใช้ร่างกายอย่างทารุณแทบไม่ได้พัก เมื่อตอนที่กล้องวงจรติดจับภาพผู้บุกรุกได้ เขาก็เร่งความเร็วเต็มขีดจำกัดผ่ากองทัพโครงกระดูกจำนวนนับไม่ถ้วน โดยใช้เวลา 3 วัน มันแทบจะทำให้เขาหมดสติ
ยังดีที่เขามียาเหลวฟื้นฟูพลัง ทำให้เขาฝืนออกมาได้และเขาต้องสู้กับ นักฆ่าและจี้หยางเฟยติดต่อกันมันทำให้เขาหมดแรงจริงๆ วันนี้เขาจะพักผ่อนไม่บ่มเพาะพลัง
แต่จะทำข่ายอาคมที่เขาวางไว้รอบเกาะให้เสร็จ
เมื่อคิดได้ดังนั้นจิวโมไป๋ก็ลงมือทำอาหารอย่างผ่อนคลาย ไม่เร่งรีบ อาหารที่ทำจึงอร่อยกว่าปกติ เจ้าเหมียวที่กินร้องคำรามในลำคอ ไม่หยุดและยอมให้จิวโมไป๋ลูบคลำมันเล่นโดยไม่ต่อต้าน
หลังทานอาหารเสร็จจิวโมไป๋ก็เดินสำรวจพื้นที่รอบเกาะโดดเดี่ยวโดยมีเสี่ยวไป๋วิ่งเล่นไปมาอย่างอารมณ์ดี
เมื่อเขาดูดซับเพลิงนิรันดร์ บรรยากาศน่าอึดอัดรอบเกาะค่อยๆหายไปอย่างช้าๆ ไม่กี่วันเกาะโดดเดี่ยวก็จะกลับมาเป็นเกาะปกติ เพราะไม่มีเพลิงนิรันดร์ ที่คอยดูดกลืนพลังชีวิตของสิ่งมีชีวิตบนเกาะอีก
จิวโมไป๋สำรวจเกาะและอาคารต่างๆ อย่างพอใจเขาอดไม่ได้ที่จะชื่นชมเจ้าของเกาะคนก่อนที่ปรับปรุงและสร้างอาคารสำนักให้หลอมรวมกับพื้นที่บนเกาะอย่างลงตัว
ส่วนต้นไม้ที่เขาปลูกเมื่อ 1 เดือนก่อน สภาพของพวกมันในตอนนี้ดูแห้งแล้งค่อยๆหมดพลัง ถ้าเขาดูดซับเพลิงนิรันดร์ช้ากว่านี้ พวกมันคงตายหมดแน่ๆ
จิวโมไป๋สำรวจไปครู่ใหญ่พลางวางแผนต่างๆ ไว้ในหัวก่อนจะปีนขึ้นไปที่หน้าผา
จากนั้นก็เดินไปยังจุดที่เขาวางข่ายอาคม ก่อนใช้พลังจิตวิญญาณระดับเงินต้น ส่งพลังจิตวิญญาณไปที่ข่ายอาคมอย่างช้าๆ
เมื่อตอนที่เขาเอาหยกแกะสลักมาวางไว้ตามจุดข่ายอาคม เขาก็วางแผนที่จะเปิดข่ายอาคม เมื่อพลังจิตวิญญาณถึงระดับเงินอยู่แล้ว ทำให้เขาไม่ต้องแก้ไขอะไร แค่ส่งพลังลงไปก็พอ
จิวโมไป๋สูดลมหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหลับตาส่งพลังจิตวิญญาณสีเงินให้ไหลไปตามจุดข่ายอาคมที่วางไว้เป็นวงกลม เมื่อเส้นแสงสีเงินวิ่งวนมาบรรจบกันอีกครั้ง มันก็พุ่งหมุนวนอีกหลายรอบจนสว่างขึ้นเรื่อยๆ
จิวโมไป๋โบกมือสองข้างอย่างรวดเร็ว จนเกิดเส้นแสงสีเงินเจิดจ้า ก่อนจะพลิกฝ่ามือลง
“ข่ายอาคมเมฆหมอกลวงตา เปิด!”จิวโมไป๋ส่งเสียงร้องเสียงดัง ก่อนที่ข่ายอาคมวงกลมจะส่องสว่าง แต่ไม่เจิดจ้าจนแสบตา มันนุ่มนวลอ่อนโยนจนแทบมองไม่เห็น แสงสีเงินค่อยๆไหลลงไปจากหน้าผา จากนั้นก็ครอบคลุมทั้งเกาะรวมทั้งทะเลสาบรอบเกาะระยะ 100 เมตร
จากนั้นทะเลสาบรอบเกาะโดดเดียวก็ค่อยๆเกิดหมอกสีขาวอ่อนเรือนลาง จนแทบมองไม่เห็น หมอกสีขาวส่วนมากค่อยๆลอยขึ้นไปทั่วเกาะโดดเดียว ไม่นานก็ปกคลุมจนหมด
ถ้าคนนอกมาเห็น จะเห็นเกาะโดดเดี่ยวธรรมดาที่อยู่ตรงกลางทะเลสาบ แต่ถ้าเป็นคนคุ้นเคยมาเห็นจะต้องแปลกใจเพราะเกาะโดดเดี่ยวเหมือนมีผ้าสีขาวบางๆมาปิดทับไว้
จิวโมไป๋ถอนหายใจเฮือกหนึ่งก่อนจะยิ้มออกมา
จากนี้เขาไม่ต้องกลัวกล้องจับภาพบนดาวเทียมอีกแล้ว เขาสามารถทำอะไรก็ได้บนเกาะโดดเดี่ยว
ข่ายอาคมเมฆหมอกลวงตา เป็นข่ายอาคมลวงตาที่เหมือนจะไร้ประโยชน์ คุณสมบัติของมันคือบิดเบือนระยะการมองเห็นเพียงเท่านั้น
เมื่ออยู่ใกล้ข่ายอาคมจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่ถ้าอยู่ไกลออกไปจะเริ่มเห็นภาพเลือนรางขึ้นเรื่อยๆ จนเห็นเป็นหมอกสีขาวปกคุมทั่วเกาะ
มันก็ไม่แปลกอะไรที่ยิ่งไกลยิ่งเห็นไม่ชัดมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
แต่ผลของข่ายอาคมนี้มันส่งผลถึงอุปกรณ์มองระยะไกลทุกชนิด รวมถึงกล้องดาวเทียม ที่ลอยอยู่นอกโลกมันไม่สามารถมองผ่านข่ายอาคมได้เลย
ทำให้ข่ายอาคมเมฆหมอกลวงตากลายเป็นข่ายอาคมที่มีประโยชน์สุดๆในการป้องกันการสอดแนม
ในอนาคตข่ายอาคมเมฆหมอกลวงตา จึงกลายเป็นข่ายอาคมที่สำนัก หรือ ตระกูลต่างๆขาดไม่ได้
จิวโมไป๋ปรับลมหายใจครู่หนึ่ง ก่อนที่จะสะบัดมือส่งพลังจิตวิญญาณสีเงินลงไปอีกครั้ง เขาส่งพลังไปอีกข่ายอาคมที่วางไว้
เส้นสีเงินเล็กๆพุ่งผ่านจากหยกแกะสลักจากหนึ่งอันไปหนึ่งอันและไปต่อเรื่อยๆ จนเกิดข่ายอาคม 12 จุดรอบเกาะ โดยมีภูเขาสำนักอยู่ตรงกลาง
แสงสีเงินค่อยๆสว่างขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าของจิวโมไป๋ก็ค่อยๆซีดลง เขาหยิบขวดยาเหลวฟื้นฟูจิตวิญญาณออกมากินใบหน้าของเขาก็ค่อยๆดีขึ้น
เมื่อแสงสีเงินสว่างถึงจุดๆหนึ่งแล้ว จิวโมไป๋ก็สะบัดมือวาดข่ายอาคม
“ข่ายอาคมปราการ 12 นักษัตร เปิด!”จบคำก็เกิดเสาสีเงิน 12 แท่ง 12 ทิศทาง พุ่งขึ้นระยะ 20 เมตร ก่อนจะเกิดม่านแสงสีเงินใสค่อยๆเชื่อมต่อ เสาแต่ละต้นกลายเป็นกำแพงแสง 12 ด้านรวมถึงด้านบน
แสงสีเงินค่อยๆเข้มขึ้นเรื่อยๆ บนกำแพงสีเงินค่อยๆปรากฏลวดลายตัวอักษรโบราณสลับซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
จิวโมไป๋ใช้มือวาดอักขระต่อไปไม่หยุดจน กำแพง 12 ด้าน มีตัวอักษรโบราณเชื่อมต่อกันทุกด้าน
จิวโมไป๋ประกบมือลงเป็นครั้งสุดท้าย
“ผนึก!”
กำแพง 12 ด้านส่องแสงเจิดจ้า อักขระโบราณค่อยๆหมุนวนก่อนจะกระจัดกระจาย ไม่เป็นเป็นระเบียบยากที่จะมีใครอ่านออก จากนั้นม่านแสงสีเงินก็ค่อยๆหายไป
จิวโมไป๋ก็ทรุดลงนั่งสมาธิก่อนจะใช้เคล็ดบ่มเพาะจิตวิญญาณหัวใจพิสุทธิ์ ฟื้นฟูพลังจิตวิญญาณ
ข่ายอาคมปราการ 12 นักษัตร โดดเด่นเรื่องการป้องกันและโจมตี และสามารถสร้างสนามพลังกฎเกณฑ์พิเศษได้ โดยการดึงพลังจากกฏแห่งดวงดาว
เรื่องการป้องกันและโจมตีเขายังไม่ได้ใช้ เพราะในตอนนี้มันยังไม่จำเป็น แต่กฎเกณฑ์พิเศษเป็นสิ่งจำเป็น ในตอนนี้พลังจิตวิญญาณของเขายังอ่อนแอตั้งกฎได้แค่ 1 อย่างเท่านั้น
กฎที่เขาตั้งคือ มนุษย์ที่ไม่มีสิ่งของพิเศษ จะสามารถรับรู้พลังธรรมชาติภายในเกาะ แค่ 2-3 เท่าจากพื้นที่ปกติเท่านั้น
หรือก็คือคนนอก ไม่สามารถรับรู้ได้ว่า ภายในเกาะโดดเดี่ยวมีพลังธรรมชาติหนาแน่นกว่าด้านนอก 10 เท่า
ที่เขาทำแบบนี้เพราะป้องกันคนโลภ ที่เห็นว่าเกาะโดดเดี่ยวมีพลังธรรมชาติหนาแน่นแล้วจะเข้ามายึดครอง
พื้นที่ที่มีพลังธรรมชาติหนาแน่นประมาณ 2-5 เท่า ทั้วโลกมีอยู่เป็นจำนวนนับไม่ถ้วน คงไม่มีใครโลภกับพื้นที่ที่มีพลังธรรมชาติแค่ 2-3 เท่าอย่างแน่นนอน เขาจะได้หมดห่วงไม่ต้องคอยระแวงว่าจะมีคนแอบเข้ามา และพบความลับของเกาะโดดเดี่ยว
ส่วนสิ่งของพิเศษ เขาได้วางแผนไว้แล้ว
เมื่อพักฟื้นฟูพลังจิตวิญญาณจนกลับมาเต็มอีกครั้ง
จิวโมไป๋ก็ส่งพลังจิตวิญญาณอีกครั้ง ครั้งนี้ปรากฏ เป็นข่ายอาคม 5 เหลี่ยม จิวโมไป๋โบกสลับมือไม่กี่ครั้งก็เกิดข่ายอาคมขึ้นมาอย่างง่ายดาย
“ข่ายอาคม 5 ธาตุหนุนเสริม เปิด”
แสง 5 สี ห้ามุมปรากฏขึ้นอย่างอ่อนแรง แต่มุมสีแดงจะสว่างเจิดจ้ากว่าปกติ จากนั้นไม่นานมันก็หายไป
จิวโมไป๋ไม่ได้แสดงความผิดหวังออกมา เพราะเขารู้ดีว่าข่ายอาคม 5 ธาตุหนุนเสริม จะใช้แค่หยกแกะสลักไม่ได้มันต้องใช้วัตถุสมบัติ 5 ธาตุมาคงสภาพข่ายอาคม
เขาเปิดข่ายอาคม 5 ธาตุหนุนเสริมในตอนนี้ ก็แค่ใช้มันหล่อเลี้ยงเกาะโดดเดี่ยวเท่านั้น เมื่อมีวัตถุสมบัติ ทอง ไฟ ไม้ น้ำ ดิน มาเสริมข่ายอาคมในอนาคต เกาะโดดเดี่ยวจะเต็มไปด้วยพลังธรรมชาติที่หล่อเลี้ยงพืชและสิ่งมีชีวิตต่างๆในเกาะ ทำให้พืชและสิ่งมีชีวิตบนเกาะโดดเดี่ยวกลายพันธ์และทรงพลังกว่าภายนอก
รวมถึงข่ายอาคมอื่นๆ ในอนาคตถ้าเขามีวัตถุสมบัติที่สามารถเสริมข่ายอาคมได้ พวกมันจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นโดยเฉพาะ ปราการ 12 นักษัตร เขาผูกสัญญากับสัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง 1 ชนิด ข่ายอาคมปราการ 12 นักษัตรจะได้รับพลังส่วนหนึ่งของสัตว์ตัวนั้น เป็นร่างแยกวิญญาณ คอยคุ้มครองข่ายอาคม เพิ่มความสามารถในการป้องกันและโจมตี และยิ่งมีจำนวนสัตว์อสูรผูกสัญญามากขึ้น ข่ายอาคมจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น
ถ้าเขาผูกสัญญากับสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งครบ 12 ชนิด และสัตว์อสูรทุกตัว เลือนขั้นเป็นปราณก่อกำเนิด จะทำให้ข่ายอาคมปราการ 12 นักษัตร กลายเป็นข่ายอาคมผู้พิทักษ์ 12 นักษัตร ความแข็งแกร่งของข่ายอาคมจะเพิ่มขึ้นหลายขั้น