ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 89
ไมเดน นักฆ่าหมายเลข 98 ของ องค์กรโลหิตนิรันดร์ เขาเป็นนักฆ่าที่ได้รับหมายเลขสองหลักเร็วที่สุดในองค์กร พูดได้ว่าเขาเป็นดาวรุ่งที่กำลังทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า การที่จะขึ้นเป็นนักฆ่าหมายเลยหนึ่งหลักมันอยู่แค่เวลาเท่านั้น ถ้าเขาไม่เสียชีวิตไปซะก่อน
แต่… ทำไมเขาต้องมารับภารกิจสังหารที่ทวีปตะวันออกที่แสนรกร้างกันดารแบบนี้ด้วย ผู้ฝึกตนก็มีแต่คนอ่อนแอ ไม่ควรค่าแก่การ ถูกใส่เข้าไปในประวัติการสังหารของเขาแม้แต่น้อย เพราะมันทำให้ประวัติของเขาด่างพล่อย และภารกิจนี้ก็ไร้ซึ่งความท้าทายแค่ลงมือฆ่าและชิงสมบัติมาเท่านั้น
ไมเดนมองลงไปทางเดินด้านล่างอย่างเฉยชาไร้อารมณ์ แววตามีประกายเหยียดหยามออกมา งานระดับนี้มันง่ายยิ่งกว่าฆ่าเป็ด ฆ่าไก่เสียอีก มันไม่สมกับมือสังหารดาวรุ่งอย่างเขาเลยแม้แต่น้อย หืม…
วูบบบ
ก่อนที่จะได้ทันตั้งตัวเงาสีแดงก็พุ่งผ่านออกจากตัวไปอย่างรวดเร็วเหมือนสายลมพัดผ่าน ก่อนที่สติของเขาจะหายไปตลอดกาล
จิวโมไป๋จับศีรษะของเป้าหมายไม่ให้หลุด ก่อนจะใช้พลังจิตวิญญาณหยุดการทำงานของกำไลข้อมือ เพื่อไม่ให้ส่งสัญญาณเสียชีวิตไปให้มือสังหารคนอื่น ก่อนที่เขาจะใช่พลังวิญญาณประกบหัวกับตัวของเป้าหมายไม่ให้หลุดออก เมื่อเสร็จเขาก็พึงร่างนั้นกับผนังด้านหลังแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว
ฝนเม็ดเล็กตกลงมาไม่หยุด เมฆบนท้องฟ้าสีดำทะมึนเรียงซ้อนกันหลายร้อยกิโลเมตร แสงดวงอาทิตย์ไม่สามารถรอดผ่านลงมาได้ ทำให้พื้นที่ทั้งหมดมืดมิดราวเวลากลางคืน
จิวโมไป๋ทิ้งนักฆ่าคนที่ 4 ที่เขาสังหารก่อนจะเคลื่อนตัวไปที่เป้าหมายคนต่อไปอย่างเงียบเชียบ การเคลื่อนไหวของเขาไม่ทิ้งร่องร่อยไว้บนโคลนที่เปียกแฉะเลยแม้แต่น้อย
การเคลื่อนไหวของจิวโมไป๋พัฒนาขึ้นอีกขั้น ราวกับว่าเขากำลังเหินไปบนพื้น เมื่อเคล็ดบ่มเพาะจิตวิญญาณหัวใจพิสุทธิ์ ของเขาพัฒนาขึ้นเป็นขั้นที่ 1 หรือเรียกอีกอย่างว่า ขั้นก่อรูป ในขั้นนี้เขาจะสร้างหัวใจพิสุทธิ์หรือดอกบัวพิสุทธิ์ ที่สมบูรณ์ ไม่ใช้ภาพเสมือนอีกต่อไป ดอกบัวพิสุทธิ์จะมีรูปร่างอยู่ในทะเลจิตวิญญาณตลอดไป และสามารถเติบโตพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ
ในขั้นนี้จะเพิ่มความแข็งแกร่งของผู้บ่มเพาะอย่างก้าวกระโดด
เคล็ดบ่มเพาะจิตวิญญาณหัวใจพิสุทธิ์ ช่วยสร้างพลังการรับรู้ ประสาทสัมผัสทั้ง 6 ของเขาแหลมคมขึ้น แม้ไม่ใช้จิตสัมผัส สายตาของเขาก็สามารถนับเม็ดฝนที่ตกลงมาได้ การมองเห็นของเขาไกลขึ้นจนเห็นซากมดที่จมน้ำตายห่างออกไป 600 เมตร รวมถึงการได้ยิน การดมกิน และ สัญชาตญาณ ทั้งหมดล้วนพัฒนาขึ้นเช่นกัน
แม้ว่าร่างกายของเขาจะไม่แข็งแกร่งขึ้นโดยตรง แต่สภาวะจิตใจที่แข็งแกร่งขึ้น มันเป็นส่วนช่วยอย่างมากในการพัฒนาการต่อสู้ของเขา
และที่เขาพอใจที่สุดคือ เมื่อเขาสามารถก่อรูปหัวใจพิสุทธิ์หรือบัวพิสุทธิ์ได้ สภาวะจิตใจของเขาจะมั่นคงแข็งแกร่งขึ้น สามารถต่อต้านสัญชาตญาณของสายเลือดมังกรในร่างกายได้ เขาสามารถดึงพลังของสายเลือดมังกรออกมาใช้โดยไม่ถูกครอบงำอีก…
เมื่อเข้าใกล้นักฆ่าคนที่ 5 จิวโมไป๋ก็ใช้จิตสัมผัสตรวจสอบโดยรอบจนมั่นใจ เขาก็ค่อยๆย่องอย่างแผ่วเบาเข้าไปที่ด้านหลังของอีกฝ่าย ก่อนที่จะใช้มีดผนึกโลหิต ฟันไปที่คอของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
แก๊งงงง!
เสียงโลหะกระทบเสียงดังก้องกังวาน พร้อมประกายไฟที่เกิดจากการกระทบกันของโลหะ ทำให้เกิดแสงเล็กๆขึ้นท่ามกลางความมืด
ใบหน้าจิวโมไป๋ใต้หน้ากากพลันมืดลง ไม่ต้องเสียเวลาคิดเขาหันตัวออกและพุ่งหนีไปอย่างไม่รอช้า
ฉึก! เสียงของแหลมพุ่งผ่านจุดที่เขาอยู่เพียงเสี้ยววินาที
จิวโมไป๋ไม่มองย้อนกลับ เขาใช้ท่าร่าง ย่างก้าวประกายภูติแยกเป็นร่างเงาสามร่าง แยกหลบหนีสามทิศทาง
แต่ในตอนนั้นเองมือสังหารอีกคนก็พุ่งตัวเข้ามาจากอีกด้านด้วยความเร็วเหนือเสียง ประกายสีแดงเลือดพุ่งเข้าทำลายร่างเงาหนึ่งในนั้นอย่างง่ายดาย
และในอีกพริบตาเงาสีเงินก็แทงทะลุร่างเงาอีกร่าง ทำให้เขารู้ว่าเสียงชองมีคมที่แทงทะลุพื้นก่อนหน้านั้น เป็นหางของมือสังหารคนที่ 5 ที่จิวโมไป๋ลอบสังหารพลาดไป
สายเลือดงูโลหะ! จิวโมไป๋สบถในใจอย่างหัวเสียในความโชคร้ายของตัวเอง
สายเลือดงูโลหะ เป็นสายเลือด พันสายเลือดราชัน สายเลือดอันดับที่ 18!
ผู้มีสายเลือดงูโลหะจะได้รับความสามารถพิเศษ กายางูโลหะ ที่ถูกเรียกว่าเป็นความสามารถร่างกาย อันดับที่ 27 ของสายเลือดทั้งหมด
เมื่อใช้ความสามารถพิเศษ กายางูโลหะคลุมร่าง ผู้มีสายเลือดงูโลหะระดับต่ำสุดและไม่ได้รับการฝึกฝนใดๆสามารถป้องกัน อาวุธสมบัติมนุษย์ระดับ 1 ได้โดยทิ้งแค่รอยขีดข่วนเล็กๆเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงผู้มีสายเลือดบริสุทธิ์ที่ว่ากันว่า อาวุธสมบัติมนุษย์ระดับ 3 ก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายบนร่างกายได้เลย แม้แต่อาวุธปฐพีระดับ 4 ก็ทิ้งแค่รอยบาดแผลเล็กๆได้เท่านั้น
นอกจากความแข็งแกร่งแล้ว กายาโลหะยังมีความยืดหยุ่นและความเร็วที่อยู่ในอันดับต้นๆ พูดได้ว่ากายางูโลหะมีทั้งความแข็งแกร่งความยืดหยุ่นและความเร็วที่ถูกจัดให้อยู่ในจุดบนสุดของสายเลือดทั้งหมด แต่ข้อเสียคือความอดทนต่ำอยู่ในอันดับกลาง ของสายเลือดทั้งหมด
และนอกจากกายางูโลหะแล้ว ผู้มีสายเลือดงูโลหะยังมีอีกความสามารถพิเศษ ที่แข็งแกร่งไม่ต่างกันคือ ลางมรณะ ความสามารถที่ตรวจจับอันตรายได้ในพริบตา และเห็นจุดอ่อนถึงตายบนร่างกายของสิ่งมีชีวิต
เมื่อความสามารถทั้ง 2 รวมเข้าด้วยกัน ทำให้การที่จะลอบสังหาร ผู้มีสายเลือดงูโลหะ เรียกได้ว่าเป็นไปไม่ได้
เขาจำได้ว่าในอดีตเมื่อ ผู้มีสายเลือดงูโลหะ เมื่อบ่มเพาะพลังถึงระดับสวรรค์ สายเลือดของพวกเขามีโอกาสที่จะวิวัฒนาการ เป็น สายเลือดมังกรโลหะ ซึ่งเป็นสายเลือดที่แข็งแกร่งจนน่าสะพรึงกลัว!
สายเลือดมังกรโลหะอยู่ในรายชื่อ ร้อยสายเลือดเทวะ อันดับที่ 31
ทำให้สายเลือดงูโลหะ เป็นสายเลือดที่คนต้องการเชื่อมต่อแต่งงานเข้าตระกูลมากที่สุด เพราะสายเลือดในรายชื่อร้อยสายเลือดเทวะอื่นๆส่วนมากจะเกิดจากการตื่นขึ้น
ไม่ใช่สายเลือดที่ผ่านการวิวัฒนาการ ที่สามารถสืบทอดสายเลือดต่อไปได้โดยที่สายเลือดจะไม่อ่อนแอลง
สายเลือดในรายชื่อร้อยสายเลือดเทวะที่ตื่นขึ้น มีโอกาสในการพัฒนาสายเลือดให้แข็งแกร่งขึ้นน้อยมาก และเมื่อมีทายาทรุ่นต่อๆไป สายเลือดจะยิ่งอ่อนแอลง นอกจากจะโชคดีเกิดการผ่าเหล่าของสายเลือด ทำให้ยิ่งเวลาผ่านไปตระกูลจะค่อยๆอ่อนแอลงเรื่อยๆ
เขาจำได้ว่าในอีก 15 ปี ตระกูลงูโลหะ จะได้ขึ้นเป็น 1 ใน 8 ตระกูล ที่ปกครองทวีปตะวันตกในอนาคต และความแข็งแกร่งของคนในตระกูลส่วนใหญ่มาจากสายเลือดงูโลหะ ไม่ใช่การรับสมัครสายเลือดอื่นเข้ามาในตระกูล ทำให้ความสามัคคีของคนในตระกูลเหนียวแน่นจนน่ากล้า
เขาจำได้ว่าเคยมีคนสังหารสมาชิกคนหนึ่งในตระกูลงูโลหะ สุดท้ายคนๆนั้นถูกตามล่าไปทั่วแม้จะหนีเข้าไปในมิติชั้นสูงก็ถูกตามฆ่าจนได้
ไม่แปลกเลยที่จิวโมไป๋จะสบถออกมาอย่างหัวเสีย เพราะถ้าเขาเผลอสังหารอีกฝ่าย ประเทศมังกรต้องเผชิญหน้ากับหายนะครั้งใหญ่อย่างแน่นอน
ใครจะคิดว่าจะมีสมาชิกตระกูลงูโลหะ เป็นมือสังหารขององค์กรโลหิตนิรันดร์!
แต่เมื่อคิดดูดีๆ ร่างกายของอีกฝ่ายสามารถป้องกันอาวุธสมบัติมนุษย์ระดับ 1 ได้ ในปัจจุบันอาวุธระดับนั้นมีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย มันคงไม่แปลกที่อีกฝ่ายจะกล้าทำงานเสี่ยงชีวิต…
จิวโมไป๋พุ่งตัวข้ามเนินหินเล็กๆก่อนจะปีนขึ้นหน้าผาไปอย่างรวดเร็ว เมื่อขึ้นไปได้เขาก็พุ่งทะยานออกไปอีกฝั่ง
แต่ตอนนั้นเองก็มีมือสังหาร 3 คน ตามหลังมาติดๆ
จิวโมไป๋ใช่ท่าร่าง ย่างก้าวประกายภูตแยกเงาทุกครั่งที่มีโอกาส ร่างทั้ง 3 ที่ตามมาก็ถูกหลอกไปบ้างแต่ก็ใช้เวลาไม่นาน มือสังหารทั้ง 3 ก็สามารถตามมาได้
จนกระทั้งจิวโมไป๋ลงจากเนินหน้าผาได้แล้ว ก็มีทางโล่งกว้างปรากฏขึ้นตรงหน้า ใบหน้าใต้หน้ากากเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนที่จิวโมไป๋ จะหยิบยันต์วายุระดับ 1 ออกมา 2 ใบ มืออีกข้างหยิบถังใส่น้ำขนาด 10 ลิตรออกมา ภายในถังน้ำสีน้ำเงินทึบมีประกายสีทองจางๆทะลุออกมา
จิวโมไป๋ใช้จิตสัมผัสตรวจสอบนักฆ่าทั้ง 3 ทีกำลังตามมาด้วยรอยยิ้ม
—
เขียนอธิบายตระกูลงูโลหะเยอะขนาดนี้ อนาคตตระกูลนี้ต้องมีบทในอนาคตแน่นอน…