ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 92

จิวโมไป๋ทิ้งร่างลงอย่างอ่อนแรง กล้ามเนื้อทั่วร่างกายสั่นระริกอย่างปวดร้าว ภายใต้เสื้อคลุมปกปิดมิดชิดเกร็ดมังกรทองทั่วร่างแตกร้าวเป็นชิ้นๆ ตรงรอยแตกมีเลือดสีแดงเข้มไหลออกมาไม่หยุด

แม้จะล้มลงนั่งกับพื้น แต่สายตาก็ไม่ละออกจากร่างของเนี่ยฟูหานที่กำลังยืนขวางเขากับนักฆ่าขององค์กรโลหิตนิรันดร์ เขาไม่คิดเลยว่าเนี่ยฟูหานมีระดับการบ่มเพาะพลังขั้นที่ 5 กระดูก!

ต้องรู้ก่อนว่าในยุคสมัยปัจจุบันเคล็ดบ่มเพาะพลัง ยาโอสถ ยังไม่ได้รับการพัฒนามากนัก ทำให้ความเร็วในการบ่มเพาะพลังของมนุษย์ในยุคนี้ช้ากว่าหลายเท่าเมื่อเทียบกับในอนาคต 50 ปีข้างหน้า ที่เคล็ดบ่มเพาะถูกพัฒนาอย่างสมบูรณ์ง่ายต่อการฝึกฝน ไม่ได้อยู่ในช่วงลองผิดลองถูกเหมือนในยุคปัจจุบันที่ต้องศึกษาและพัฒนาเคล็ดบ่มเพาะพลังขึ้นใหม่

ทรัพยากรต่างๆในโลกหลากมิติ เลือดเนื้อสัตว์อสูรนับไม่ถ้วนและสมุนไพรหลายแสนชนิดยังไม่ถูกวิเคราะห์อย่างละเอียด สรรพคุณของโอสถในปัจจุบันแทบจะยังไม่ถูกจัดอันดับ ให้เป็นโอสถระดับดาวที่แท้จริง แต่ในอนาคตแม้แต่โอสถดาวระดับ 1 ก็สามารถช่วยผู้บ่มเพาะพลังให้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เหมือนกับโอสถระดับ 1 ดาวในอนาคตทั้ง 12 ชนิด ที่เขาปล่อยให้คนของประเทศมังกรได้ใช้ ในปัจจุบันพวกมันถูกจัดให้เป็นโอสถระดับ 3 ดาว

ในตอนนี้ จิวโมไป๋รู้สึกว่าที่จริงแล้วเขาไม่รู้อะไรเลย ตระกูลราชวงศ์ ตระกูลโบราณ ตระชั้นสูง ที่จริงแล้วตระกูลเหล่านี้ซ่อนความลับไว้มากมายขนาดไหนกันแน่?

เซียวหนานจิ้น อายุห่างจากเขา 1 ปี ในตอนนี้เขาน่าจะทะลวงผ่านขั้นที่ 3 เส้นเอ็นถูกเรียกว่า สุดยอดอัจฉริยะที่ผู้คนนับถือ

แต่เมื่อเทียบกับ เนี่ยฟูหานที่อายุห่างกันไม่ถึง 3 ปี เขาอยู่ขั้นที่ 5 กระดูกแล้ว ซึ่งมันแตกต่างกันอย่างมาก! อย่างที่ทุกคนรู้ยิ่งระดับการบ่มเพาะพลังมากขึ้น ยิ่งต้องใช้พลังและความพยายามในการบ่มเพาะพลังเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จากขั้นที่ 3 ไปขั้นที่ 4 อาจใช้เวลาเพิ่มขึ้น 2-5 เท่าแล้วแต่รากฐานของร่างกายและพรสวรรค์ของแต่ละคน ขั้นที่ 4 ไปขั้นที่ 5 ก็เพิ่มความยากลำบากเป็นทบทวี

และมันจะยากขึ้นไปอีกเมื่อเลื่อนขั้นไปที่ขั้นที่ 6 7 8 9 ทั้ง 4 ขั้นสุดท้ายของระดับสร้างรากฐาน ถือว่าเป็นเส้นแบ่งสวรรค์และโลก เพราะเมื่อจะทะลวงผ่านไปขั้นที่ 6 โลหิต จะต้องหาวัตถุสมบัติที่สอดคล้องกับเคล็ดบ่มเพาะพลังของตนเอง เพื่อหลอมสร้างตำหนักยุทธที่เลือนลาง ให้กลายเป็นตำหนักยุทธที่แท้จริง ความแข็งแกร่งและอ่อนแอของระดับพลังในอนาคตจะขึ้นอยู่วัตถุสมบัติที่ใช้สร้างตำหนักยุทธที่แท้จริง

แต่ในยุทธปัจจุบัน ประตูเชื่อมต่อของมิติโลกยังไม่เปิดอย่างสมบูรณ์ วัตถุสมบัติที่กำลังก่อตัวขึ้นยังอ่อนแอและหายาก และวัตถุสมบัติบางชิ้นก็ไม่เหมาะกับเคล็ดบ่มเพาะนั้นๆ มันยิ่งทำให้ผู้ที่สามารถทะลวงขั้นที่ 6 โลหิต ยิ่งน้อยลงไปอีกหลายเท่า…

ในอนาคตจะวัดความสามารถ พรสวรรค์ และความสำเร็จในอนาคตของผู้บ่มเพาะพลัง จากขนาดของขอบเขตวิญญาณที่ขยายขึ้นทุกครั้งที่เลื้อนระดับขั้น และความเร็วในการบ่มเพาะพลังเมื่อถึงขั้นที่ 5 กระดูก

ผู้ที่บ่มเพาะพลังถึงขั้นที่ 5 กระดูกก่อนอายุ 28 ปี จะถูกเรียกว่าอัจฉริยะ

ผู้ที่บ่มเพาะพลังถึงขั้นที่ 5 กระดูกก่อนอายุ 25 ปี จะถูกเรียกว่าสุดยอดอัจฉริยะ

และผู้ที่บ่มเพาะพลังถึงขั้นที่ 5 กระดูกก่อนอายุ 22 ปี จะถูกเรียกว่าอัจฉริยะในตำนาน

เนี่ยฟูหานอายุประมาณ 21 ปี บ่มเพาะพลังถึงขั้นที่ 5 กระดูก สมควรแล้วที่จะถูกเรียกว่าอัจฉริยะในตำนาน

จี้หยางเฟยที่อายุพอๆกับเนี่ยฟูหาน ก็ถูกเรียกว่าอัจฉริยะในตำนานเพราะขอบเขตจิตวิญญาณที่มากกว่าผู้บ่มเพาะพลังปกติ 4 ใน 10 ส่วน แม้เขาจะไม่สามารถรับรู้ถึงระดับการบ่มเพาะของจี้หยางเฟยแต่ก็ไม่น่าจะน้อยกว่าเนี่ยฟูหานมากนัก

ไม่แปลกเลยที่ในอนาคตทั้ง 2 คน จะเป็นคู่ปรับตลอดกาล…

ที่จี้หยางเฟยแข็งแกร่งผิดปกติแบบนี้ได้เพราะเขาได้เข้าร่วมองค์กรลับ ด้วยความแข็งแกร่งของเขา สามารถหาทรัพกรต่างๆมาใช้ได้อย่างง่ายดาย

แต่ความแข็งแกร่งที่ผิดปกติของเนี่ยฟูหานมาจากไหน ตระกูลชั้นสูง มีความลับอะไรกันแน่?…

ใจเย็นๆ เนี่ยฟูหาน ในอนาคตถือว่าตัวตนไร้เทียมทาน เขาได้รับพลังของตัวเอก ไม่แปลกที่ความสามารถจะโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ

จิวโมไป๋สูดลมหายใจช้าๆ พยายามปลอบใจตัวเองให้เย็นลง ไม่ให้คิดฟุ้งซ่าน แต่เมื่อเห็นพลังสายฟ้าที่ม่วงที่ห่อหุ้มอยู่ตรงฝ่ามือของเนี่ยฟูหาน จิตใจที่อ่อนไหวอยู่แล้วก็อดไม่ได้ที่จะเผลอสถบในใจ

บัดซบ! กฏแห่งธาตุสายฟ้า หนึ่งในกฏแห่งธาตุที่แข็งแกร่งที่สุด และเป็นหนึ่งในกฏแห่งธาตุที่ยากที่จะตระหนักถึง

คนที่สามารถเข้าใจกฏแห่งธาตุก่อนที่จะเลื่อนระดับไปเป็นปราณก่อกำเนิดถือว่าเป็นอัจฉริยะ

แต่ผู้ที่สามารถเข้าใจกฏแห่งธาตุได้ก่อนทะลวงชีพจร หรือก่อนขั้นที่ 8 ชีพจร จะถูกเรียกว่าเป็นอัจฉริยะในหมูอัจฉริยะ! โดยเฉพาะกฏแห่งธาตุสายฟ้าที่มี่ความยากลำบากในการตระหนักถึงกว่า 100 เท่า เมื่อเทียบกับกฏแห่งธาตุหลักทั้ง 5 ดิน น้ำ ไฟ ไม้ ทอง

ต้องรู้ก่อนว่าเมื่อตระหนักถึงธาตุสำเร็จจะสามารถเข้าใจกฏแห่งธาตุได้ 1 ธาตุ เมื่อทำการตระหนักถึงกฏแห่งธาตุที่ 2 ความยากลำบากจะเพิ่มเป็น 100 เท่า

ในมิตินับไม่ถ้วน ผู้บ่มเพาะพลังกว่า 95% ทั้งชีวิตของพวกเขาตระหนักกฏแห่งธาตุได้แค่ 1 ธาตุเท่านั้น

ไม่แปลกเลยที่จิวโมไป๋จะอิจฉาเนี่ยฟูหานที่ตระหนักถึงกฏแห่งธาตุสายฟ้า เป็นธาตุแรก เพราะในอานาคตถึงแม้ว่าเนี่ยฟูหานจะไม่สามารถตระหนักถึงกฏแห่งธาตุที่ 2 ได้ แต่กฏแห่งธาตุสายฟ้าก็แข็งแกร่งเหนือล้ำกว่ากฏแห่งธาตุอื่นๆไปมากอยู่แล้ว แทบไม่จำเป็นต้องตระหนักถึงกฏแห่งธาตุที่ 2

แต่ไม่นานจิวโมไป๋ก็สงบลง เพราะเขาได้วางแผนอนาคตของตัวเองเอาไว้แล้ว แม้จะถูกอีกฝ่ายกระตุ้นให้รู้ถึงต่ำต้อยไปบ้าง แต่เส้นทางของเขาถึงแม้จะช้าแต่ก็มั่นคงและแข็งแกร่ง!

ในร่างกายของเขามีสายเลือดมังกรพายุอัสนี ที่มีความเข้าใจกฏแห่งธาตุสายฟ้า และ กฏแห่งธาตุลม สูงส่งกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆ

และในตำนักยุทธเตาหลอม 9 สุริยันของเขาได้หลอมรวม เพลิงนิรันดร์ สมบัติปฐพีระดับ 6 ซึ่งมันช่วยให้เขาสามารถเข้าใจกฏแห่งธาตุไฟ ได่ง่ายขึ้น

ถ้าเขาไม่ตายเสียก่อน ในอนาคตเขาจะสามารถเข้าใจ กฏแห่งธาตุทั้ง 3 ได้อย่างแน่นอน

จิวโมไป๋กำหมัดแน่นก่อนจะเปิดแหวนมิติแล้วหยิบโอสถฟื้นฟูเลือดมากิน 3 เม็ด อาการบาดเจ็บค่อยๆทุเลาลงอย่างช้าๆเกร็ดมังกรทองค่อยๆเชื่อมต่อกันอย่างช้าๆ ทำให้เลือดหยุดไหล…

ในตอนนั้นเอง เนี่ยฟูหานก็เป็นฝ่ายลงมือก่อน สายฟ้าสีม่วงในมือถูกบีดอัดเป็นก้อนกลมก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่ นักฆ่าเผ่างูโลหะ

เหมือนลำแสงปืนเลเซอร์ความเร็วสูง นักฆ่าเผ่างูโลหะหรี่ตาเล็กแคบลงอย่างดูแคลน ก่อนจะใช้หางยาวของตนเหวี่ยงขึ้นมาป้องกันอย่างเย่อหยิ่ง ไม่คิดที่จะหลบ

เปรี้ยงงง!

“อ๊ากกกก!”เหมือนถูกปืนยิง ลำแสงสายฟ้าพุ่งทำลายผ่านเกร็ดงูโลหะเข้าไปครึ่งหนึ่ง เลือดแดงสดไหลทะลักเหมือนน้ำปะปาแตก

“เป็นไปไม่ได้ แกทำลายกายาโลหะของข้าได้ยังไง!”นักฆ่างูโลหะกรีดร้องเสียงดังลั้นอย่างขวัญเสีย ตั้งแต่มันปลุกสายเลือดงูโลหะได้สำเร็จ มันไม่เคยได้รับบาดเจ็บมาก่อน ทำให้มันลืมความกลัวตายไปนานแล้ว แต่การบาดเจ็บครั้งนี้ได้ปลุกความกลัวจากก้นบึ้งของจิตใจกลับขึ้นมา มันรีบชักหางยาวของมันกลับมาอย่างรวดเร็วพร้อมกลับกระโดดถอยหลังไปหลายก้าว สายตามองไปข้างหน้าอย่างหวาดระแวง แต่มันก็ต้องตกใจเพราะเจ้าคนน่ารังเกียจหายไปแล้ว

“ซิลเวอร์! ด้านหลัง”เสียงร้อนเตือนดังขึ้น ก่อนที่สัมผัสมรณะของมันจะร้องเตือน แผ่นหลังของมันสัมผัสถึงฝ่ามือร้อนนาบลงมาอย่างแผ่วเบา

—-

แค่นี้ก็อิจฉาแล้ว ถ้ารู้ว่าจี้หยางเฟย เข้าใจ กฏแห่งธาตุไฟ และ น้ำแข็ง คงอกแตกตาย (เขียนไว้ ตอนพิเศษ ภารกิจใหม่ของตัวเอก ^^)