ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 80
หลังจากเปิดข่ายอาคมเสร็จท้องฟ้าก็ลอยอยู่กลางฟ้าพอดี จิวโมไป๋พาเสี่ยวไป๋ลงจากหน้าผากลับที่พักและเริ่มลงมือทำอาหารเหมือนปกติ
เมื่อกินอาหารเสร็จแล้วจิวโมไป๋ก็เดินไปที่ อาคารหลอมอาวุธ เขาหยิบ แร่เหล็กสีเขียวเข้มออกมา 10 ก้อนจากนั้นก็เปิดเครื่องถลุงแร่เหล็กทันสมัย ทำการถลุงจนกลายเป็นแท่งเหล็กสี่เหลียมยาว 1 แท่ง
แร่เหล็กที่เขาถลุงเรียกว่า แร่เหล็กเขียวขจี เป็นแร่เหล็กที่มีความเหนียวพอๆ กับแร่ที่เขาใช้สร้างกระบองผ่านฟ้า แต่แร่เขียวขจีมีความพิเศษคือ มันสามารถดูดซับพลังธรรมชาติมาเสริมพลังได้โดยตรง ทำให้พลังของมันเพิ่มขึ้น 1 ส่วน
ในอนาคตแร่เหล็กเขียวขจีจึงมีราคาแพงอย่างมาก
ตอนที่เขาสร้างพลองผ่านฟ้า เขาเสียดายที่จะใช้แร่เขียวขจี เขาจึงต้องใช้แร่ชนิดอื่นเสริมเพื่อให้มันมีคุณสมบัติพิเศษ
เขาสร้างพลองผ่านฟ้าขึ้นเพื่อใช้ในการต่อสู้กับโครงกระดูกโดยเฉพาะ นอกจากนั้นเขาสามารถแสดงพลองผ่านฟ้าให้คนอื่นเห็นได้โดยไม่ต้องปกปิด ไม่เหมือนอาวุธมีคมที่กฎหมายไม่อนุญาตให้พกพา นอกจากจะมีบัตรอนุญาตพกพาอาวุธ
เขาคิดถี่ถ้วนแล้ว เขาจึงสร้างพลองผ่านฟ้าขึ้นมา เขาสามารถใช้มันได้ในระยะยาวไม่ต้องเปลี่ยนอาวุธ
แต่ตอนนี้เขาจะต้องสร้างอาวุธที่ใช้ในการต่อสู้ที่หมายจะฆ่าสังหารอีกฝ่าย เขาต้องสร้างมันให้ดีที่สุด โดยไม่เสียดายแร่เขียวขจีที่ต้องใช้
จิวโมไป๋สูดลมหายใจอย่างช้าๆเพื่อปรับอารมณ์ ก่อนจะเอาแท่งเหล็กเขียวขจีวางบนแท่งตีเหล็ก ก่อนจะเปิดเตาเผาเหล็ก
เขาใช้ที่คีบเหล็กคีบแท่งเหล็กเขียวขจีไปเผาไฟจนแดง ก่อนจะนำมาวางที่แท่งตีเหล็กและ หยิบค้อนตีเหล็กขึ้นมา ในตอนนี้เขาอยู่ในขั้นที่ 2 กล้ามเนื้อ และเขาสามารถทะลวงขีดกำกัดสร้างฐานผิวหนังได้ ทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งกว่าก่อน มันจึงง่ายมากที่เขายกค้อนหนักกว่า 200 กิโลกรัมได้
เมื่อเตรียมพร้อมแล้ว จิวโมไป๋ก็ใช้พลังจิตวิญญาณสีเงินห่อหุ้มแท่งเหล็กเขียวขจีก่อนที่จะทุบค้อนตีเหล็กลงอย่างแรง
แก๊ง! แก๊ง! แก๊ง!
เศษสะเก็ดไฟแตกกระจายไปทุกครั้งที่ทุบ พลังจิตวิญญาณสีเงินค่อยๆ หลอมรวมเข้าไปในแร่เหล็กมันคอยช่วยปรับสภาพแร่เหล็กเขียวขจีอย่างมั่นคง เข้ารูปอย่างช้าๆ
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ 4 ชั่วโมงต่อมา จิวโมไป๋หอมหายใจอย่างหนักหน่วงผิวของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อที่ไหลออกมาอย่างกับน้ำตก แต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยประกายแห่งชีวิต
บนแท่งตีเหล็กมีคันธนูสีเขียวเข้มเรียบง่ายวางอยู่ จิวโมไป๋ค่อยๆขัดมันจนธนูกลายเป็นเงาเปล่งประกาย เขายิ้มพอใจก่อนจะหยิบเส้นเอ็นธนู ราคาแพงที่เขาซื้อมา ค่อยๆผูกทั้งสองด้านเขาต้องใช้แรงทั้งหมดกว่าจะผูกได้สำเร็จ เมื่อเสร็จแล้วจิวโมไป๋ก็ทดสอบดึงธนู
เขาต้องใช้กำลังถึง 300 กิโลกรัม ถึงจะดึงมันจนโค้งสุดได้สำเร็จ พูดได้ว่าเขาต้องใช้แรงเกือบหมดถึงจะดึงมันได้ แต่จิวโมไป๋ก็ไม่ผิดหวัง เพราะในขั้นกล้ามเนื้อพละกำลังจะเพิ่มมากที่สุดเขาเชื่อว่า เมื่อถึงขั้นกล้ามเนื้อกลาง เขาจะสามารถดึงธนูนี้ได้อย่าแน่นอน
เมื่อทำธนูเสร็จจิวโมไป๋ก็ทำการสร้างลูกธนู ขั้นตอนนี้เขาไม่ต้องทำอะไรมากนักเพราะมีเครื่องหลอมทันสมัยอยู่แล้ว การหลอมลูกธนูจึงง่ายมาก เขาใช้แร่เหล็กคุณภาพสูงทำเป็นหัวธนู ส่วนอื่นๆสำหรับสร้างลูกธนูเขาซื้อเอาไว้ก่อนแล้ว สามาถนำมาทำลูกธนูได้ 1,000 ดอก
เมื่อตั้งค่าการทำงานของเครื่องหลอมเสร็จ จิวโมไป๋ก็เดินกับไปที่พักพร้อมธนูในมือ เขาตั้งให้มันชื่อว่า
ธนูเขียวขจี อย่างสิ้นคิดช่วยไม่ได้ เขาไม่มีความสามารถในการตั้งชื่อเท่าไหร่
เมื่อถึงที่พักเสี่ยวไป๋ก็นั่งอยู่บนโซฟารออยู่แล้ว ท่าทางของมันดูเบื่อหน่ายอย่างมาก เมื่อเห็นแบบนั้น จิวโมไป๋ก็ใจอ่อน ปกติเขาเอาแต่ฝึกบ่มเพาะเจ้าเหมียวมันไม่ได้ทำอะไรทั้งวันไม่แปลกที่มันจะเบื่อ
เขาจึงเดินไปเปิดTV ให้มันดู โชคดีที่เขาเปลี่ยนและปรับปรุงอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้สามารถเปิด TV ดูได้ไม่มีปัญหา
เสี่ยวไป๋กระดิกหูสามเหลี่ยมเล็กๆของมันเมื่อได้ยินเสียงแปลกปลอม เมื่อมันหันไปที่ TV มันก็ผุดลุกอย่างประหลาดใจก่อนที่จะสงบลง มันเดินไปหา TV และเดินสำรวจไปมาเมื่อไม่พบอะไรอันตรายมันก็กระโดดกลับไปนั่งที่โซฟา ก่อนที่จะมองจิวโมไป๋ เพื่อให้เขาอธิบาย
จิวโมไป๋เห็นท่าทางฉลาดแสนรู้ของเสี่ยวไป่ ก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ความฉลาดของเสี่ยวไป๋ดูจะมากกว่าที่เขาคิด
ถ้าเป็นสัตว์ป่าทั่วไปพวกมันคงจะแสดงอาการณ์ตกใจออกมาก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่หรือหนีไป
สัตว์ที่ฉลาดจะเลือกที่จะมองอยู่ห่างๆ ก่อนที่จะตัดสินใจ
จิวโมไป๋นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เข้าใจ เสี่ยวไป๋จะต้องมีความสามารถในการตรวจสอบที่คล้ายกับจิตสัมผัสอย่างแน่นอน
“สิ่งนี้เรียกว่าจอTV สามารถดูรายการต่างๆที่มนุษย์สร้างขึ้นได้ ถ้าแกเบื่อสามารถเปิดTV ดูได้นะ นี้เป็นรีโมทเอาไว้เปลี่ยนรายการ”จิวโมไป๋เดินมานั่งข้างเสี่ยวไป๋ก่อนจะหยิบรีโมท มาใช้ให้มันดู เสี่ยวไป๋ ลองทำตามอย่างสนใจ ไม่นานมันก็สามารถใช้เท้าเล็กๆของมัน กดเปลี่ยนรายการเองได้ โดยที่เขาไม่ต้องช่วย
จิวโมไป๋อดทึ้งไม่ได้ ไม่คิดว่ามันจะฉลาดขนาดนี้
เขานั่งเล่นกับเสี่ยวไป๋ครู่หนึ่งก่อนจะเดินไปทำอาหาร
เสี่ยวไป๋ดูTV ไปเรื่อยๆอย่างสนใจ จนเปิดไปที่การรายงานข่าวสด
“ตอนนี้เราได้ผลวิจัยแล้วว่าแร่ประกายแสง สามารถนำมาใช้แทนหลอดไฟฟ้าของเราได้ แสงสว่างที่เกิดจากแร่ประกายแสงยังอ่อนโยนกว่าแสงจากหลอดไฟปกติถึง 10 เท่า อนาคตถ้ามีการสร้างเครื่องมือที่สามารถดึงประสิทธิ์ภาพของแร่ประกายแสงออกมาได้สำเร็จ แร่ประกายแสงจะกลายเป็นแร่ราคาแพง ที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลก…”
นักข่าวสาวสวยพูดรัวเร็วด้วยความตื่นเต้น ด้านหลังของเธอคืออาคารไม้ขนาดใหญ่ที่สร้างอย่างเรียบง่ายแต่แข็งแรงทนทาน สร้างเรียงติดๆกัน 10 หลัง
มองไกลๆออกไปเป็นเหมืองแร่ขนาดใหญ่ มีกลุ่มคนจำนวนมาก เดินเข้าเดินออกกันไม่หยุด บางครั้งจะเห็นรถเข็นที่เต็มไปด้วยแร่สีเหลืองอ่อนที่ส่องแสงสว่างออกมา
จิวโมไป๋มองหน้าจอนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งเขามองคำว่า ข่าวสด ที่อยู่มุมหน้าจอ
เหตุการณ์สังหารหมู่ยังไม่เกิดขึ้น
ในตอนนี้เอง ตำหนักยุทธกระบี่เลือนเร้น พลันสั่นไหวอย่างช้าๆ
จิวโมไป๋ที่อยู่กับมันมา หลายสิบปีรู้ดีว่า การสั่นแบบนี้เป็นการบอกให้เขาไปช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์ จิวโมไป๋หลับตาครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจ
“ในตอนนี้ฉันยังอ่อนแอเกินไป แต่อย่างน้อยฉันต้องรู้ให้ได้ว่าความจริงแล้ว มันเกิดอะไรขึ้น จะต้องไม่มีคนตกเป็นเหยื่อกับเหตุการณ์นี้อีก”
เมื่อคิดได้ดังนั้นตำหนักยุทธก็สงบลง
จิวโมไป๋ก็ลงมือทำอาหารจนเสร็จ และนั่งกินอาหารกับเสี่ยวไป๋ ที่ตอนนี้ มันติดTV อิดออดไม่ยอมลุก ถ้าไม่ใช้เป็นเพราะอาหารมันคงไม่ยอมลุก
เมื่อกินอาหารเสร็จจิวโมไป๋ ก็ล้างจารทำความสะอาด ก่อนจะเดินไปที่ตำหนักหลอมอาวุธ เพื่อดูว่าลูกธนูสร้างเสร็จแล้วหรือยัง แต่ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงติดต่อดังขึ้นที่กำไลข้อมือ
จิวโมไป๋แปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นรายชื่อผู้ติดต่อก่อนที่จะกดรับสาย
“น้องชาย อีก 2 วันมีเวลาว่างรึป่าว”เสียงอารมณ์ดีดังขึ้น
“มีอะไรเหรอ”จิวโมไป๋ถาม
“ฮ่าๆ อีก 2 วัน ฉันจะขอผู้หญิงแต่งงาน น้องชายสนใจจะมาเป็นพยานรัก การขอแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก…”เจ้าของเสียงพูดโม้ต่อไปไม่หยุด
“…”
“เฮ้ น้องชายจะมาไหม เดียวฉันจะส่งคนไปรับ”
“ถ้าเป็นที่ที่หมู่บ้านใบไม้ร่วง เดี๋ยวผมไปเอง ไม่ต้องส่งคนมารับก็ได้”จิวโมไป๋พูดอย่างใจเย็น
“อ่อได้ มาก่อน 4 โมงเย็นนะ”เมื่อยืนยันแล้วปลายสายก็เงียบลง
จิวโมไป๋เงยหน้ามองไกลออกไป ก่อนจะถอนหายใจอย่างแผ่วเบา ขอแต่งงาน ที่แท้เป็นแบบนี้เอง…